ตอนที่ 8 เรื่องวุ่นวายที่เฉลียงภาพวาด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 8 เรื่องวุ่นวายที่เฉลียงภาพวาด
ตอนที่ 8 เรื่องวุ่นวายที่เฉลียงภาพวาด เด็กพวกนี้ คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือนิภา และเรื่องที่ผู้ชายคนนั้นทำกับเธอในอดีตก็น่าโมโหมาก ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่ายังเปิดเผยชาติกำเนิดของเธอไม่ได้ ตามนิสัยของคุณพรรษชลแล้วอาจจะไปยิงเขาถึงบ้านเลยก็เป็นไปได้ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ พวกเขาก็ไม่อยากให้เธอเสียใจภายหลัง “ได้ค่ะ” สำหรับคุณพรรษชลแล้ว นิภาเป็นเด็กดีมาโดยตลอด จริงๆเธอก็เชื่อฟังนะ เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่ได้เรียกร้องให้เธอทำอะไรแค่นั้นเอง ขอแค่เรียกร้อง และไม่เกินกำลังของเธอ เธอทำให้แน่นอน .......... หลังทานข้าวเช้าเสร็จ คุณพรรษชลให้นิภาไปเอารูปวาดที่เฉลียง ที่นี่ไม่ใหญ่มาก แต่เก็บภาพวาดชื่อดังไม่น้อย แขกที่มาที่นี่ล้วนเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคม ในขณะที่พนักงานไปหาภาพวาดให้นิภา เธอก็เดินเล่นในห้อง มองดูภาพต่างๆ ในใจของเธอสั่นทอนเล็กน้อย ถ้าจำไม่ผิด เธอไม่ได้จับดินสอมานานมากแล้ว “คุณหนูสามคะ ภาพวาดไว้บนรถของท่านเรียบร้อยแล้วค่ะ” “โอเค ขอบใจนะ” “ยินดีค่ะ” ไม่ง่ายกว่าจะมาสถานที่ที่ที่ตนเองชอบ นิภาไม่ยอมออกไปง่ายๆหรอก คิดอยู่ว่ากลับไปก็คงไม่มีอะไรทำ เธอจึงเริ่มจับดินสอขึ้นมา แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาทางหน้าต่างผ่านมาที่ใบหน้างดงามของเธอ เผยให้เห็นว่าหน้าตาของเธอสวยงามและเป็นศิลปะมาก อวัยวะบนใบหน้าของเธอโดดเด่น ดั้งจมูกสูง แววตาราวกับดวงดาว ขนตาที่งอนยาว ทุกอย่างให้ความรู้สึกงดงามที่คนไม่สามารถมองข้ามได้ ยิ่งบุคลิกบนตัวของเธอยิ่งดูสง่าสูงส่ง ตอนนั้นที่บอกกับปองธรรมไปว่าตนเองเป็นเด็กกำพร้านั้น เขาไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำ แต่หลังจากนั้น...... ภาพวาดหนึ่งภาพต้องใช้เวลานักวาดพอสมควร จนถึงช่วงบ่าย เธอถึงจะวาดเสร็จ เธอมองภาพวาดของตนเองด้วยความดีใจ พนักงานก็ชมกันใหญ่ว่าฝีมือของนิภานั้นดีมาก “คุณหนูสามคะภาพนี้ชื่อ?” “บ้าน” “ดูมีความหมายมากเลยค่ะ” พนักงานชมใหญ่ ภายในภาพวาดมีบ้านหนึ่งหลัง ข้างๆบ้านเป็นแม่น้ำ ข้างแม่น้ำมีต้นไม้ มองแล้วเหมือนเป็นบ้านที่อบอุ่นมาก “ภาพนี้เก็บไว้ที่นี่ละกัน” “ถ้ามีคนชอบล่ะคะ” “ไม่หรอก..........” ฝีมือของตนเองเธอก็ยังพอจะรู้อยู่แก่ใจ คำอวยของพนักงานจะเชื่อได้ยังไง? แค่เธอชอบใจเองก็พอแล้ว “ถ้าเกิดมีคนชอบ ก็ขายไปเลย เงินก็ให้เธอละกัน” “ขอบคุณค่ะคุณหนูสามค่ะ” บ้านของเธอ พังทลายไปแล้ว เพราะงั้นภาพวาดแบบนี้ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรกับเธออีกต่อไป มีแค่เวลาแบบนี้ ใบหน้าของเธอถึงเผยให้เห็นรอยยิ้มอ่อนๆจากใจ ที่จริงแล้วตั้งแต่ที่เธอปรากฏตัวที่นี่ ปองธรรมก็อยู่ที่นี่แล้ว โดยเฉพาะเวลานี้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ เขายิ่งไม่กล้าเข้าไปรบกวน กชนิภาในตอนนี้แค่เห็นเขา เธอก็จะกลายเป็นเม่นที่มีหนังเต็มตัวเพื่อปกป้องตนเอง นิภากำลังจะออกไป พึ่งถึงลานจอดรถก็เห็นปองธรรมยืนอยู่ข้างๆรถของเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าในตอนแรก เพราะการปรากฏตัวของเขาจึงจางหายไป เหลือเพียงสีหน้าที่เย็นชาไร้ความรู้สึก “ที่รัก ไปทานข้าวกันนะ” “.............” น้ำเสียงของปองธรรมดูเอ็นดูเธอมาก เหมือนทั้งสองไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน เหมือนสองปีก่อนที่นั่งอยู่ด้วยกันอย่างหวานฉ่ำ นิภาทำสีหน้าเฉยชา ปองธรรมก็ทำได้แค่หน้าด้าน ใครให้สองปีก่อนเขาเข้าใจนิภาผิดล่ะ จากนั้นก็ทำเรื่องที่ทำร้ายเธอแบบนั้น ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะทำกับเขายังไง เขาก็จะใช้ความอ่อนโยนทั้งหมดที่มีให้กับเธอ ขอแค่เธอกลับมา ไม่ว่าให้เขาทำอะไรก็ยอมหมดทุกอย่าง “คุณชายดีวาจินคะ เราไม่ได้สนิทกันถึงขั้นไปทานข้าวด้วยกันนะคะ อีกอย่าง.......อย่าเรียกฉันว่าที่รัก คุณไม่คู่ควร” สำหรับความร้องขอของปองธรรม นิภาไม่ไปแน่นอน คุณปู่เขาทำอะไรกัน มีความรู้สึกยังไงเธอก็เข้าใจนะ แต่เธอเหมือนจะไม่ใส่ใจ “ที่รัก ฉันรู้ว่าเธอโกรธมาก แต่ว่า เธอก็ควรจะให้โอกาสฉันได้อธิบายหน่อยสิ” “ขอโทษด้วยนะ” พูดอยู่ นิภาก็เดินไปผลักเขาออกแล้วเปิดประตูรถกำลังจะขึ้นรถ ในขณะที่เธอกำลังจะขึ้นรถนั้นก็ถูกปองธรรมดึงเอาไว้ เทียบกับสองปีก่อนเขาผอมลงเยอะมาก แต่ก็ยังคงความเป็นและชวนหลงใหลเหมือนเดิม เขาแต่งงาน ทำให้ผู้หญิงอกหักไม่น้อย เขาหย่า ก็ทำให้ผู้หญิงเมืองไอซดีใจไม่น้อยเช่นกัน อยู่กับผู้ชายที่มีคนชอบเยอะแบบนี้ นิภารู้สึกเหนื่อย เหนื่อยมาก.......... แค่ชนนนคนเดียว เธอก็เหนื่อยมากพอแล้ว “คุณชายดีวาจิน คุณจะทำอะไรกันแน่?” “ที่รัก ฉัน..” “ฉันบอกแล้วไง พวกเราไม่ได้สนิทกัน เรียกฉันแบบนี้มันไม่เหมาะสม” “.......” เมื่อคืนปองธรรมไม่ได้หลับทั้งคืน ตอนนี้ดูแล้วเหนื่อยล้ามาก เขาคิดมาตลอดทั้งคืน นิภาอยู่บ้านโตพันดุงตลอดเวลาสองปีเลยหรอ? เธอเป็นอยู่ยังไง? อีกอย่าง ลูกของพวกเขาล่ะ? แต่เห็นนิภาเป็นแบบนี้ ไม่ว่าเขาจะคิดถึงลูกแค่ไหนก็ไม่กล้าถาม คำถามนี้ เขารู้ เขาไม่มีสิทธิถาม “ไปกับฉัน” เห็นนิภาไม่ให้โอกาสตนเองเลย ปองธรรมเลยทำได้แค่ใช้วิธีบังคับเธอ
已经是最新一章了
加载中