ตอนที่ 2
หนึ่งล้านดอลล่าห์...เงินมหาศาลสำหรับพนักงานเสิร์ฟอย่างเธอที่ทำงานนับสิบปีก็ไม่มีวันเก็บเงินได้มากขนาดนั้น และที่สำคัญเหนืออื่นใด...มารดาของเธอกำลังประสบกับโรคร้ายที่ต้องใช้เงินในการรักษาอย่างเร่งด่วน ซึ่งถ้าหากเธอจะคอยความช่วยเหลือจากสวัสดิการรัฐอาจไม่เพียงพอ
ชาคริยารับปากนาธาเนียล กับการที่ต้องไปเป็นผู้ดูแลส่วนตัวให้กับมหาเศรษฐีอายุคราวพ่อ เธอไม่มีทางเลือกอื่น มันไม่ใช่การขายตัว ก็แค่สละเวลาเพื่อผู้สูงวัยคนหนึ่งแลกกับค่าแรงที่เธอจะนำมันมาจุนเจือครอบครัวตัวเองได้
“เขาเป็นมหาเศรษฐีน่ะค่ะแม่...รวยมากและเขาก็เต็มใจจะจ้างหยิน...เอ้อ...เป็นเงินหนึ่งแสนดอลล่าห์”
เธอจำต้องโกหกเพราะถ้าหากบุษบารู้ว่ามากกว่านั้นอาจตกใจและอาจตั้งคำถามต่อไปซึ่งมันจะดีกว่าหากเธอจะตัดปัญหาด้วยการบอกตัวเลขที่มารดารับได้
“นั่นก็มากนะลูก...โอ...ตั้งแสนดอลล่าห์ แม่หาทั้งชีวิตก็คงไม่มีวันได้...แล้วนี่ลูกจะเดินทางกี่โมง”
“คุณนาธาเนียลให้คนของเขามารับตอนบ่ายโมงค่ะ หนูจะเดินทางไปแซนแฟรนซิสโกกับเครื่องบินส่วนตัวของเขา”
บุษบามองบุตรสาวคนเดียวที่นางเลี้ยงดูมาหลังจากสามีเสียชีวิตตอนชาคริยาคลอดเพียงไม่กี่เดือน นางแต่งงานใหม่กับชาวอเมริกันและย้ายจากเมืองไทยมาอยู่ที่บร๊คลินกระทั่งสามีใหม่เสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อน หลังจากนั้นบุษบาก็ต้องอดทนเลี้ยงดูลูกสาวที่ไม่สามารถส่งเธอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ ชาคริยาต้องทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในภัตตาคาร ทำงานเลี้ยงแม่ที่มาทราบภายหลังว่าเป็นโรคมะเร็ง ดูเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดในเวลาที่ทุกอย่างกำลังแตกสลาย
แต่แล้วก็เหมือนมีแสงสว่างสาดส่องเข้ามาเมื่อลูกสาวของเธอรับงานของมหาเศรษฐีแลกกับเงินค่าจ้างเพื่อนำมารักษาโรคร้ายที่กำลังจะคร่าชีวิตบุษบา ชาคริยาช่วยยื้อชีวิตของนางไว้ด้วยเงินก้อนใหญ่หลังพาเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยไม่ต้องรอสวัสดิการช่วยเหลือจากรัฐบาล
“หยิน...ตั้งใจทำงานนะลูก แม่อยู่คนเดียวได้และจะพยายามรักษาตัวเองเพื่อให้หาย”
“ขอบคุณค่ะแม่”
ชาคริยาหอมแก้มมารดาก่อนจะรีบจัดเสื้อผ้าลงกระเป๋าเดินทางเพียงใบเดียวและออกจากห้องเช่าราคาถูกไปรอคนของนาธาเนียลมารับตามที่เขาบอกเธอเอาไว้ ขณะที่รอคอยคนของมหาเศรษฐีสูงวัยมารับที่หน้าอพาร์ทเมนท์หญิงสาวก็อดที่จะนึกถึงคำพูดประโยคหนึ่งของเขาไม่ได้
“ชีวิตของฉันมีเงินทองมากมายก็จริง แต่คนที่อยู่รายรอบตัวฉันไม่มีใครที่จะจริงใจ ฉันเป็นนักธุรกิจ ฉันรู้ว่าคนทุกคนย่อมทำดีเพื่อหวังสิ่งตอบแทนเหมือนการลงทุนทั้งสิ้น แต่จะว่าไปฉันก็ไม่ถึงกับเดียวดายนักหรอกเพราะฉันยังมีลูกชายอยู่อีกคน...อีธาน...ลูกชายคนเดียวของฉัน แต่เขาค่อนข้างดื้อรั้นและไม่เคยยอมใครเลย ตอนนี้เขาดูแลงานให้ฉันอยู่ที่ประเทศเกาหลี อีธานเป็นคนจริงจังกับงานจนเรียกว่าบ้างานเลยล่ะ ฉันรอคอยว่าเขาจะมีครอบครัวเมื่อไหร่เพราะฉันอยากอยู่กับหลานในบั้นปลายชีวิต แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าลูกชายของฉันจะตกลงปลงใจกับใครสักที บางครั้งฉันกับเขาก็ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ แต่อย่ากังวลไปเลยนะ เรื่องที่ให้เธอไปคอยดูแลฉัน...ฉันจะอธิบายให้เขาเข้าใจ”
หญิงสาวระบายลมหายใจเบา ๆ ดูเหมือนนาธาเนียลจะไม่เป็นกังวลกับความรู้สึกลูกชายของเขาและคำกล่าวนั้นก็ทำให้ชาคริยาเบาใจ แต่ไม่ว่าเธอจะพบเจออะไรข้างหน้า สำหรับตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือมารดาของเธอ เพราะนาธาเนียลจ่ายเงินมาให้เธอแล้วครึ่งหนึ่งและเธอก็นำไปใช้จ่ายเป็นค่ารักษาและจ้างนางพยาบาลมาดูแลมารดาอย่างดีที่สุด
ชาคริยานั่งรออีกสักครู่ก็มีรถเก๋งสีดำเป็นมันปลาบแล่นเข้ามาจอดและมีชายคนหนึ่งในชุดสุภาพก้าวลงมาจากรถคันนั้นและมุ่งตรงมายังเธอ