ตอนที่ 9
ป้าวิไลกล่าวพลางเอากระเป๋าสะพายเข้าไปวางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งในห้องของณชนกซึ่งเป็นสิ่งที่นางทำให้หญิงสาวจนเคยชินตั้งแต่เป็นแม่บ้านรับใช้บิดามารดาของเธอมาเกือบสามสิบปี ร่างบอบบางเดินตามเข้าไปและอดที่จะมองร่างเล็ก ๆ ของลูกสาววัยกำลังซนที่นอนหลับปุ๋ยใต้ผ้าห่มไม่ได้ ยิ่งเห็นคลีโอในยามนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกตีบตันเมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนหัวค่ำ
“วันนี้กลับดึกนะคะ งานยุ่งเหรอคะคุณแนน”
“ค่ะ...งานค่อนข้างจะยุ่ง ป้าวิไลรู้ไหมคะว่าวันนี้แนนได้เจอใคร”
“ใครเหรอคะคุณแนน”
“เฮ็คเตอร์ค่ะ...แนนเจอเฮ็คเตอร์”
คำบอกเล่าทำให้หญิงวัยกลางคนชะงักไป ชื่อนั้นทำให้วิไลแทบไม่ต้องครุ่นคิดเพราะนางเองก็ยังจำชายหนุ่มผู้นั้นได้เสมอ
“จริงเหรอคะคุณแนน”
เสียงของวิไลลดต่ำลงขณะจูงมือหญิงสาวออกมายังห้องรับแขกเพราะกลัวว่าเสียงพูดคุยจะรบกวนการหลับของแม่หนูน้อย
“คุณแนน...เจอเขาที่ไหนเหรอคะ”
“แนนเจอเขาที่โรงแรมค่ะ”
“เขาไปทำอะไรที่นั่นเหรอคะ...แล้ว...คุณแนนเจอเขาได้ยังไง”
ณชนกพยายามสกัดน้ำรื้นบนขอบตา ทุกครั้งที่พูดถึง เขา คนนั้นต่อหน้าแม่บ้านคนเก่าแก่เธอมักจะควบคุมความรู้สึกไม่ได้ทุกครั้ง
“บอกป้ามาสิคะว่าคุณแนนเจอเขาได้ยังไง” ป้าวิไลที่จับมือหญิงสาวไว้แน่นดึงข้อมือบางให้ร่างนั้นนั่งลงบนเก้าอี้ภายในห้องรับแขก
“เขาเป็นเจ้าของโรงแรมที่แนนทำอยู่ค่ะ”
“ห๊า!...อะไรนะคะ จริงเหรอคะคุณแนน” วิไลมีอาการตกใจซึ่งไม่ต่างไปจากหญิงสาวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสน หวาดหวั่นแม้จะดีใจอย่างที่สุด
“แล้วเขา..เป็นยังไงบ้างคะคุณแนน”
ณชนกเงียบไปกระทั่งแม่บ้านเห็นน้ำตาหยดไหลลงบนแก้มของหญิงสาวเป็นทาง แทบไม่มีเรื่องใดเกี่ยวกับณชนกที่วิไลไม่รู้ นางรู้ทุกอย่างแม้แต่เรื่องคนรักซึ่งเป็นอดีตอันเจ็บปวดของหญิงสาวที่มีความรักมั่นคงจวบจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครมาแทนที่ผู้ชายคนนั้นได้
“คุณแนนคุยอะไรกับเขาบ้างไหมคะ หรือไม่...เขาได้คุยอะไรกับคุณแนนบ้างไหม”
“เราคุยกันไม่มากค่ะป้าวิไล ตอนนี้เฮ็คเตอร์เป็นถึงเจ้าของโรงแรมใหญ่ระดับพันล้าน มันไม่น่าเชื่อใช่มั้ยคะป้า” น้ำเสียงนั้นไม่บ่งบอกความตื่นเต้น มันเลื่อนลอยเสมือนไม่อาจจับต้องได้
“ค่ะ...ไม่น่าเชื่อ ป้าเองก็คิดว่าคุณแนนคงไม่ได้เจอกับเขาอีกแล้ว”
“พรุ่งนี้แนนจะไปหาเขาน่ะค่ะป้า...แนนรู้ตัวดีว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในฐานะที่ต่ำต้อย เทียบกันไม่ได้เลยกับเขา แต่แนนก็แค่อยากรู้ว่า...เมื่อห้าปีที่แล้วเขาไปไหน”
ณชนกแทบไม่ได้สังเกตเลยว่ามือของวิไลที่จับมือของเธอไว้แน่นคลายลงในทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของแม่บ้านวัยกลางคนก็เปลี่ยนไป เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจที่นางไม่สามารถพูดออกมาได้วิไลแค่นยิ้มกลบความรู้สึกบางอย่างที่กำลังแล่นปรี่ขึ้นมา
“คุณแนนไปพักผ่อนเถอะนะคะ ดึกแล้ว...พรุ่งนี้คุณแนนต้องไปทำงานแต่เช้านี่ไม่ใช่เหรอคะ”
“ค่ะ...ป้าคะ...แนนอยากรู้เหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เกิดอะไรขึ้นกับเฮ็คเตอร์ เขาคงจะไม่โกหกแนนหรอกนะคะ ว่าเขาไปไหนมา”
วิไลยิ้มกับร่างบางที่ลุกขึ้นและเดินกลับเข้าห้อง นางมองเห็นความสับสนและหวั่นกลัวฉายออกมาจากแววตาคู่นั้นซึ่งมันทำให้ตัวนางเองก็รู้สึกสะท้อนสะเทือนใจเช่นเดียวกัน วิไลเผลอหลั่งน้ำตาและรำพึงกับตัวเองเบา ๆ
“คุณแนน...ป้าขอโทษนะคะ...ป้าขอโทษ”