ตอนที่ 101 เสียดายเสียแล้วสิ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 101 เสียดายเสียแล้วสิ
ตอนที่ 101 เสียดายเสียแล้วสิ ตรีภพมองไปทางชญาภาจึงเห็นว่าตอนนี้ดวงตาของลูกแววไปด้วยน้ำตา ชั่วขณะนั้นเขาเองก็รู้สึกปวดใจพลางถอนใจในใจ อย่างที่นพนากับจรีภรณ์ว่า ไม่ว่าตอนนั้นจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้ชญาภากำลังจะแต่งงานกับจิรภาสอยู่แล้ว เขาจะทำอะไรได้อีก? ตรีภพจึงยืนขึ้นและพูดเสียงเข้ม “จรีภรณ์พูดถูก ชณาภา ลูกต้องคิดดีๆ ถ้าจิรภาสแต่งงานกับลูกเพราะพ่อละก็ลูกก็ไม่จำเป็นต้องแต่ง ยังไงพ่อก็อยู่สูงไม่ได้เสมอไป เรื่องราชการไม่มีใครคาดการณ์ได้ เรื่องนี้ลูกต้องคิดให้ดีมากๆ” พอตรีภพพูดจบก็มองกับข้าวที่วางไว้เต็มโต๊ะ หลังจากที่เพิ่งทะเลาะกันมาเขาก็ไม่มีอารมณ์กินข้าวแล้ว เลยตัดสินใจเดินขึ้นไปทางห้องหนังสือ ตอนแรกชญาภาก็อยากพูดอะไรหน่อย แต่พออ้าปากก็โดนแม่ดึงไว้ และส่ายหน้าให้ สองแม่ลูกเองก็ไม่มีอารมณ์กินข้าวแล้วเลยพากันขึ้นข้างบน เดินไปทางห้องของชญาภา พอเข้าห้องมาชญาภาก็นั่งลงบนเตียงด้วยความโกรธและพูดขึ้นด้วยหน้าตาน่ากลัว “แม่ แม่ว่าทำไมยัยนั่นถึงได้น่าชังขนาดนี้ น่าชังจนหนูอยากให้มันไม่ตายดี” “นั่นสิ แม่ก็อยากให้มันตายไวๆเหมือนกัน” นพนาเองก็โกรธมากไม่แพ้กัน จนถึงตอนนี้มือเธอยังคงสั่นระริกไม่หยุด วันนี้มันน่าโมโหจริงๆ ต้องทนเห็นยัยนั่นเรียกเธอว่าเมียน้อยๆไม่หยุดจนเธออยากจะเข้าไปตบปากเสียให้รู้แล้วรู้รอด “แต่แม่คะ ตอนนี้ทำอย่างไรกันดีถ้ายัยนั่นยังมีพ่อหนุนหลังอยู่ หนูอึดอัดจะตายแล้วนะ” “ใช่ ต้องหาทาง ปล่อยเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว” นพนาหรี่ตาลงพลางครุ่นคิดอย่างละเอียด เช้าวันต่อมาจรีภรณ์ตื่นเช้าออกไปซื้อของที่ตลาดจากนั้นก็กลับมาต้มซุปไก่ในห้องครัวคนเดียว นพนาลงมาคนแรก ตรีภพไม่อยู่ฉะนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องเสแสร้งต่อ เพียงพริบตาเดียวจรีภรณ์ก็เดินมานั่งลงบนโซฟา หลังจากนั้นสักพักตรีภพจึงลงมาจากข้างบน นพนารีบเดินไปหาและพูดยิ้มๆ “ที่รักคะ เช้าวันนี้จรีภรณ์บอกว่าจะต้มซุปให้พวกเราด้วย” “เหรอ” ตรีภพหันไปมองลูกสาวที่กำลังวุ่นอยู่ในครัวแล้วก็ตกใจจนอ้าปากค้าง อึ้งไปชั่วขณะ เมื่อวานไม่ได้เพิ่งทะเลาะกันหรอกหรือ วันนี้ทำไมถึงคิดจะต้มซุป มาอารมณ์ไหนกันแน่ แต่ครู่ต่อมาก็อดรู้สึกยินดีในใจไม่ได้ ตัวเขาอายุมากแล้วแต่กลับไม่เคยได้กินกับข้าวที่ลูกสาวทำเลย วันนี้ลูกสาวกลับตื่นแต่เช้ามาทำซุปให้กินแปลว่าอะไรละ มันก็แปลว่าในใจลูกยังมีพ่อคนนี้อยู่ คิดไปคิดมานัยน์ตาก็เริ่มรื้นไปด้วยน้ำตา นพนามองท่าทางที่ซาบซึ้งตรีภพแล้วก็นึกเยาะในใจ จริงๆเธอรู้ว่าที่จรีภรณ์ทำซุปต้องไม่ได้ทำให้พวกเราแน่ เพราะแบบนี้เธอจึงตั้งใจพูดแบบนั้นกับตรีภพ ตามนิสัยของจรีภรณ์แล้ว พอเธอทำเสร็จเดี๋ยวเธอต้องออกไปแน่ ดีไม่ดีอาจถือโอกาสพูดเสียดสีด้วย ถ้าเป็นแบบนี้ต้องทำให้ตรีภพผิดหวังแน่ จากนั้นก็จะค่อยๆลดความรู้สึกผิดที่มีต่อจรีภรณ์ลง ถึงตอนนั้นเธอจะจัดการกับจรีภรณ์ก็ง่ายขึ้นเยอะ พอนึกถึงตรงนี้นพนาก็ยิ้มเยาะ จรีภรณ์ได้เห็นฉากนั้นพอดี ตอนเธอเห็นท่าทางของตรีภพที่รออย่างใจจดใจจ่อ ไหนจะดวงตาที่รื้นน้ำตา เธอก็ปวดใจขึ้นมา ยังไงซะเขาก็ยังเป็นพ่อของเธอ คำพูดของนพนาเธอก็ได้ยิน ต้องบอกว่าผู้หญิงแบบนี้ใช้เลห์กลเก่งที่สุดแล้ว ไม่อย่างนั้นจะสามารถลวงแม่มดแก่อย่างนวิยา แถมคนอย่างพ่อของเธอให้อยู่ในกำมือได้อยู่หมัดเหรอ แต่เธอจะไม่ทำตามเจตนาของนพนาแน่ จรีภรณ์จึงต้มซุปจนเสร็จแล้วยกขึ้นข้างบน สักพักเธอจึงลงมาจากข้างบน หยิบกล่องข้าวแล้วออกไปเลยโดยที่ไม่ได้แม้แต่จะทักทายใคร เจอแบบนี้เข้าตรีภพก็อึ้งไป ลูกสาวของเขาไม่ได้ต้มซุปให้เขาหรอกเหรอ แล้วนี่คืออะไร ออกไปดื้อๆแบบนี้เลยเหรอ ใบหน้าของตรีภพบูดบึ้งขึ้นเรื่อยๆ นพนาที่รู้ว่าจุดประสงค์ของตัวเองได้บรรลุแล้วก็แกล้งพูดปลอบใจตรีภพ แต่วันนี้ตรีภพเองก็โกรธบ้างแล้ว ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไร งานก็ไม่ได้ไปทำเพื่อรอซุปจากลูกสาว แล้วนี่อะไรกัน ตอนที่นึกว่าลูกจะยกซุปมาให้กลับเลี้ยวขึ้นข้างบนไป พอลงมาก็หยิบกล่องข้าวเดินออกจากบ้านไป ทักก็ไม่ทักสักคำ ตรีภพโมโหอย่างมากจึงหมุนตัวขึ้นข้างบนไปห้องหนังสือคนเดียว นพนาแสยะยิ้มอย่างภูมิใจอยู่ชั้นล่าง รู้สึกเหมือนได้ระบายความโกรธในอก โล่งใจขึ้นไม่น้อยทีเดียว ตอนนั้นเองชญาภาก็เดินลงมา เธอทักทายคุณพ่อ แต่ตรีภพกลับไม่ได้มองเธอด้วยซ้ำ ชญาภาไม่สบายใจรีบวิ่งไปถามแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น “เกิดอะไรขึ้นอะไรกัน แน่นอนว่าละครเด็ดกำลังจะฉายแล้ว” นพนาแสยะยิ้มเยาะ ทางนี้นพนาจัดการวางแผน ส่วนทางนั้นนวิยาเองก็กำลังวิตกกังวล ตั้งแต่ที่เธอรู้ว่าจรีภรณ์เป็นลูกสาวของตรีภพ เธอก็นอนไม่หลับทั้งคืน เมื่อก่อนนี้เธอรู้สึกว่าจรีภรณ์อาจเอื้อมตระกูลแก้วใส แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ฐานะของจรีภรณ์ในตอนนี้คู่ควรกับลูกชายของเธอ ในตอนนั้น เธอใช้การตายบังคับลูกชายให้จรีภรณ์ออกไปตัวเปล่า เธอนึกว่าจรีภรณ์จะขอแบ่งเงินหรือทรัพย์สินบ้าง แต่เธอนึกไม่ถึงว่าจรีภรณ์จะเซ็นทันทีโดยไม่กระพริบตา นอกเหนือความคาดหมายของเธอจริงๆ ตอนนี้จรีภรณ์เป็นถึงลูกสาวของตรีภพ มิน่าตอนนั้นที่หย่าถึงแข็งข้อนัก ถึงออกมาตัวเปล่าก็ไม่พูดอะไรสักคำ พอคิดถึงตรงนี้นวิยานึกเสียใจอยู่หน่อยๆ ตอนนั้นลูกสาวนายกเทศมนตรีโดนเธอบีบให้ออกไป ตอนนี้ลูกสาวของเมียน้อยกลับเป็นคนที่จะแต่งงานกับลูกชายเธอ ไม่ว่าจะยังไงก็กลายเป็นว่าเรื่องนี้ผิดพลาดอยู่ดี อีกอย่าง ก่อนนี้ตัวเองทำแบบนั้นกับเธอก็ไม่แปลกถ้าเธอจะโกรธเกลียด ไม่อย่างนั้นคงไม่ช่วยให้ตระกูลธนะปรีดากุลได้ที่ดินตรงทางตะวันออกของเมือง สุดท้ายของดีกลับให้คนอื่นหมด ที่น่าห่วงกว่านั้นคือช่วงนี้เธอได้ยินมาว่าโปรเจกต์โรงยิมที่หนึ่งกำลังเตรียมการทำเทนเดอร์ จริงๆแล้วฝ่ายที่ได้เปรียบแน่นอนว่าไม่พ้นเป็นตระกูลเธอและตระกูลธนะปรีดากุล นี่แหละที่เธอวิตกร้อนรน เพราะเธอกลัวว่าจรีภรณ์จะวางแผนขัดขาเธออีก นวิยาจึงโทรหาลูกชาย แต่ทว่าลูกชายกลับไม่สนใจสักนิด พูดเพียงว่าเขาอยากทำอะไรก็ให้เขาทำไปเถอะ ฟังคำของลูกชายจบนวิยาก็โกรธแทบบ้า คิดนานสองนานสุดท้ายก็คิดว่าเธอคงต้องลงมือเองเสียแล้ว เธอคิดว่าเธอต้องไปคุยกับจรีภรณ์ให้รู้เรื่องด้วยตัวเอง ขอแค่ต่อไปไม่ขวางทางกันเธอยินดีชดใช้ให้ คิดได้แบบนั้นก็รีบหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาจรีภรณ์ทันที ตอนที่โทรศัพท์ของจรีภรณ์ดังขึ้นเธอกำลังป้อนซุปให้กับตะวัน พอเธอเห็นชื่อของนวิยาก็ตกใจ จากการเผชิญหน้ากันที่ผ่านมาทำให้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนจนถึงที่สุด จรีภรณ์จึงตัดสินใจตัดสายเสีย แต่นวิยาก็ไม่ยอมแพ้ วิ่งไปรอถึงบริษัท สุดท้ายแล้วก็เป็นชนุตต์ที่โทรไปหาจรีภรณ์แล้วบอกเธอว่านวิยารอเธออยู่ที่นี่จะรออยู่อย่างนั้นจนกว่าจะได้เจอ เขาไม่อยากขัดนวิยาเพราะยังไงเธอก็เป็นผู้ใหญ่จึงจำใจยอมโทรไปหาจรีภรณ์ น้ำเสียงของชนุตต์ในสายแฝงไปด้วยความจำใจ จรีภรณ์ได้ยินก็รู้สึกรำคาญ เธอปฏิสัมพันธ์กับนวิยามานาน รู้ดีถึงนิสัยไม่มีเหตุผลแถมจิกไม่เลิกไม่ราของนวิยา เธอจึงไม่มีวิธีอื่นนอกจากรีบกลับไปที่บริษัท ตอนที่เธอไปถึง นวิยากำลังรอด้วยอาการร้อนใจ พอเห็นจรีภรณ์ก็รีบยิ้มให้ “จรีภรณ์ ไม่ได้เจอกันนานเลย ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” “คุณนายศิริวัชรภัทร มีอะไรก็พูดมาตรงๆดีกว่า ฉันยุ่งมาก ถ้าวันนี้คุณมาพูดกับฉันแค่นี้ละก็ ฉันยังมีธุระต้องทำ คงอยู่ด้วยไม่ได้” จรีภรณ์พูดขัดนวิยาขึ้น เธอเกลียดนวิยามากจริงๆ ไม่อยากจะเห็นหน้าด้วยซ้ำ นวิยาได้ยินอย่างนั้นก็ไม่ได้โกรธ เธอกับจรีภรณ์พูดต่อ “จรีภรณ์ เรื่องก่อนหน้านั้นฉันผิดเอง เธอมีเงื่อนไขอะไรบอกมาได้เลยนะ ฉันจะชดเชยให้” “ชดเชย?” จรีภรณ์ยิ้มเยาะพลางมองนวิยา “ใช่ เป็นการชดเชย เรื่องเมื่อก่อนฉันผิดเอง หวังว่าเธอจะไม่ถือโทษฉัน แล้วก็ให้อภัยเรื่องก่อนหน้านี้” นวิยาพูดอย่างร้อนรน “เหรอ? คุณนายศิริวัชรภัทรยอมรับผิดเป็นกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เป็นเรื่องหายากจริงๆ” จรีภรณ์มองนวิยาด้วยแววตาประชดประชัน “งั้นคุณนายศิริวัชรภัทรจะชดใช้ให้ฉันอย่างไรมิทราบ”
已经是最新一章了
加载中