บทที่ 7 ข้าวหอม   1/    
已经是第一章了
บทที่ 7 ข้าวหอม
ข้าวหอม ชื่อเพราะจัง ปริมมองดูรูปของข้าวหอม เธอรู้สึกว่าเธอสวยมากจากใจจริง หลังจากที่อ่านประวัติของข้าวหอมแล้ว ปริมก็รู้สึกว่าเธอเองต่ำต้อยมาก เธอหน้าตาสวย หุ่นดี ฐานะทางบ้านก็ร่ำรวยมาก จบการศึกษาจากต่างประเทศ และที่สำคัญ เธอเป็นทนายสาวอันดับหนึ่งของประเทศ ค่าว่าความของเธออย่างน้อยต้องมีหลักสิบล้านเป็นอย่างต่ำ เมื่อเทียบกับข้าวหอมแล้ว ปริมสู้เธอไม่ได้จริง ๆ เธอไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง กินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่สองวัน ปริมได้แก้ไขข้อความอยู่หลายสิบรอบแล้วก็ได้ตัดสินใจกดส่งออกไปในที่สุด ‘คืนนี้ประธานฌอนจะมาไหมคะ?’ ข้อความนี้ก็ยังถูกส่งไปหาชินทร์ตามเดิม หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ชินทร์ก็ตอบเธอกลับมาว่า ‘ช่วงนี้ประธานฌอนยุ่งมาก ไม่ได้ไปครับ’ เมื่อได้รับคำตอบ เธอก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวังอะไรมากนัก มันเป็นคำตอบที่เธอคาดเดาเอาไว้อยู่แล้ว เธอไม่มีอะไรทำ เมื่อรู้ตัว เธอก็เดินมายังบริษัทฐากูรแล้ว เธอเดินกลับไปกลับมาอย่างนั้นอยู่หลายครั้ง มีอยู่สองครั้ง ปริมบังเอิญเห็นข้าวหอมและฌอนอยู่ด้วยกันพอดี ชายหนุ่มใส่ชุดสูทสีดำ กับหญิงสาวที่สวมใส่ชุดแซกสีน้ำเงิน พวกเขาทั้งสองยืนอยู่ด้วยกัน ดูเหมาะสมกันมากราวกับกิ่งทองใบหยก เธอตามหาฌอนมาห้าปีเต็ม ๆ ในที่สุดก็ได้เจอเขา แล้วก็แอบมีความสัมพันธ์กับเขามาตลอดหนึ่งปี มันถึงเวลาที่ควรจะหยุดได้แล้ว ในตอนนี้เขาก็มีว่าที่ภรรยาแล้วด้วย เธอไม่ควรจะมีตัวตนอยู่อีกต่อไป เธอต่ำต้อยมากจนต้องไปเป็นกิ๊กของเขา แต่เธอก็ยังไม่ได้ต่ำช้าจนต้องไปเป็นเมียน้อยของคนอื่น แต่เธอก็ยังอยากจะต่อสู้ดิ้นรนอีกสักนิด เธอทำใจเสียเขาไปไม่ได้ จนกระทั่งข้าวหอมตามมาหาเธอถึงที่ เธอถึงได้รู้ว่าในใจของฌอนนั้น เธอไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ในตอนที่ข้าวหอมปรากฎตัวขึ้นที่ทางเข้าคฤหาสน์ เธอกำลังดูโทรทัศน์อยู่อย่างเซื่องซึม เมื่อเผชิญหน้ากับการมาเยือนของข้าวหอม เธอก็ทำตัวไม่ถูก เมื่อเทียบกับความเย่อหยิ่งและความมั่นใจของคุณหนูที่มาจากตระกูลร่ำรวยอย่างข้าวหอมแล้ว ปริมก็เหมือนกับผู้หญิงบ้าน ๆ ธรรมดา ๆ คนหนึ่ง เธอไม่มีคำพูดที่สวยหรู กริยาท่าทางของเธอก็ดูเป็นคนโง่ ๆ แววตาของข้าวหอมค่อนข้างเย็นชา เธอมองสำรวจปริม รอยยิ้มของเธอแฝงไปด้วยความเย่อหยิ่งและดูถูกเธอ ข้าวหอมไม่อยากจะเสวนากับผู้หญิงอย่างปริมเลย เธอเป็นลูกคุณหนูตระกูลใหญ่ ไม่มีเวลามากลั่นแกล้งเธอหรอก หลังจากที่เธอเข้ามาแล้ว เธอก็เอาเงินก้อนหนึ่งให้ปริม แล้วก็วางปากกาบันทึกเสียงเอาไว้ให้เธอด้วย ปริมไม่ได้แตะต้องเงิน เธอสนใจเพียงแค่ปากกาบันทึกเสียงด้ามนั้นเท่านั้น มือของเธอสั่นไปหมด ก่อนที่เธอจะเปิดปากกาบันทึกเสียง เธอก็พอจะเดาเนื้อหาข้างในออก แต่เธอนึกไม่ถึงเลยว่าเสียงที่ถูกบันทึกมานั้นจะเป็นบทสนทนาของข้าวหอมและฌอน ข้าวหอมถามฌอนว่า ‘คุณจะจัดการกับผู้หญิงคนนั้นอย่างไรคะ? พวกเราหมั้นกันแล้วนะคะ คุณยังจะเลี้ยงดูเธออีกต่อไปเหรอ?’ หัวใจของปริมกระตุกวาบ ในหัวของเธอขาวโพลนไปหมด คำถามที่ข้าวหอมถามออกมานั้น ไม่ว่าฌอนจะตอบเธอไปอย่างไร ปริมก็คงจะต้องรู้สึกแย่อย่างแน่นอน ฌอนคงไม่บอกว่าจะเลี้ยงดูกิ๊กไว้ต่อหน้าว่าที่ภรรยาของเขาหรอก ปริมรอฟังเสียงของชายหนุ่มอย่างตั้งอกตั้งใจ ‘เลี้ยงดูเธอ? ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะ ผมก็แค่ซื้อของและให้เงินเธอเยอะหน่อย ไม่ถึงกับเป็นการเลี้ยงดู’ ปากกาบันทึกเสียงมีเพียงแค่สองประโยคนี้เท่านั้น ไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นอีกเลย เธอเข้าใจไปเองว่าเธอนั้นอยู่ในสถานะกิ๊กของเขา แต่นึกไม่ถึงเลยว่า… อากาศที่กำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ฤดูหนาว ในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ มีสายโลมโชยเข้ามาทำให้เธอรู้สึกเย็นวาบข้าไปถึงในหัวใจ มันทั้งหนาว และเจ็บ… ในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอออกมาจากคฤหาสน์อย่างไร ประโยคสองประโยคที่ถูกบันทึกไว้ในปากกาบันทึกเสียงนั้นทำให้ปริมนั่งอยู่บนพื้นอย่างนั้นทั้งคืน ในตอนกลางวันเธอก็ยังคงเหม่อลอยอยู่อย่างนั้น ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไร เมื่อเพื่อนร่วมงานมองเห็นท่าทีหมดอาลัยตายอยากของเธอ ก็เข้ามาพูดเรื่องหาคู่ครองกับเธออีกครั้ง ปริมคิดอยู่นาน เมื่อคิดว่าตัวเองคงไม่สามารถอยู่ข้างกายของฌอนได้อีกต่อไปแล้ว เธอก็เลยพยักหน้าตอบตกลงไป ในคืนนั้น เธอไปเจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่าภูผา ปริมรู้จักผู้ชายคนนี้ เขาเป็นอาจารย์ที่สอนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย ภูผาดูดีพอสมควรเลย เขาดูแลปริมดีมากตลอดเวลาที่ทานอาหารและดูหนังด้วยกัน แต่ว่าคนที่มาทานข้าวและดูหนังกับเธอไม่ใช่เขาคนนั้น ปริมก็เลยไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมามากนัก ในตอนที่เขามาส่งปริมกลับบ้าน ด้วยความที่กลัวว่าจะมีปัญหาตามมาทีหลัง ปริมก็เลยให้ภูผาหยุดจอดส่งเธอที่ถนนข้างทางที่ยังอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวคฤหาสน์ อีกสองกิโลเมตรที่เหลือ เธอตั้งใจจะเดินกลับไปเอง เมื่อภูผาเห็นว่าปริมค่อนข้างรักษาระยะห่างต่อเขา ในใจก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ปริมไม่รู้หรอกว่าเพื่อนร่วมงานที่กระตือรือร้นมาแนะนำคู่ครองให้กับเธอ ล้วนแต่เป็นแผนการของภูผาทั้งนั้น ภูผาแอบมองเธอมานานแล้ว เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ ปริมไม่ใช่ผู้หญิงที่มองเห็นแล้วถึงกับทำให้คนตะลึงในความสวย แต่เมื่อเขายิ่งมองเธอกลับยิ่งรู้สึกชอบ เขาแอบติดตามเธออยู่สักพัก และเริ่มมีความความคิดที่อยากจะตามจีบผู้หญิงที่ดูเรียบง่ายคนนี้ เขาชอบเธอ แต่ดูเหมือนว่าปริมไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลย ภูผากำมือแน่น เขาวางแผนจะเปลี่ยนวิธีการเข้าหาปริมอีกแบบหนึ่ง “ปริม ผมขอเรียกชื่อคุณเฉย ๆ แบบนี้ได้ไหมครับ?” ปริมดึงสติที่กำลังเหม่อลอยอยู่กลับมา เธออึ้งไปเล็กน้อย แล้วพยักหน้าให้เขาด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน วันนี้เธอไม่ค่อยเป็นปกตินัก เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนอื่นจะรู้สึกได้ไหม ภูผาทำสีหน้าจริงจัง ท่าทางของเขาดูเคร่งขรึมขึ้นมาก “ปริม ผมคิดว่าผมรักคุณเข้าให้แล้ว ไม่ว่าวันนี้คุณจะรู้สึกกับผมอย่างไร ผมก็หวังว่าคุณจะให้โอกาสผม ให้ผมได้จีบคุณ พรุ่งนี้ผมขอมารับคุณไปทำงานได้ไหมครับ?” ดวงตาของหญิงสาวที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเบิกโพลงขึ้น นัยน์ตาของเธอแฝงไปด้วยความตกใจ
已经是最新一章了
加载中