บทที่7
บทที่7
“ครูวรวรรณ”
เสียงที่ดังขึ้นกลับเป็นปรพล
เขาก็มาทำพาร์ทไทม์เดียวกัน ห้องที่เขาสอนติดกับวรวรรณ
ปรพลนิสัยดี ถึงแม้ว่าเขาจะอายุน้อยกว่าเธอ แต่ทำเรื่องไม่เหมือนคนที่มีอายุน้อย
อาจจะเหมือนว่ามีอะไรผิดไป ปรพลมองมาด้วยสายตาเป็นกังวลแต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยน
“ฉัน…..”
“ไม่มีอะไรค่ะครูปรพล ” วรวรรณหันหน้าไปเธอเองก็ไม่รู้ว่าเธอโกรธอะไร แต่เอาเข้าจริงเธอกลับตลกตัวเองขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
วรวรรณตอบเสียงต่ำ แต่ว่าในแววตานั้นเริ่มแดงเล็กน้อย
หากมองเข้าไปในแววตาลึกๆนั้นอาจจะทำให้คนมองรู้สึกรักเอ็นดูเจ้าของได้เลย
ในใจของเธอตอนนี้ อยากจะกำจัดตัวเองไปเสียพ้นๆในตอนนี้เลย
ทำไมถึงได้ทุกระทม โกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้แบบนี้
“เกิดอะไรขึ้นกัน?” ปรพลถามขึ้น ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยวางใจ ในขณะที่พูดก็เดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆวรวรรณ
เขามีรูปร่างสูงใหญ่ แม้ว่าจะอายุน้อยกว่าวรวรรณก็ตามที แต่รูปร่างของเขานั้นเลยหัวของวรวรรณไปมากโข
ร่างนั้นมองลงมาที่เธอราวกับมองสิ่งที่อยู่ต่ำกว่ามาก
แววตาดำขลับนั้นจ้องมองมาเป็นประกายจริงจัง
เต็มไปด้วยความกังวล
“เพราะเจ้าเด็กคนนี้...” ปรพลไม่ได้พูดจบประโยค แต่แววตานั่นมันอธิบายไปหมดแล้วทุกอย่าง
“เขาไม่ฟังฉันหน่ะ” ในขณะที่พูดวรวรรณก็อดไม่ได้ที่จะทิ้งมือลงอย่างหมดกำลัง
เธอเองยังไม่เคยนึกถึงเลยว่ตัวเองอ่อนแอแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“ไม่มีอะไรหรอก คูณไปดูนกเรียนคุณเถอะ เขาแค่ดื้อหน่ะ เดี๋ยวฉันอบรมหน่อยก็ดีแล้ว”วรวรรณพูดด้วยเสียงต่ำ แววตายังมีประกายหม่นๆอยู่
เด็กแบบนี้หน่ะ วรวรรณเพิ่งจะประสบเป็นครั้งแรกทีเดียว
ไม่ยอมทำการบ้าน แถมยังเถียงกลับอีกนี่เรียกว่าไม่ฟังเฉยๆหรอ?” ปรพลยังคงยืนไม่ยอมกลับไปสายตามองไปที่วรวรรณ
ฝ่ายวรวรรณได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้น ก็ประสบกับสายตาที่ยังคงเต็มไปด้วยความจริงจังของปรพล
ในเวลานั้นไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะความใกล้ชิดสนิทใจหรือว่าท้องของเธอมันหิว วรวรรณเกิดอยากจะพูดทุกสิ่งที่เธอรู้สึกออกไปอย่างที่สุด
“ให้เขาทำการบ้าน ก็ดันนอนหลับ พอฉันพูดอะไรเขาก็ไม่ฟัง ฉันหน่ะไม่รู้จริงๆว่าจะทำยังไงกับเขาดี”
ในระหว่างที่พูดเธอก็พูดไปจับผมไป แถมปากยังเล่าไปดูเหมือนเด็กอย่างไรอย่างนั้น
แต่ด้วยความที่ยังอยู่ต่อหน้าเด็กนั้น สำเนียงเสียงยังคงคงไว้ซึ่งความเรียบต่ำ
เธอไม่รู้ตัวเองเลยว่าท่าทางแล้วแววตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจของเธอนี้ มันเป็นประกายน่ามองทีเดียว
โดยเฉพาะแววตานั้น ที่ดูเหมือนตั้งใจที่จะพูดออกมา อีกทั้งสายตาที่จดจ้องมาอย่างไร้เดียงสาจนแทบจะทำให้คนฟังตายไปได้เลย
ปรพลมองไปยังวรวรรณยิ่งพินิจอย่างถี่ถ้วน หัวใจของเขายิ่งสั่นไหว ราวกับถูกห่อหุ้มด้วยความอบอุ่นอะไรบางอย่าง
“ไม่เป็นไรนะครับ ก็แค่เด็กดื้อหน่ะ”
ขณะที่พูด ปรพลก็ยกมือขึ้นเอื้อมไปแตะไหล่ของเธอ การกระทำนั้นกลับเสริมกำลังใจให้เธออย่างบอกไม่ถูก
วรวรรณพอปรพลทำแบบนั้นก็ชะงักไปพักหนึ่ง
เธอกระพริบตาปริบๆอย่างมึนงง ชั่วอึดใจก็พยักหน้าลง
แต่ในระหว่างที่พูด ปรพลก็หันสายตาไปมองบวรพลที่อยู่ข้างหลังเธอแล้ว
วรวรรณมองลักษณะของปรพลปฏิบัติต่อนักเรียนแล้วก็เกิดความรู้สึกที่ว่าเขาดูราวกับเป็นพี่ชายหรือหากเป็นครู ก็เป็นครูที่มีอำนาจบารมีทีเดียว
ปรพลคนนี้เมื่ออยู่ในคลาสเรียนแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามต่างก็โดนเขาตกไปตามๆกัน ทั้งเคารพ และกลัว แถมยังชอบเขาอีกด้วย
อย่างเหตุการณ์ตอนนี้ก็เช่นกัน แม้ว่าปรพลจะเข้ามาไม่กี่นาทีนี้เอง แต่ก็ทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
แม้ว่าตัวเธอเองจะอายุมากกว่าเขาก็ตามที แต่เหตุการณ์เมื่อครู่ที่เกิดขึ้น พอนึกถึงก็รู้สึกแอบละลายใจเล็กน้อย
“บวรพลใช่มั้ย ไหนบอกครูสิ้ ว่าทำไมถึงไม่ยอมทำการบ้าน”
ปรพลที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ ตัวของเขาดูเหมือนจะมีแรงดึงดูดอะไรซักอย่างที่จะทำให้คนเชื่อเขา
อย่างวรวรรณที่พอฟังปรพลพูดขึ้น จากใจที่เดิมทีร้อนระอุก็มอดดับไป
ตอนนี้สายตาของทั้งคู่ ก็จดจ้องไปที่บวรพลเช่นเดียวกัน
วรวรรณคิดว่ามันจะดีขึ้น ทำให้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชาของเธอค่อยๆเปลี่ยนเป็นดีขึ้น เพียงแต่ไม่ยิ้มเท่านั้น
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ คุณไม่ใช่ครูของผม”
ประโยคที่พูดออกมา ชัดเจนทุกถ้อยคำ ปรพลที่กำลังคุยกับเด็กอยู่นั้น ก็ราวกับมีลมอะไรพัดผ่านมาที่หน้ารอยยิ้มที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ดูเหมือนจะเกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
การประสบกับเด็กแบบนี้ พูดตรงๆก็คือ เพิ่งเจอครั้งแรกเหมือนกัน