ตอนที่10 ชู้
ตอนที่10 ชู้
ถึงวันตรวจครรภ์ หนิงหรานรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยเลยไปหาเว่ยถิงที่ห้อง
หนังจากที่แน่ร์ฉิงฉิงเข้ามาอยู่ที่บ้าน เขาก็ไม่เคยเข้ามานอนในห้องของเธอเลย
เคาะประตูห้องแล้วเดินเข้าไป เว่ยถิงกำลังนั่งอ่านเอกสาร พอเห็นเธอเดินเข้ามา จึงถามขึ้นมาอย่างหงุดหงิด “คุณมาทำอะไร”
ในใจของหนิงหรานรู้สึกอึดอัด เธอกำมือแน่น ยิ้มแล้วพูดว่า “วันนี้ฉันจะต้องไปตรวจครรภ์ ถิง คุณไปเป็นเพื่อนฉันได้ไหม”
เว่ยถิงหัวเราะออกมา “ถ้าจะไปก็ไปเองสิ ผมไม่อยากเสียหน้า”
หนิงหรานร้องไห้ในใจ กัดฟันสู้ “ถิง เด็กคนนี้เป็นลูกของคุณจริงๆ”
“วันนี้เรื่องที่คุณพูดกับฉิงฉิงผมได้ยิมหมดแล้ว คุณยังจะคิดว่าผมเป็นเด็กไร้สาระหลอกผมอีกหรือ” เว่ยถิงโกรธจัด
หนิงหรานเดินเข้าไปกุมมือของเขา ในตอนนี้เองเธอค่อยๆร้องไห้ออกมา “ที่ฉันพูดนะ แค่ประชด”
เว่ยถิงยิ้มอย่างแทงใจดำ “คุณอย่าคิดว่าผมเป็นคนบ้าอยู่เลย ที่คุณพูดนะมันคือเรื่องจริง ผมเตือนคุณไว้ก่อนนะ อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคุณนายเว่ย ผมไม่ยอมหย่ากับคุณแน่ ไม่ยอมให้คุณได้สมหวังกับชู้รักของคุณให้ผมขายหน้าหรอก ไม่มีอะไรแล้วก็ออกไป ผมไม่อยากเสียเวลากับคุณ”
หนิงหรานกัดริมฝีปาก ทั่วทั้งร่างกายสั่น ในเมื่อเว่ยถิงไม่ไปเป็นเพื่อนเธอ เธอไปเองก็ได้ เธอรู้ นี้คือรู้ของพวกเขาเอง เธอไม่ยอมให้เว่ยถิงเข้าใจผิด
เป็นครั้งแรกที่ตรวจครรภ์ หนิงหรานตื่นเต้นนิดหน่อย ในหนังสือแนะนำว่าหกถึงแปดสัปดาห์ก็สามารถได้ยินเสียงหัวใจเต้นแล้ว ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้ว่าตัวเองตั้งท้อง ตอนนี้ก็ครบสัปดาห์ที่สิบแล้ว อยากรู้จริงๆว่าเด็กน้อยในท้องตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
พอไปถึงโรงพยาบาลประจำตระกูลของเธอ หนิงหรานเข้าไปหาเพื่อนของเธอเหยียนจิ้ง เหยียนจิ้ง
เป็นกุมารแพทย์ เป็นเพื่อนร่วมห้องนอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย
เหยียนจิ้งตรวจครรภ์ให้เธอ แล้วคุยกับเธอเรื่องการดูแลครรภ์ และนัดเวลากันทานข้าว เสร็จแล้วถึงหนิงหรานก็ออกไป
หนิงหรานเดินออกมาจากห้องตรวจครรภ์ ก็เผอิญเจอกับเฉียวเห้าหยานเข้า
เธอหันหน้าตั้งใจจะเดินออกไป แต่เฉียวเห้าหยานกลับเดินตามมา ใบหน้ายิ้ม “หรานหราน บังเอิญจริง ฉันเจอคุณที่นี้”
หนิงหรานยิ้มแห้งๆ “ใช่ บังเอิญจริง”
พูดตามจริง ในใจของเธอไม่ใช่ไม่อยากเจอเฉียวเห้าหยาน หากไม่ใช่เพราะข้อแม้ที่ไม่มีเหตุผลของเขานั้น เธอและเว่ยถิงคงไม่ต้องทะเลาะกัน
แต่ว่าหนิงหรานเองก็โทษเขาไม่ได้ ใครก็ไม่ใช่นักบุญ ถึงจะสามารถยอมสละตัวเองเพื่อคนอื่นได้ หนิงหรานไปหาเขาเพื่อขอไต
หากไม่มีไตนั้นหละก็ ตอนนี้เว่ยถิงยังจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่ เว่ยถิงเขาเป็นโลกทั้งใบของเธอ
เฉียวเห้าหยานยอมลดทิฐิระหว่างสองตระกูลลง ยอมช่วยชีวิตเว่ยถิง เธอควรจะรู้จักขอบคุณ ไม่ใช่โกรธเฉียวเห้าหยาน
พอนึกได้ว่าหนิงหรานเดินออกมาจากแผนกสูติศาสตร์ เฉียวเห้าหยานรู้สึกตกใจ “คุณท้องแล้วหรอ”
หนิงหรานพยักหน้า “ใช่แล้ว ขอบคุณคุณมาก หากไม่ใช่เพราะคุณ ลูกของฉันคงไม่มีพอแล้วหละ”
เธอไม่สามารถนำความรู้สึกเชิงลบของเธอให้คนอื่นเห็น เฉียวเห้าหยานเป็นคนอ่อนโยนใช่หรือ
เฉียวเห้าหยานยิ้ม “เรื่องนั้นคุณไม่ต้องพูด คุณไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก ผมไม่ใช่ว่าขอให้คุณตอบแทนแล้วหรอ”
หนิงหรานไม่พูดอะไร ไม่อยากพูดเรื่องนั้นอีก “ใช่สิ คุณมาโรงพยาบาลทำไม ไม่สบายตรงไหนหรอ”
เฉียวเห้าหยานพยักหน้า “แค่มาตรวจความผิดปกตินิดหน่อย ใช่สิ ถิงทำไมไม่มาเป็นเพื่อนคุณหละ”
หนิงหรานลดสายตาลง ยิ้มเบาๆว่า “เขายุ่งนิดหน่อยนะ วันนี้ไม่ว่าง”
ยังไม่ทันพูดจบ หนิงหรานก็เห็นบนถนนนั้น เว่ยถิงพยุงแน่ร์ฉิงฉิงเดินเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความรักใคร่