บทที่ 10 มาดูงานแต่งของคุณ

ยังคงเป็นอะพาร์ตเมนต์นอกเมืองทางทิศตะวันตก ฮาวายดึงผ้าห่มมากัดไว้แน่น เพราะไม่มียาช่วยบรรเทาอาการของโรค ทุกครั้งที่อาการปวดกำเริบก็จะทำให้เธอรู้สึกว่าวินาทีต่อไปเธอก็จะตายแล้ว แต่คำพูดที่เอเรียพูดก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน วนอยู่ในสมองของเธออย่างชัดเจน เธอต้องไปหาคำตอบจากฟีนิก เธอไม่เชื่อว่าฟีนิกจะปล่อยวางความรักระหว่างพวกเธอลงไปจริงๆ! เอเรียไม่ได้มาที่นี่หลายวันแล้ว หน้าประตูจะมีคนรับใช้เฝ้าอยู่ตลอดเวลา เธอไม่มีวิธีหนีออกไปจากที่นี่เลย จู่ๆฮาวายก็คลายผ้าห่มออก ร้องออกมาเสียงดังอย่างทรมาน คนรับใช้ได้ยินเสียงเลยเข้ามา เห็นใบหน้าซีดเผือดและเหงื่อบนหน้าผากของหญิงสาวก็ตกใจจนพูดไม่ออก “ ขอร้องคุณล่ะ ส่งฉันไปโรงพยาบาล ขอร้องล่ะ! ” ฮาวายกลิ้งตกลงมาจากเตียง น่าสงสารจนทำให้คนมองใจอ่อนยวบ “ ผมโทรหาคุณผู้หญิง ” คนรับใช้พูดติดๆขัดๆ จากนั้นก็หันหลังวิ่งออกไป ฮาวายมองประตูของห้อง สติที่อ่อนล้าของเธอยังเหลืออยู่น้อยนิด สายตาของเธอสว่างวาบขึ้นมาเล็กน้อย ลุกขึ้นมาอย่างลำบากแล้ววิ่งออกไปข้างนอก ต้องพูดว่าเอเรียระมัดระวังมาก ที่ตั้งของอะพาร์ตเมนต์อยู่ที่ที่ห่างไกลความเจริญ ฮาวายรอมาครึ่งชั่วโมง แม้แต่รถที่จะผ่านทางก็ไม่มี เธอกัดฟันแน่ ก้าวขาเดินไปข้างหน้า ในห้องลองชุดของร้านชุดแต่งงาน เอเรียวางสาย ในใจหัวเราะเยาะ : “ ไม่สบาย? ฮาวาย รอฉันกับฟีนิกแต่งงานกันแล้ว การมีตัวตนอยู่ของแกก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป! ” อีกด้านหนึ่งทางทิศเหนือในคฤหาสน์หลังหนึ่ง ผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่นรายงานว่า : “ คุณชายน้อยครับ ผู้หญิงที่คุณให้เราตามหามีข่าวคราวแล้วครับ ” เจอาร์หยิบกุญแจรถขึ้นมาพร้อมพูดว่า : “ บอกที่อยู่กับผม ผมจะไปเดี๋ยวนี้ ” วันนั้นหลังจากที่ฟีนิกมาหาเขาแล้ว วันที่สองก็ปล่อยข่าวที่ทำให้ทั่วทั้งเมืองสะท้านไปหมด หลังจากที่ฮาวายหายตัวไป เรื่องแรกที่ผู้ชายคนนั้นทำก็คือแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น?! เจอาร์ขับรถอยู่บนถนน เขาไม่สามารถไม่ดูหมิ่นและไม่ขยะแขยงผู้ชายแบบนั้นที่ไม่รู้จักรักษาคนรักของตัวเองไว้ ตอนที่เจอาร์มองเห็นฮาวาย ก็ถูกท่าทางเลวร้ายของหญิงสาวทำให้ตกใจ หญิงสาวตรงหน้ามีเลือดแห้งติดอยู่บนใบหน้า อากาศที่หนาวเหน็บแบบนี้ สวมแค่เสื้อไหมพรมบางๆที่ทำจากมือ หนาวจนใบหน้าม่วงเขียว “ หมอคะ ช่วยติดต่อกับสามีของฉันหน่อยนะคะ ” อย่างกับว่าฮาวายจับสิ่งที่สามารถช่วยชีวิตเธอได้ ในดวงตาเต็มไปด้วยความหวัง ดวงตาของเจอาร์แดงก่ำไปหมดทันที พยายามพูดอย่างสงบว่า : “ คุณขึ้นรถก่อนเถอะครับ ” ฮาวายมองรถของเขามีความลังเลเล็กน้อย เจอาร์เริ่มร้อนรนขึ้นมา เขาลงจากรถแล้วอุ้มเธอขึ้นโยนลงไปยังที่นั่งเบาะนุ่มด้านหลัง พูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีว่า : “ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลก่อน คุณไม่ได้ทานยามากี่วันแล้ว? ” ฮาวายนั่งอยู่ที่นั่นอย่างเหม่อลอย ตอบเสียงเบาว่า : “ น่าจะประมาณสามสี่วันแล้วค่ะ ” เจอาร์กำพวงมาลัยแน่น เพิ่มความเร็วรีบขับไปยังโรงพยาบาล รถมาถึงถนนทางหนึ่ง ฮาวายมองออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นเธอก็อึ้งและนิ่งไป จู่ๆก็กรีดร้องออกมาเสียงดัง : “ จอดรถ! ” เจอาร์รีบเหยียบเบรคทันที มองไปตามสายตาขอฮาวาย ในใจกระตุกวูบ นอกลานบนหน้าจอขนาดใหญ่ของห้างสรรพสินค้า มีภาพข่าวการแต่งงานของฟีนิกและเอเรีย “ ข่าวดี ” ฮาวายมองไปทางนั้นด้วยสายตาว่างเปล่า น้ำเสียงสงบมากกว่าปกติอย่างนึกไม่ถึง : “ หมอคะ นี่เป็นเรื่องจริงหรอคะ? ” ไม่รอให้เจอาร์ตอบ จู่ๆใบหน้าของฮาวายก็แดงก่ำขึ้นมาตามด้วยเลือดสีแดงสดก็พุ่งออกมาจากปากของเธอ กระเซ็นไปโดนหน้าต่างรถอย่างน่าหวาดเสียว “ ฮาวาย——! ” สามวันต่อมา งานแต่งของฟีนิกและเอเรียถูกจัดขึ้นตามเวลาที่กำหนดไว้ มองหญิงสาวที่อยู่อีกด้านของพรมแดงสวมด้วยชุดแต่งงานสีขาวเดินมาหาตัวเองอย่างช้าๆ ในใจของฟีนิกกลับนึกว่า ตอนที่ฮาวายอยู่กับเขาไม่มีเงินสวมชุดแต่งงานที่ดีแบบนี้ด้วยซ้ำ นึกมาถึงตรงนี้ หัวใจของฟีนิกปวดแปลบ ทุกอย่างที่เขานึกว่าเขาได้ทำไปเพื่อเธอนั้น ก็แค่วิธีหลอกลวงตัวเองเพื่อให้ตัวเองอุ่นใจก็เท่านั้นเอง สายตาของเขามองไปยังหน้าประตูใหญ่ของโบสถ์ ฮาวาย ผมจะเป็นสามีของคนอื่นในเร็วๆนี้แล้ว คุณจะไม่ปรากฏตัวออกมาจริงๆหรอ? ในสายตาที่ร้อนรนและรอคอยของฟีนิก ประตูใหญ่ของโบสถ์ที่ปิดสนิท จู่ๆก็ค่อยๆเปิดออกจริงๆด้วย แสงแสบตาส่องเข้ามาจนคนที่อยู่ข้างในต้องหรี่ตาลง มีแต่ชายหนุ่มที่สวมชุดเจ้าบ่าวเบิกตากว้าง เมื่อมองเห็นคนที่มาอย่างชัดเจนแล้ว เสียงของฟีนิกพูดได้ว่าเล็ดลอดออกมาจากฟันได้เลย : “ เจอาร์ คุณกับฮาวายร่วมมือกันหลอกลวงผม ยังกล้าที่จะมาปรากฏตัวต่อหน้าผมอีก ” ความแตกต่างที่ห่างกันมากแบบนี้ทำให้ชายหนุ่มคนนี้เสียภาพลักษณ์ที่ดีสุดท้ายไป สีหน้าชองเจอาร์เรียบนิ่ง แต่คนที่อยู่ในงานแต่งนี้ต่างก็รู้สึกถึงความโศกเศร้าจากร่างของเขา เขาถือกล่องกระดูกขี้เถ้าไว้แล้วพูดออกมาว่า : “ ฟีนิก ผมพาฮาวายมาร่วมงานแต่งของคุณแล้ว ”