บทที่ 8 ทำไมไม่ไปตายซะ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 8 ทำไมไม่ไปตายซะ
“เสียเปรียบงั้นหรอ” เคนยิ้มอย่างเยือกเย็น “ผมกับผอ.ศักดิ์ก็ถือว่ายังสนิทสนมกันอยู่นะ ถ้าคุณตอบคำถามของผมอย่างตรงไปตรงมา ผมจะช่วยคุณปิดเป็นความลับ” หมอหลิวกลัวจนขาสั่น “คุณเคนถามมาได้เลยครับ ผมจะบอกคุณทุกอย่างๆแน่นอน” “หมู่นี้มีผู้หญิงที่ชื่อฐิสามาหาคุณให้คุณจับชีพจรเพื่อที่จะดูว่าเด็กในท้องเป็นเพศชายเพศหญิงหรือเปล่า” เคนถามด้วยสายตาโกรธ “มีครับ” “คุณแน่ใจใช่ไหม” หมอหลิวพยักหน้ารับ “หมู่นี้ในโรงพยาบาลตรวจได้เคร่งครัด เพศของทารกนั้นห้ามพูดเป็นอันขาด ไม่กี่วันมานี้ ผมมีแค่ผู้ป่วยเพียงหนึ่งคน หล่อนพูดไปร้องไห้ไปว่าที่บ้านสามีเร่งรัดมาก ต้องคลอดเพียงลูกผู้ชายเท่านั้น ไม่อย่างนั้นละก็ชีวิตเด็กคนนี้ไม่รอดแน่ ผมเห็นหล่อนน่าสงสารจึงบอกกับหล่อนว่า หล่อนนั้นมีโอกาสท้องเป็นลูกผู้หญิงสูงมาก” เคนโกรธมากแต่พยายามให้ตัวเองนั้นใจเย็นลง “แน่ใจนะ” “แน่ใจครับ ผมจำได้ว่าใบลงทะเบียนชื่อนั้นเป็นชื่อคุณฐิสา เพราะว่าผมบอกหล่อนเพียงแค่คนเดียว ผมก็เลยจำได้ดี” เคนลุกขึ้นอย่างพลุนพลัน พร้อมก้าวเท้าออกจากห้องทำงานของหมอ หมอหลิวค่อยๆผ่อนหายใจอย่างช้าๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อที่จะส่งข้อความ “คุณทอรุ้งครับ เรื่องที่คุณให้ผมทำผมจัดการให้เรียบร้อยแล้วนะครับ หวังว่าคุณจะปล่อยผมไปได้แล้วนะครับ” เคนขับรถกลับบ้านเพียงลำพัง ถ้าจะบอกว่าเป็นคฤหาสน์ของเคนก็ไม่ถูกนักเพราะว่าหลังจากแต่งงงาน คฤหาสน์ที่ดีเลิศแห่งนี้ก็เป็นของฐิสามาโดยตลอด เพียงแต่เคนจะมาบ้างเป็นครั้งคราว ถึงแม้ว่าจะเข้ามาแต่ก็ไม่ได้นอนค้าง พอมีอะไรกับฐิสา เคนก็จะรีบออกจากคฤหาสน์ไป เคนเข้ามาด้วยสีหน้าอย่างโกรธๆ สีหน้านั้นทำเอาพี่มะปรางตกใจ มะปรางกำลังจะเอาซุปไก่ไปยังชั้นบน “คุณผู้ชายกลับมาแล้วหรอค่ะ” เคนเดินผ่านมะปรางไป เห็นในมือหล่อนถือซุปอยู่ก็เดินเข้าไปแย่งแล้วเอาเขวี้ยงลงบนพื้น มะปรางกลัวจนใจสั่น “มันยังสมควรที่จะได้กินซุปอีกหรอ” พูดจบเคนก็เดินขึ้นไปชั้นบน ถีบประตูห้องนอนให้เปิดออก ในห้องนอน พี่แก้วกำลังปลอบประโลมให้ฐิสากินอาหารอยู่ ทั้งสองตกใจที่ได้ยินเสียงถีบประตู “ไสหัวไป” “คุณผู้…..” พี่แก้วเห็นสีหน้าของเคนที่ดำคล้ำเหมือนกับก้นหม้อที่ไหม้กำลังโกรธอยู่ ก็คงเป็นเพราะว่าตัวพี่แก้วเองที่นำเอาเรื่องที่ฐิสาไปทำแท้งบอกกับทอรุ้ง หล่อนรู้อย่างแน่นอนว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น “คุณผู้ชายค่ะ คุณฐิสาเพิ่งแท้ง ร่างกายอ่อนแอมากนะค่ะ คุณ…..” “ฉันบอกว่าให้ไสหัวออกไป” เคนตะคอกใส่ พี่แก้วกลัวจึงรีบออกจากห้องทันที ฐิสาเหมือนกับขอนไม้ ไม่ขยับเขยื้อน สีหน้าไม่มีความรู้สึก เคนเข้าไปจับเสื้อฐิสาไว้แน่น จนร่างกายของหล่อนได้ถูกช้อนขึ้นมา “ฐิสา ทำไมเธอถึงทำแบบนี้ นั่นมันลูกของฉัน ลูกของฉัน” ฐิสายิ้มอย่างเลือดเย็นทันที “ลูกของเธองั้นหรอ เธอพูดว่าถึงแม้ว่าฉันจะท้อง ลูกของฉันก็ต้องออกมาดุร้ายเหมือนกันไม่ใช่หรอ” เสียงของฐิสาไม่มีเรี่ยวแรง เห็นหน้าฐิสาไม่แสดงอาการใดๆ เคนยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ เขาจับเสื้อของฐิสาไว้แน่นดึงระยะห่างของคนทั้งสองคนให้ใกล้ชิดกัน “เธอกลายเป็นคนแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมถึงได้ใจร้ายขนาดนี้ ผู้หญิงที่ร้ายๆยังไม่เท่ากับเธอเลย เสือแม้มันจะร้ายมันก็ไม่ทำร้ายลูกของตัวเองหรอก ทำไมเธอกลับทำตามใจตนเอง…..” เคนกัดฟันกรอด เขาโกรธจนตัวสั่นไปหมด นี่ยังคงเป็นฐิสาที่ไร้เดียงสาที่เขารู้จักอยู่หรือเปล่า เขาเคยคิดว่ารอยยิ้มของหล่อนเป็นรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ที่สุด หรือว่านี่เขาจะตาบอดไปแล้ว “ทำไมเธอไม่ตายไปซะ? ฐิสา ทำไมเธอยังหน้าด้านอยู่ต่อ เธอมันสมควรที่จะตาย! ทำไมไม่ตายๆไปซะ!” สีหน้าและสายตาของเคนดุร้าย เขาอยากจะบีบร่างของฐิสาให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ นั่นคือลูกของเขางั้นหรอ! คือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาหรอ! เขายังไม่รู้ว่าตัวเขาเองอยู่ในตำแหน่งอะไรก็กลับถูกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนี้ฆ่าเสียแล้ว เขาอยากที่จะเอาผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าออกมาแล่เนื้อเป็นชิ้นๆแล้วเอาเกลือทาเสีย ฐิสายังคงเหม่อมองมาที่เคนตามเดิม “งั้นเธอก็ฆ่าฉันเลยเถอะ” “เธอคิดว่าฉันไม่กล้าใช่ไหม” เคนเปลี่ยนทิศทางของสองมือ เดิมทีจากที่เอามือมาจับที่ปกคอเสื้อของฐิสา ก็เปลี่ยนมาบีบที่คอของหล่อนแทน เพราะว่าความโกรธ หน้าอกของเขาจึงขยับขึ้นๆลงๆ เขาเห็นสีหน้าของฐิสาที่ขาวซีดเซียวก็อยากที่จะบีบคอหล่อนให้ขาดจริงๆ เพื่อเป็นการแก้แค้นแทนลูกของเขา แต่ว่า ในสมองของเขามีภาพปรากฏเป็นฐิสาคนเดิม คนที่มีรอยยิ้มที่บริสุทธิ์และมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ฐิสาหลับตาลงอย่างเจ็บปวด หลายวันมานี้หล่อนขวนขวายหาความตาย เพียงแต่ตอนที่อยู่โรงพยาบาลนั้น ฟ้าดูแลอย่างใกล้ชิด กลับมาบ้านพี่แก้วและมะปรางก็ดูแลอย่างใกล้ชิดอีก เลยไม่มีโอกาสนั้นเลย ในที่สุดวันนี้ก็สมใจตัวเองซะที แต่ว่า เคนกลับปล่อยมือในทันที ทำให้ร่างของฐิสาไปอยู่ที่บนเตียง เสียงสิ่งของกระทบกัน “โครม” ของทั้งหมดที่อยู่ในห้อง เคนเห็นก็ถือมาทุบทำลายและปาลงกับพื้น เขาไม่มีทางที่จะฆ่าผู้หญิงที่เขารักมาตั้งหลายปีด้วยน้ำมือของตัวเอง ก็เลยทำได้แค่ระบายไปกับสิ่งของเหล่านี้ พี่แก้วและมะปรางทำได้แค่ยืนอยู่ปากประตูข้างนอก ฟังเสียงจากข้างใน กระทืบเท้าด้วยความใจร้อน นานมากที่เสียงของแตกได้ถูกเขวี้ยงลงกับพื้น ในที่สุดเคนก็ละมือ เขาดูเหมือนจะระบายพอแล้ว ตัดสินใจเปิดประตูแล้วเดินออกไป ก่อนจะไปนั้นเขาก็ไม่ได้มองมาที่ฐิสาเลยแม้แต่น้อย เคนจากไปแล้ว พี่แก้วและมะปรางก็รีบเข้าไปในห้องนอนทันที “คุณหนูเป็นอะไรไหมค่ะ” เห็นของที่กระจัดกระจายเรี่ยราดไปตามพื้น พี่แก้วและมะปรางก็ตกใจ ฐิสากลับเหมือนท่อนไม้ นั่งอย่างเหม่อลอยอยู่บนเตียงนอน ไม่พูดไม่จา พี่แก้วและมะปรางเริ่มเก็บของที่อยู่ในห้องทันที “ไม่ต้องเก็บหรอก มานี่ ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย” เสียงของฐิสานั้นอ่อนพริ้ว ฟังแล้วไม่บ่งบอกถึงอาการใดๆ พี่แก้วและมะปรางมองหน้ากันแล้วไปที่ข้างๆเตียงนอน “ฉันรู้ว่าที่บ้านพี่แก้วและมะปรางนั้นมีสภาพความเป็นอยู่ไม่ค่อยดีนัก ไม่งั้นก็คงไม่มาเป็นคนรับใช้บ้านอื่นหรอก แต่ว่าต้องขอโทษด้วยจริงๆนะ ฉันไม่มีเงินจ้างพี่แก้วและมะปรางอีกต่อไปแล้ว สภาพที่เป็นตอนนี้ของฉันเอง พี่แก้วและมะปรางก็น่าจะรู้นะ” “คุณหนู…….” เห็นใบหน้าของฐิสาเป็นเช่นนี้ น้ำตาของมะปรางก็ไหลพรากออกมา ฐิสายันร่างตัวเองขึ้นอย่างยากลำบาก ดึงลิ้นชักที่อยู่บนหัวนอนออกและเอาเครื่องประดับออกมา “มะปราง แม่ของเธอป่วยไม่ใช่หรอ? ฉันคิดว่ากำไลหยกนี้ยังมีมูลค่าอยู่นะ เธอเอาไปสิ” ฐิสาเอากำไลหยกยื่นให้มะปราง “คุณหนู ฉันจะเอา……” “บอกให้เอาไปก็เอาไปสิ พี่แก้วและมะปรางอยู่กับฉันลำบากมาก็ไม่น้อยเลย ให้สิ่งนี้กับพวกพี่แล้วฉันรู้สึกระอายใจจัง” มะปรางเอากำไลหยกมาถือไว้ในมือ “พี่แก้ว สามีพี่ขาไม่ค่อยดี ปกติต้องดื่มยาตลอด นี่หยกเจ้าแม่กวนอิมและก็สร้อยคอทอง พี่เอาไปสิ” พี่แก้วรับของมาไว้อย่างสั่นๆ “ห้องนี่ก็ไม่ต้องเก็บหรอก ไปเก็บข้าวเก็บของของพวกพี่ดีกว่า ฉันดูแลตัวเองได้” “คุณหนู…….” “พวกพี่อยู่ที่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ฉันไม่มีเงินเดือนจ้างพวกพี่นะ” ทั้งสองคนหันหลังค่อยๆเดินออกไป พี่แก้วมองหยกเจ้าแม่กวนอิมและสร้อยคอทองที่อยู่ในมือ หัวใจของพี่แก้วก็เหมือนถูกอะไรแทง นี่คือของที่มีค่าชิ้นสุดท้ายของฐิสา แต่ว่าฐิสายังคงกลับคิดถึงพวกคนรับใช้อย่างพวกหล่อนอยู่ “คุณหนู” พี่แก้วหันตัวกลับมาทันที “ตุ้บ”เสียงคุกเข่านั่งลงกับพื้น “พี่ขอโทษ พี่ขอโทษนะคุณหนู”
已经是最新一章了
加载中