บทที่8 แกก็จัญไรเหมือนกันแหละ   1/    
已经是第一章了
บทที่8 แกก็จัญไรเหมือนกันแหละ
หลังจากที่แม่จากไป พ่อกลับเปลี่ยนไปราวกับคนละคน กลายเป็นคนเงียบงันไม่พูดไม่จา บางครั้งพอมีคนนินทาถึงเรื่องครอบครัวเรา พ่อก็จะจ้องมองตาโตตวาดใส่เขาอย่างไม่ลับตา สายตาที่แผ่ฤทธิ์ราวจะฆ่าคนได้ทันที ถึงแม้ว่าฉันจะเกลียดชังคนเหล่านั้นแค่ไหน แต่ฉันตระหนกหวาดกลัวสายตาคู่นั้นของพ่อเสียมากกว่า ฉันได้แต่ครุ่นคิดสักวันพ่อต้องขาดสติควบคุมตัวเองไม่อยู่ แล้วพุ่งเข้าไปฆ่าปิดปากคนที่นินทาแน่ สภาพพ่อในตอนนั้น คล้ายหรือเหมือนกับอะไร? ราวกับหมาป่าที่พลัดพรากจากคู่ครอง เพราะพ่อเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้ จากที่เคยมีเพื่อนพูดคุยด้วย พอเงียบงันไป เพื่อนเหล่านั้นต่างก็ห่างหายกันไปหมด หรือแม้บางที พอเห็นพ่อกลับมา ผู้คนรู้ก็ปิดประตูหนีใส่เขา ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ฉันเห็นเขา จำต้องเห็นดวงตาที่อาฆาตพยาบาทอยู่ตลอดเวลา พออยู่ไปนานเข้าเขาเริ่มไม่รักตัวเองมากขึ้น ทรงผมรอจนยื่นยาวถึงจะไปตัด หนวดเคราก็โกนน้อยลง เสื้อผ้าก็ใส่แต่สีจืดชื่น ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเศร้าหมองซึมเศร้า ผู้นำในโรงงานข้าวก็เจรจากับเขาหลายรอบแล้ว ท้ายแล้วก็ไม่ได้ประโยชน์ ตำแหน่งงานที่เคยรับผิดชอบก็ถูกเขาขึ้นแทนไปหมด เขาได้เปลี่ยนไปเฝ้าโรงงานแทน มีคนตระหนกกังวลใจหวาดกลัวว่าเขาจะใส่ยาพิษลงในข้าว เลยรีบแจ้งรายงานผู้นำ และตำแหน่งที่ทำอยู่ถูกเปลี่ยนไปเป็นคนกวาดพื้นแทนอีก เขาก็ไม่สะทกสะท้านอะไร ช่วงเวลานั้นฉันเป็นคนทำกับข้าวอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้า อาหารเที่ยง และอาหารเย็น “พ่อค่ะ กินข้าว” พอกับข้าวเสร็จเรียบร้อยก็ตะโกนร้องเรียก บางครั้งเขาก็ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะกินข้าว และบางครั้งก็ทำเป็นไม่ได้ยินอะไร เขาไม่พูดมาจากับฉัน พ่อคงไม่รักฉันแน่เลย ฉันครุ่นคิด หลังจากแม่จากไปหนึ่งเดือน ฉันเคยทะเลาะกับเขาครั้งหนึ่ง วันนั้น พอเลิกงานเสร็จไปซื้อเหล้าแม่วังวารีมาขวดหนึ่ง หลังจากทานข้าวเสร็จ ก็เริ่มต้นดื่มด่ำมันขึ้น ฉันเอ่ยบอก พ่อ พอเถอะ เขาเงยหน้ามามองฉัน แล้วก้มหน้าหงุดลงดื่มต่อ ฉันไม่สนใจเขา ทานข้าวของตัวเองไป พอเรียบร้อยแล้วก็เก็บจาน แล้วไปทำการบ้านต่อ ฉันเพิ่งจะเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่หกเอง ไม่นานก็จะเปิดเทอมแล้ว คะแนนเกรดมนช่วงนั้นแย่อย่างสุดขีดมาก คุณครูเคยเรียบพบหลายรอบแล้ว ให้เชิญผู้ปกครองมา เชิญบ้าบออะไรกัน? เขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว เรื่องที่เกี่ยวกับครอบครัวฉัน แม่ก็ไปหาเงินทำธุรกิจใหญ่ ขึ้นรถไปกับรถเก๋งแล้ว แม่ทิ้งฉันกับพ่อไป ฉันเป็นลูกที่ถูกปล่อยปละละเลย ฉันไม่ได้บอกพ่อ เรื่องให้เชิญผู้ปกครอง ถึงบอกไปก็ไม่ไปอยู่ดี คุณครูก็คงจะได้ยินเรื่องครอบครัวฉันมาคราว ๆ บ้างแล้ว และหากจะพูดคุยอะไรกับคนอย่างพ่อฉันคาดว่าคงยากที่จะเข้าใจ ต่อมาก็พูดคุยกันไปอย่างงั้นแหละ คะแนนเกรดเฉลี่ยฉันห่วยแตกแย่มาก เลยเป็นเหตุที่ไม่ได้เลื่อนชั้น และยังคงยังเรียนอยู่ชั้นเดิมอยู่เช่นนั้น ตอนนั้น บุคคลที่มีเกรดเฉลี่ยการเรียนดีก็ออกไปเรียนนอกเขตกัน (นั่นไง พอพูดถึงเรื่องราวต้องนอกลุนอกทางทุกทีเลย เรามาพูดถึงเรื่องค่ำคืนวันนั่นกันต่อดีกว่า พอพ่อดื่มไปดื่มมาก็ร้องไห้โฮขึ้นมา เขาคงเจ็บปวดทรมานมาก ฉันเห็นเขายกมือทั้งสองมือกุมหัวไว้ ไม่หยุดที่จะทุบตีลงไปที่หัวกะโหลกตัวเอง จนบางครั้งถึงขั้นถอนดึงเส้นผมตัวเองออก “พ่อค่ะ พ่อไม่รู้สึกว่าที่ต้องเป็นเช่นนี้เพราะตัวพ่อเองเหรอค่ะ?” ฉันวางปากกาลง ครุ่นคิด ราวกับจ้องมองคนที่น่าสมเพชอย่างผู้ชายคนนี้ พ่อเงยหน้าขึ้นมองฉัน ดวงตาที่ไร้เดียงสาหาจุดหมายปลายทางไม่พบ อย่างว่าคนดื่มเหล้านะ ยังไงก็ทำอะไรเชื่องชากว่าปกติอยู่แล้ว “ถ้าหากพ่อรู้จักทำดีกับแม่หน่อย ไม่ทุบตบตีแม่ ไม่ด่าแม่ แม่จะทิ้งเราไปมั้ย? พ่อเป็นคนที่ทำให้แม่ต้องไปจากเรา!” ฉันไม่มีความรู้สึกผูกพันอะไรกับเขาแล้ว พูดจบ ก็ก้มหน้าก้มตาทำการบ้านต่อ “แม่แกมันเลี้ยงไม่เชื่อง! ฝ่ายสูง เพื่อไปอยู่กับคนรวย ถึงได้หนีไปกับไอ้คนรวยนั่นไง! แม่แกก็ไม่เอาแกเหมือนกันแหละ? ดังนั้นเนี่ย แม่แกไม่ต้องการเราทั้งคู่แหละ” ผ่านไปสักพัก เขาปลีปากออกเอ่ยพูด ด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง พูดไปพูดมาก็หัวเราะดังลั่นขึ้น แบบฝืนใจอย่างนั้นอะ “คนจัญไร.....ข้ารักเขามากเพียงนั้น.....เงินทองทุกบาททุกสตางค์ก็ให้เขาหมดแล้ว.....ฉันขอโทษเขาทุกครั้งทุกครา.....เขากลับสวมเขาให้ข้า.....ไอ้คนจัญไร.....แกก็จัญไรเหมือนกัน....” ฉันได้ยินพ่อเอ่ยพูดอย่างติด ๆ ขาด ๆ พอจบประโยคนี้ เสียงถูขยับของเก้าอี้ก็ดังก้องขึ้น รู้สึกราวกับมีเงาดำเคลื่อนผ่านเข้ามา
已经是最新一章了
加载中