บทที่228 คำตอบของเธอไม่มีช่องโหว่เลย

บทที่228 คำตอบของเธอไม่มีช่องโหว่เลย ขณะนี้ในใจของจิดาภา กลับรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าการถ่ายรายการในทุกๆครั้ง นั่นเป็นเพราะว่าจิรภาสอยู่ในรายการนั้นด้วย จิดาภายิ้มและทักทายกับผู้ชมด้วยท่าทางอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติ แล้วนั่งลงตรงโซฟาตรงข้ามกับพิธีกร เยื้องกับคนดู “พวกเราทราบกันดีว่าก่อนหน้านี้คุณจิดาภาได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ร่างกายของคุณฟื้นฟูเป็นอย่างไรบ้างคะ? ฉันคิดว่าคำถามนี้ก็เป็นสิ่งที่แฟนคลับที่ชื่นชอบคุณอยากรู้ที่สุดเช่นกัน” “ผ่านการฟื้นฟูมาช่วงหนึ่งแล้ว ตอนนี้แทบจะกลับเป็นปกติแล้วล่ะค่ะ” พิธีกรจึงยิ้มแล้วกล่าวกับเธอ “หากในระหว่างการสัมภาษณ์นี้คุณมีปัญหาอะไร สามารถบอกฉันได้ตลอดเวลาเลยนะคะ ถ้าเช่นนั้นต่อไปเรามาเริ่มช่วงแรกของรายการกันเลยดีกว่าค่ะ!” พิธีกรยกมือเชิญให้ทีมงานส่งบัตรคำถามมาให้เธอ “รายการของเรานั้นตรงตามความต้องการของเรามากค่ะ คำถามทุกคำถามจะจัดวางอยู่ตรงหน้า โดยให้แขกรับเชิญเราเป็นคนเลือกเอง คุณเตรียมตัวพร้อมหรือยังคะ?” บรรยากาศในรายการนั้นถูกพิธีกรปลุกให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง จิดาภายิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ทำอย่างไรดีคะ ฉันกลับไปตอนนี้ยังทันไหม? ตื่นเต้นมากเลยค่ะ!” “มาถึงที่แล้วไปไหนไม่ได้แล้วล่ะค่ะ!” จิดาภามองกล่องคำถามนั้น เธอยิ้มแล้วหยิบบัตรคำถามนั้นขึ้นมาหนึ่งใบ ท่ามกลางสายตาอันแสนรอคอยของผู้ชมในสตูดิโอ พิธีกรหยิบไปอ่าน แล้วจึงเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ “เริ่มต้นมาก็เป็นคำถามสำคัญเลยนะคะ! ขอให้คุณบอกพวกเราหน่อยค่ะ ว่าในสายตาของคุณผู้จัดการส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบที่สุดของคุณเป็นอย่างไรคะ?” จิดาภามองไปยังคนดู และเว้นวรรคไปซักพัก แล้วจึงตอบคำถามออกมาด้วยความมุ่งมั่นและจริงใจ “ผู้จัดการส่วนตัวของฉันตอนนี้ คุณจิรภาสเขาสมบูรณ์แบบมากแล้วค่ะ” “อา....”ผู้ชมในสตูพากันร้องกรี๊ดกันอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนไม่คิดว่าจิดาภาจะตอบคำถามออกมาตรงๆเช่นนี้! พวกเขายังคิดไปเสียด้วยซ้ำว่าคงจะต้องให้พิธีกรบีบบังคับถามเธอเข้าเสียก่อน ไม่คิดเลยว่าจิดาภาจะให้ความร่วมมือมากขนาดนี้! พิธีกรถึงกับว้าวออกมา แล้วเอียงหน้ากล่าวกับเธอ “คุณเป็นแขกรับเชิญหญิงที่ซื่อสัตย์ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยนะคะ เมื่อซักครู่เป็นเพียงแค่ออเดิร์ฟเท่านั้นค่ะ ขอเชิญทุกท่านดูที่หน้าจอของเราค่ะ!” เพียงแค่ได้สัมภาษณ์จิดาภาเกี่ยวกับเรื่องของจิรภาส เชื่อว่ารายการของเธอในสัปดาห์นี้จะต้องได้รับเรตติ้งเกินความคาดหมายอย่างแน่นอน บนหน้าจอใหญ่นั้นฉายถึงควันหลงจากการถ่ายทำละครและโฆษณาของจิดาภาในช่วงก่อนหน้านี้ และสุดท้ายก็เป็นรูปภาพและคลิปวิดีโอที่เธอได้รับรางวัล จะไม่พูดไม่ได้ว่า รายการนี้ทางทีมงานมีความตั้งใจมาก ซึ่งหลังจากที่จิดาภาได้ดูแล้วนั้นเธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน หางตาของเธอมีน้ำตาคลออยู่อีกด้วย “ตั้งแต่ละครเรื่องแรกของคุณจิดาภาจนถึงในตอนนี้ เป็นเวลาเจ็ดปีแล้ว ฉันอยากถามคุณค่ะว่า หลังจากที่คุณได้ดูคลิปเหล่านี้แล้ว คุณรู้สึกอย่างไรบ้างคะ?” ท่าทางของเธอนั้นดูผ่อนคลาย “จริงๆแล้วอาชีพนักแสดงเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่มีความยากลำบากมากเหมือนกันนะคะ พวกเราไม่เพียงแค่จะต้องสร้างผลงานดีๆออกมาเพื่อตอบแทนกับคนที่ชื่นชอบเราเพียงเท่านั้น ยังต้องเผชิญหน้ากับความกดดันอีกมากมายด้วยเช่นกัน” “ที่สำคัญที่สุดไม่ว่าโลกภายนอกจะมีอุปสรรคพายุลมแรงแค่ไหน ก็จะต้องรักษาความตั้งใจแรกของตัวเองไว้ให้ได้ ไม่ไหลไปตามกระแส ฉันคิดว่า ที่สำคัญก็คือต้องดูว่าตัวเองคิดอย่างไร จะเผชิญหน้ารับมือกับมันอย่างไรมากกว่าค่ะ ฉันคิดว่าฉันรักอาชีพนักแสดงนี้ ฉันไม่เคยเสียใจเลยที่เลือกเดินในทางที่ยากลำบากเช่นนี้...” “บางครั้งที่รู้สึกลังเล แต่ก็เพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นค่ะ เวลาผ่านไปก็จะเริ่มต้นออกเดินทางใหม่ได้อีกครั้ง!” “เพราะความฝันจะทำให้คุณมีพลังที่จะสู้ต่อไปได้!” พิธีกรและคนดูต่างก็พากันปรบมือให้กับเธอ “ดูแล้วคุณจิดาภามีแรงบันดาลใจและเข้าใจกับคำว่านักแสดงนี้จริงๆเลยค่ะ” จิดาภายิ้มรับ “ถ้าเช่นนั้นที่คุณกล่าวถึงว่ามีหลายช่วงเวลาที่จะมีแรงกดดันจากโลกภายนอก ฉันสามารถเข้าใจว่าความกดดันเหล่านี้เกิดขึ้นมาจากพวกแอนตี้แฟนหรือคำวิจารณ์ได้หรือเปล่าคะ? แล้วหากคุณพบกับข่าวลือแบบนี้ คุณมีการโต้ตอบกลับไปอย่างไรคะ?” “ปกติแล้วฉันไม่ได้โต้ตอบกลับหรอกค่ะ” จิดาภายิ้มแล้วมองไปยังคนดู “แฟนคลับที่คุ้นเคยกับฉันพวกเขาจะรู้ ว่าฉันจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ภายในของตัวเองมากกว่า เพียงแค่เราใช้ชีวิตอย่างตั้งใจก็พอแล้วค่ะ คนอื่นๆที่คิดแต่จะใส่ร้ายฉันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร เพราะชีวิตเป็นของฉัน ฉันจะไม่ยอมประนีประนอมให้กับข่าวลือใดๆง่ายๆค่ะ” คำพูดนี้ของจิดาภาดึงดูดพิธีกรที่มีความคิดเช่นเดียวกันกับเธอ “จริงค่ะ ฉันเองก็รู้สึกว่าทัศนคติและคุณค่าของคุณนั้นจะคุ้มค่ามากพอให้พวกเราได้เรียนรู้” หลังจากนั้นเธอจึงให้ทางทีมงานเลื่อนบัตรคำถามไปด้านข้างจิดาภาอีกครั้ง จิดาภายิ้ม แล้วหยิบขึ้นมาอีกหนึ่งใบ พิธีกรรับไปอ่าน แล้วโบกมือให้กับคนดูด้วยความตื่นเต้น “ฉันชอบแฟนคลับที่ไม่ประสงค์จะออกนามที่เขียนคำถามนี้มาให้เราจริงๆค่ะ เก่งมากจริงๆ .... ขอให้คุณตอบคำถามนี้นะคะ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคุณจิรภาสเป็นอย่างไรกันแน่คะ!” “ว้าว!” บรรดาแฟนคลับต่างพากันคึกคักขึ้นมาแล้ว ในขณะเดียวกัน บนอินเตอร์เน็ตที่มีการถ่ายทอดสดอยู่นั้น บรรดาแฟนคลับก็โพสต์ข้อความลงว่าทางรายการช่างน่ารักและรู้ใจเหลือเกิน! “เท่ห์เกินไปแล้ว! ดูว่าพี่จิดาภาจะตอบออกมาอย่างไร!” “พระเจ้าเถอะ ตรงขนาดนี้เลย?” “คบกันเลย...คบกันเลยเถอะ....” แขนของเธอยันอยู่ที่โซฟา ยิ้มออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้พร้อมรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย “บัตรคำถามที่พวกคุณเตรียมมามีแต่เนื้อหาพวกนี้หรือเปล่าคะ? ฉันกลับตอนนี้ยังทันไหม?” “คุณไม่ตอบ แฟนคลับก็คงไม่ยอมปล่อยให้คุณกลับไปง่ายๆหรอกค่ะ ใช่ไหม!” “ใช่!” คนดูด้านล่างเวทีตอบออกมาอย่างพร้อมเพรียง จิดาภามองไปยังด้านหลังเวทีแวบหนึ่ง หลังจากนั้นจึงหยิบไมโครโฟนขึ้นมาแล้วตอบอย่างจริงจัง “เมื่อครู่ฉันถามผู้จัดการส่วนตัวของฉันแล้วค่ะ เขาบอกว่าคำถามนี้ขอไม่ตอบแล้วกันนะคะ” “ผู้จัดการส่วนตัว?” พิธีกรมองไปยังด้านหลังเวที เป็นไปตามนั้นคือเธอเห็นจิรภาสที่ทำมือไขว้กันไว้อยู่ พิธีกรจึงรีบเอ่ยขึ้น “ผู้จัดการที่คอยปกป้องคุณจิดาภาของพวกเราเขายืนอยู่ตรงด้านหลังเวที คอยปกป้องเธออยู่ตลอด ดูแล้วหากถ้าแฟนคลับต้องการจะทราบความจริงล่ะก็ คงจะต้องไปถามผู้จัดการส่วนตัวของคุณจิดาภาแล้วล่ะค่ะ!” ผู้ชมต่างก็พากันตะโกนเรียกจิรภาสให้ขึ้นเวทีกันอย่างกระตือรือร้น! “ขึ้นเวทีด้วยกัน!” พิธีกรจึงตะโกนพูดขึ้นมาด้วยเช่นกัน “ทำไมเมื่อก่อนถึงไม่รู้ว่าแฟนรายการเราดูมีความกระตือรือร้นกันขนาดนี้นะคะเนี่ย แต่...วันนี้เราสัมภาษณ์คุณจิดาภา เพราะฉะนั้น ขอให้ทุกคนควบคุมตัวเองไว้กันก่อนนะคะ....ฮ่าๆ ถ้าอย่างนั้นเรามาดูข่าวที่อยู่ด้านล่างนี้กันดีกว่านะคะ!” หน้าจอปรากฏรูปภาพตอนที่สัมภาษณ์จิดาภาเลือกที่จะหายตัวไป และยังมีตอนที่เธอลาออกจากบริษัทsjอีกด้วย “อย่างที่พวกเราทราบกันนะคะ ว่าคุณจิดาภาเคยรับงานโฆษณาตัวหนึ่งเพราะบริษัทsj ตอนนั้นมีคนมีคนโพสต์คำพูดที่ไม่ค่อยดีต่อตัวคุณ ส่งผลกระทบที่ไม่ดีเท่าไหร่กับตัวคุณ ฉันอยากทราบว่า ความรู้สึกคุณในตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้างคะ?” “ฉันยังคงนิ่งเงียบไว้แบบนั้นนะคะ” จิดาภาพยักหน้า “ฉันเป็นบุคคลสาธารณะ ก็จะต้องรับผิดชอบต่อแฟนคลับที่ชื่นชอบฉัน งานBrand ambassadorของฉันจะต้องไม่ทำให้แฟนคลับของฉันต้องผิดหวัง” “ที่แท้คุณเองก็เป็นคนที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่งเลยนะคะ!แตกต่างจากความอ่อนโยนที่พวกเราเห็นจากภายนอกไปเลย...”พิธีกรกล่าวกับจิดาภาพลางส่งยิ้มให้เธอ “ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ...” รอยยิ้มของจิดาภานั้นยังคงรักษาไว้ได้อย่างสวยงามเป็นอย่างมาก เธอนั่งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานแล้ว จึงขยับตัวเสียเล็กน้อย เพื่อให้ขาและเอวของเธอได้ผ่อนคลายเสียหน่อย “คุณคิดว่าคุณชอบที่จะผูกมิตรเป็นเพื่อนกับคนแบบไหนกันคะ?” พิธีกรจึงทำการวางกับดักในขั้นต่อไป “คุยภาษาเดียวกันค่ะ เป็นเพื่อนที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ สามารถพูดความรู้สึกในใจกับอีกฝ่ายได้ แบบนี้รู้สึกเป็นอิสระไม่ผูกมัดดีค่ะ”