บทที่ 9   1/    
已经是第一章了
บทที่ 9
“เจ้ส่งข้อความมาบอกผมได้สักพักแล้วล่ะครับ ว่าจะนั่งรออยู่หน้าห้องอาหารเพราะไม่อยากเข้ามารบกวนเวลารับประทานอาหารของเฮียกับคุณแบล็กกลางคัน ตอนนี้พี่ทิวาก็น่าจะหาอะไรรองท้องให้กินไปก่อนแล้ว” จิณวัฒน์รีบรายงานผู้เป็นนายอย่างรู้งาน ก่อนจะหันไปส่งสายตาให้ลูวินซ์ที่กำลังนั่งยิ้มหน้าระรื่นอยู่บนเก้าอี้คล้ายกับว่ายังไม่อยากจะลุกไปไหน “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน” ราชิตเอ่ยขึ้น “อ้าว ไหนๆ ผู้หญิงของคุณก็มาแล้ว จะรีบไปไหนล่ะ” “ผมมีนัดกับลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท ไว้คราวหน้าจะเลี้ยงต้อนรับคุณใหม่ก็แล้วกัน” ลูวินซ์แกล้งไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ทว่าสายตาของเขากลับจับจ้องไปยังร่างสูงใหญ่ที่กำลังจะเดินออกไปจากห้องอาหารไม่วางตา และได้แต่ภาวนาในใจซ้ำๆ ว่าขออย่าให้ตอนที่เขามีความรัก แล้วมีอาการอย่างอีกฝ่ายทีเถอะ เจ้าของเรือนร่างแบบบางกำลังยืนชะเง้อเข้ามาภายในห้องอาหารเพื่อรอให้คนข้างในเดินออกมา และทันทีที่ประตูเปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของเจ้าของใบหน้าคมดุที่กำลังเดินทำหน้าบอกบุญไม่รับออกมานั้น รอยยิ้มสดใสก็แต่งแต้มขึ้นมาบนใบหน้าของเธอทันที “การเจรจาธุรกิจเป็นยังไงบ้างคะ ไหนจินบอกว่าเฮียกับคุณแบล็กสนิทกันไง ทำไมถึงเดินทำหน้าบูดเป็นตูดออกมาแบบนี้ละคะ” ลดาถามขึ้นด้วยความสงสัย และก้าวเข้าไปยืนเคียงข้างคนที่เธอพึ่งตั้งคำถามออกไปเมื่อสักครู่ ทว่าคนตัวโตไม่ได้คิดจะตอบคำถามของสาวเจ้าเลยแม้แต่น้อย เพราะเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของเธอกับลูกชายคนเล็กของผู้นำตระกูลจางคนนั้นต่างหาก “ไปรู้จักกับจางหงได้ยังไง” “หืม?” “เราน่ะ ไปรู้จักกับไอ้จางหงนั่นได้ยังไง บอกเฮียมาให้หมดเดี๋ยวนี้เลยนะอาหลิง” ราชิตคาดคั้นเสียงเย็น แต่คู่สนทนากลับยืนยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้านต่อท่าทางไม่พอใจของเขาเสียนี่ “เพื่อนที่มหา’ ลัยค่ะ” “สนิทกันจนออกนอกหน้าซะขนาดนั้น อย่ามาโกหกเฮียนะอาหลิง” เขาว่าต่อ “เพื่อนในคณะ” “อาหลิง” ราชิตเรียกชื่อของคนที่ไม่ยอมตอบคำถามของเขาอย่างตรงไปตรงมา พร้อมทั้งใช้สายตาคมดุจ้องมองอีกฝ่ายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ขณะที่ก้าวขายาวๆ ขึ้นรถ “ก็เป็นเพื่อนที่มหา’ ลัย แล้วก็เรียนคณะเดียวกันจริงๆ นี่ เรียนที่เดียวกันมาตั้งแต่ปริญญาตรีนู้นแล้ว แค่ตอนนั้นเฮียกำลังยุ่งๆ ก็เลยไม่ทันได้รู้จักกับเรดเฉยๆ ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วยเนี่ย เค้ากับเรดไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งร้อนแรงอะไรกันเหมือนเฮียกับคุณริสานั่นหรอกน่า” ร่างบางร่ายยาวเพราะเริ่มจะหงุดหงิด ยิ่งพูดถึงความสัมพันธ์ของคนตรงหน้ากับษริสา เธอก็ยิ่งหงุดหงิดไปกันใหญ่ “เราก็รู้นี่ว่า…” “ไม่ต้องพูดแล้ว เฮียมีสะพานของเฮีย เค้าก็มีสะพานของเค้าเหมือนกัน” ลดาพูดแทรกขึ้นมาทันควัน ก่อนจะขอสลับที่นั่งกับจิณวัฒน์ด้วยการขยับลุกขึ้น และออกคำสั่งกับอีกฝ่ายผ่านทางสายตา หลังจากการเปลี่ยนที่นั่ง โดยที่จิณวัฒน์ต้องรับศึกหนักด้วยการนั่งตรงกลางระหว่างทั้งคู่เสร็จสิ้นลง ทิวาก็เริ่มออกรถโดยไม่คิดที่จะเอ่ยปากถามผู้เป็นนายเลยแม้แต่คำเดียว เพราะขืนมีคำพูดใดหลุดลอดออกไปละก็ อาจจะมีกระสุนลอยมาปลิดชีพเขาอย่างไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้ “เจ้!” คนที่อายุน้อยที่สุดในวงสนทนาเอ่ยขึ้น “ว่าไง” “เจ้ยังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่หรอ หิวไหม” “ไม่” คำตอบที่ทั้งห้วนทั้งสั้นของลดา ทำให้คนที่ตั้งใจจะลดทอนบรรยากาศอึมครึมลงได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และจำใจปล่อยให้ทั้งคู่ทำสงครามประสาทกันต่อไปอย่างไม่มีทางเลือก อ่า… บางทีเขาอาจจะต้องโทรทางไกลไปเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง และขอคำแนะนำว่าควรจะหาทางออกให้ทั้งสองคนอย่างไรดี
已经是最新一章了
加载中