ตอนพิเศษ : เธอ
ณ กองถ่ายละคร เมือง xxx
\" น้องนาเดียร์เข้าฉากได้เลยครับ \"
เสียงของผู้กำกับเอ่ยขึ้นเมื่อทางทีมงานได้ทำการเซตฉากถ่ายละครไว้พร้อมล้ว
นาเดียร์ คือดาราสาววัยรุ่นที่กำลังมาแรงที่สุดแห่งยุค ถ้าหากเอ่ยชื่อเธอต่อให้เป็นเด็ก 10 ขวบก็ต้องรู้จักอย่างแน่นอน ครึ่งหนึ่งของเชื้อสายเธอมาจากยุโรป อีกครึ่งหนึ่งมาจากเอเชีย เธอเป็นดั่งตัวแทนความผสมผสานเชื้อชาติอย่างลงตัว คิ้วที่เรียวยาว จมูกทรงหยดน้ำ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน ผิวที่ขาวนวล ส่วนสูงที่มาก 175 ซม. พอที่จะให้ผู้ชายบางคนต้องอายยามที่ต้องยืนเคียงข้าง
\"น้องนาเดียร์ครับ ถ้าพร้อมแล้วเข้าฉากได้เลยครับ \"
เสียงของผู้กำกับเอ่ยเรียกขึ้นอีกครั้ง เมื่อยังไม่เห็นตัวผู้ที่โดนเรียก ในขณะนั้นนั่นเองได้มีผู้ช่วยสาวคนหนึ่งเดินเข้ามากระซิบที่ใบหูของผู้กำกับ
\"ผู้กำกับคะ...เอ่ย น้องนาเดียร์ไม่อยู่ค่ะ \"
\"หมายความว่ายังไงไม่อยู่\" ผู้กำกับขมวดคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย เขารู้สึกได้กลิ่นไม่ดีบางอย่างขึ้นมารางๆ
\"น้องนาเดียร์โดดกองถ่ายไปอีกแล้วค่ะ \" ผู้ช่วยสาวตอบกลับมาด้วยความลำบากใจ
\"...\" ผู้กำกับไม่ได้เอ่บอะไรออกมา ทำให้ผู้ช่วยสาวค่อนข้างแปลกใจอยู่มาก นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่นาเดียร์โดดกองถ่าย แต่ปกติผู้กำกับจะต้องโวยวายออกมา แต่ทำไมครั้งนี้ถึงเงียบไปได้
\"นาเดียรรรรรรรรรรรรรรรร!!!! \" ทันทีทันใดผู้กับกำก็ตะโกนเรียกชื่อดาราสาวผู้เป็นต้นเหตุทันที ทำเอาคนในกองถ่ายถึงกับสะดุ้งกับเสียงปรอทแตกของผู้กำกับคนนี้ไปกันเป็นแถบ
นาเดียร์เป็นที่รักของทุกคน แม้ว่าจะเป็นทีมงาน ผู้กำกับ แฟนคลับหรือ คนทั่วไป เธอเป็นคนที่มีนิสัยดีและค่อนข้างร่าเริง ที่เธอดังไปทั่วประเทศอย่างหนึ่งก็เพราะมาจากนิสัยของเธอและผู้ที่คอยสนับสนุนเธอ ถ้าหากจะมีเรื่องเดียวที่เป็นนิสัยที่ไม่ดีอย่างหนึ่งของเธอที่คนทั่วไปไม่รู้ แต่คนที่ทำงานกับเธอจะรู้กันนั่นคือ การหนีกองถ่าย
ต้องเรียกว่าไม่มีการถ่ายทำครั้งไหนที่นาเดียร์ไม่เคยโดดเลยก็ว่าได้ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่นาเดียร์ทำให้การกระทำของเธอมีผลกระทบกับงานแต่อย่างใด อย่างแย่ที่สุดก็แค่ถ่ายงานช้าลงไปบ้าง คนที่จะมาติดต่องานถ่ายกับเธอส่วนใหญ่ก็จะเผื่อเวลากับเรื่องนี้ไว้ เพราะรู้อยู่แล้วว่านาเดียร์เธอชอบโดดกองถ่ายบ่อยๆ
ครั้งนี้ก็เช่นเดิม นาเดียร์ได้โดดกองถ่ายอีกครั้งพร้อมกับแฟชั่นการปลอมตัวที่สุดห่วยของเธอ อาจจะกล่าวได้ว่านี่ก็เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเธอเหมือนกัน เพราะเมื่อไหร่ที่เธอโดดกองถ่าย เธอจะชอบปลอมตัวด้วยแฟชั่นที่ค่อนข้างเห่ยพอตัว แต่น่าแปลกกลับไม่มีใครสามารถจับเธอได้
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
เสียงสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้น ก่อนที่สาวเจ้าของแว่นหนาเตอะกับหมวกใบใหญ่ ได้หยิบมันขึ้นมาก่อนจะกดรับสาย
“หนูนาเดียร์ อยู่ไหนลูก รีบกลับมาที่กองถ่ายเดี๋ยวนี้!!!” เสียงจากปลายสายดังขึ้นทันทีที่นาเดียร์รับสายโทรศัพท์
ใช่แล้วผู้หญิงที่แต่งตัวแปลกประหลาดคนนี้ก็คือนาเดียร์ วัยรุ่นสาวที่กำลังมาแรงที่สุดในยุคก็ว่าได้
“นาเดียร์รู้แล้ว อีกแป๊บเดียวก็กลับแล้วเนี่ย” นาเดียร์เธอตอบกลับไป
วันนี้เธอต้องเข้ากองถ่ายตั้งแต่เช้าจนถึงดึก แทบจะไม่ได้หยุดพัก พอถึงช่วงเย็นๆ เธอจึงได้แอบหนีออกมา จริงๆ ทีมงานที่ทำงานกับเธอแทบจะไม่มีใครไม่พอใจ ออกจะชอบด้วยซ้ำที่เธอโดดกองถ่าย เพราะช่วงที่เธอโดดกองนั้นก็เหมือนกับเวลาพักเหนื่อยของพวกเขาและนาเดียร์ก็เข้าใจตรงจุดนี้ ยิ่งเธอโดดกองนานเท่าไหร่ทีมงานก็จะได้พักนานเท่านั้น
“ไม่ได้นะ หนูต้องกลับมาเดี๋ยวนี้ หนูจะทำให้เจ้เป็นประสาทตายอยู่แล้วเนี่ย อยู่ไหนเดี๋ยวเจ้ไปรับ”
“เดี๋ยวนาเดียร์ หาอะไรกินแล้วจะกลับเลย” พูดจบนาเดียร์ก็กดวางสายทันที
“ไม่ได้นะนาเดียร์ หนูออกไปนานแล้วลูก” น้ำเสียงตอบกลับมาด้วยความตำหนิ
“เจ๊แหม่มหนูถ่ายละครตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่ได้พักเลย เดี๋ยวก็ต้องถ่ายต่อจนถึงดึก ถ้าไม่ได้พักเนี่ย หนูตายแน่ๆ ”
“นาเดียยยยยยยร์”
“น่านะ เจ๊ หนูสัญญา หาอะไรกินเสร็จหนูจะกลับทันที นะ นะ เจ๊คนสวยของหนู นะ นะ นะ”
นาเดียร์พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“พอเลยๆ มาไม้นี้ตลอดแหละ” เสียงจากปลายสายเอ่ยอย่างรู้ทัน
“แล้วได้ผลไหมหล่ะเจ๊” นาเดียร์ยิ้มขึ้นมาเบาๆ
“เฮ้อ...เดี๋ยวเจ๊คุยกับผู้กำกับให้ รีบหน่อยแล้วกัน” นาเดียร์ได้ยินเสียงถอนหายใจจากปลายสายเบาๆ
“ขอบคุณค่า รักเจ๊แหม่มที่สุดเลย” พูดจบนาเดียร์ก็กดวางสายทันที
หลังจากนั้นนาเดียร์ก็เดินหาร้านอาหารละแวกนั้นเพื่อหาอะไรกินก่อนที่จะไปเจอร้านโจ๊กร้านหนึ่ง ซึ่งดูไม่ค่อยมีคน ด้วยความที่เธอไม่ได้เรื่องมากกับอาหารการกินอะไรอยู่แล้วและเธอไม่ค่อยต้องการเป็นจุดสนใจมากนัก เธอจึงเดินเข้าไปในร้านทันที หลังจากสั่งโจ๊กเรียบร้อยแล้ว เธอก็เลือกโต๊ะมุมหนึ่งของร้านนั่งทันที
ไม่นานหลังจากนั้นในขณะที่เธอกำลังทานโจ๊กของเธออยู่นั้น เธอได้เหลือบไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่ง เดินเข้ามาภายในร้านและมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ
“เอ๊ะ หรือว่าเขารู้ว่าเราเป็นใคร ไม่ได้การละ ต้องรีบกลับกองถ่าย” นาเดียร์รีบจัดการโจ๊กตรงหน้าเธอทันที
แต่เหมือนว่าจะไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด หลังจากนั้นชายหนุ่มคนนั้นก็ไม่ได้สนใจเธออีก ไม่นานนักเธอก็เห็นชายหนุ่มคนนั้นเรียก เด็กคนหนึ่งเข้ามาในร้าน เสื้อผ้าของเด็กคนนั้นดูเก่าและขาดไปบางส่วน นี่คงจะเป็นเด็กเร่ร่อนคนหนึ่ง
เขาคิดจะทำอะไร? นาเดียร์คิดขึ้นอย่างเงียบๆ ก่อนที่จะคอยสังเกตเหตุการณ์ตรงหน้า
หลังจากได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทำให้เธออดยิ้มออกมาไม่ได้
‘ยังมีคนดีๆ แบบนี้อยู่สินะ’
หลังจากผู้ชายคนนั้นเดินออกจากร้านไป นาเดียร์ก็ได้โทรให้เจ๊แหม่มมารับทันที ไม่นานนักรถหรูนำเข้าคันหนึ่งก็ได้มาจอดที่ร้านก่อนที่จะมี ก่อนจะมีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากรถด้วยท่าทีกระดีดกระดิ้งอย่างชัดเจน
หุ่นที่ดูอวบๆ พร้อมกับใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาของชายคนนั้นบ่งบอกได้ว่าเป็นคนที่ดูใจดีคนหนึ่ง
“เจ๊แหม่ม คิดถึงจังเลยยยย” นาเดียร์พูดขึ้นอย่างออดอ้อน
ผู้ชายคนนี้คือเจ๊แหม่มนั่นเอง เป็นทั้งผู้จัดการส่วนตัวของนาเดียร์ นอกจากนั้นยังเป็นเหมือนพี่ เหมือนแม่ของเธออีกด้วย เจ๊แหม่มเป็นชายที่มีจิตใจเป็นหญิงและเป็นคนที่คอยดูแลนาเดียร์มาตั้งแต่เข้าวงการตอนแรกๆ
“หึ ไม่ต้องเลย” เจ๊แหม่มเชิดใส่นาเดียร์ ดูๆ แล้วเหมือนกันเล่นกันมากกว่า
“แล้วไปทำอะไรมาเนี่ยทำไมดูอารมณ์ดี” เหมือนเจ๊แหม่มจะสังเกตเห็น ท่าทางของนาเดียร์ ดูจะอารมณ์ดีกว่าปกติ จึงเอ่ยถามออกไป
“แค่ได้เห็นเรื่องดีๆ เองเจ๊ ป่ะ กลับกองถ่ายกันเถอะ” นาเดียร์พูดขึ้นก่อนที่เดินไปขึ้นรถ
“นี่เจ๊เป็นผู้จัดการหรือเป็นทาสกันแน่ ห๊ะ!!!” เจ๊แหม่มประชดเบาๆ ก่อนเดินตามนาเดียร์ขึ้นรถ
หลังจากวันนั้นนาเดียร์ก็มาที่ร้านนี้บ่อยขึ้นเวลาเดิม ซึ่งเธอก็จะเจอผู้ชายกับเด็กเร่ร่อนคนนั้นตลอด เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเธอต้องมาด้วย จะบอกว่าชอบก็ไม่ใช่ มันเหมือนกับอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมากกว่า จนบางครั้งเจ๊แหม่มแกก็แอบแซวว่า สงสัยติดใจโจ๊กร้านนั้นถึงไปบ่อยๆ
จนกระทั่งถึงวันสุดท้ายของการถ่าย นี่จะเป็นวันสุดท้ายแล้วที่เธอจะถ่ายทำละครที่เมืองนี้ เธอก็คิดว่าวันนี้ก็คงเหมือนวันก่อนๆ ที่เธอเจอ แต่มันกลับไม่ใช่แบบนั้น
หลังจากที่เด็กเร่ร่อนคนนั้นได้เปิดปากพูดขึ้นมา ทำให้เธอรู้ว่าเด็กตัวเล็กๆ คนนี้ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่แสนเลวร้ายมากมายขนาดไหน น้ำตาของเธอมันก็ไหลออกมาเอง เธอเคยคิดว่าเรื่องแบบนี้มันคงมีเพียงแค่ในหนัง ในละครเท่านั้น แต่บางทีในโลกแห่งความเป็นจริง มันโหดร้ายกว่านั้นมาก
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น นาเดียร์เธอกลับคาดหวังลึกๆ หวังว่าเด็กคนนั้นจะได้รับโอกาสอีกครั้ง
“ไม่รู้สินะ ถ้าได้เจอกับผู้ชายคนนั้นอีกครั้งคงดี” เธอเอ่ยคนเดียวเงียบๆ ในขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับ
ถึงแม้ว่านาเดียร์จะเป็นดาราดัง แต่เธอก็ไม่เคยให้เรื่องงาน มากระทบกับการเรียนของเธอแม้แต่น้อย เธอก็ยังคงเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ที่กำลังเข้ามหาลัยและเธอได้เลือกเข้ามหาลัยนานาชาติที่หนึ่งทางภาคเหนือ
ด้วยเหตุผลส่วนตัวของเธอ นี่ก็ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว ยังไงก็ตามนาเดียร์ก็อดที่จะตื่นเต้นนิดๆ ไม่ได้อยู่ดี
บางครั้งโลกเรามันก็ตลก ดั่งคำกล่าวที่ว่า เหยียบย่ำจนรองเท้าสึกมิพานพบ ยามประสบพบพานไม่ยากเย็น
ฟังดูตลกแต่บางครั้งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะบางครั้ง ‘โลกมันกลม’ กลมมากซะจนคุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว