ตอนที่ 109 อารมณ์เสียถึงขีดสุด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 109 อารมณ์เสียถึงขีดสุด
ตอนที่ 109 อารมณ์เสียถึงขีดสุด สถานที่แบบนี้จิรภาสต้องอยู่ด้วยแน่นอน ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงในเมืองซู งานนี้จัดยิ่งใหญ่ นักธุรกิจแทบจะถูกเชิญมากันหมด แน่นอนว่าจิรภาสก็ถูกเชิญมาด้วย แต่จิรภาสกลับไม่อยากมางานเลี้ยงแบบนี้แล้วก็ไม่อยากพาชญาภามาด้วย แต่ตอนนี้ชญาภายังเป็นคู่หมั้นของเขาอยู่ ถ้าไม่พางานใหญ่ๆแบบนี้ก็ไม่เหมาะไม่ควร เพราะคำนึงถึงหน้าชญาภาจึงให้ปณัยโทรไปบอกเธอ ชญสภสที่ได้รับโทรศัพท์นั่งหงุดหงิดอยู่บนเตียงคนเดียว สีหน้าไม่สบอารมณ์ “เป็นอะไรลูก?” นพนาเดินเข้าห้องมาก็เจอกับลูกสาวที่นั่งโกรธอยู่ “แม่คะ คืนนี้จิรภาสให้หนูไปงานด้วย” ชญาภาพูดด้วยความไม่ชอบใจ “ก็ไปสิ นี่ไม่ใช่เรื่องดีเหรอ? จะโกรธทำไมละ?” นพนาเริ่มไม่เข้าใจ “แต่เขาให้ปณัยโทรมาหาหนู!” “แล้ว?” “แม่ เมื่อก่อนนี้ไม่ว่ายังไงเขาก็จะโทรหาหนูด้วยตัวเอง แต่ช่วงนี้เขาไม่สนใจหนูเลย แค่โทรศัพท์ยังให้คนอื่นโทรมาเลย แม่ แม่ว่าในใจเขาหนูเป็นอะไรกันแน่?” ชญาภามองแม่ด้วยสีหน้าน้อยใจ แววตาแฝงไปด้วยความเสียใจและความไม่ยินยอม “มีอนาคตแค่นี้หรือไง?” นพนามองลูกที่เอาแต่เสียใจแล้วถามกลับ พอลูกไม่ตอบอะไรจึงใช้มือจิ้มที่หัวหนึ่งทีก่อนจะพูดต่อ “โง่จริง เคยเห็นพ่อเขาใส่ใจแม่ไหมละ? ถ้าแม่เป็นแบบลูกละก็ไม่โกรธตายไปนานแล้วเหรอ” “แต่แม่คะ…..” “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น” นพนาพูดขัดลูกสาวขึ้นมาแล้วพูดต่อ “ลูกน่ะ ขอแค่กุมตำแหน่งคุณนายของตระกูลแก้วใสไว้ให้ได้มั่นคงก็พอ อย่างอื่นไม่สำคัญ!“ ชญาภาได้ยินแม่พูดแบบนั้นก็เลิกฟูมฟายแล้วพยักหน้าครุ่นคิดเงียบๆ นพนาเห็นลูกคิดได้แล้วจึงเตรียมลุกเดินออกจากห้อง ก่อนจะออกไปยังพูดยิ้มๆ “ไป ไปแต่งตัวให้ดีๆ ควรทำอะไรก็ทำให้ดี อย่าลืมว่าตอนนี้ลูกเป็นคุณหนูนายกเทศมนตรี คู่หมั้นของจิรภาส เรื่องนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง มีแม่คอยลูกอยู่ข้างหลัง วางใจเถอะ” “ขอบคุณค่ะแม่” ชญาภามองแม่อย่างดีใจ วางใจขึ้นกว่าเดิมมาก หนึ่งทุ่ม โรงแรมแก้วรุ้ง ชนุตต์โอบเอวของจรีภรณ์เดินเข้าไปในห้องบอลรูม วันนี้คนมีชื่อเสียงมารวมตัวกันครบและแน่นอนว่าในกลุ่มนั้นก็ไม่ขาดสาวๆสวยๆ แต่การปรากฎตัวของจรีภรณ์ก็เรียกเสียงฮือฮาขึ้น ชนุตต์มองคนพวกนั้นอย่างภูมิใจ เขาเจอคนมาเยอะ แน่นอนว่าเขารู้วิธีที่จะแต่งตัวให้คนๆหนึ่ง จรีภรณ์ในวันนี้สวมชุดราตรีสีขาวเกาะอกลากพื้นที่เขาเป็นคนเลือก เน้นให้เห็นสัดส่วนรูปร่างสมบูรณ์แบบของเธออย่างชัดเจน ผมเธอถูกมันรวบขึ้นไปเล็กน้อยทำให้ดูสง่ามีระดับ การแต่งตัวของเธอดึงดูดสายตาคนมากมาย ไม่เว้นแม้แต่จิรภาส พอจิรภาสเห็นมือของชนุตต์ที่อยู่รอบเอวของจรีภรณ์ก็โมโหจนอยากจะเข้าไปต่อยสักหมัดสองหมัด แต่ชนุตต์ก็ดูเหมือนจะจงใจยั่วเขาอย่างไรอย่างนั้น พอเห็นสายตาของจิรภาสที่จ้องอยู่ก็เลื่อนมือขึ้นสูงไปอีกแล้วยิ้มร้ายให้เขา จิรภาสแน่นในอกขึ้นมาทันที ความจริงก็คือหลายวันมานี้เขาไม่สบายใจเลย ตอนแรกวางแผนไว้ดีแล้วว่าขอแค่ท่านจิรัฎฐ์มาเมืองซูเรื่องทั้งหมดนี่ก็คงจะจบ แต่คิดไม่ถึงว่าจะผลออกมาไม่เหมือนที่วางไว้สักนิด วันนั้นที่ได้ข่าวว่าสิ่งแรกที่คุณท่านจิรัฎฐ์ทำหลังลงเครื่องคือเชิญจรีภรณ์มาพบเขาก็แอบโล่งใจ คิดว่ามีท่านจิรัฎฐ์ออกโรงเองทั้งสองคนก็คงไม่มีโอกาสอีก แต่เรื่องก็ออกมาไม่เหมือนที่คาดเลย เขายังเห็นทั้งสองคนไปไหนมาไหนด้วยกันออกหน้าออกตา คุณท่านจิรัฎฐ์ก็เหมือนจะอนุญาตลับๆ นั่งเรือกลับไปในวันเดียวกัน จิรภาสที่นึกว่าจะมีเรื่องสนุกพอรู้เรื่องก็ตกใจ คาดไม่ถึงสักนิดว่าคุณท่านจิรัฎฐ์จะกลับไปง่ายๆแบบนี้ น่าหงุดหงิดจริงเชียว ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จะทำยังไงต่อดี รู้แต่ว่าวันนี้มาที่นี่จะต้องเจอสองคนนั้นแน่ๆ นี่คือที่ว่าทำไมจิรภาสไม่อยากมาในวันนี้ แค่นึกถึงว่าแม้แต่คุณท่านจิรัฎฐ์ก็ไม่ห้ามแล้ว ทีนี้ถ้าสองคนนั้นจะคบกันก็ไม่มีใครอื่นมาขวางอีก จิรภาสละอยากจะบ้าตาย อาจจะเพราะรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่มา ชนุตต์จงใจโอบจรีภรณ์เดินไปทางจิรภาส “คุณจิรภาส ไม่ได้เจอกันนานเลย!” ชนุตต์เข้าไปทักราวกับเป็นเพื่อนเก่าแก่มานานพลางมองไปที่หน้าอกของชญาภาที่อยู่ข้างๆอย่างทะลึ่ง สีหน้าจิรภาสหม่นลงมา เขารู้ว่าชนุตต์ต้องตั้งใจแน่ๆจึงตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยที่ถือว่ารักษามารยาท ปากก็พูดกับชนุตต์แต่ตากลับจ้องมองไปที่จรีภรณ์ แต่จรีภรณ์กลับไม่ได้มองเขาเลยด้วยซ้ำ เอาแต่ยิ้มบางให้ชนุตต์ รอยยิ้มแบบนั้นเธอเคยยิ้มให้เขา แต่ตอนนี้กลับยิ้มให้ผู้ชายอีกคนหนึ่ง จิรภาสรู้สึกอึกอัดในอกจึงหมุนตัวตั้งใจจะออกไปจากตรงนั้น แต่ชนุตต์ไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ รีบพูดขึ้นมาอีก “คุณจิรภาสจะแต่งงานเดือนหน้าแล้วนี่ครับ?” ใจจิรภาสกระตุกแวบ เขาหันไปทางจรีภรณ์ ชนุตต์เห็นสายตาที่จิรภาสมองไปทางเธออย่างอบอุ่นจึงยิ้มร้ายแล้วเพิ่มไปอีกประโยค “อย่าลืมส่งการ์ดมาเชิญพวกเราด้วยนะครับ!” “ได้แน่นอน!” ชญาภาเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของจิรภาสจึงรีบรับคำ ชนุตต์พยักหน้ายิ้มๆ จังหวะนั้นเองคุณชายรองของตระกูลพยุงพงษ์ก็เข้ามาร่วมวงด้วย เขากับชนุตต์เคยเป็นเพื่อนเที่ยวสถานบันเทิงด้วยกัน แต่ตอนนี้คนรอบตัวรู้กันหมดแล้วว่าครั้งนี้เขาจริงจัง เลยเดินมาพูดแหย่เล่น “นี่คุณชนุตต์ คุณจิรภาสได้สาวสวยไปครองแล้วเรียบร้อย คุณยังไม่รีบอีก เดี๋ยวสาวสวยก็หนีหายไปหรอก” “ฮ่าๆ ได้ๆๆ เดี๋ยวจะเชิญคุณชายรองมาดื่มเหล้าในงานแต่งแน่นอน” ชนุตต์ฟังคุณชายรองพยุงพงษ์จบก็มองไปทางจิรภาสด้วยสายตาชวนยั่วโมโห จงใจพูดเพื่อให้จิรภาสหงุดหงิด แล้วก็เป็นอย่างที่คิด จิรภาสมองท่าทีกวนประสาทของชนุตต์แล้วความโกรธก็พุ่งพรวด อยากจะเข้าไปอุดปากนั่นซะ เขาทนดูภาพตรงหน้าไม่ได้ แต่ชนุตต์ก็ตามไม่เลิก “อ้าว อย่าเพิ่งไปสิคุณจิรภาส” ชนุตต์พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มหยอกเย้า “มา ผมดื่มให้คุณแก้วนึง” “งั้นเหรอ? คุณชนุตต์มีเรื่องอะไรน่าดีใจอย่างนั้นหรือ?” จิรภาสมองใบหน้ายิ้มของชนุตต์ด้วยสีหน้าเย็นชา รู้สึกว่าเขากวนประสาทขึ้นทุกที “มีแน่นอนสิ จะว่าไปก็เกี่ยวกับคุณด้วยนะ” “เรื่องอะไรกัน? ถ้าจำไม่ผิดผมไม่ได้สนิทกับคุณนะ” จิรภาสเหน็บกลับไป “อย่าเพิ่งใจร้อนสิ ฟังผมพูดก่อน” ชนุตต์ยิ้มแฝงเจตนาร้าย “ถ้าคุณกับคุณหนูเทพนอกแต่งงานกัน งั้นเราสองคนก็จะกลายเป็นญาติกัน จะว่าไปคุณต้องเรียกผมว่าอะไรนะ” “คุณชนุตต์เป็นอะไรมากไหม ผมจะแต่งงานเกี่ยวอะไรกับคุณ?” จิรภาสมองชนุตต์อย่างเย็นเยือก เขารู้ว่าชนุตต์จะพูดอะไร และรู้ด้วยว่าหมอนั่นตั้งใจมาทำให้เขาอึดอัดทำเอาเขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เฮ้อ ทำไมคุณยังไม่เข้าใจอีก คุณกำลังจะแต่งงานกับชญาภา ต่อให้จรีภรณ์เกลียดเธอยังไงเธอก็ยังเป็นลูกของอาตรีภพ แล้วก็เป็นน้องสาวของจรีภรณ์ ส่วนผมจะช้าหรือเร็วก็จะแต่งงานกับจรีภรณ์แน่นอน พอคิดแบบนี้แล้ว จรีภรณ์ก็เป็นพี่สะใภ้คุณ งั้นคุณก็ควรเรียกผมว่าพี่เขยจริงไหม?” “ไปไกลๆเลย!“คำว่าพี่สะใภ้และพี่เขยจากปากของชนุตต์แทงใจเขาอย่างจัง จิรภาสโกรธจนต้องตะคอกออกมา เห็นท่าทางกวนประสาทแบบนั้นแล้วอยากจะเข้าไปกระแทกปากให้เลือดกบสักที “ไม่เรียกก็ไม่เรียกสิ จะโกรธไปทำไมละ” ชนุตต์มองท่าทางของจิรภาสอย่างสะใจ “มีอะไรเหรอ?” จังหวะนั้นจรีภรณ์ก็เดินมา “เมื่อกี้ผมแสดงความยินดีกับเขา เขาไม่ชอบใจเลยเหวี่ยงใส่ผม” ชนุตต์มองจรีภรณ์ สีหน้าเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมมา “คุณพูดอะไรผิดแน่เลยถึงได้ทำให้คุณจิรภาสโกรธ” จรีภรณ์ยิ้มบางๆพลางมองไปที่จิรภาส มือเรียวยกแก้วเหล้าขึ้นมาก่อนจะพูดเนิบๆ “คุณจิรภาส ฉันยินดีกับความรักของคุณ ขอให้ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร” “ขอบคุณ” จิรภาสจ้องมองจรีภรณ์ด้วยรอยยิ้มบาง เห็นท่าทีนิ่งเฉยของเธอแล้วเขาละอยากจะบ้า ใจของผู้หญิงคนนี้ทำด้วยก้อนหินจริงๆถึงพูดแบบนี้กับเขาได้ เห็นสองคนเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยแบบนั้นจิรภาสก็อารมณ์เสียถึงขีดสุด แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อยู่ในสายตาของใครคนหนึ่งทั้งหมด
已经是最新一章了
加载中