บทที่ 5 ถ้าหากฉันปฏิเสธ?
1/
บทที่ 5 ถ้าหากฉันปฏิเสธ?
แกล้งจุ๊บ ยายภรรยาตัวน้อย
(
)
已经是第一章了
บทที่ 5 ถ้าหากฉันปฏิเสธ?
บนตัวของชายหนุ่มสวมทับด้วยชุดสูทสีเงินเข้ม เขาเอนกายกับระเบียงพร้อมกับแก้วไวท์ในมือ ควันสีเทาหม่นจากบุหรี่ปกคลุมใบหน้าเย็นชาดุจแท็กเขาที่ถูกแช่เย็นด้วยน้ำแข็งของชายหนุ่มไว้ ใบหน้าปรากฏร่องลอยความเดียวดาย เมื่อริษาผลักประตูเข้ามาแล้วมองเห็นแผ่นหลังของชายหนุ่ม เธอก็ไม่อาจที่จะละสายตาจากเขาไปได้เลย เธอเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังชายหนุ่ม แล้วเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน “ภูสิต ได้ยินภคพงศ์บอกว่า คุณรับพาฝันกลับไปที่บ้าน?” “ใช่” ชายหนุ่มตอบกลับด้วยความเย็นชา คิ้วของริษาชนเข้าหากัน ความไม่พอใจเลื่อนผ่านหัวใจไป หากแต่ไม่ได้แสดงออกมาให้เห็น เธอเพียงแต่เกลี้ยกล่อมชายหนุ่มด้วยความนุ่มนวล “ภูสิต เรื่องที่ผ่านมาฉันไม่ถือโทษโกรธพาฝันเลย คุณปล่อยเธอไปเถอะนะ” “มันไม่เกี่ยวกับเธอ” “แล้วทำไมล่ะ? พาฝันเป็นอดีตภรรยาคุณไปแล้ว แถมเธอยังเป็นผู้หญิงที่ฆ่าแม่ของ...” ยังไม่ทันที่ริษาจะได้พูดจบ ก็ถูกภูสิตพูดตัดอย่างไร้เยื่อใย “ริษา ฉันรู้ว่าตัวเองกำลังทำไรอยู่” “คงเพราะฉันคิดมากไปเอง ฉันก็แค่เป็นห่วงคุณ” ริษาจับไปที่แขนของชายหนุ่ม ก่อนจะสวมกอดร่างสูงใหญ่ไว้แน่น “ภูสิต เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวอะไรกับพาฝัน อีกอย่างพาฝันเองก็ไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกับพวกเราแล้วด้วย คุณอย่าทำอะไรเธอเลยนะ ได้มั้ย?” ภูสิตดึงมือของเธอออก แล้วก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว แววตาดำขลับแสดงออกถึงความไม่แยแสและห่างเหิน ความเจ็บปวดแล่นผ่านนัยย์ตาริษา เธอรีบดึงแขนภูสิตไว้ “ภูสิต ตั้งแต่คุณกลับจากต่างประเทศ เราสองคนยังไม่เคยนั่งดื่มกันดีๆเลยนะ คืนนี้คุณอยู่เป็นเพื่อนฉันได้มั้ย พรุ่งนี้ฉันก็จะเริ่มงานแล้ว” ภูสิตยกคิ้วขึ้น นิ้วหัวแม่มือจับคลำแหวนหยกที่สวมอยู่ในมืออีกข้าง ในหัวของเขากลับมีแต่ใบหน้าสวยงามของพาฝันและสีหน้าตอนเธอป่วยแต่พยายามที่จะกลั้นความเจ็บปวดไว้ ชายหนุ่มผงกหัวด้วยความใจลอย “ได้ ฉันออกไปโทรศัพท์ก่อน” กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง -- -- พาฝันเห็นสายโทรเข้าเป็นชื่อของคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี สามปีมานี้ เธอจำมันได้ขึ้นใจ! ก็คงจะเป็นข้ออ้างที่เขาโทรมาจะไม่กลับบ้านอีกเช่นเคย ยังไงซะตอนนี้เธอคือคนที่เขาเซ็นต์สัญญาซื้อมา ตอนกลางวันเป็นคนงาน ส่วนกลางคืนก็เป็นนางบำเริอ! มีหน้าที่แค่รับใช้ให้เขาสบาย ไม่ได้มีหน้าที่ทำให้ใครมีความสุข! พาฝันกดตัดสายทิ้งและปิดเครื่อง ก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างสบายใจเฉิบ “หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณา....” ชายหนุ่มได้ยินเสียงสายไม่ว่างก่อนที่ปลายสายจะกดปิดเครื่องไป คิ้วของเขาชนเข้าหากันอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะโยนมือถือทิ้งไปอีกฝั่ง “ภุสิต เป็นอะไรไปคะ?” “เปล่าไม่มีอะไร พรุ่งฉันจะส่งพาฝันไปที่ห้องอัดเสียง จะได้ให้ยายนั่นพากย์เสียงตัวละคร” สีหน้าริษาชะงักเล็กน้อย ก่อนจะรีบเปลี่ยนเป็นใบหน้าอ่อนโยน “ได้ค่ะ” ...... นอนไม่หลับมาทั้งคืน วันถัดมา ข่าวฮอตหน้าหนึ่ง วงการบันเทิง – นางเอกซุปต้าเบอร์หนึ่ง “ริษา” กับ ประธานหนุ่มสุดหล่อ “ภูสิต” อยู่ค้างคืนกันที่คอนโดหรูนานร่วม 6 ชั่วโมง คาดว่าจะมีข่าวดีในเร็วๆนี้! พาฝันนั่งอยู่ห้องรับแขกมองดูพาดหัวข่าวเช้านี้บนจอมือถือตัวเอง ริมฝีปากเล็กบางยกขึ้นเล็กน้อย มันก็ควรจะเป็นแบบนี้ ตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือไงกัน? หลังจากที่ทานมื้อเช้าเสร็จ คนขับรถเคาะประตูเดินเข้ามา บอกว่าคุณภูสิตให้ไปส่งเธอที่สตู ทันทีที่มาถึงหน้าประตูสตูดิโอ ก็มีผู้หญิงใส่ชุดสูดสีขาวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ “สวัสดีค่ะคุณพาฝัน ดิฉันนิศาชล เป็นหัวหน้าแผนกพากย์เสียงของบริษัทโชคทวีทรัพย์” เดี๋ยววันนี้ดิฉันจะเป็นคนพาไปแนะนำให้รู้จักกับแผนกอื่นๆ ที่ทางเราจะต้องประสานงานด้วย รอให้คุณคุ้นชินกับงานแล้วจะมีผู้จัดการส่วนตัวช่วยเลือกตัวละครที่เหมาะสมให้กับคุณอีกที นิศาชลอธิบายคร่าวๆ พาฝันพูดขอบคุณเธอด้วยความจริงใจ เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องอัดเสียง เสียงพูดคุยจ้อกแจ๊กเสียงดังลอยออกมาจากข้างใน นี่ทุกคนได้ยินว่ามีเด็กมาใหม่ เห็นบอกว่าเป็นคนที่ท่านประธานส่งมาด้วยแหละ เสียงหนึ่งพูดขึ้นด้วยความแปลกประหลาดใจ “ถึงต่อให้ท่านประธานให้ความสำคัญก็เหอะ แต่จะสำคัญกว่าคุณริษาได้เหรอ?” อีกเสียงเยือกเย็นพูดด้วยความเย้ยหยัน “คุณริษากับประธานเป็น!” “อะแฮ่ม...” เสียงกระแอมไอของผู้จัดการนิศาชล ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ข้างในห้องหยุดลงทันที ทันใดนั้น เสียงรองเท้าหนังสลับกับเสียงรองเท้าส้นสูงดังมาจากด้านหลัง “ประธานภูสิต” “คุณริษา” เสียงฮือฮาของคนรอบข้าง ทำเอาพาฝันต้องหันมองทันควัน มือของริษาคล้องที่แขนภูสิต ทั้งสองเดินตรงมายังเธอพร้อมกัน ตอนนั้นการแต่งงานของเธอและภูสิตเป็นการแต่งจดทะเบียนอย่างลับๆ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ เธอควรจะยินดีใช่มั้ย อย่างน้อยมันก็จะไม่ขายหน้าต่อหน้าสื่อ? ริษาส่งยิ้มหวานอ่อนๆให้ภูสิต “พาฝัน ฉันให้คุณภูสิตมาส่งที่ทำงาน แล้วให้เขาให้เธอฝึกงานที่ห้องอัดเสียงก่อน เป็นยังไงบ้าง?” พาฝันมองดูรอยยิ้มชวนอ้วกและใบหน้าตอแหลของริษา ใจเธอเหมือนถูกสุมด้วยไฟลูกใหญ่ ทุกคนต่างบอกว่าเธอเป็นเบอร์หนึ่ง แต่เห็นทีคนที่เป็นเบอร์หนึ่งน่าจะเป็นลูกสาวบุญธรรมของตระกุลพัชรสักมากกว่า แต่เธอรู้ดี ว่าริษาเป็นคนของภูสิต อย่าไปมีเรื่องกับเธอจะดีกว่า เธอเสยผมเล็กน้อยก่อนจะมองไปที่ภูสิตแวบหนึ่ง แล้วตอบด้วยรอยยิ้มเย็นชา “ดีค่ะ ขอแค่เป็นคำสั่งคุณภูสิต ฉันไม่มีปัญหาค่ะ” คำพูดที่มีเลศนัย ทำเอาริษารู้สึกไม่สบอารมณ์ เธอจับที่ปกเสื้อชายหนุ่มแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว จนทำให้จับพิรุธของเธอได้ ริษารีบแสร้งพูดอย่างอ่อนโยน “ถ้างั้น เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า” ทุกคนรีบเดินเข้าไปในห้องอัดเสียง ภูสิตเองก็ยังไม่ไปไหน เขานั่งลงตรงเก้าอี้หน้ากระจกและมองดูข้างใน หลังจากที่พากย์เสียงบทละครรักโรแมนติกจบหนึ่งตอน ผู้จัดหลายคนที่ดูถูกเธอเมื่อได้เห็นศักยภาพการทำงานของเธอแล้วต่างก็ทึ่งในความสามารถของเธอไปตามๆกัน พาฝันสื่ออารมณ์ของตัวละครได้ดีกว่าริษาด้วยซ้ำ มืออาชีพสุดๆ เวลาพักเที่ยง ริษามองตามสายตาประกายแวววาบของภูสิตที่จ้องมองพาฝัน ที่กำลังนั่งอ่านบทพากย์ของตัวละครอย่างไม่ละสายตา กระดาษบนมือถูกขย้ำจนเป็นรอยยับย่นหากแต่มันไม่ได้ทำให้ความโมโหในใจหล่อนลดน้อยลงได้เลย เธอยกน้ำตรงหน้าพาฝันขึ้นดื่ม ก่อนจะกระดกดื่มรวดเดียวจนหมด ทันใดนั้นความรู้สึกแสบร้อนแล่นขึ้นที่ลำคอ “ก่อนเธอจะไอแค่กแค่กอย่างแรงจนตัวงอ แค่ก แค่ก แค่ก...” “ริษา!” “คุณริษา นี่คุณ...” เสียงของฉัน ริษารู้สึกปวดแสบปวดร้อนในลำคอ พาฝันเธอ “……” นี่มันเรื่องอะไรกัน หลังจากที่ฝูงคนเบียดเธอจนออกจากวงล้อม พาฝันถูกประคองไว้โดยใครบางคน ชายหนุ่มแหวกฝูงคนเข้าไปก่อนจะอุ้มริษาขึ้นจากพื้น ทุกคนต่างขยับหนี ไม่มีใครกล้าเปล่งเสียงพูดแม้แต่คำเดียว “บ่ายนี้ให้ทุกคนพักก่อน!” ภูสิตสั่งด้วยเสียงเยือกเย็น สายตาน่ากลัวจับจ้องไปที่พาฝันอีกครั้ง เสียงเยือกเย็นน่ากลัวขึ้นกว่าเดิม “ส่วนเรื่องของน้ำรายงานฉันภายในสองชั่วโมง!” พูดจบ เขาก็อุ้มเธอขึ้นไปห้องพักผ่อนชั้นบน “เธอ!” หลังจากที่ภูสิตอุ้มริษาออกไป ผู้จัดชี้หน้าด่าพาฝันอย่างโมโห “นี่เธอทำอะไรของเธอ! เธอใส่อะไรลงไปในน้ำนั้น เธอเห็นว่าคุณริษาดังกว่า เลยคิดใช้วิธีสกปรกแบบนี้ใช่มั้ย!” พาฝันหัวเราะเยือกเย็น “แก้วน้ำเป็นของฉัน ริษาดื่มมันเอง แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน!” พาฝันเหลือบมองที่แก้วน้ำ เธอยิ้มไม่แยแส ผู้หญิงนักพากย์เสียงคนหนึ่งเดินออกมา พูดตีไข่ใส่ความไปอีก “เธอต้องจงใจแน่!” พาฝันรู้สึกเอือมระอา เพราะมีคนหมั่นไส้เธอไม่น้อยอยู่แล้ว ทีนี้ดีเลยไม่ว่าเธอจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ทุกคนก็ให้เธอเป็นแพะรับบาปอยู่ดี ผู้จัดชี้ไปที่หน้าพาฝัน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงโมโห “เรื่องมันเกิดเพราะเธอ เธอไปบอกท่านประทานด้วยตัวเองซะ!” พาฝันสูบหายใจลึก เธอกัดฟันแน่น คนข้างๆเธอที่ช่วยประคองเธอเมื่อครู่ ถูกผู้จัดสั่งให้พาเธอไปยังห้องทำงานของประธาน เดินมาถึงหน้าลิฟท์ ชายหนุ่มแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร “คุณพาฝัน ผมชื่อเป็นเอกนะ ยินดีที่ได้รู้จักคุณนะครับ!” พาฝันยกคิ้วคมสวยขึ้น “ทำนายซวยไปด้วยเลย ยินดีที่ได้รู้จัก” “เมื่อกี้เห็นๆอยู่ว่าพวกเขากำลังรุมแกล้งคุณ ทำไมคุณไม่อธิบายละ?” “ฉันไม่ทำอะไรที่ไร้ประโยชน์” อีกอย่าง นี่ก็เป็นสิ่งที่ภูสิตอยากจะเห็นไม่ใช่เหรอ? ที่ภูสิตไม่ส่งเธอไปทำงานบริษัทในเครืออื่นๆ แต่จงใจส่งเธอมาบริษัทเดียวกับริษา เพราเขาจงใจจะเยาะเย้ยเธอสินะ? เธอยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องพักผ่อน ภูสิตเหลือบมอง เห็นว่ามีคนสองคนกำลังเดินเข้ามา เขาพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ตามฉันมาที่ห้องทำงาน” มุมปากพาฝันยกขึ้นอย่างเสียไปที หลังจากที่เข้ามาในห้องทำงานแล้ว “ปิดประตู” พาฝันทำตามอย่างเชื่อฟัง ภูสิตยืนอยู่หน้ากระจกหน้าต่างก่อนจะค่อยๆเหลือบมองมา พาฝันยิ้มแห้ง ช่างเป็นรอยยิ้มที่ดูฝืนเหลือเกิน หลังแก้วชาที่กลั้นบางๆอยู่ ค่อยๆเอ่ยพูดขึ้นช้าๆ “ฉันผิดเองที่ไม่ดูแลแก้วน้ำตัวเองดีๆ ทำให้ริษาดื่มน้ำในแก้วฉันจนต้องเป็นแบบนี้” คำพูดที่ฟังประมาทของเธอ แต่ละคำไม่มีความจริงใจอยู่เลยแม้แต่นิด สายตาเขาลึกขึ้น ก่อนจะค่อยๆหยุดอยู่บนใบหน้าเธอ ไม่พูดอะไร “เรื่องนี้ฉันจะรับผิดไว้เอง” “เพราะงั้นเธอไม่ยอมรับว่าเธอทำผิด?” ริมฝีปากพาฝันยกขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “มันต่างกันยังไง ในเมื่อริษาดื่มน้ำของฉันไปแล้ว ถ้าคุณภูสิตเป็นห่วงหรือรู้สึกเจ็บแทนเธอ ก็ลงที่ฉันเลยค่ะ!” “ถ้างั้นเธอก็ไปขอโทษกับเรื่องที่เธอทำทั้งหมดด้วยตัวเองซะ” “พาฝันค่อยๆยกมุมปากขึ้น ถ้าฉันปฏิเสธละ?”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 5 ถ้าหากฉันปฏิเสธ?
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A