ตอนที่ 11 ใช้แผนความสวย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 11 ใช้แผนความสวย
ตอนที่ 11 ใช้แผนความสวย “นิภา พ่อก็แค่อยากรู้ หนูกับปองธรรมยังเป็นไปได้ไหม?” “ไม่ได้ค่ะ” สำหรับคำถามนี้ นิภาตอบได้อย่างมั่นใจ ผู้หญิง เรื่องบางเรื่องต้องห้ามให้อภัยเด็ดขาด ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่เคยได้รับมาใครจะมารับผิดชอบ? “แต่ลูกกับเขามีลูกด้วยกันแล้วนะ ลูกเคยนึกถึงพลากรบ้างไหม?” “พลากรเป็นลูกชายของหนูคนเดียวค่ะ” “..........” รามิลจับที่หนักผาก นี่ต่างหากเป็นสิ่งที่เขาปวดหัวที่สุด นิภานั้นตามใจและรักลูกชายมาก ความรักแบบนั้น ซึมซับเข้าไปในกระดูก ความรักแบบนั้นให้ทุกอย่างได้ ความรู้สึกแบบนั้นเปรียบเสมือน เธอเตรียมพร้อมแล้ว เตรียมพร้อมที่จะไม่ให้ความรักจากพ่อกับพลากร “พ่อคะ ถ้าเป็นเพราะเรื่องนี้ละก็ หนูคิดว่าพวกเราไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกันแล้วค่ะ” สองปีมานี้ ไม่มีใครกล้าพูดถึงปองธรรมต่อหน้าเธอ เพราะหลังจากได้ยินชื่อปองธรรมแล้ว เรื่องก็ไม่สามารถไปต่อได้ สำหรับผู้ชายคนนั้น เธอเกลียดเขาถึงขั้นไหนกันแน่ถึงขั้นไม่อยากได้ยินแม้แต่ชื่อของเขา “ได้ๆๆ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว งั้นเรามาพูดเรื่องต่อไปกัน” “ค่ะ” “ลูกเตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาทำงานที่บริษัทนะ” “อะไรนะ?” เรื่องเปลี่ยนไปเร็วไปไหม? หรือว่าคุณพ่อหมายความว่าให้อยู่ต่อที่นี่ “คุณพ่อหมายถึง?” “แค่ลูกกับพงศกรและศมนอยู่ต่อ เรื่องทางนี้คงอีกนานกว่าจะจบ” “................” “เรื่องของประเทศดาวและ เกาะqueen เดียวพ่อกับพี่สาวใหญ่ของลูกไปจัดการเอง” “แต่หนูอยากกลับมากับคุณพ่อมากกว่าค่ะ” “ลูกอยู่ต่อ อยู่เป็นเพื่อนคุณปู่รู้ไหม?” “แต่ว่าพลากร..........” “เรื่องของพลากรมีพ่อกับพี่ของเธอคอยดูแลไง? หรือคิดว่าพ่อจะดูแลหลานได้ไม่ดีหรอ?” “.................” กชนิภาขมวดคิ้ว จริงๆแล้วเธอเตรียมตัวเพื่อกลับไปเรียบร้อยแล้ว จริงๆแล้วเธอไม่ต้องทำงานที่บริษัทก็ได้ แต่ตอนนี้รามิลกลับมาให้เธออยู่ต่อกะทันหัน......... แต่ก็พูดขนาดนี้ถึงขั้นพูดถึงคุณปู่ เธอก็ไม่ดีปฏิเสธ “งั้นหนูอยู่ต่อทำอะไรได้บ้างคะ? แล้วก็ ต้องนานแค่ไหนหนูถึงจะได้กลับเกาะ queen?” “หนึ่งปี เชื่อว่าความสามารถของพี่ชายของลูกสามารถจัดการทุกอย่างให้ดีภายในหนึ่งปีได้” “ค่ะ” “สำหรับเธอ ก็เป็นเลขาให้พงศกรแล้วกัน” “...............” นิภางง!! ให้เธออยู่ต่อที่เมืองไอซ แต่กลับให้เป็นแค่เลขา? มองดูสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเธอ รามิลก็เหนื่อยเหมือนกัน!! “ลูกเรียนบริหารมา ไปฝึกฝนกับพี่ชายก่อน ต้องทำความเข้าใจกับงานของบริษัทก่อนรู้ไหม?” “หนูอยากกลับไปเรียนรู้งานกับพี่สาวใหญ่มากกว่าค่ะ ยังสามารถดูแลพลากรของหนูได้” พูดถึงพลากร สีหน้าของเธอก็ดีขึ้นเยอะเลย ในแววตาเผยให้เห็นถึงความอ่อนโยนของผู้เป็นแม่ ลูกสาวทั้งสามคน มีแต่นิภาที่เหมือนแม่ของเธอที่สุด เห็นนิภาแล้ว ในใจของรามิลก็เจ็บปวดมาก ตอนนั้นที่เขาเห็นเด็กคนนี้ครั้งแรก ใจของเขาเจ็บราวกับโดนกระชาก “พี่สาวของเธออารมณ์ร้อน จะสู้พี่ชายของเธอได้ยังไง? พี่ชายของเธอมีความอดทนสูง พ่อไว้ใจมากกว่า” “..............” รามิลพยายามจะให้นิภาอยู่ต่อให้ได้ สิ่งที่เขาจะทำเพื่อความสัมพันธ์ของเธอกับปองธรรมก็คงทำได้มากสุดเท่านี้ เวลาหนึ่งปี ถ้าไอ้ปองธรรมนั่นยังทำให้ลูกสาวของตนเองอภัยให้ไม่ได้ ก็อย่าหาว่าเขาไม่ให้โอกาสเลย ................. หลังจากที่ออกมาจากห้องทำงานของรามิล นิภาก็ได้รับสายโทรศัพท์ พรรณอรเป็นคนโทรมา บอกว่าชวนเธอไปดื่มกาแฟ ส่วนพรรณอรได้เบอร์ของตนเองมาจากไหนนั้น นิภาไม่อยากรู้ แต่ตอนอยู่ที่บ้านดีวาจิน พรรณอรก็ถือว่าเป็นน้องที่ดีคนนึง เพราะงั้น นิภาเลยไม่ปฏิเสธ “พี่สะใภ้สอง ในที่สุดพี่ก็มา” ร้านกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไอซ พรรณอรรออยู่ที่นี่มานานแล้ว ในตอนที่เห็นนิภา เธอก็พุ่งเข้ามาด้วยความดีใจ ทั้งสองคนกอดกัน ราวกับพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันมานาน นิภาโตกว่าพรรณอรแค่หนึ่งปีครึ่ง เพราะงั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่เลยดีมาตลอด “พี่สะใภ้สอง เพื่อเบอร์โทรของพี่หนูใช้แผนความสวยไปล่อมาเชียวนะ การสูญเสียในครั้งนี้ถือว่าใหญ่พอสมควรเลย” “หืม..........” นิภาที่ไม่ค่อยได้สติ พอได้ยินพรรณอรพูดประโยคนี้ ถึงขั้นหัวเราะออกมาเลย ได้ยินนิภาหัวเราะ พรรณอรถึงวางใจไปบ้าง “ยังคงเป็นกาแฟดำใช่ไหม?” “ใช่ เธอยังจำสิ่งที่ฉันชอบได้ ถือว่ายังพอมีใจหน่อย” “แน่นอน หนูชอบพี่สะใภ้สองที่สุดเลย” “.............” พูดชมเชยอวยกันใหญ่ ความสามารถนี้ของพรรณอรก็ให้คนอื่นไม่กล้ามองเธอเลย พนักงานยกกาแฟของนิภามาเสิร์ฟ เธอดื่มคำเบาๆ ยังคงรสชาติขมเหมือนเดิม ร้านกาแฟนี้เป็นร้านที่เมื่อก่อนปองธรรมชอบพาเธอมา ไม่คิดว่า.......ไม่ว่าจะไปถึงที่ไหนของเมืองไอซ ก็ยังคงนึกถึงผู้ชายใจร้ายคนนั้น “พี่สะใภ้สอง จริงๆแล้ววันที่ฉันมีเรื่องอยากจะมาขอให้พี่ช่วย” “เหอะๆ มีเรื่องอะไรที่พี่ช่วยเธอได้หรอ?” “มีๆๆ มีสิ” เห็นนิภาสงบแบบนี้ พรรณอรเริ่มกระวนกระวาย วันนี้ที่เธอมาหานิภาก็คือเรื่องที่เธออยากเข้าทำงานในบริษัทK.I ตอนนี้เธอเห็นด้วยกับคำพูดของคุณากร ฐานะของพี่สะใภ้สองนี่ดีจริงๆเลย ไม่คิดว่าตนเองจะมีเรื่องให้เธอช่วยเร็วขนาดนี้ “ถ้าสามารถช่วยเธอได้ พี่ก็จะช่วยแน่นอน” “...............” “แต่ว่าพี่มีข้อแม้” “ข้อแม้อะไร? แค่พี่สะใภ้สองพูดออกมา ฉันตกลงทุกอย่าง” “เหอะๆ ข้อแม้นี้ง่ายดายมาก จากนี้ไปไม่ต้องเรียกพี่ว่าพี่สะใภ้สองก็พอ เรียกพี่ว่าพี่นิภา หรือเรียกว่านิภาก็ได้ พี่ก็โตกว่าเธอแค่ปีครึ่งเอง” “ห้ะ? ถ้าพี่สองรู้เรื่อง ต้องฆ่าฉันแน่เลย” พรรณอรได้ยินข้อแม้แล้ว เธอรู้สึกไปดีไปทั้งตัว! นึกถึงใบหน้าที่เย็นชาจนสามารถทำให้คนแข็งตายได้ของปองธรรม พรรณอรก็รู้สึกหนาวและสั่นไปทั้งตัว “พี่สะใภ้สอง เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหม?” “ไม่ได้” เห็นนิภาตอบอย่างมั่นใจขนาดนี้ พรรณอรถึงขึ้นร้องไห้ไม่ออกเลยทีเดียว เธอพอจะรู้บ้างว่า ทำไมตอนนั้นพี่สองถึงแต่งงานกับพี่สะใภ้สองคนเดียวเท่านั้น เพราะนิสัยของสองคนนี้ช่างเหมือนกันเลยจริงๆ ใครๆก็พูดกันนิสัยไม่เหมือนกันมาเป็นคนบ้านเดียวกันไม่ได้ นี่ไง...สายฟ้านรก ภาพหลังจากนี้แค่คิดก็สยอง “งั้นก็ได้ ฉันเรียกพี่ว่านิภาได้ไหม? เราจะได้ดูสนิทกัน” พรรณอรคิดอย่างรอบคอบ รู้สึกว่าหักหลังพี่ชายสองก่อนละกัน ความสัมพันธ์ของเธอกับพี่ชายจะดีหรือไม่นั้นไม่สำคัญ ยังไงก็สายเลือดเดียวกัน เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่พี่สะใภ้สองคนนี้ไม่ได้ ถ้าไม่ตอบตกลงเธอก็จะไม่ช่วยตนเอง หลังจากที่คิดหน้าคิดหลังแล้ว พรรณอรก็เลือกนิภาด้วยความภูมิใจ ส่วนปองธรรมก็ไม่สนใจอยากไปไหนก็ไปเถอะ “ได้ งั้นตอนนี้พูดได้ยัง ว่าจะให้ช่วยเรื่องอะไร?” จริงๆแล้วนิภาก็สงสัยเหมือนกัน ตนเองพึ่งกลับมาที่เมืองไอซ ไม่ค่อยรู้จักอะไร รู้ก็แค่เรื่องเมื่อสองปีก่อนเท่านั้น เมื่อก่อนอยู่ที่นี่ เพราะฐานะของเธอเลยไม่มีแม้แต่เพื่อน แน่นอน ฐานะที่ไม่ดีนั้นก็คือเด็กกำพร้า ตอนนั้นผู้หญิงตระกูลดีทั้งหลายต่างดูถูกเธอ ไม่ยอมคบเธอเป็นเพื่อน แต่ว่า ตอนนี้ถึงคนพวกนั้นจะมาประจบเธอก็ไม่ใช่เรื่องง่าย “นิภา เรื่องมันเป็นอย่างงี้ เธอคิดดูนะ ฉันก็จบปริญญามาตั้งนานแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่มีการมีงานทำเลย” “.............” ตอนที่พรรณอรพูดถึงประโยคนี้ นิภาก็สะดุ้งในใจ คิดในใจว่าเด็กแสบคนนี้กำลังคิดจะทำอะไร? แม้แต่แววตาที่มองพรรณอรก็มีความระแวงเล็กน้อย “นิภาเป็นคุณหนูสามบ้านโตพันดุงใช่ไหม? ฉันอยากขอใช้เส้นสายหน่อย” “ใช้เส้นสาย?” “นิภาก็คือเส้นสาย ฉันอยากไปทำงานที่บริษัท K.I” “............” นิภากระตุกที่ริมฝีปาก ไม่สามารถอดกลั้นสีหน้าได้ คำพูดของพรรณอรทำให้เธออึ้ง ทำให้นิภาตกใจไปหมด เรื่องเส้นสายแบบนี้ยังกล้าเอามาพูดตรงๆแบบนี้ “ถ้าเธอไปบริษัทของดีวาจิน จะใช้เส้นสายและเข้าได้ง่ายกว่าของฉันนะ” “นั้นไม่เหมือนกัน” “ไม่เหมือนกันยังไง?” ตามความเข้าใจของนิภา ลูกชายทั้งสามคนของโตพันดุงล้วนมีธุรกิจเป็นของตนเอง มีการงานเป็นของตนเอง และชนเทพก็มีบริษัทเองด้วย ความสามารถของสามพี่น้องนี้เก่งกว่าพ่อมาก ทรัพย์สินของแต่ละคนถึงหลักพันล้านเลย เพราะงั้นในธุรกิจครอบครัว บริษัทของชนเทพถือว่าไม่ค่อยสำคัญสักเท่าไหร่ “อร ฉันรู้สึกว่า เธอสามารถไปช่วยงานที่บริษัทของพ่อเธอนะ” “ฉันไม่ไป ฉันจะใช้เส้นสายที่นี่” “...........” เด็กคนนี้ กชนิภาแสดงออกถึงความไม่เข้าใจความคิดของพรรณอรเลย
已经是最新一章了
加载中