บทที่ 28 มีแฟนแล้วก็จะเอา   1/    
已经是第一章了
บทที่ 28 มีแฟนแล้วก็จะเอา
ปาณวัตรกลับมาที่บ้านในเวลาสิบห้านาฬิกา เขาเดินขึ้นห้องไปเปลี่ยนชุดกีฬาพร้อมที่จะออกไปวิ่งหน้าหมู่บ้าน แต่พอลงมาก็เจอกับอรพิมซึ่งยืนพิงประตูอยู่ก่อนแล้ว “จะไปวิ่งเหรอคะ ให้อรไปด้วยนะคะ” หญิงสาวก้มลงผูกรองเท้าผ้าใบที่เตรียมมา ขยับเสื้อกล้ามรัดรูปให้เข้าที่ หล่อนสวมกางเกงผ้ายืดสีดำข้างในทับด้วยกางเกงขาสั้น มัดผมขึ้นดูเรียบร้อยผิดกับการพูดการจาที่เคยทำให้เขาเกือบสำลักอยู่หลายครั้ง “เชิญ” คุณหมอหนุ่มกล่าวสั้นๆ แล้ววิ่งออกตัวไปทันที หงุดหงิดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ที่ ต้องอยู่ตามลำพังกับอรพิมสองต่อสอง แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นานนัก แต่เขากลับรู้สึกอึดอัด ไม่เหมือนตอนที่อยู่กับภาวนาหรือดอกเตอร์ลิซ่า “วิ่งช้าๆ หน่อยสิคะ อรตามคุณไม่ทันแล้ว” อรพิมค่อนขอด นึกโกรธความหยิ่งของคุณหมอหนุ่มเต็มทนที่ทำท่าราวกับว่าเธอกำลังจะไล่ปล้ำเขา หากไม่คิดว่านี่เป็น “งาน” ที่ได้รับมอบหมายจากคุณหญิงป้า หล่อนไม่มีวันยอมให้เขามองด้วยสายตาดูหมิ่นแบบนี้แน่ สองหนุ่มสาวที่ดูเหมือนจะวิ่งไปด้วยกัน แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะอรพิมนั้นวิ่งๆ หยุดๆ ตามประสาคนที่ไม่เคยออกกำลังกาย ส่วนชายหนุ่มนั้นวิ่งเพราะต้องการดับความเครียดจึงไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย “เย็นนี้เราทำอะไรทานกันดีไหมคะ อรชักคิดถึงอาหารไทยแล้วสิ คุณป้าบอกว่าคุณทำอาหารได้อร่อยมาก เดี๋ยวอรเป็นลูกมือให้นะคะ” ปาณวัตรชะลอฝีเท้าลง แล้วค่อยๆ เดินเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ใช้ผ้าขนหนูซับเหงื่อที่ไหลรินลงมาตามลำคอ เสยผมยาวระบ่าไปด้านหลัง นึกว่าได้มาวิ่งออกกำลังกายแล้วจะทำให้จิตใจปลอดโปร่ง กลับต้องมาหงุดหงิดเพราะหญิงสาวคนนี้อีก ชีวิตเรียบง่ายที่เขาใฝ่ฝันถึง หมดไปนับแต่คุณหญิงกับหล่อนก้าวเข้ามา ไม่สิ...นับแต่เจมส์ แพ็คทิส ปรากฏตัวขึ้น สมองและอารมณ์ของเขาก็ยังไม่ได้หยุดพักเลย เพราะต้องคอยระแวดระวังพฤติกรรมประหลาดๆ ของคนรอบกายตลอดเวลา “ว่าไงคะ อรอยากทานแกงกะหรี่จังค่ะ” อรพิมยังยิ้มหวาน ยืนไขว้ขาเอียงคอน่ารัก แอ๊บแบ๊ว ตื๊อจะให้เขาทำอาหารไทยให้รับประทานในคืนนี้ให้ได้ “ผมว่าคุณคงลืมว่าที่นี่คือลอนดอน ไม่ใช่เมืองไทย ที่นึกอยากจะกินอะไรๆ ตามใจปาก อีกไม่กี่วันคุณก็จะกลับแล้ว ผมว่าอดใจรอ กลับไปกินที่โน่นดีกว่ามั้งครับ” “คุณหมอคงเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะค่ะ คุณป้าคงยังไม่ได้บอกคุณว่าอรตั้งใจมาพักผ่อนที่นี่แบบนันสต๊อป และอรก็ตั้งใจจะพักอยู่กับคุณ หวังว่าคงไม่ขัดข้องนะคะ” ปาณวัตรชะงัก มองหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักอย่างไม่เชื่อสายตา ตอนที่หล่อนติดสอยห้อยตามมารดาของเขามาด้วยยังพอให้อภัย นี่เล่นประกาศโต้งๆ แบบไม่อายเลยว่าประสงค์จะพักอยู่กับเขา หากไม่ใช่เพราะคุณหญิงให้ท้ายและผลักดันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู หล่อนคงไม่กล้าเสนอตัวขนาดนี้ เขาคงต้องปรับกลยุทธ์ในการตั้งรับแผนการของมารดาเสียใหม่ เพราะท่าทางอรพิมจะรับมือยากกว่ามิจิหลายเท่าตัว สรุปว่าอรพิมอดทานแกงกะหรี่และอาหารไทยทุกชนิด เพราะเมื่อกลับเข้าไปในบ้าน ปาณวัตรก็เดินดุ่มๆ ขึ้นบันไดและปิดประตูเงียบไม่ย่างเท้าลงมาอีกเลย ชายหนุ่มโยนผ้าขนหนูผืนเล็กลงตะกร้า ปลดเปลื้องอาภรณ์ทั้งหมดออกเพื่อแล้วหยิบชุดคลุมอาบน้ำมาสวม เตรียมตัวชำระล้างคราบเหงื่อไคล ก๊อกๆๆๆ “คุณหมอคะ” “ครับ” เขาถอนใจโล่งอกและรีบเดินไปถอดกลอนประตูเมื่อคนที่มาคือดอกเตอร์ลิซ่า ไม่ใช่สาวน้อยหน้าหวานแต่ใจเปรี้ยวคนนั้น พิมลภัสว์ก้าวเข้ามาในห้อง เกือบจะทำกระเป๋าโน้ตบุ๊คหล่นลงพื้นเมื่อเห็นชายหนุ่มอยู่ในชุดล่อแหลม ผมยาวระบ่าของเขาหยักศกเล็กน้อย ลำคอและหน้าอกขาวๆ ที่วับๆ แวมๆ อยู่ในสาบเสื้อ ขายาวๆ ที่โผล่พ้นชายชุดคลุมช่างยั่วยวนดีแท้ หญิงสาวรีบเดินไปที่เตียง ซ่อนสายตาแห่งความหิวกระหายไว้อย่างมิดชิดทั้งๆ ที่คิดลึกไปถึงไหนต่อไหน “ทานอะไรมาหรือยังครับ?” คุณหมอหนุ่มยังรีรอไม่เข้าห้องน้ำตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก ดีใจที่รูมเมทกลับมา เขาไม่สบายใจที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับอรพิมสองต่อสองแม้จะมีประตูกั้นไว้ก็ตาม พรหมจรรย์ของเขาจะปลอดภัยเมื่ออยู่กับหญิงสาวน้ำใจงามคนนี้ “เรียบร้อยแล้วค่ะ ฉันซื้อขนมมาฝากด้วยนะคะ” หล่อนหยิบถุงขนมไทยที่ซื้อจากร้านอาหารไปวางไว้บนโต๊ะข้างตู้เย็น “ขอบคุณนะครับ” เขาทำท่าจะเดินเข้าห้องน้ำ หากขายังไม่ทันขยับ เสียงเคาะประตูคำรบสองก็ดังขึ้นเสียก่อน “คุณหมอจ๋า นี่แม่เองนะ” เสียงคุณหญิงเอื้อนเอ่ยหวานจ๋อย ก่อนร่างท้วมจะโผล่เข้ามาในห้องเมื่อปาณวัตรเดินไปเปิดประตู “อุ๊ย! กำลังจะอาบน้ำเหรอลูก หนูอรบอกว่าลูกยังไม่ได้กินข้าวเลย หิวหรือเปล่าจ๊ะ” คุณหญิงปานทิพย์เดินเข้ามาในห้อง ทั้งยังถือโอกาสเดินสำรวจความเป็นอยู่ของหนุ่มสาวทั้งสองด้วย โดยมีอรพิมเดินตามเข้ามาติดๆ “ผมไม่ค่อยหิวน่ะครับ อีกอย่างลิซ่าก็ซื้อขนมมาฝากด้วย แบ่งไปทานก็ได้นะครับ” เขาบอกอย่างเอื้อเฟื้อและโยนความดีให้กับแฟนกำมะลอ “ไม่เอาล่ะ จะอร่อยหรือเปล่าก็ไม่รู้ ขนมไทยในลอนดอนคงสู้ฝีมือแม่อิ่มไม่ได้” คุณหญิงสั่นศีรษะ ทั้งที่ความจริงท่านฟาดทั้งอาหารและขนมไทยมาจากร้านเมื่อตอนกลางวันกับพิมลภัสว์จนอิ่มแปล้ “เดี๋ยวอรถูหลังให้นะคะ” จู่ๆ อรพิมก็พูดขึ้น ทำเอาหนุ่มสาวเจ้าของห้องหน้าแดง ปาณวัตรนั้นหน้าแดงเพราะความโกรธ ไม่คิดว่าหญิงสาวที่ดูเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้จะกล้าพูดออกมาโต้งๆ ต่อหน้ามารดาและแฟนหลอกๆ ของเขา ส่วนพิมลภัสว์นั้นหน้าแดง เพราะคิดว่าอรพิมกำลังรุกฆาตแบบไม่ให้หล่อนตั้งตัว “ไม่ต้องหรอกครับ ไม่ใช่หน้าที่ของคุณ” ปาณวัตรพูดห้วนๆ เขาตั้งใจว่าจะคุยกับมารดาเรื่องที่ท่านจะปล่อยอรพิมไว้กับเขาในเวลาอันใกล้นี้ด้วย “อ้อ อรลืมไป งั้นก็ต้องเป็นหน้าที่ของคุณแฟนตัวจริง ดูเหมือนดอกเตอร์จะงานยุ่งจนไม่มีเวลาให้คุณหมอเลยนะคะ ถ้าเป็นอรนะ จะปรนนิบัติพัดวีไม่ให้พร่องเลย” อรพิมตำหนิและสอนมวยให้กับดอกเตอร์สาวกลายๆ “นั่นสิจ๊ะหนูอร สงสัยสองคนนี้จะจืดชืดเกินไปเสียแล้ว แม่ทำนายได้เลยว่าอีกไม่นานก็คงได้เลิกกันแน่” คุณหญิงและอรพิมพร้อมใจกันส่ายหน้าและทิ้งระเบิดลูกโตไว้ให้คนทั้งสองได้ขบคิด ทันทีที่เดินลงมาจากห้องของบุตรชาย ท่านก็ไปนั่งอยู่ที่โซฟารับแขกในห้องโถงกลางบ้าน เปิดโทรทัศน์ดูด้วยความเซ็ง “เฮ้อ! ไม่มีละครหลังข่าวให้ดูเลย อยู่ที่นี่ไม่เห็นสนุกอย่างที่คิด” อรพิมบ่นเป็นหมีกินผึ้ง “คิดถึงใครที่เวลล์อยู่ล่ะซิหนูอร” คุณหญิงพูดยิ้มๆ ตายังมองมิวสิกวีดีโอของจัสติน บีเบอร์บนจอทีวี “ก็นิดหน่อยน่ะค่ะ อีกไม่กี่วันคุณป้าก็ต้องกลับแล้ว อรกลัวว่าจะทำงานให้คุณป้าไม่สำเร็จน่ะสิคะ” “ก็ทำตามแผนเดิมนั่นแหละจ้ะ แต่ป้าไม่คิดแล้วว่าจะได้ผลหรือไม่ ตัวแปรสำคัญไม่ได้อยู่ที่เราแต่อยู่ที่ใจของปาณวัตรเอง ถ้าสองคนนั้นมีวาสนาต่อกัน เราก็ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้เลย” คุณหญิงพูดปลงๆ ตั้งแต่ได้ฟังความในใจของบุตรชายเมื่อตอนเช้า ท่านก็ขบคิดอยู่ตลอดเวลาและเริ่มทำใจที่จะยอมรับความจริง แม้จะไม่ได้สนิทกันดั่งแม่ลูกทั่วไป แต่ท่านก็รู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนที่จะยอมรับอะไรง่ายๆ หากไม่จนมุมด้วยหลักฐาน ที่สำคัญตอนนี้มีศิขรินทร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีกหนึ่งคน หากท่านบุ่มบ่ามทำอะไรลงไป เหตุการณ์อาจเลวร้ายจนไม่อาจจะดึงปาณวัตรออกมาจากเงามืดได้อีก
已经是最新一章了
加载中