บทที่ 3 ขอโทษ
"คุณภานุวัฒน์ คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ?" ฉันถามกลับ "คุณเป็นคนขอร้องให้ฉันกลับมาอยู่กับคุณ แต่คุณกลับทำตัวแบบนี้?"
สีหน้าของภานุวัฒน์เปลี่ยนไปมา "ใช่ ผมอยากจะกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับคุณ แต่ว่าคุณก็เป็นแค่ภรรยาของผม ไม่ใช่บรรพบุรุษของผมสักหน่อย แม่ของผมท่านอุตส่าห์ขอโทษคุณ ทำไมคุณถึงไม่ยอมใจอ่อน?"
เพียงขวัญหัวเราะในลำคอ "หึ ขอโทษงั้นหรอคะ? แค่คำว่าขอโทษพวกคุณก็จะให้ฉันลืมเรื่องที่เกิดขึ้น?"
"เฮ้อ พวกลูกทั้งสองคนอย่าทะเลาะกันเลย เดี๋ยวแม่จะเป็นคนย้ายออกไปเอง" มณีจันทร์พูดขึ้น จากนั้นเธอก็สะอื้นร้องไห้
ฉันมองดูภานุวัฒน์กอดแม่ของเขาเอาไว้ แล้วเอาแต่พูดว่าฉันอายุยังน้อย ไม่เข้าใจความหวังดีของผู้ใหญ่
ฉันทนฟังอยู่พักหนึ่ง จู่ๆก็รู้สึกอยากอ้วกขึ้นมา
ฉันรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำและอ้วกออกมา
เสียงของสองแม่ลูกเงียบไปแล้ว ฉันเงยหน้าขึ้น ก็เห็นมณีจันทร์และภานุวัฒน์มองมาที่ฉัน
คืนนั้นฉันเพลียมาก ได้ยินเสียงภานุวัฒน์พูดคุยบางอย่างกับแม่ของเขา แต่ฉันไม่ได้สนใจและไม่อยากจะสนใจ
09.00 นน.
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ฉันไปทำงานสายแล้ว!!!
ตอนที่ฉันรีบวิ่งออกมาจากห้อง มณีจันทร์ที่กำลังนั่งถักเสื้อไหมพรมอยู่ก็ยิ้มแล้วหันหน้ามา "เพียงขวัญ ทำไมลูกไม่นอนให้เยอะกว่านี้หน่อย ต้องพักผ่อนเยอะๆเข้าใจไหม?"
ห๊ะ? ช่างเถอะ ฉันไม่อยากจะสนใจ เพราะตอนนี้ฉันก็ไปทำงานสายหนึ่งชั่วโมงแล้ว ถ้าไปสายเกินสองชั่วโมง ตามกฎของบริษัทฉันจะถูกหักเงินเดือน
ฉันรีบนั่งวินแล้วตรงไปที่ทำงานในทันที ฉันไปถึงบริษัทด้วยความรีบร้อน พอไปถึง หัวหน้าแผนกก็ค้อนมองมาที่ฉันทันที
"เพียงขวัญ เมื่อวานเธองีบหลับเวลาทำงาน วันนี้ก็มาทำงานสายอีก ไม่อยากจะทำงานนี้แล้วใช่ไหม! ถ้าไม่อยากทำก็เก็บของกลับไป แผนกลยุทธ์ที่เธอเขียนก็ยังไม่เป็นที่พอใจของบอร์ดบริหารอีก ความผิดของเธอแค่คนเดียวอย่าดึงคนในทีมไปซวยกับเธอด้วย!”
ฉันรีบพูดขอโทษขอโพย จากนั้นก็รีบเตรียมแผนกลยุทธ์ใหม่อีกครั้ง แต่ทันใดนั้นเองจู่ๆก็มีน้ำร้อนราดลงมา
"โอ๋ๆๆ ขอโทษด้วยนะ เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหมเพียงขวัญ" ริตายื่นกระดาษทิชชู่มา แต่ก็ไม่สามารถปกปิดสายตาเย้ยหยันของเธอได้
ฉันที่อยู่ในสภาพน่าอนาถแบบนี้ พอมองไปรอบๆ เพื่อนร่วมงานกลับเอาแต่หัวเราะ
"ฉันขอเตือนเธอก่อนนะ รีบๆจัดการให้เรียบร้อย สามีของเธอคือหัวหน้าแผนกออกแบบ มีเงินให้บริษัทหัก แต่ว่าพวกฉันไม่มี อีกอย่างโบนัสในเดือนนี้ของเธอก็ถูกยกเลิกเพราะความผิดพลาดของเธอ"
ฉันตาแดงก่ำ แล้วเอาแต่พูดขอโทษทุกคน
เหมือนว่าทุกอย่างในชีวิตมันแย่ไปหมด แต่ฉันไม่มีเวลามาบ่นหรอก ฉันรีบเคลียร์งานให้เรียบร้อย กว่าจะได้พักก็ตอนที่ทุกคนกินข้าวเที่ยงกลับมาแล้ว
ขณะที่ฉันกำลังจะเดินไปกินข้าวนั้น ก็ได้ยินคนพูดถึงตัวเองขึ้นมา
"เธอบอกว่าอะไรนะ? สามีของเพียงขวัญพาผู้หญิงอื่นไปช้อปปิ้ง?" ฤดีตกใจ แต่คำพูดของเธอทำให้ฉันตกใจยิ่งกว่า
"ก็ใช่นะสิ น่าสมเพชมากเลยเนอะ" คำพูดนี้เป็นเสียงของริตา
ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรจะมีปฏิกิริยายังไง
ฉันควรที่จะเสียใจ หรือควรที่จะเชื่อใจภานุวัฒน์ เชื่อว่าเขาต้องไม่มีคนอื่น
ทำไมฉันถึงน่าสมเพชได้ขนาดนี้!
"ก็ใช่นะสิ ดูจากการแต่งตัวของเธอก็คงไม่แปลกที่สามีจะทิ้ง อายุยี่สิบต้นๆแต่แต่งตัวเหมือนมนุษย์ป้า ฮ่าๆ"
"พูดจบรึยัง?"
ฉันเดินไปหาพวกเธอทั้งสองคน แล้วถามขึ้นเสียงเรียบ
ทั้งสองมองมาที่ฉัน จากนั้นริตาก็พูดขึ้น "เพียงขวัญ เธอได้ยินหมดเลยหรอ แต่ก็ดีแล้วแหละเธอจะได้ตาสว่างสักที....·"
สาบานเถอะ น้ำเสียงและท่าทางของริตามันดูแสแสร้งมาก
ฉันบีบขวดน้ำในมือแน่น จากนั้นก็สาดไปที่หน้าของริตา
"กรี๊ดดดด นี่เพียงขวัญ ฉันไม่ใช่กิ๊กของสามีเธอสักหน่อย ทำไมต้องมาสาดน้ำใส่หน้าฉันด้วย!" หน้าของริตาที่มีเครื่องสำอางค์หนาในตอนแรก เวลานี้เละหมดแล้ว
"แล้วการที่สามีของฉันจะนอกใจหรือไม่นั้น มันเกี่ยวอะไรกับคุณ?" ฉันพูดเสียงเรียบ "การพูดนินทาคนอื่นลับหลังแบบนี้ก็ไม่ต่างจากมนุษย์ป้าข้างบ้านหรอก!"
"แก!" ริตาร้องเรียกด้วยความเจ็บใจ จากนั้นก็หยิบแก้วที่วางไว้ด้านข้างขึ้นมาเพื่อที่จะโยนใส่หน้าฉัน
ฉันหลับตาลงด้วยความตกใจ
เพล้ง! เสียงแก้วแตกดังขึ้น แต่ฉันกลับไม่รู้สึกเจ็บ ในทางตรงกันข้ามกลับได้กลิ่นหอมอ่อนๆที่คุ้นจมูก ฉันลืมตาขึ้น ภาพที่เห็นคือหน้าของพิรภพที่เต็มไปด้วยความโมโห