ตอนที่ 6
ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้จะมีใครกันที่ยังจะอยากปลดทุกข์ในป่าใหญ่มืดครึ้ม เธอไม่ได้มีความรู้สึกอยากทำอะไรดังที่บอกกับเขา แค่เพียงโอกาส...ที่จะได้ปลีกกายห่างออกมาจากคนอหังการอย่างเขมราช หากมันจะเป็นโอกาสสุดท้าย เมื่อได้จังหวะเหมาะหญิงสาวจึงเหลียวหลังกลับไปมองผ่านทางช่องพุ่มไม้ใหญ่
เขายังยืนอยู่ข้างรถจิ๊ปที่สตาร์ทเครื่องยนต์ไว้ให้มีไฟส่องทาง ปรายฟ้าก้มลงมองชายกระโปรงลูกไม้ยาวก่อนตัดสินใจใช้มือที่ยังถูกมัดไว้ฉีกทึ้งมันออกอย่างไม่เสียดายเพื่อให้ชายของชุดสุดหรูสั้นขึ้นไปแค่เข่าของเธอ ไม่มีเวลาใดเหมาะมากไปกว่านี้อีกแล้ว ร่างบางระหงสูดลมหายใจเข้าปอดลึกก่อนจะพุ่งทะยานไปด้านหน้าวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต
เร็วสิปรายฟ้า...เธอต้องวิ่งไป...เธอต้องวิ่งไป....
“โอ๊ะ!....ว้าย!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นหลังจากที่หญิงสาววิ่งห่างออกมาได้ไม่นาน อารามรีบทำให้เธอสะดุดรากไม้ในความมืดก่อนร่างบางจะล้มลงซ้ำยังกลิ้งไปตามทางลาดที่มองไม่เห็นและกระแทกกับโคนไม้ใหญ่เข้าอย่างจัง
“โอย!...โอย!...”
ปรายฟ้าร้องครางในความเงียบงันมีเพียงแสงจันทร์สาดส่องกับความรู้สึกเจ็บปวดไปหมดทั้งตัวโดยเฉพาะที่ขาซึ่งเมื่อเธอฝืนหยัดกายขึ้นนั่งก็เห็นรอยน้ำเหนียวข้นไหลออกมาเป็นทางยาวน่าตระหนกยิ่งนัก เธอได้รับบาดเจ็บจากความเร่งรีบและขลาดกลัวที่มีท่วมท้น ทว่าก่อนหญิงสาวจะได้ตัดสินใจทำอะไรต่อไปกลับต้องหยุดชะงักเมื่อเท้าของใครคนหนึ่งเหยียบย่างลงบนพื้นตรงหน้าเธอ
“เขมราช!”
“ผมบอกคุณแล้วใช่มั้ย ปรายฟ้า!...อย่าคิดลองดีกับผม”
“คุณเขมราช...ได้โปรดเถอะนะ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันอยากกลับบ้าน!”
หญิงสาวยกมือทั้งสองขึ้นแนบอกละล่ำละลักบอกเขาด้วยน้ำตา หากแต่ชายหนุ่มกลับกระชากตัวเธอเข้ามาใกล้ใบหน้าที่ฉาบทาด้วยโทสะร้อน ปรายฟ้าไม่มีโอกาสจะพูดอะไรได้อีกเมื่อคางเรียวถูกมือหนาบีบไว้ เจ็บปวดจนน้ำตาไหลหากก็ตอบโต้อะไรคนป่าเถื่อนอย่างเขมราชไม่ได้เลย
“คุณได้กลับแน่ ปรายฟ้า...คุณจะได้กลับบ้าน แต่ต้องหลังจากที่ร่างกายของคุณบอบช้ำยิ่งกว่าซากศพเพราะชีวิตของคุณจะถูกฝังไว้ที่นี่!...อย่าอวดดีถ้าคุณมาอยู่ในป่า บางทีทางที่คุณคิดว่าจะได้กลับบ้าน อาจจะเป็นทางไปนรกก็ได้...ไปกันได้แล้ว...ผมเสียเวลากับคุณมามากพอ ผมจะตอบแทนความอวดดีอวดเก่งของคุณซะเดี๋ยวนี้ล่ะ!”
สิ้นคำชายหนุ่มจึงยกร่างนั้นขึ้นพาดไว้บนบ่าโดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องและการดิ้นขัดขืนซึ่งก็ดูราวเป็นความพยายามอันสูญเปล่าภายใต้รัตติกาลอันมืดมน
“ปล่อยฉันนะ!...คนบ้า!...ถ้าฉันออกไปได้ฉันจะแจ้งตำรวจ...ฉันจะ...”
ปรายฟ้ายิ่งเหนื่อยหอบและรู้ว่าตัวเธอตกอยู่ในความตีบตันของทุกเส้นทาง เขมราชวางร่างของเธอลงข้างรถก่อนจะดึงเชือกบนข้อมือร่างเล็กออก หญิงสาวนึกใจชื้นเพียงชั่วครู่แต่แล้วก็ต้องพบกับสิ่งที่น่าพรั่นพรึงยิ่งกว่านั้นเมื่อร่างสูงใหญ่หันไปเปิดประตูด้านหลังเพื่อดึงโซ่เหล็กออกมาไว้ในมือ
“นี่มันอะไรกัน!...คุณจะทำอะไรฉันอีก...ในเมื่อฉันก็หนีคุณไม่ได้แล้วคุณจะเอายังไงอีก คุณเขมราช!”
“เชือกเส้นเดียวมันยังน้อยไปสำหรับผู้หญิงเจ้าเล่ห์เพทุบายอย่างคุณ ถ้าไม่ทำให้คุณเห็นซะบ้างว่าการอวดดีกับผมมันเป็นยังไง คุณก็ไม่มีวันหลาบจำ!”
“ไม่นะ!...อย่าทำกับฉันแบบนี้ ฉันเป็นคนนะคุณเขมราช คุณมัดฉันไว้กับโซ่อย่างพวกสัตว์ไม่ได้!”
เขมราชดึงร่างนั้นเข้ามาหาตัวเขาหากก็ต้องชะงักเมื่อหญิงสาวอ่อนเปลี้ยไปหมด แทนที่จะใช้โซ่มัดเธอตามความตั้งใจกลับต้องตระกองกอดเธอไว้เมื่อก้มลงดูที่เรียวขาใต้กระโปรงขาดวิ่นมีธารโลหิตไหลออกมาเป็นทางยาว
“คุณเขมราช...ได้โปรดเถอะนะคะ ปรายเจ็บไปหมดแล้ว ปรายหนีคุณไปไหนไม่ได้แล้ว”