ตอนที่12
ตอนที่12
วรวรรณเงยหน้าขึ้น เพื่อที่จะมองอย่างชัดเจน
ใบหน้าเขาสุกสกาวราวกับแสงดาวในยามค่ำคืนอีกทั้งยังสะอาดสะอ้านเสียจริง
เมื่อมองไปยังเขา ความคิดนั้นก็ผุดขึ้นมาอย่างง่ายดาย
“ผมทรงภพครับ เป็นพี่ชายของบวรพล” เขาทั้งหล่ออย่างเป็นธรรมชาติ แถมยังทรงเสน่ห์เอาง่ายๆก็คือไร้ที่ติแบบไม่มีคำไหนเอามาเปรียบเปรยความหล่อนี้ได้
“สวัสดีค่ะ สวัสดี” วรวรรณรีบผุดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยเพราะรีบลุกขึ้นทำให้เพิ่มความเจ็บที่บริเวณเท้า
เธอจึงล้มตัวเอียงไปข้างหน้าอย่างไม่ทันระวัง
“ระวังครับ” เสียงของทรงภพส่อแววเป็นกังวล
หลังจากนั้นเขาเอื้อมมือออกไปทันที และมองไปยังสายตาที่แสดงออกของวรวรรณที่แสดงถึงความสับสนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“ระวังครับ” ทรงภพดึงมือของวรวรรณไว้
เดิมทีเขาสูงหนึ่งจุดแปดเมตรกว่าๆ ถ้าเกิดไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนเกรงว่าจะไม่มีใครคิดว่าเขาเป็นนักเรียน
เขาก้มหัวลงมา วรวรรณกลับรู้สึกถึงความร้อนผ่าวๆที่แขนของตัวเองแบบที่อธิบายไม่ถูก
ทันใดนั้นอยู่ๆมือของเธอก็เริ่มเกร็งเล็กน้อย
“ฉัน….ขอบคุณค่ะ” วรวรรณผงกหัวซ้ำๆ
แก้มนั้นเริ่มมีสีแดงระเรื่อเหมือนกับไข่ไก่ยังไงอย่างงั้น ภายใต้แสงไฟสีเหลืองนั้นยิ่งทำให้เห็นสีแดงระเรื่องที่ชัดเจน
“ไม่เป็นไร ระวังนะครับ” ทรงภพยิ้มอ่อนๆ
รอยยิ้มนั้นมันเหมือนแฟลชที่สะท้อนเข้ามาในสายตาของคน แต่มันก็เป็นเหมือนความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้
“ขอบคุณค่ะ” วรวรรณรู้สึกเกร็งที่ขาอย่างช่วยไม่ได้
เธอในตอนนี้ ใบหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง เป็นสีแดงในแบบที่ไม่ได้ทำให้คนตรงข้ามรับรู้ได้อย่างแน่นอนว่ากำลังเขินหรือกำลังหน้าแดงอยู่
พี่ชายของบวรพล ทรงภพ
อาจจะเป็นไปได้ว่าบวรพลมาหาเขาก็ได้?
วรวรรณกัดริมฝีปาก ในสายตาของเธอเหมือนกับว่าแสดงออกถึงความอับอายเล็กน้อย
หน้าตาน่ารักๆนั้นดูแล้วยังไม่โตเต็มที่
แต่ทรงภพท่าทางเหมือนกำลังอดทน เขาเอามือทั้งสองข้างจับหน้าอกที่สวมชุดนักเรียนมัธยมตัวใหญ่ของมัธยมปลายเมืองดาว
เพียงแค่เกรงว่าชุดนักเรียนนั้นแม้จะน่าเกลียด แต่เมื่อทรงภพสวมออกมาแล้วมันทำให้รู้สึกถึงความหล่อเหลาที่แปลกออกไป
คนๆนี้หน้าตาท่าทางดูดี เขายังสามารถพูดได้อีกว่า ก็ใส่เสื้อผ้าอะไรก็เข้า
“ทรงภพ เอ่อ….” วรวรรณพูดอย่างเชื่องช้า
เธอรู้ว่าตัวเองนั้นขายหน้า มาหกล้มต่อหน้าพี่ชายของนักเรียนของตัวเอง อยากจะตะโกนดังๆ
แม้ว่าจะล้มลงตรงหน้าของผู้ชายคนนี้…….
วรวรรณนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้รู้สึกเหมือนได้กลิ่นหอมๆที่รู้สึกได้ชัดเจนว่าไม่ใช่กลิ่นของน้ำหอมแต่กลับเป็นกลิ่นอื่นที่รวมๆแล้วหอม
วรวรรณห่อริมฝีปาก
“ใช่” ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้ ใบหน้าแสดงถึงความอดทน
แม้ว่าเขานะจะแค่พยักหน้า แต่มันก็เป็นท่าทางที่ดี
วรวรรณกลับรู้สึกว่าตัวเองนั้นเหมือนไม่มีที่จะยืนแล้ว
นี่ก็เป็นเหมือนความอัปยศอดสู
ใบหน้านั้นก็เป็นสีแดงระเรื่อไปหมด นิ้วมือก็ไม่สามารถควบคุมได้มันรวนไปหมด
เวลานี้ ควรจะพูดอะไรดีนะ?
ใครจะไปรู้ วรวรรณหนะแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้ด้วย
“สวัสดีค่ะ” วรวรรณยื่นมือออกมา เธอรู้สึกกดดัน ลิ้นก็พันกันไปหมด ยิ่งรู้สึกอยากที่จะควบคุมมากเท่าไหร่บางครั้งก็ยิ่งไม่สามารถควบคุมได้
จริงๆเลยก็ไม่มีทางเลือกนี่หน่า
“อืม สวัสดีครับ” ทรงภพที่อยู่ตรงหน้า ตอบพร้อมพยักหน้า ราวกับว่าไม่ได้สนใจในความเขินอายของวรวรรณ
เขาหยักหน้ารับ หลังจากนั้นก็ยื่นมือออกมา นิ้วนั้นช่างเรียวยาว ในตอนที่สัมผัสครั้งแรกนั้น วรวรรณรู้สึกแค่ว่าร่างกายทั้งร่างกายนั้นมันรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก
ฤดูร้อนขนาดนี้บางครั้งก็ต้องรู้สึกหนาวขนาดนี้ไหม
สัมผัสแบบนี้เหมือนอย่างกับการสัมผัสกับหยกอย่างไงอย่างงั้นเลย
“คุณเป็นครูของบวรพลใช่ไหม?” ถึงแม้น้ำเสียงจะเป็นไปในเชิงการตั้งคำถาม แต่สายตาของทรงภพนั้นกลับแสดงออกได้อย่างชัดเจนมาก
“บวรพลจะต้องมารอผมเลือกเรียนตรงนี้ เขาหนะบางทีก็มีอารมณ์เหมือนเด็กอาจจะต้องรบกวนครูด้วยนะครับ”
ตอนที่ทรงภพกำลังพูดนั้น ประโยคต่อประโยค แต่ละคำชัดเจนจนเห็นได้ชัดว่ายังคงมีความเป็นเด็ก อายุนี่ก็น่าจะเด็กกว่าวรวรรณ แต่ว่าเมื่อวรวรรณยืนอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว ความรู้สึกโดยรวมพูดไม่ถูกเหมือนกับว่าเป็นนักเรียนประถมอย่างไงอย่างงั้น
ใบหน้านั้นเริ่มมีอาการร้อนผ่าวๆ ร้อนแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ไม่รบกวนเลยค่ะ” วรวรรณส่ายหัว ถึงแม้จะพูดออกไปอย่างนี้ แต่ว่าที่พูดไปเมือกี้หนะมันเกิดเรื่องแบบนั้นจริงๆ
“บวรพลหนะ มีนิสัยเด็กๆ แต่เขาเป็นคนฉลาด แต่ยังไงก็ฝากครูดูแลเขาเป็นพิเศษด้วยนะครับ เอ่อใช่แล้ว ครูชื่อ...”
วรวรรณเงยหน้าขึ้นมา แล้วตอบว่า : “ฉันชื่อวรวรรณ เรียกฉันว่าครูวรรณก็ได้ค่ะ”
“ครูวรรณ” ท่ามกลางคำพูดนี้กลับมีน้ำเสียงที่สนุกสนานขึ้นมานิดหน่อย
“ผมเบอร์โทรศัพท์ให้ผมได้ไหม?”
“แน่นอน แน่นอนค่ะ” วรวรรณพูดซ้ำไปมาอยู่อย่างนั้น ดูเหมือนยังมีความกระตือรือร้นอยู่เล็กน้อย
พอทรงภพฟังคำพูดนี้ มุมปากของเขาก็ค่อยๆยกขึ้นอย่างช้าๆ อีกทั้งดวงตาที่ลึกซึ้ง “อย่างงั้นก็ดีเลยครับ ต่อไปในอนาคตคงต้องรบกวนครูวรรณด้วยนะครับ”
ทรงภพยิ้มอ่อนๆ
สายลมพัดมากระทบเรือนร่างของวรวรรณ พูดไม่ออกเหมือนกันว่าเพราะอะไร วรวรรณถึงรู้สึกถึงความหนาวเย็น
สัมผัสแบบนี้ก็เหมือนกับจู่ๆถูกใครบางคนมาหายใจรดต้นคออย่างนั้นเลย
วรวรรณอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปสักครู่
เธอเงยหน้าขึ้นมา ทรงภพยังคงยิ้มมาอยู่
ทรงภพคนนี้ช่างดูดีเสียจริงๆ