ตอนที่14   1/    
已经是第一章了
ตอนที่14
ตอนที่14 “ระวัง”การที่ทรงภพยิ้มในตาแบบนั้นทำให้คนมองรู้สึกคุ้นเคยอย่างไม่รู้ตัว “รองเท้าส้นสูงแบบนี้หน่ะ มันไม่เหมาะกับเดินแบบนี้ และยิ่งตอนนี้ยิ่งเดินยากเข้าไปอีก มาค่อยๆนะ” ขณะที่พูด เขาก็ใช้สองมือพยุงแขนของวรวรรณขึ้นมาอีกครั้ง การกระทำนั้นมันสมเหตุสมผลจนเธอไม่อาจกล้าที่จะปฏิเสธลง ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่บนส้นสูงก็ตามที แต่เมื่อเทียบกับทรงภพที่ยืนอยู่ข้างๆแล้วเธอยังดูตัวเล็ก สูงยังไม่พ้นไหล่เขาเลยด้วยซ้ำ เธอดูตัวเล็ก ราวกับหมากระเป๋า แต่ว่าดูๆแล้วก็กำลังดี อย่างน้อยเวลามองก็ให้ความรู้สึกกลมกลืน วรวรรณเงยหน้าขึ้นมอง แววตานั้นอย่างมี “ขอบคุณ” วรวรรณยิ้มมุมปาก เธอเงยมองไปที่แขนของทรงภพ ประกายตาเธอสดใส ยิ้มละไมด้วยความอบอุ่น “ฉันไม่เป็นไรแล้วหล่ะ” วรวรรณพูดเสียงอ่อนโยน นุ่มราวกับนุ่น แตะไปเบาๆที่กลางใจของคนฟัง สัมผัสนั้นทำให้หัวใจของเธอที่ถูกกระทำเต้นเร็ว ฉับพลันนั้นเองระหว่างที่พูด เธอก็มุดก้มต่ำลงด้วยความกระดากเขินในสิ่งที่เธอไม่ได้ตั้งใจไปสัมผัส ใครจะรู้หล่ะ ว่าเธอจะทำอะไรพลาดไปแบบนี้ เธอทำตัวไม่เหมือนครูเขาทำกัน นั่นทำให้เธอรู้สึกไม่เป็นตัวเองและก็เลิ่กลั่กอยู่นิดหน่อย ส่วนด้านของทรงภพก็รู้สึกว่าฝ่ามือของเขาจักจี้เล็กน้อย ราวกับมีคนเอาขนนกมาโดนเบาๆที่หัวใจของเขา มันอ่อนโยนและนุ่ม หมุนวนที่ฝ่ามือแล้วค่อยๆไหลออก ซึ่งก็เห็นชัดๆว่ามันก็ไม่ได้เป็นแบบที่รู้สึก แต่ว่ามือของหญิงสาว พอได้สัมผัสก็ทำให้หัวใจของคนสัมผัสเบาสบายขึ้นมาทีเดียว มันนุ่มละมุน ทำให้คนต้องการที่จะสัมผัสมัน แต่ดูท่ามือน้อยๆนั้นยังอ่อนต่อโลกอยู่มาก เพราะพอเมื่อได้สัมผัสกับมือหนา ก็ดูเหมือนอยากจะดึงมือของตัวเองกลับ แต่โอกาสหับเวลาไม่สัมผัสกันทำให้ได้สัมผัสเพียงผิวเผิน แต่ก็ทำให้หัวใจคนจักจี้จนแทบทนไม่ไหว ตาของทรงภพคมเฉียบ เสี้ยววินาทีนั้น ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มขึ้น ท่าทีของเขาก็กลับมาเป็นดังเดิม “เมื่อกี้ร้อนใจไปหน่อย เอางี้ไหมครับครูวรรณ เดี๋ยวผมไปส่งดีกว่า” ทรงภพที่อยู่ภายใต้แสงไฟถนนดูเงียบสงบ สายตาของเขาแสดงออกถึงความห่วงเป็นกังวล นอกจากความห่วงแล้วก็ยังแสดงออกมาซึ่งความอ่อนโยนโดยธรรมชาติแบบที่เขาเองก็คงไม่รู้ตัวเอง ความอ่อนโยนนั้นเหมือนจะสามารถแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของคนอีกผู้ที่ง่ายๆ “โอ๋วววว” พวกคนข้างหลังส่งเสียงออกมาอย่างอดไม่ได้ เสียงนั้นออกแนวล้อเลียนหยอกล้อปนปนกันไปในหมู่พวกนั้น “เขาไปส่งบ้านแล้วหว่ะ” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นมา เรียวปากของเขาเหยียดยิ้มชัดเจน ใบหน้าเขาดูแฮปปี้ดี๊ด๊ามากเว่อ แต่คำพูดนั่นก็ไม่ค่อยเหมาะสม วรวรรณสังเกตเห็นว่าเขาเกาหัวระหว่างที่พูด ถึงจะพูดด้วยลักษณะนั้นก็เถอะ แต่ทำไมเขาต้องพูดแบบนั้นด้วยนะ “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันรอรถเมล์กลับได้” วรวรรณรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย “รถเมล์….”ทรงภพขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แล้วก็คลายลงหลังจากนั้น แต่ว่าเขากลับมองมาที่วรวรรณด้วยสายตาที่่แสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย สีหน้าของทรงภพแสดงออกอย่างกระจ่างชัด เขายิ้มบางๆ ลักษณะนั้นไม่ใช่แค่ปฏิเสธยากเท่านั้นหรอก แต่เหมือนมันมีความรู้สึกอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิมแอบแฝงด้วย ที่อยู่ใกล้กันแค่นี้เนี่ยวรวรรณก็ยิ่งรู้สึกว่าทรงภพตอนนี้กับเมื่อตะกี้นี้ดูเหมือนจะมีอะไรที่แปลกไปจากเดิม แล้วด้วยที่ว่ามันแปลกไปทำให้น้ำเสียงของวรวรรณที่แข็งกร้าว ก็เปลี่ยนมาเป็นอ่อนโยนขึ้น “อู๋ย คุณชายทรงพภของเรา ถูกสาวปฏิเสธแล้วว่ะ” เด็กหนุ่มที่ยืนด้านหลังของทรงภพกอดอกมองมาอย่างสบายๆ ด้วยท่าทางสบายๆแบบนั้น การพูดก็ยิ่งดูสบายขึ้นไปอีกมันทำให้สถานการณ์ตรงหน้าไม่อึดอัดจนเกินไป “พอแล้ว กมลภุ” เสียงนั่นไม่ได้ดังมากแต่ก็ดังพอให้เวรวรรณได้ยิน เธอรู้สึกเพียงว่าหัวใจเธอเองก็หด มือเล็กๆของเธอก็ผลุดกลับมาอย่างไม่รู้ตัว “โอเคโอเค” กมลภูโบกมือ แล้วเสียงแซวกระเซ้าข้างหลังก็เงียบไป “ครูวรรณครับ เดี๋ยวผมไปส่งครูเอง ครูเดินเองไม่สะดวกหรอก อีกอย่างผมก็จะได้รับรู้ถึงเรื่องราวของบวรพลด้วย หวังว่าครูจะไม่ปฏิเสธนะครับ” ทรงภพมองไปที่วรวรรณด้วยแววตานั้นทำให้คนมองใจสั่นไม่เป็นระส่ำ เขาพูดแบบช้าๆค่อยๆ แต่ว่า ยิ่งพูดช้าก็ราวกับเพื่อจะให้ผู้ฟังเข้าใจได้ง่ายและไม่อาจปฏิเสธได้ด้วย และเอาเข้าจริง สถานการณ์แบบนี้จริงๆแล้วเธอก็ไม่รู้จริงๆว่าควรจะปฏิเสธยังไง เธอยังยืนนิ่งอยู่กับที่ตรงนนั้น “ก็ได้” มีเพียงคำว่า ก็ได้ ที่เล็ดลอดหลุดออกมา พอทรงภพได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าออกทันที มุมปากกระตุกยิ้ม มันเป็นยิ้มที่โคตรจะทรงเสน่ห์เลยหล่ะ ในเวลานั้นเองวรวรรณก็รู้สึกว่าการที่เธอตอบตกลงไปนี่มันดีเหลือเกิน อย่างน้อยก็ทำให้หน้างามยิ้มขึ้นมาได้บ้าง ใช่มั้ยหล่ะ? แต่ว่าวรวรรณเองก็ยังคิดไม่ถึงว่าเรื่องแบบนี้ ถ้ามีครั้งแรกแล้วก็จะมีครั้งต่อไปเรื่อยๆนั่นแหล่ะ ทรงภพหน่ะเดิมทีก็เป็นคนที่ใครๆก็ไม่อาจปฏิเสธได้อยู่แล้ว
已经是最新一章了
加载中