ตอนที่ 3 คุณแพ้แล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 3 คุณแพ้แล้ว
ตอนที่ 3 คุณแพ้แล้ว 5 ปีผ่านไป เวลาเดินไป อย่างรวดเร็ว เมืองกีธูร์น ศาลฏีกาชั้นสูง บรรยากาศที่เงียบขรึมภายในชั้นศาล ทำให้ผู้คนที่อยู่ภายในห้องแทบไม่กล้าหายใจเสียงดัง บวกกับคำพูดถ้อยคำและวาจาที่ฉะฉานของทนายหญิงคนนั้น ยิ่งเพิ่มความตึงเครียดยิ่งเข้าไปอีก “Mohimwong เป็นเกมส์แนวใหม่ที่บริษัทเทคโนโลยีเซนซี จำกัดของเราเปิดตัวขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ความนิยมของเกมในขณะนั้นมีมากพอที่จะเทียบเคียงได้กับเกม Arena Of Valor ในยุคปัจจุบัน จำนวนการดาวน์โหลดและหัวข้อในแต่ละค้นหาพอร์ตนั้นขึ้นติดอันดับแรกของรายการ “จากนั้นฉันขอถามบริษัทคุณนิมนต์ ผลิตรายการวาไรตี้เกมที่มีชื่อว่า Jungle Adventure ในรูปแบบของเกมและโปสเตอร์โฆษณานั้น มีความคล้ายคลึงกัน กับ Mohimwong ถึง 80 % เหมือนกันอย่างน่าอัศจรรย์เช่นนี้ บริษัทของคุณได้รับอนุญาตจากบริษัทเทคโนโลยีเซนซีจำกัดถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ?” ซักถามอย่างตรงไปตรงมา ดวงตาอันแหลมคมเหมือนลูกศร ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยแรงกดดันไม่น้อยไปกว่าผู้ชาย เครื่องแบบที่ถูกตัดให้พอดีกับตัว ผมที่ยาวม้วนเป็นลอนมัดไว้บนศีรษะ บวกกับความมุ่งมั่น บนติ่งหูอันขาวเนียนใสนั้นประดับด้วยต่างหูเพชรที่หายาก ใครก็ตามที่เห็นก็ไม่สามารถละสายตาไปได้ นิมนต์ ตัวแทนบริษัท เที้ยมอี้ มีเดีย จำกัด ที่นั่งนิ่งไม่ไหวติง ในระยะเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง เขาก็รู้สึกได้ถึงความยอดเยี่ยม ร้ายกาจ ของทนายหญิงผู้นี้ หน้าผากของเขาเริ่มมีเหงื่อซึมออกมา กังวลใจอยู่ไม่สุข หันไปดูชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในห้องไม่ไกล เจ้านายใหญ่ของเขา ธีมนต์ ประธานบริหาร เอส ซี กรุ๊ป ข้อพิพาทนี้เป็นเขาที่ทำมันขึ้นมาเอง หากแพ้คดีล่ะก็ นั้นเขา……. “คุณนิมนต์ เชิญคุณตอบคำถามของฉันด้วยความสัตย์จริงด้วยค่ะ นาราไม่เปิดโอกาสให้เขาหลบหลีกแม้แต่น้อย สายตาเยือกเย็นจ้องมองเขา ทะลุไปถึงหัวใจ “ไม่ครับ ไม่มี!” คุณนิมนต์ขวมดคิ้วตอบกลับอย่างจนปัญญา มองดูสีหน้าท่าทางนาราเต็มไปด้วยความมั่นใจ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย คำตอบของเขา ทำให้นาราพอใจเป็นอย่างมาก ริมฝีปากสวยงาม ยกยิ้มเบาเบา พูดด้วยเสียงที่ดังฟังชัดขึ้นมาอีกครั้ง “บริษัท เที้ยมอี้ มีเดีย จำกัด ผลิตและเปิดตัว ลอกเลียนแบบโหมดเกมของ Mohimwong โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย และยังใช้ชื่อ "Mohimwong" จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อเปิดรายการกิจกรรมออฟไลน์ ...” “ไม่ใช่นะ พวกเราก็แค่…. ด้วยความตื่นตัว นิมนต์ ไม่เคารพกติกาของศาล ขัดคำพูดของนาราเสียงดัง “โปรดอยู่ในความสงบ” ทนายฝ่ายโจทก์ดำเนินการปิดคดีต่อไป หัวหน้าผู้พิพากษาขมวดคิ้วเหลือบมองนิมนต์อย่างไม่พอใจ นารา ยิ้ม พูดต่อ “Mohimwong” เวอร์ชันภาษาอังกฤษ เครื่องหมายการค้าภาษาอังกฤษนี้ควรตกเป็นของบริษัท เทคโนโลยีเซนซี จำกัด ด้วย ดังนั้น ทางบริษัทเทคโนโลยีเซนซี จำกัดฟ้องร้อง บริษัท เที้ยมอี้ มีเดีย โดยใช้ชื่อ “Mohimwong” ทำการลอกเลียนรูปแบบของเกมโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฏหมาย และละเมิดลิขสิทธิ์ทางการค้าแข่งขันกันอย่างไม่เป็นธรรม ฉะนั้นแล้วจึงขอให้บริษัท เที้ยมอี้ มีเดีย ชดใช้เป็นจำนวน 500 ล้านหยวน” นาราพูดสรุปปิดคดีจบ สายตาของทุกคนในห้องมองไปที่เธอ ทั้งสรรเสริญยกย่อง ทั้งประหลาดใจ……. ภายนอกที่ดูเย็นชา เผชิญหน้ากับทนายความระดับเหรียญทองของประเทศ อย่างไม่เกรงกลัว ตามมาด้วยเสียงปรบมือชื่นชม ที่ทุกคนได้เห็นการ ‘ต่อสู้’ ที่สมบูรณ์แบบและยุติธรรม แสดงให้เห็นถึง พลังแห่งการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง อีกทั้งเสน่ห์ที่โดดเด่นในตัวของเธอ ดึงดูดให้คนหันมาจ้องมองด้วยสายตาที่เหลือเชื่อ ทนายของฝ่ายจำเลย ขมวดคิ้วเล็กน้อย ฟังคำพูดแต่ละประโยคของเธอมีเหตุและมีผล ลูบไปมาที่ขาแว่นตาของตัวเอง มองดูสายตาที่สงบนิ่ง ของเธอ ดูเหมือนว่าตัวเขาเองจะพ่ายแพ้เสียแล้ว หันมองกลับไป ทางนายจ้างคุณธีมนต์ที่นั่งอยู่ไม่ไกล นั่งนิ่งไม่ขยับตั้งแต่เริ่มเปิดคดีจนถึงตอนนี้ ไม่แสดงอารมณ์ใดใดออกมา แต่กลิ่นอายที่เยือกเย็นบวกกับความสง่าของเขาไม่สามารถมองข้ามไปได้ ทนายฝ่ายจำเลย ยิ่งเครียดและกดดันมากขึ้น ทนไม่ไหวเช็คดูนาราที่อยู่ไม่ไกลเป็นระยะ ทั้งนาราและเขาจ้องหน้ากัน ไม่มีใครยอมใคร เธอกระพริบตา พร้อมกับยิ้มมุมปากเยาะเย้ย ราวกับพูดว่า คุณแพ้แล้ว! พลังและอำนาจก็เหมือนกับคลื่นที่อยู่ใต้น้ำ เมื่อเวลาแปรเปลี่ยนไปชัยชนะและความพ่ายแพ้ก็ค่อยค่อยชัดเจนขึ้น ผู้พิพากษาที่มีสีหน้าเคร่งเครียด ประกาศด้วยเสียงที่ สุขุม หนักแน่น “หลังจากสมาชิกผู้พิพากษาทุกคนได้ประชุมหารือกันแล้วและตัดสินอยากเป็นเอกฉันท์ว่า บริษัทเที้ยมอี้ มีเดีย จำกัดได้ ละเมิดสิทธิในการจัดทะเบียนเครื่องหมายทางการค้า และลอกเลียนรูปแบบเกมของบริษัทเทคโนโลยีเซนซี จำกัด โดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามมาตรา 47 กฎ ข้อที่ 1 บรรทัดที่ 6 ห้ามมิให้บริษัท เที้ยมอี้ มีเดีย ใช้คำว่า "Mohimwong" และยุติกิจการเชิงพาณิชย์ทั้งหมด พร้อมชดเชยค่าเสียหายให้ทางเศรษฐกิจให้กับบริษัทเทคโนโลยีเซนซี จำกัด เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 310 ล้านหยวน เสียงค้อนดังขึ้น “ปก ปก” สิ้นสุดคำตัดสินของศาล ทุกคนถอนหายใจออกมา มองไปทาง นารา จนบางคนเริ่ม กระซิบกระซาบ สอบถามข้อมูลส่วนตัวของเธอ “ผู้หญิงคนนั้น เป็นใครกัน คำพูดคำจาช่างคมคายนัก ไม่เคยเห็นเธอมาก่อนในวงการนักกฎหมาย” “หน้าใหม่ ได้ยินคนบริษัทเทคโนโลยีเซนซี เรียกเธอว่า ป๊อบปี้ ตามข้อมูลบอกว่าเธอเพิ่งบินกลับมาจากต่างประเทศ” ………….. ป๊อบปี้ นารา! ธีมนต์ จับจ้องไปทางหญิงสาวที่อยู่ไม่ไกล หายไปนาน 5 ปี ในที่สุดเธอก็ปรากฏตัว ตัวแทนของบริษัท เทคโนโลยีเซนซี จำกัดที่ได้รับชัยชนะ มีสีหน้าที่รอยยิ้มเต็มเปี่ยม ดีใจจนปิดไม่มิด เดินเข้ามา แสดงความขอบคุณนาราอย่างจริงใจ “คุณ ป๊อบปี้ ขอบคุณมากนะครับที่ยอมบินกลับมาจากนิวยอร์กเพื่อนำชัยชนะและความยุติธรรมกลับคืนมาให้บริษัทพวกเรา “คุณก็พูดเกินไป ฉันไม่ได้ทำแล้วไม่หวังผล ค่าทนายความของฉันจะเรียกเก็บไม่ให้ขาดสักบาทเดียว น้ำเสียงที่ไพเราะ ดวงตาที่เยือกเย็นสงบนิ่งของเธอ ดูแล้วมีเสน่ห์ยิ่งนัก “คุณ ป๊อบปี้ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เงินค่าทนายความของคุณผมกลับไปถึงบริษัทแล้วจะให้ทางบัญชีจัดการโอนเข้าบัญชีของคุณทันทีเลยครับ” พักนึง ก็มีนามบัตรบรอนทองปรากฏขึ้นที่ตรงหน้าของเธอ ขณะที่เธอกำลังเก็บเอกสารอยู่ก็หยุดชะงักไปชั่วครู่ กวาดสายตามองชื่อบนนามบัตรแผ่นนั้น ธีมนต์ มือเรียวยาวที่ถือนามบัตร ขาวจนมองเห็นกระดูกชัดเจน พร้อมกับเสียงที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหูของเธอ “คุณป๊อบปี้ ยินดีด้วยนะครับ” “บุณวัตณ์ เก็บของเสร็จยัง” นาราเลือกที่จะเมินเฉย ถามผู้ช่วยเสียงเรียบ บุณวัตณ์ เหลือบมองไปยังชายตรงหน้า “เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ” “งั้นไปกัน” นาราหยิบกระเป๋าเอกสารสำนักงานขึ้นมา หันหลังกลับเดินไปอย่างรวดเร็ว บุญวัตณ์เดินตามเธอออกไปอย่าไม่รอช้า ธีมนต์ยกยิ้มมุมปาก ดึงนามบัตรเก็บไว้ จ้องมองตามหลังสวยงามของนารา
已经是最新一章了
加载中