บทที่ 1
บทที่ 1
“ไหนบอกหน่อยสิ้ ว่าตอนที่คุณเจอผมครั้งแรก คุณรู้สึกยังไงกับผม?”
ทรงภพกอดวรวรรณจากทางด้านหลัง กระซิบเสียงแผ่วต่ำที่เต็มไปด้วยความเซ็กซี่และน่าดึงดูดอย่างสุดแสน
ในขณะที่พูดมือทั้งสองที่กอดวรวรรณของเขาก็ค่อยๆแน่น
ค่อยๆพริ้มตาพลางซบหัวลงกับไหล่ของเธออย่างแสดงความเป็นเจ้าของ
ตอนนี้มองไปเหมือนว่าเขาทั้งสองเป็นเหมือนแฝดตัวติดกันก็ไม่ปาน เพราะว่าตอนนี้เขายังไม่ได้อยากแยกกันเลยจริงๆ
“วรวรรณ บอกผมหน่อยเถอะน่านะ” ทรงภพทำตัววอแวราวกับเป็นเด็กน้อยๆ
ถ้าจะให้พูดก็คือคนๆนี้เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆเขาจะเป็นคนจริงจังตลอดเวลาเลยทีเดียว แต่เมื่อมาเจอกับวรวรรณ คิ้วที่ขมวดนั้นก็จะแปรเปลี่ยนไป เป็นคนเกเร ไร้สาระ อย่างไม่น่าจะเป็นเขาได้เลย
วรวรรณส่ายหน้า แต่มุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ
มันคือความยินรักสมัครใจ
มันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว เวลาได้ทำหน้าที่ของมัน ใบหน้าของชายหนุ่มดูดีหล่อเหล่ากว่าเก่า แต่สายตาของเขา ทัศนีทั้งหมดของเขา เป็นเพียงแค่วรวรรณแต่เพียงคนเดียว
วรวรรณหันหน้าไปพอที่จะมองเห็นเขา
สิ่งที่วรวรรณทานทนไม่ไหวที่สุดก็คือสายตาที่เป็นแบบนี้ของทรงภพ เวลาที่เขามองเธอแบบนี้ นั่นแทบจะทำให้เธอหลอมละลายลงไปได้เลยทีเดียว
โลกทั้งใบของเขา เหลือเพียงเขาตัวคนเดียวเท่านั้น
แต่วันเวลาผ่านมาหลายปี ที่เขาทั้งสองได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน มันไม่ใช่น้อยๆเลย
พอถูกทรงภพมองด้วยแววตาปกติ แก้มทั้งสองข้างของเธอก็เร่อแดงขึ้นมา
นัยน์ตาเองก็เปียกชุ่มไปด้วยเหมือนกัน
วรวรรณไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่กัดปากเบาๆ ทรงภพเองเห็นวรวรรณในท่าทีที่ขวยเขินแบบนี้นั่นก็ทำให้เขาแทบจะทนไม่ไหวเช่นกัน
“วรวรรณคนดีของผม คุณหน่ะ เป็นของขวัญอันล้ำค่าสำหรับผมเลยจริงๆนะ” ไม่รอให้วรวรรณได้ตอบอะไร เวลาที่เขาพูดก็ยังคงเหมือนเด็กน้อยที่ไม่สนกฎเกณฑ์ใดๆ พูดจบเขาก็ก้มลงจูบเธอ
ทั้งสองร่างพัวพันนัวเนียกันอยู่ตรงนั้นเป็นปกติ
ที่จริงแล้ว ถ้าความรู้สึกแรกที่ได้เจอกับเขาของวรวรรณ
พูดกันตามจริง ของวรวรรณมีเพียงสองคำเท่านั้น ปลาไหล
แต่ก็ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียจริง คนที่ได้ชื่อว่าเป็นปลาไหลนี่ก็ดันหล่อแบบวัวตายควายล้มซะด้วย
วรวรรณไม่อาจหันหน้าไปไหนได้ด้วยเพราะว่าจูบอยู่ ในตอนนั้นแววตาของเธอก็เปียกชุ่มไปหมด ยิ่งมองขึ้นไป เธอก็ยิ่งรู้สึกรักมากขึ้นทุกท
“แล้วคุณหล่ะ?” วรวรรณกระตุกแขนเสื้อของทรงภพและถามออกไปอย่างไม่รู้ตัว ดูราวเป็นเด็กหญิงตัวน้อยๆอย่างนั้น เสียงที่เธอพูดออกมานั้นอ่อนละมุนทำเอาคนฟังแทบจะคิดไปซะว่ากำลังฟังเพลงอยู่
เมื่อทรงภพได้ยิน ดวงตาเขาก็ยังคงหรี่อยู่ดังเก่า
แต่เป็นดวงตาที่สะท้อนเปล่งประกาย
“ผมหรอ?” ของยิ้มในแววตา กอดวรวรรณและมองเธอด้วยสายตาที่สุดแสนจะอบอุ่น
“อยากฟังเรื่องจริงหรือหลอกหล่ะ” เขาถามในขณะที่ก็ยังกอดอยู่
ถ้าพูดตามจริงหล่ะก็ เขาหน่ะคิดมาโดยตลอดว่าเธอหน่ะนุ่มนิ่ม มองๆไปก็ผอมแต่ว่างานดีเว่อ ตอนที่ได้กอดเธอ เขาก็ยิ่งรู้สึกสบายใจ เอาตรงๆเลยก็คือสุขใจมากๆ
ในอ้อมกอดนั้น เหมือนกับว่าเขากำลังกอดสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในโลกเอาไว้ในอ้อมกอด
“ก็ต้องความจริงสิ” วรวรรณเบิกตากว้างมองเขาครู่หนึ่ง ที่ผ่านมาเธอที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้มีความแข็งแกร่งกล้าใดๆ การทำตาโตของเธอตอนนี้สำหรับเขาก็ยังดูเรียบร้อยน่ารักดังเดิม
แม้ว่าเมื่อเทียบกันแล้วก็เหมือนจะธรรมดาทั่วไป แต่มันมีบางอย่างที่แตกต่างกัน
“คุณหน่ะ ผมมองว่าคุณหน่ะเหมือนกระต่ายตัวน้อยๆที่กำลังรอหมาจิ้งจอกอย่างผมกินได้ในคำเดียวหน่ะสิ”
ในขณะที่พูดทรงภพก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะพรมจูบลงหนึ่งครั้ง แล้วยกมือขึ้นบีบจมูกเธออย่างแผ่วเบา การกระทำนั้นช่างซุกซนจริงๆ
วรวรรณที่ตอนนี้กำลังหายใจแรงอยู่นั้น ใบหน้าของเธอเริ่มแดง และเปล่งประกาย
“ใครเป็นกระต่ายน้อยกัน” ในระหว่างที่พูดใบหน้านั้นก็ยิ่งแดงเข้าไปอีก
น้ำเสียงแสดงความง้องอน ปากยื่นปากยาวออกมา
แต่ว่าเธอที่อยู่ตรงหน้าทรงภพนี้ แต่ไหนแต่ไร ก็ดูไม่มีอำนาจหรือกำลังใดๆ แต่มันช่างไร้เหตุผลเอาเสียจริงเพราะมันทำให้เขาอยากจะเข้าไปก่อกวนเธอ
ดูเหมือนเธอจะไม่เต็มใจ ปากนั่นเอียงขึ้นเล็กน้อย ในสายตานี้ แต่ตาทอประกายระยิบระยับเพิ่มเสน่ห์ที่แตกต่างกัน
“โอ๊ะไม่ใช่สิ ไม่ใช่กระต่ายน้อย แต่เป็นเจ้าแมวป่าน้อยต่างหาก” ทรงภพยกหน้าเธอขึ้นมาก่อนที่จะ “ม๊วฟ ” ประทับจูบลงไปอีกครั้ง
วรวรรณตาโต มองนัยน์ตาของทรงภพลึกลงไป ในขณะที่หลังคอของเธอถูกดึงให้เข้ามาใกล้อีกจนเป็นจูบที่ล้ำลึก
ผ่านไปซักพักวรวรรณก็รู้สึกราวกับจะเป็นลม
เธอหน่ะราวกับเป็นเด็กน้อยๆเลยหล่ะเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของคนที่เชี่ยวชาญอย่างทรงภาพนี่
สายตาของทรงภพกลับมองวรวรรณที่เขากอดอยู่ในอ้อมกอด เป็นดั่งสมบัติล้ำค่าที่มีเพียงหนึ่ง
ของเขา
สิ่งที่เขาไม่ได้พูดก็คือ ครั้งแรกที่ที่หัวใจเขาสูบฉีดมันคือที่บนรถเมล์สำหรับเขาแล้วทั้งหมดชีวิตของเขานี่เป็นสิ่งที่เขาคิดถูกที่จะทำที่สุด
ตอนที่วรวรรณขึ้นรถนั้น เธอได้ดึงดูดความสนใจของเขาไปจนหมดสิ้น
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ไม่นับว่าสูงมาก ใส่รองเท้าเรียบแบนทั่วไป สวมกระเป๋านักเรียนไว้ด้านหลัง แต่ก็นะ สัดส่วนของเธอช่างได้มาตรฐานแม้ไม่ได้สูงขนาดนั้น ขาเรียวยาว ผมยาวดกดำกระจายพลิ้วไปด้านหลัง ดวงตาเต็มไปด้วยความน่าหลงใหล ตอนที่เธอยืนอยู่หน้าเขาในตอนนั้น มันเป็นวินาทีที่เขาหัวใจเต้นรัวราวกับกลองตีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ก็เห็นอยู่ชัดๆว่าหน้าตาของวรวรรณก็ไม่ได้ถึงขั้นสวยวัวตายควายล้มอะไรขนาดนั้น เป็นเพียงแต่หญิงสาวตัวน้อยๆที่หากคุณลองเข้าไปข้างในใจของเธอดูก็ไม่อาจที่จะหาทางออกออกมาได้เลย
วรวรรณนี่น้า เป็นดั่งปีศาจน้อยจริงๆ
ตัวเขาเอง ตั้งแต่เล็กก็เจอหญิงงามมานับไม่ถ้วน แต่ว่าครั้งนี้ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน มันควบคุมไม่ได้เลย เสียงหัวใจดังตุบๆอยากบ้าคลั่ง ถึงแม้ว่าเขาไม่ใช่คนพูดมากอะไร แต่พอได้เห็นหน้าเธอก็อยากจะพูดอะไรบางสิ่งอย่างที่จะทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมา
ถึงแม้ว่าจะไม่รู้จักชื่อของเธอแล้วเธอก็ยังจากไปอย่างเร่งรีบ มันก็เหมือนกระต่ายสีขาวตัวน้อยๆที่หลงเข้าไปในฝูงหมาป่า ซึ่งคงเหลือไว้เพียงแค่กลิ่นในอากาศ ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นกลิ่นหอมหวานของเธอนี่ ในตอนนั้นเขาก็รู้กับตัวเองเลยว่า หากได้พบเจอเธออีกซักเพียงหนึ่งครั้ง เขาจะไม่ปล่อยเธอให้หลุดมือไปอย่างแน่นอน ทรงภพเองรู้มาโดยตลอดแหล่ะว่าตัวเขาจริงๆต้องการอะไรกันแน่
แต่ว่าเรื่องนี้นี่มันคงต้องเล่ามาตั้งแต่สามปีที่แล้ว….