บทที่192 เค.เอฟ เป็นเกราะป้องกันของเธอหรือ   1/    
已经是第一章了
บทที่192 เค.เอฟ เป็นเกราะป้องกันของเธอหรือ
บทที่192 เค.เอฟ เป็นเกราะป้องกันของเธอหรือ พี่นัฎที่เห็นหน้าของคมสรอยู่บนหน้าจอเช่นนั้น แล้วจึงอดไม่ได้ที่จะด่าว่าเขาออกมา “ความไม่ละอายใจของเขานี่เกินกว่าที่ฉันคิดไว้จริงๆ” ตฤณที่ผ่านมาส่งของให้เธอพอดี ยืนอยู่ข้างๆพี่นัฎ แล้วจึงพูดสมทบขึ้น “จริงครับ ผมเองก็เพิ่งจะเคยเห็นผู้จัดการส่วนตัวที่กล้าล้ำเส้นได้มากขนาดนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน” “เจอพวกเขา คนที่น่าสงสารที่สุดก็คงเป็นจิดาภาของพวกเราสินะ!” พี่นัฎกรอกตา แล้วกดเปลี่ยนช่อง ตฤณมองดูจิดาภาที่อยู่ข้างๆ ดูมีความหดหู่อยู่บ้าง ตอนนี้จิดาภาออกมาจากโอเล แล้วเข้าไปยังเค.เอฟ เขาคิดไม่ออกจริงๆว่าตรงไหนที่เธอว่าน่าสงสารกัน? “ทางที่ดีคมสรนั่นอย่าให้ฉันได้เจอนะ ไม่อย่างนั้นถ้าฉันเจอเขาหนึ่งครั้ง ฉันก็จะตีเขาหนึ่งครั้ง!” ได้ยินคำพูดของคมสรเช่นนี้แล้ว เหล่าบรรดาชาวเน็ตก็ต่างพากันมีปฏิกิริยาตอบรับที่ฮึกเหิมมากขึ้น ราวกับว่าจิดาภาได้ทำความผิดอะไรรุนแรง ต้องถูกตัดสินลงอาญาอย่างไรอย่างนั้น เมื่อไหร่กัน ที่บริษัทในวงการบันเทิงแบบนี้ สามารถตัดสินชะตาชีวิตของศิลปินได้เช่นนี้ แต่ที่ทำให้คมสรและทุกๆคนคิดไม่ถึงกันนั่นก็คือ หลังจากที่ทางโอเลประกาศเรื่องนี้ออกไปเพียงครึ่งชั่วโมงนั้น ก็เกิดเรื่องขึ้นอีกเรื่องหนึ่ง “เค.เอฟประกาศเซ็นสัญญาจิดาภา!” “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จิดาภาคือศิลปินในสังกัดเค.เอฟ!” “เค.เอฟใช้การเคลื่อนไหวนี้ในการทำลายการแบนของโอเลทุกอย่างเลย” “เค.เอฟออกมาสนับสนุนจิดาภา แล้วโอเลล่ะ?” ในเมื่อเค.เอฟได้กลายมาเป็นบริษัทต้นสังกัดของจิดาภาแล้วนั้น เวลานี้นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีเรื่องอัศจรรย์เกิดขึ้นเช่นนี้ นั่นคือบริษัทเค.เอฟเชียวนะ! เป็นบริษัทที่หลายๆคนต่างก็ฝันพากันอยากจะเข้าไปอยู่ที่บริษัทนี้ ไม่นึกเลยว่าจะมาเซ็นสัญญากับจิดาภาเองแบบนี้ เมื่อเห็นสัญญาส่วนหนึ่งที่เปิดเผยในหน้าเว็บไซต์ของเค.เอฟนั้น ต่างก็พากันไม่เชื่อความจริงนี้ไม่ได้ นี่ไม่ใช่ข่าวลือ! ไม่ใช่ข่าวหลอกลวง! จิดาภาได้เซ็นสัญญากับเค.เอฟแล้วจริงๆ อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ด้วย ในตอนที่โอเลประกาศออกมาว่าจะแบนจิดาภานั้น เธอก็ได้กลายเป็นศิลปินของเค.เอฟไปแล้ว บรรดานักข่าวต่างไม่รู้เลยว่าควรจะรายงานสถานการณ์ในตอนนี้อย่างไร ก่อนหน้านี้เพียงวินาทีเดียว พวกเขายังรู้สึกถึงคำพูดของคมสรอยู่เลยถึงเส้นทางที่จะดับมืดลงในวงการของจิดาภา ตอนนี้กลับถูกประกาศจากเค.เอฟตีหน้ากลับไปเช่นนั้น เรื่องนี้ ก็พลิกสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วเกินไปแล้ว! โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงท่าทางที่ดูเหยียดหยามจิดาภาเช่นนั้นของคมสร บรรดานักข่าวล้วนแต่รู้สึกว่าช่างน่าขำเหลือเกิน ตอนนั้นที่เขาใส่ร้ายจิดาภากับทุกๆคำพูด ยิ่งทำให้ภาพที่พวกเขาสัมภาษณ์คมสรนั้นยิ่งดูมีความเยาะเย้ยมากขึ้นไปอีก บรรดานักข่าวที่กำลังจะเตรียมจะเก็บของเพื่อออกจากโอเล ก็ได้รับคำสั่งจากทางเบื้องบนให้ไปแข่งกันแย่งสัมภาษณ์เค.เอฟแล้วเอาข้อมูลมาให้ได้ คมสรที่เพิ่งกลับเข้ามายังออฟฟิศ ผู้ช่วยของเขาก็ได้บอกเรื่องนี้ให้เขารู้ เขายังไม่ทันแม้กระทั่งจะมีปฏิกิริยาตอบกลับไป พลิกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูข่าว นั่นทำให้เขารู้สึกตกตะลึงไป “เหมือนว่าพวกเราไม่ควรจะแบนจิดาภาเลย....” บริษัทเค.เอฟได้ประกาศเรื่องการเซ็นสัญญากับจิดาภา เรื่องการแบนจิดาภาของโอเลก็ราวกับกลายเป็นธาตุอากาศไปเสียแล้ว คมสรเบิกตาโต นี่เขาฝันไปหรือเปล่า ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้! ในตอนที่เขาประกาศยกเลิกสัญญาเมื่อครู่นี้นั้น จิดาภาก็ได้เซ็นสัญญากับทางเค.เอฟแล้วอย่างนั้นหรือ? เค.เอฟเพียงแค่เปิดเผยและชี้แจงไปเพียงเท่านั้น ก็ทำให้โอเลกลายเป็นเรื่องตลกของวงการนี้ไปเสียแล้ว ในหัวของคมสรนั้นว่างเปล่า เขารู้สึกหงุดหงิดและโมโหกับสิ่งที่เขาได้ทำลงไปวันนี้ทั้งหมด เขารู้สึกได้ว่าหลังจากนี้ไปอีกซักระยะเวลาหนึ่ง เขาคงใช้ชีวิตด้วยการตกเป็นเรื่องตลกของผู้คนอย่างแน่นอน ไม่นึกว่าเขาจะประกาศว่าจะแบบจิดาภาออกไปแบบนั้น? เขามีสิทธิอะไรกัน! เขาไม่มีสิทธินั้นตั้งแต่แรกแล้ว! เขารู้สึกว่าความรู้สึกอับอายขายหน้าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกำลังวนเวียนอยู่รอบๆตัวเขา เขารู้สึกตกต่ำเสียจนอยากจะหาที่แทรกมุดลงไป คมสรก้มหน้าก้มตาอยู่ตลอด เขาถูกผู้ช่วยพาไปพบญาณินีที่ออฟฟิศของเธอ เนื่องจากว่าเป็นที่น่าขายหน้ายิ่งนัก ทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา “เอาล่ะ....เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว” คมสรพิงอยู่ที่ผนัง แล้วจึงนั่งลงไปกับพื้น ใบหน้าของเขาร้อนระอุ เค.เอฟฟาดลงมาอย่างไม่มีเสียงใดๆเช่นนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เป็นการตีหน้าเขากลับมาเท่านั้น แต่ยิ่งทำร้ายหัวใจของเขาด้วย “ผมกลายเป็นคำพูดสนุกปากของผู้คนไปแล้ว” “ผมกลายเป็นคนที่โง่ทึ่มในสายตาของทุกคน ต่อหน้าคนทั้งประเทศ....” “ไม่คิดเลยว่าผมจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับเค.เอฟ พูดเพ้อเจ้อไปว่าจะแบนจิดาภา.....” คมสรไม่รู้เลยว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความว่างเปล่า ภาพตรงหน้าราวกับกลายเป็นภาพลวงตา อีกทั้งเขายังยกมือขึ้นมากุมหัวตัวเอง เจ็บปวดยิ่งนัก ชีวิตของเขา จบลงแล้วจริงๆ ...... ใต้ตึกของบริษัทเค.เอฟ มีบรรดานักข่าวกำลังรอกันอยู่ด้านล่าง Rickหาเวลาว่างออกมา เขาเกรงว่าสถานการณ์จะรุนแรงเกินไป เกินที่ทางคมสรนั้นจะรับมือไหว ตอนที่เขายืนอยู่บนเวทีเพื่อชี้แจง จับไมโครโฟนอยู่นั้น อารมณ์ของเขานั้นรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก เนื่องจากการตอบโต้กลับไปของพวกเขานั้นมั่นคงเป็นอย่างมาก อาจทำให้ทางคมสรนั้นไม่สามารถสู้กลับมาได้เลย เห็นท่าทางเขากลัวหัวหดหลบซ่อนอยู่ในโอเลเช่นนั้น Rickรู้สึกสบายใจยิ่งนัก เค.เอฟเลือกที่จะเซ็นสัญญากับจิดาภาในช่วงเวลาที่พิเศษแบบนี้ ก็ได้เตรียมรับมือและแบกรักเรื่องของข่าวลือเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว แล้วก็สามารถจะชี้แจงถึงเหตุผลนี้ของเค.เอฟต่อหน้าประชาชนได้อีกด้วยเช่นกัน “ผู้อำนวยการRick พวกเราอยากทราบว่าจริงๆแล้วทางเค.เอฟคิดอย่างไรกับเรื่องนี้คะ? หรือทางเค.เอฟพร้อมที่จะมอบความเมตตานี้ให้กับเธอกันคะ?” บรรดานักข่าวรู้สึกว่าชื่อเสียงของจิดาภานั้นเสียหายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เค.เอฟทำเช่นนี้ แน่นอนว่าไม่สามารถสร้างรายได้ได้อยู่แล้ว หรือว่าต้องการจะเก็บขยะแทนสังคมอย่างนั้นหรือ? “ถ้าหากเค.เอฟทำเช่นนั้นเห็นเป็นเพียงความเห็นใจหรือสงสารแค่นั้นจริงๆ ผมจะแจ้งให้ทุกคนได้ทราบอีกทีนะครับ”Rickตอบคำถามของนักข่าวกลับไปด้วยความสุขุม เขาสามารถมานั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ได้นั้นเป็นเพราะเขามีความสามารถในการปรับตัวเป็นอย่างดี นี่เป็นคุณสมบัติที่คนที่เป็นผู้อำนวยการของศิลปินควรจะมี “แล้วสาเหตุที่แท้จริงคืออะไรคะ!” นักข่าวหยิบไมโครโฟนเอ่ยถามขึ้น Rickยิ้มนิ่งๆแล้วตอบกลับไป “สาเหตุสำคัญมากขนาดนั้นเลยหรือครับ?บริษัทเค.เอฟเป็นบริษัทที่เติบโตมาในวงการนี้ คงไม่จะมาล้อเล่นอะไรเรื่องแบบนี้หรอกครับ” นั่นหมายความว่า การเซ็นสัญญากับจิดาภานี้เป็นการตัดสินใจเลือกร่วมกันของผู้บริหารของเค.เอฟ ลายเซ็นตราบริษัทของเค.เอฟอยู่ตรงนั้นแล้ว โดยไม่ต้องสงสัย ความตื่นเต้นของบรรดานักข่าวได้รับการนำพาไปในทางที่ถูกต้อง คำพูดของRickทำให้พวกนักข่าวที่กำลังจะเอ่ยถามนั้น ต้องคำนึงถึง ตำแหน่งของบริษัทเค.เอฟที่อยู่ในวงการนี้ให้มากขึ้น... “แต่คุณจิดาภาก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับอีกหนึ่งชีวิต ทางเค.เอฟจะทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพื่อหาข้ออ้างให้กับคุณจิดาภาหรือคะ?” เมื่อนักข่าวคนนี้ถามเสร็จ แววตาของRickก็เปลี่ยนไปในทันที “คุณรับผิดชอบกับสิ่งที่คุณพูดออกมาได้หรือครับ? การใช้คำพูดของนักข่าวควรจะเป็นสิ่งที่ควรจะระมัดระวังมากที่สุดของอาชีพนี้ สิ่งที่คุณเอ่ยถามมา อาจจะส่งผลกระทบกับทุกฝ่าย ขอให้คุณคิดกลั่นกรองก่อนนะครับแล้วค่อยพูดออกมา!” เขามองไปยังป้ายบัตรนักข่าวของนักข่าวคนนั้น ด้วยท่าทางแข็งกร้าวเป็นอย่างมาก “เค.เอฟไม่กลัวว่าจะเป็นการหาความวุ่นวายให้กับบริษัทหรือคะ?” “ถ้าการเซ็นสัญญากับศิลปินถือว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากวุ่นวาย บนโลกนี้ก็คงจะไม่มีสัญญาหรอกครับ!” Rick ตอบโต้กลับไป
已经是最新一章了
加载中