ตอนที่ 106 ไม่ให้ยัยพวกนั้นอยู่สุข   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 106 ไม่ให้ยัยพวกนั้นอยู่สุข
ตอนที่ 106 ไม่ให้ยัยพวกนั้นอยู่สุข “ฮะๆ ในเมื่อพวกเขาไม่อยากเห็นฉันมีความสุข ทำไมฉันต้องปล่อยให้พวกนั้นอยู่สุขด้วยละ ตอนนั้นพวกเขาทำให้ฉันตกอยู่ในสภาพแบบนี้แล้วยังจะทำร้ายตะวันอีก ฉันก็คิดได้ว่าฉันต้องสู้ ฉันจะแย่งสิ่งที่ควรเป็นของฉันคืนมา ทำไมฉันจะไม่เอา” จรีภรณ์มองชนุตต์ด้วยแววตาแค้นเคืองพลางบอกจุดประสงค์ของตัวเองอย่างไม่ปิดบัง ชนุตต์ฟังเสร็จก็ตื่นเต้นบ้าง “ต้องอย่างนี้สิ ต้องสู้ ทำไมจะต้องยอม นี่ยังเป็นคุณนะ ถ้าเป็นผมที่เจอเรื่องแบบนี้ละก็ จะเล่นให้อยู่ไม่สงบกันสักวันเลย รับมือกับพวกเลวเราก็ต้องร้ายกว่า” “แต่คุณชนุตต์ไม่รู้สึกว่าฉันเองก็แย่เหมือนกันเหรอ? จิรภาสกับชญาภากำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้ว แต่ฉันกลับโผล่มาตอนนี้ คุณว่า…….” “แย่?” ชนุตต์รีบขัดจรีภรณ์ขึ้นมาทันที “แบบนี้ก็เรียกว่าแย่? จรีภรณ์ คุณอย่าลืมสิว่าตอนนั้นเธอเข้ามาป่วนคุณกับจิรภาสยังไง แม่เธอเข้ามาเป็นมือที่สามในชีวิตครอบครัวแม่คุณยังไง แล้วนวิยาทำกับลูกคุณไว้ยังไง…….” พูดถึงตรงนี้ชนุตต์ก็รีบปิดปากตัวเอง เขานึกถึงที่เขาให้คุณชนัสถาไปสืบเกี่ยวกับช่วงก่อนที่อยู่ดีๆจรีภรณ์ก็โดนลักพาตัว ไหนจะเรื่องที่ตะวันโดนลักพาตัวอีก เขาคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นฝีมือของนวิยา ในช่วงที่กำลังสืบเรื่องนี้คุณชนัสถาก็โทรบอกเขาว่าเรื่องพวกนั้นไม่เกี่ยวข้องกับนวิยา แต่ก็ยังสืบหาความจริงทั้งหมดไม่ได้ ผลยังไม่แน่ เขาเพียงแต่บอกสิ่งที่สืบมาได้ตอนนี้ คิดมาถึงตรงนี้ชนุตต์จึงถามขึ้นมา “จรีภรณ์ คุณแน่ใจว่าเรื่องของตะวันเป็นฝีมือของนวิยาจริงๆเหรอ?” “ทำไมจะไม่ใช่!” พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมาจรีภรณ์ก็พูดต่ออย่างเกรี้นวกราด “สามารถโทรมาข่มขู่ให้ฉันไปจากเมืองซูได้ก็มีแต่นวิยา อีกอย่างเธอก็เคยมาคุยกับฉันด้วยตัวเอง บอกว่าจะให้เงินแลกกับการไปจากลูกชายเธอ พอฉันไม่ได้ทำตามใจเธอก็เลยลงมือแบบนี้ ฝีมือเธอชัดๆ” ฟังจรีภรณ์วิเคราะห์ชนุตต์ก็ไม่ได้ตอบอะไร แอบรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะมีอะไรแอบแฝง เขาคิดอะไรบางอย่างได้แต่ยังไม่อยากรีบบอกจรีภรณ์เพราะตามนิสัยของจรีภรณ์แล้วถ้ารู้เข้าคงได้ทำอะไรหุนหันแน่ รอถึงตอนได้หลักฐานแล้วค่อยบอกก็ไม่สาย ชนุตต์ก้มหน้าพลางคิดพินิจพิจารณา จากบทสนทนาเมื่อครู่ระหว่างจรีภรณ์กับนวิยาเขาได้ยินเรื่องที่นวิยาเป็นคนทำให้เธอแท้ง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำเขาทั้งช็อกทั้งหงุดหงิดที่สุด ยายแก่นี่คงบ้าไปแล้วแน่ แค่เพื่อจะได้คุณหนูอย่างชญาภามาเป็นลูกสะใภ้ถึงกับทำร้ายหลานของตัวเอง ไม่รู้ว่าพอเธอรู้ความจริงว่าจรีภรณ์เป็นใครจะเสียใจกับการตัดสินใจนั้นของตัวเองหรือเปล่า บีบคุณหนูนายกเทศมนตรีตัวจริงออกไปเพื่อลูกสาวของเมียน้อย จิรภาสนั่นอีก มีเมียดีขนาดนี้ยังกล้านอกใจ ตอนนี้สำนึกผิดแล้วยังมาเกาะแกะไม่เลิก น่าสมน้ำหน้าจริงๆ คนบ้านนี้นี่มีแต่แย่ๆทั้งนั้น คิดมาถึงตรงนี้ชนุตต์ก็เริ่มยินดี ถ้าจิรภาสรู้ว่าตัวเองมีลูกชายที่น่ารักขนาดนี้ทั้งคนไม่รู้จะทำหน้ายังไง ถ้าเขาให้ลูกชายหมอนั่นเรียกเขาว่าพ่อละก็ จะเท่ากับว่าช่วยจรีภรณ์ระบายความแค้นไหมนะ? คิดไปคิดมาใบหน้าก็เริ่มแต้มไปด้วยรอยยิ้มร้าย แต่ที่เขาไม่รู้ก็คือ ยังมีพายุลูกใหญ่รออยู่ สิ่งแรกที่จิรภาสทำหลังเดินออกจากคฤหาสน์ไปก็คือโทรหาปณัย “ไปถามคุณท่านจิรัฎฐ์ดูซิ หลานชายสุดรักมายุ่งกับจรีภรณ์แบบนี้ยังจะนิ่งเฉยอยู่อีกไหม” “ครับ” ปณัยรับคำอย่างนอบน้อม จรีภรณ์กลับบ้านมาตอนกลางคืนก็เจอเข้ากับสมาชิกในครอบครัวนั่งกันอยู่บนโซฟาไม่ขยับไปไหน พอเห็นเธอกลับมาก็รีบเรียกเธอมากินข้าว เห็นได้ชัดว่ากำลังรอเธอกินข้าวด้วยกัน จรีภร์มองกับข้าวกับปลาเต็มโต๊ะพลางยิ้มเย็น นพนานี่ก็ความอดทนสูงจริงๆ วันนี้ตัวเองก็พูดไม่ดีแล้ว แต่งานผักชีโรยหน้าก็ครบไม่มีขาด มิน่าตรีภพถึงเชื่อเธอขนาดนี้ จรีภรณ์ไม่ได้พูดอะไรระหว่างกินข้าว เพียงแต่ก้มหน้ากินไปเรื่อยๆ วันนี้ทะเลาะกับนวิยามา ตอนบ่ายก็ไปโรงพยาบาลกับชนุตต์ พอหมดวันจรีภรณ์ก็ชักจะหิวแล้ว ตรีภพมองลูกสาวยิ้มๆพลางคีบน่องไก่ให้ จรีภรณ์ก็รับมากัดคำหนึ่ง ตรีภพเห็นว่าลูกสาวไม่ปฏิเสธก็รีบคีบซี่โครงหมูไปวางไว้ในชามให้อีกชิ้นอย่างดีใจ นึกถึงตอนเช้าที่เข้าใจลูกผิดก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ แต่ก็ดีใจในขณะเดียวกัน เขานึกไม่ถึงว่าลูกจะยกซุปไปวางไว้ให้ถึงในห้องหนังสือแถมยังทิ้งโน้ตแสดงความเป็นห่วงเป็นใยไว้ให้ด้วย ทำเอาตรีภพที่เพิ่งเดินเข้าห้องหนังสือประหลาดใจไม่น้อย แต่ก็ซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ ตั้งแต่ตอนหนุ่มกระเพาะเขาก็มีปัญหา ตอนนั้นเขาดื่มกับหัวหน้าบ่อยๆเพื่ออนาคตการงาน สุดท้ายกลายเป็นได้โรคกระเพาะ เมื่อก่อนนี้ตอนที่นลินนาถยังอยู่เธอจะต้มซุปบำรุงกระเพาะให้เขาทุกเช้า แต่ตั้งแต่ที่เธอจากไปก็ไม่มีใครใส่ใจเขาแบบนี้อีกเลย ผ่านไปหลายปีคิดไม่ถึงว่าลูกสาวยังจำได้ว่าเขาเป็นโรคกระเพาะ ที่สำคัญคือซุปนี้ยังเป็นซุปที่เขาชอบที่สุด คิดถึงตรงนี้ในใจตรีภพก็อบอุ่นขึ้นมา รอยยิ้มก็เต็มไปด้วยความรัก นึกอยู่ในใจว่าท้ายที่สุดยังไงๆลูกสาวก็เป็นห่วงเขาจึงตักซุปไปวางตรงหน้าให้จรีภรณ์ด้วยท่าทีเป็นห่วงเป็นใย นพนามองภาพตรงหน้าตาไม่กระพริบและนึกสงสัยในใจ แอบคิดว่าตรีภพลำเอียง ทั้งๆที่เมื่อเช้ายังโกรธอยู่เลยแต่พอเจอจรีภรณ์ก็รีบเอาอกเอาใจใหญ่ นพนาเริ่มไม่สบอารมณ์ พยายามนึกว่าอะไรที่ผิดพลาดไป สถานการณ์มันไม่ควรเป็นแบบนี้นี่นา จรีภรณ์เห็นสีหน้างงงวยของนพนาก็แอบหัวเราะสะใจในใจ เธอหันไปหาชญาภาแล้วถามเสียงเนิบอย่างผ่อนคลาย “กำไลของคุณหนูเทพนอกสวยดีนะ” ชญาภาตกใจที่จรีภรณ์พูดกับเธอ เธอไม่คิดว่าจรีภรณ์จะคุยกับเธอจึงรีบตอบเสียงตะกุกตะกัก “อ๋อ อันนี้คุณน้านวิยาให้มาน่ะ” “เหรอ?” จรีภรณ์กระพริบตาแล้วพูดต่อด้วยรอยยิ้ม “ดูท่าคุณหนูเทพนอกกับนวิยาจะเข้ากันได้ดีไม่น้อย หยกเนื้อดีแบบนี้ก็คงจะมีแต่คุณหนูเทพนอกถึงจะคู่ควร” “เอ่อ ขอบคุณ จริงๆแล้วเวลาคุณน้านวิยามักจะพาฉันไปดูเครื่องประดับพวกนี้เวลาอยู่ด้วยกัน คุณน้าเห็นว่าฉันชอบเลยซื้อให้” ชญาภาเห็นจรีภรณ์ชมเธอก็อดภูมิใจไม่ได้ ตอนนั้นเธอรู้ดีว่านวิยาเกลียดจรีภรณ์แค่ไหนจึงแกล้งพูดคำพวกนี้ยั่วโมโหเธอ แต่นึกไม่ถึงว่าจรีภรณ์จะไม่โกรธ แถมยังพูดชมเธออีก ชญาภาโดนจรีภรณ์ชมจนตัวลอย ภูมิใจจนลืมตัว เริ่มพูดโอ้อวดว่าตัวเองกับนวิยาสนิทกันแค่ไหน แถมตอนพูดก็ไม่ลืมพูดถึงจิรภาสด้วยว่าเขาดูแลตัวเองดีขนาดไหน เธอนึกว่าจรีภรณ์จะอิจฉาหรือไม่ก็โกรธบ้าง แต่จรีภรณ์ทำเพียงแค่มองเธอยิ้มๆ รอยยิ้มแบบนั้นเริ่มทำเอาชญาภาเริ่มเกร็งจนน้ำเสียงตอนพูดก็เริ่มอ่อนลง จริงๆเธอรู้แก่ใจดี ตั้งแต่ที่นวิยารู้ว่าเธอเป็นลูกเมียน้อยก็ปฏิบัติตัวกับเธอไม่เหมือนเก่า ทำเอาเธอรู้สึกไม่มั่นคงเอาเสียเลย ฉะนั้นพอเธอว่างเมื่อไหร่ก็จะรีบไปบ้านตระกูลแก้วใสทันทีเพื่อเอาใจนวิยา แต่ท่าทางของนวิยาก็ยังคงนิ่งเฉย เรื่องนี้ทำเธอหงุดหงิดไปนานทีเดียว พอคิดว่าตัวต้นเหตุที่ทำให้เรื่องกลายเป็นแบบนี้คือจรีภรณ์เธอก็ยิ่งโมโห นพนาก็เหมือนกัน ตอนนั้นวางแผนมาอย่างดีแล้วแต่ก็นึกไม่ถึงว่าจรีภรณ์จะกลับมาตอนนี้ แต่พอเธอกลับมาก็ไม่โวยวายอีก เจอแบบนี้นพนาทั้งงงทั้งหงุดหงิด หลังจากนั้นเธอถึงเพิ่งรู้ว่ากับดักรอเธออยู่นี่นี่เอง ต้องทนดูท่าทีเฉยเมยที่นวิยามีต่อลูกเพราะฐานะของเธอ เธอเองก็ร้อนใจพยายามคิดทุกวิธีให้ลูกเอาให้นวิยา นึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็เกลียดจรีภรณ์ขึ้นมาทุกที ตรีภพได้ยินชญาภาพูดแบบนั้นก็เริ่มไม่พอใจ ยิ่งไม่สบอารมณ์มากขึ้นตอนที่ได้ยินว่าเธอกับนวิยาสนิทกันเหมือนแม่ลูก แล้วยังปอกส้มให้เธอกินด้วย นึกถึงว่าลูกสาวไม่เคยปอกส้มให้เขากินเลย แม้แต่ข้าวก็ไม่เคยตักให้ เขากินยาโรคกระเพาะทุกวันก็ไม่เคยมาห่วงใย แต่ตอนนี้กลับไปยกชารินน้ำให้นวิยา ได้ยินแบบนี้เขาก็เริ่มไม่ชอบใจ สีหน้าบูดขึ้นเรื่อยๆ
已经是最新一章了
加载中