ตอนที่ 1
คลื้นน~ เปรี๊ยงง!!
ซู่ววว~
ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ ในมหาวิทยาลัย SIANTA มหาวิทยาลัยชื่อดังที่ค่าเทอมแพงหูฉี่ ได้มีหญิงสาวร่างบาง ดีกรีดาวคณะอักษรศาสตร์ ปี 1 กำลังเดินอยู่
ทว่าเธอไม่ได้มาเดินเล่นน้ำฝนแต่อย่างใด แต่ว่าในขณะที่เธอกำลังเดินไปยังอาคารจอดรถหลังเลิกเรียน อยู่ๆ ฝนก็ดันตกเหมือนเทลงมาซะอย่างงั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที ท้องฟ้ายังแจ่มใส ไม่มีท่าทีว่าฝนจะตกซักนิด
“โอ๊ยย มาตกอะไรตอนนี้เนี่ย”
เอิงเอย ลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านทูตญี่ปุ่น บ่นออกมาพร้อมเดินกอดกระเป๋าแนบแน่น พยายามเอาแขนและมือโอบคลุมจนเกือบมิดใบ เธอปกป้องราวกับว่า แม้แต่ฝนหยดเดียวก็อย่าหวังจะได้โดนกระเป๋าลูกรักของเธอได้
Hermes kelly mini ช้านนน
เธอทำได้แต่เพียงคิดในใจก่อนที่จะมองซ้ายมองขวา เพื่อหาที่หลบฝนแถวๆนี้ แต่ก็พบเพียงต้นไม้ที่สูงเท่าเอวของเธอเท่านั้น ซึ่งนั่นก็น่าจะไม่ได้ช่วยอะไรได้ ทำให้ความคิดนี้ต้องพับเก็บไว้ แล้วเปลี่ยนความคิด เป็นวิ่งไปยังเป้าหมายปลายทางแทน
เอาวะ วิ่งก็วิ่ง!
ด้วยความที่รองเท้าค่อนข้างสูง ทำให้เธอเสียหลักเซ จนทำให้ส้นสูงที่เธอใส่หักกลางทางระหว่างที่เธอวิ่ง
เป๊าะ
“โอ๊ะ”
ล้มแน่ๆ งานนี่อีเอิงเจ็บตัวแน่ๆ
เอิงเอยหลับตาปี๋ เตรียมพร้อมรอรับแรงกระแทกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า แต่ มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น
หยดฝนที่ปะทะเธอเต็มแรงก่อนหน้านี้ได้อันตรธานหายไป และหน้าก็ไม่ได้ล้มขมำไปอย่างที่คิด...แถมยังมีมือบุคคลนิรนามมาโอบกอดดึงเธอไว้อีก
“เป็นอะไรมั้ยครับ”
เสียงนุ่ม ชวนฝันของสาวหลายๆคน หลุดปากถามหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนออกมา ...เขาคนนั้นก็คือ
ซัน รุ่นพี่ปี 3 คณะบริหาร เป็นหนึ่งในสมาชิก Devil Prince กลุ่มที่ ขึ้นชื่อเรื่องความหล่อ รวย มีอำนาจ อัจฉริยะ และโหด จนใครๆต่างหวาดกลัวและเกรงขาม นิยามให้ว่าเป็นเจ้าชายปีศาจ..แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังเป็นชายในฝันและเป็นชายที่ต้องการของหญิงแท้หญิงเทียมอยู่ดี
ซันถือร่มคันใหญ่กันไม่ให้สายฝนกระทบโดนตัว พร้อมโอบเอวของเธอเอาไว้ เพื่อไม่ให้เธอล้มลงไปกองกับพื้น และทันที..ที่เอิงเอยลืมตาขึ้นมา
“พะ พี่ซัน ว๊ายย”
ด้วยความตกใจ รุ่นพี่ที่เคยได้ยินชื่อหนาหู และเห็นหน้าบ้างในบางครั้งบางคราวนับครั้งได้ เพราะคนอย่างเขา ไม่ใช่ว่าใครจะเจอตัวได้ง่ายๆนัก ทำให้เธอรีบลุกลี้ลุกลนเพื่อที่จะลุกขึ้นกลับมายืนปกติในทันที
แต่ด้วยการกระทำที่รีบรนเช่นนั้น ทำให้ของในกระเป๋าบางส่วนของเธอที่มันใกล้จะร่วงหล่นไปกองที่พื้นตั้งแต่แรก กลายเป็นหล่นลงไปจริงๆ และหล่นกระจัดกระจาย กลิ้งระเนระนาดไปตามท้องถนนด้วย ยกเว้นชิ้นหนึ่ง
จ๋อม!
ม่ายยยยนะ..กุญแจรถฉ้านนน
ที่มันไม่ได้ไปกองอยู่บนพื้น แต่ว่า..มันกลับตกลงไปยังใต้คูน้ำที่มีกรงเหล็กทับไว้ ในบริเวณใกล้ๆแถวนั้น..นั่นก็คือ กุญแจรถของเธอ เลยทำให้เอิงเอยเอาแต่ยืนมองตาปริบๆ ก่อนที่ผู้ชายที่ยืนข้างๆ จะเอ่ยเสียงนุ่มขึ้นมาอีกครั้ง..
“ถือร่มให้พี่หน่อย” ซันยกร่มคันใหญ่ให้เธอถือ ก่อนจะจัดการอะไรบางอย่างที่หญิงสาวเองก็คาดไม่ถึง นั่นก็คือก้มลงเก็บของที่ร่วงในกระเป๋าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลิปสติก แป้งรองพื้น สายหูฟัง และของกระจุกกระจิกสำหรับหญิงสาว...
“นี่ครับ”
“ขะ ขอบคุณค่ะ”
และทุกอย่างตอนนี้ ต่างก็โดนน้ำซึบแทรกเข้าไปทุกอณู จนมันไม่สามารถที่จะทำงานของมันได้อีกแล้ว แต่ว่าเพื่อไม่ให้เป็นขยะ เอิงเอยก็จำเป็นต้องยัดของเหล่านั้นกลับเข้าไปในกระเป๋าเช่นเดิม..
ตอนนี้ทุกอย่างกลับเข้ามาอยู่ในกระเป๋าของมันแล้ว...ขาดเหลือก็แต่กุญแจรถที่ตกลงไปในคูน้ำ และมันก็เป็นของสำคัญและจำเป็นกว่าของอื่นๆที่ชายหนุ่มเพิ่งหยิบให้ซะด้วย..
ครืดด
แต่แล้วเธอก็คิดกังวลได้ไม่นาน เพราะอยู่ๆ ซันก็เลื่อนตัวออกนอกร่มและเดินไปยังฝากรงคูน้ำที่ปิดกั้นของชิ้นสุดท้ายของหญิงสาวทันที.. ซันค่อยๆเลื่อนฝาคูน้ำออก พร้อมกับโชว์กล้ามท้องที่แนบไปกับเสื้อนักศึกษาสีขาวที่เปียกน้ำอยู่ จนทำให้เอิงเอยที่มองด้วยความงุนงงแต่แรก..ถึงกับเหลือกตาตกใจ..พร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างหนืดๆในทันที...
เอือก! หุ่นดีเกินไปแล้ว..
แต่เธอก็คิดแบบนั้นได้ไม่นาน..เพราะเธอยังคงมีสติอยู่ที่จะรีบก้าวขาและเดินไปใกล้เขา เพื่อไม่ให้เขาต้องเปียกหยดฝนไปมากกว่านี้ จากร่มของเขาเองที่ให้เธอประคองถืออยู่ในมือตอนนี้ ก่อนจะมองดูการกระทำของเขาไม่วางตา
ทันทีที่ซันเปิดฝาคูน้ำออก เขาก็หยิบกิ่งไม้แถวนั้น แล้วก็ใช้ทักษะมือเบาและความแม่นยำเขี่ยสิ่งของที่เขาและเธอต้องการ..แล้วหยิบขึ้นมาอย่างง่ายดาย จากนั้นเขาก็ปิดฝาคูน้ำกลับ ก่อนจะนำกุญแจไปชะล้างอีกครั้งด้วยน้ำฝนที่กำลังตกอยู่ในตอนนี้ จนคราบสกปรกหายไป จากนั้นเขาจึงค่อยๆหันไปยิ้มให้กับหญิงสาว..พร้อมพูดเสียงนุ่มเป็นรอบที่ 3
“นี่ครับ กุญแจรถ”
รอยยิ้มที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้ มันเป็นรอยยิ้มที่ใครหลายคนก็ตั้งชื่อให้ว่า.. รอยยิ้มพิฆาตนารี และในขณะนี้ เอิงเอยเข้าใจซึ้งดีจริงๆว่า คำนี้มันไม่ได้มาเพราะสุ่มแน่ๆ เพราะรอยยิ้มของเขา..มันชวนให้ละลายจริงๆ..
แต่ว่าประสบการณ์ที่ไม่ดีที่เธอเพิ่งเจอจากแฟนเก่า และผู้ชายที่ผ่านมาทำให้เธอต้องละความรู้สึกนั้น และเปลี่ยนเป็นยิ้มสดใสในแบบเธอพร้อมตอบออกมา
“ขอบคุณค่ะ”
“รองเท้าส้นหักเหรอ”
แต่แล้วซันก็สังเกตเห็นท่ายืนของเธอแล้วเหมือนตัวจะเอียงๆไปนิด และพอก้มมองดูที่ช่วงเท้า ก็ได้รู้ถึงสาเหตและกล่าวออกมาเช่นนั้น
“ค่ะ”
“ยืนขาเดียวแป๊บหนึ่งได้ใช่มั้ย”
“คะ?”
ชายหนุ่มไม่รอคำตอบ แต่เปลี่ยนเป็นลงไปนั่งยองๆที่พื้น พร้อมกับถอดรองเท้าอีกข้างของหญิงสาวออกอย่างนุ่มนวล ทำให้เธอต้องเปลี่ยนท่ายืนเป็นขาเดียวแบบที่เขาบอกก่อนหน้าจริงๆ พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อยกับการกระทำของเขา..
ตุบๆๆ ตุบๆๆ
เปร๊าะ!
ชายหนุ่มพยายามเคาะ และหัก เพื่อให้รองเท้าสูงเสมอเท่ากัน ไม่นาน ส้นของรองเท้าก็หลุดออกไป เขาจึงนำมันกลับไปสวมให้หญิงสาวใส่อีกครั้ง โดยไม่นึกรังเกียจ ในขณะที่คนถูกสวมใส่รองเท้า..ก็รู้สึกหายสงสัย และเปลี่ยนเป็นตกใจ..ที่ไม่คาดคิดว่า เจ้าชายปีศาจที่หาตัวจับยาก อย่างเขาจะทำให้เธอถึงขนาดนี้..
“ใส่แบบนี้ไปก่อนละกัน ถ้าใส่แบบสูงไม่เท่ากัน ได้ขมำไปอีกรอบแน่ๆ” ชายหนุ่มพูดพร้อมยิ้มขำเล็กน้อย อย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะเอื้อนเอ่ยปากพูดขึ้นอีกครั้ง..
“อ่อ แล้วก็.. ขอโทษนะครับ”
เป็นอีกครั้ง ที่เอิงเอยงงในคำพูดของเขา แต่ไม่นานเธอก็เข้าใจในทันที เมื่อเห็นว่าเขาถอดเสื้อคลุมหนังสีน้ำตาลเข้มที่เขาใส่อยู่ ออกมาใส่ให้เธอแทนอย่างสุภาพ
เนื่องจากเธอใส่ชุดนักศึกษาสีขาว เมื่อเจอน้ำฝนที่เหมือนเทลงมาขนาดนี้ ทำให้อะไรที่ซ่อนรูปไว้ก็แสดงออกมาหมด เมื่อนึกขึ้นได้ก็ทำให้ใบหน้าขาวตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อแทน เพราะความเขินอาย
โอ๊ยย..แกลืมเรื่องนี้ไปได้ไงวะ แล้วข้างในวันนี้ก็เป็นสีแดงซะด้วย! ตายๆๆๆ อีเอิง แม้ว่าเอิงเอยจะรู้สึกเขินอายอยู่ภายในใจ..แต่ว่าเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีกับอีกฝ่าย ที่เขาไม่แสดงสายตาที่ดูหื่นกาม แถมยังมีความเป็นสุภาพบุรุษ..
และเมื่อเสื้อตัวใหญ่นั่นมาปิดสัดส่วนที่สวยงามของเธอจนมิดชิดแล้ว ซันก็เอาร่มจากมือเธอไปถือคืน พร้อมกับส่งยิ้มให้อีกครั้ง
นี่มันพี่ซัน Devil Prince เลยนะ ทำไมละมุนยังงี้ แต่ว่า..ถ้าข่าวลือที่ไม่ผิด เขาน่ะคือบุคคลอันตรายที่ผู้หญิงควรออกห่างให้มากที่สุด เพราะฉะนั้น แกจะหลงคารมของเขาไม่ได้ ไอเอิง
นั่นคือความคิดที่ผุดขึ้นในใจของเอิงเอย แต่ทว่าพออีกฝ่ายส่งสายตา รอยยิ้ม พร้อมกับน้ำเสียงที่ทุ้มละมุนมา ก็ทำให้เอิงเอยอดที่จะทรยศกับความคิดตัวเองไม่ได้
“จะไปไหนครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“…”
“ว่าไงครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง พี่มีร่มนะ” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเห็นหญิงสาวได้แต่มองหน้าเขาแบบใจลอย พร้อมทำท่ายกและส่งไปสายตาไปยังร่ม ให้รู้ว่าตนเองมีร่มจริงๆ และมันก็ทำให้สติที่ล่องลอยของหญิงสาวประทับกลับมาเข้าร่างอีกครั้ง..
“อะ เออ ตึก B2 ค่ะ”
แล้วทั้งคู่ ก็เดินไปที่ตึก B2 ที่พูดถึง โดยห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 2 นาที
และทันทีที่ทั้งสอง ย่างก้าวเข้ามายังตัวอาคาร ซันก็หุบร่มแล้วใช้อาคารเป็นที่กำบังฝนใหม่แทน
“เปียกหมดเลย อยู่ๆตกได้ไงไม่รู้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีแดดด้วยซ้ำไป ...เออ ขอบคุณพี่ซันอีกครั้งนะคะ” เอิงเอยบ่นผ่านๆพร้อมลูบหน้าและตัวไล่น้ำฝนไปมา ก่อนจะหันไปยิ้มขอบคุณรุ่นพี่ที่ช่วยเธอเมื่อกี้อีกครั้ง
“รู้จักพี่ด้วยเหรอ” เขาทักขึ้นมา เมื่อได้ยินชื่อของเขาออกมาจากปากของหญิงสาวตรงหน้า แต่จริงๆเขารู้อยู่แล้ว ว่าระดับอย่างเขามีหรือใครจะไม่รู้จัก..อ่อ..ยกเว้นคนหนึ่ง คนในเกมของเขาตอนนี้นั่นเอง
“รู้สิคะ”
แน่ล่ะ..เธอจะไม่รู้ได้ไง..ใครที่เข้ามหาวิทยาลัยนี้ล้วนรู้จักกลุ่มเขาทั้งนั้น กลุ่ม Devil Prince แต่ว่าเธอไม่ได้รู้จักเขา ตอนเข้ามหาวิทยาลัยหรอกนะ แต่เธอรู้จักตั้งแต่สมัยโรงเรียนแล้ว เนื่องจากว่า กลุ่มนี้ก็เคยเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับเธอ แต่กลุ่มพวกเขาไม่ได้เรียนปกติเหมือนเธอหรอก พวกเขาเป็นเด็กพิเศษ..ทำให้แยกไปอยู่ในอาคารอีกตึก ที่ไม่มีใครเข้าถึงได้ ถ้าพวกเขาไม่อนุญาต..เหมือนกับตอนนี้ แม้ว่าจะอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับเธอ แต่พวกเขาก็ไม่มีใครมาเข้าเรียนกันหรอก เพราะจริงๆ พวกเข้าเรียนจบปริญญาตั้งแต่สมัยโรงเรียนแล้วล่ะ
ก็อย่างที่บอก ว่าDevil Prince..คือกลุ่มที่รวมคนอัจฉริยะมารวมตัวกัน และพวกเขาก็ดังเอามากๆ พอๆกับซุปเปอร์สตาร์เลยเชียวล่ะ ใครๆก็รู้จัก.. ยกเว้นเพื่อนสนิทของเอิงเอย ที่ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งเม้าท์กับเพื่อนไปเองว่าให้ห่างจากคนนี้ไว้ เพราะพี่ซันคนนี้ คือคนที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ที่สุด!
“แล้วน้องชื่ออะไรเหรอครับ”
หลังจากที่เอิงเอยตอบไปเช่นนั้น ซันก็ไม่ได้คาดคั้นอะไรต่อว่าเธอรู้จักได้อย่างไร เพราะเรื่องที่ใครๆก็รู้จักเขา มันเป็นเรื่องปกติของเขาอยู่แล้ว.. ยกเว้นคนในเกมของเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน..
ส่วนคนตรงหน้าคนนี้ เธอเองก็คงคิดว่าเขาไม่รู้จัก และเขาก็อยากให้เธอคิดเช่นนั้นเช่นกัน เลยทำให้ซันเลือกที่จะเอ่ยปากถามแบบนั้นออกไปพร้อมกับเดินเท้าก้าวไปส่งเธอที่รถ อย่างที่สุภาพบุรุษคนหนึ่งพึงกระทำ..
“เอิงเอยค่ะ เรียกเอิงเฉยๆก็ได้”
“ทำไมมาเดินคนเดียว เพื่อนละครับ”
“อ่อ วันนี้เพื่อนไม่มาเรียน เอิงเลยมาเรียนคนเดียวค่ะวันนี้”
“เพื่อนไม่มาทั้งกลุ่ม?” ซันทำทีเลิกคิ้วถาม ทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
“เปล่าหรอกค่ะ เพื่อนที่ว่ามีคนเดียว เป็นเพื่อนสนิทนะคะ”
“ครับ”
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็หันหน้าเดินตรงไปยังรถของเอิงเอยต่อไร้เสียงสนทนาใดๆ และเธอคงไม่ทันสังเกตรอยยิ้มชั่วร้ายที่ผุดขึ้นตรงมุมปากของผู้ชายข้างๆเช่นกัน.. และมันก็เป็นอย่างนั้น จนกระทั่ง ทั้งคู่เดินมาถึงปลายทาง..รถคันสวยหรู ของเอิงเอยที่จอดทิ้งเอาไว้อยู่
และทันทีที่ถึงรถ..เอิงเอยที่รู้สึกเกรงใจอีกฝ่ายที่ต้องมาเปียกฝนเพราะเธอ ทำให้เธอคิดอะไรบางอย่างได้และเอ่ยปากพูดออกมา..
“เออ พอดีเอิงมีเสื้อผู้ชายอยู่ในรถ พี่ซันเอาไปเปลี่ยนก่อนไปไหนต่อนะคะ เปียกแบบนี้เดี๋ยวไม่สบายเอา”
“ขอบคุณครับ”
เมื่อพูดจบ เธอก็กดรีโมทเปิดรถ แล้วหยิบชุดผู้ชายที่เธอว่า ส่งให้ชายหนุ่ม
ปกติเธอไม่พกชุดผู้ชายในรถหรอก แต่นั่นคือชุดที่เธอตั้งใจจะซื้อเซอร์ไพรส์วันเกิดแฟนเก่าคนล่าสุด เธอนำมันไปซักหอมให้อย่างดี แต่วันที่จะมอบให้ เธอกลับโดนเซอร์ไพร์สกลับซะเอง ด้วยการเจอแฟนหนุ่มกับผู้หญิงที่ไม่รู้จักกำลังเมามันกันบนเตียงอย่างเร้าร้อน
เมื่อจับได้ อีกฝ่ายก็ตามง้อเธออยู่ช่วงเวลาหนึ่ง และเหตุผลที่เขาทำไปแบบนั้น ก็เป็นเพราะเธอไม่ยอมมีอะไรด้วย
เหตุผลนี้เป็นเหตุผลที่ได้ยินนับไม่ถ้วนจากปากผู้ชายทุกคนที่เธอเคยคบหา ทำให้ตอนนี้เธออคติกับผู้ชาย เธอตัดสินใจโสด ไม่ขอมีแฟน เพราะเธอเสียใจมาเยอะมากพอแล้ว
“แล้วพี่จะคืนเสื้อให้นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เอิงยกให้เลย ไม่ต้องคืน”
เธอไม่รู้จะเอาเสื้อไปทำอะไรอยู่แล้ว นี่ถ้าเธอไม่เจอพี่ซัน เธอก็ว่าจะเอาไปทิ้ง
“แต่เอิงต้องคืนเสื้อพี่นะ” ซันพูดพร้อมมองลงมาที่เสื้อหนังสีน้ำตาลที่เพิ่งยกให้หญิงสาวไปไม่นาน และมันก็ทำให้เธอคิดได้จึงรีบโพล่งปากตอบกลับในทันที
“เออจริงด้วย! พอดีเอิงมีเสื้อคลุมของตัวเองอยู่ เดี๋ยวพี่ซันเอาตัวนี้ไปเลยก็ได้”
แต่แล้วในขณะที่เอิงเอยทำท่าจะเดินไปที่รถ เพื่อไปใส่เสื้อคลุมตัวเอง ซันก็พูดขึ้นมาก่อน ตามในแผนที่เขาอยากจะให้เป็น..
“ใจคอจะคืนให้พี่ทั้งที่เปียกๆแบบนี้เลยเหรอครับ”
“เออ นั่นสิ แหะๆ”
“งั้น..พี่ขอมือถือหน่อย..”
เมื่อเห็นท่าทีลังเลของเอิงเอย เขาก็เลยถือวิสาสะหยิบมือถือที่ปริมออกมาจากกระเป๋าของเธอแทน ก่อนจะกดเบอร์โทรของตนเองแล้วกดโทรออกทันที
Rrrrr~ Rrrrr~
ตึ๊ด!
“นี่เบอร์พี่นะ แล้วจะติดต่อไปนะครับ”
เขาพูดขึ้นด้วยหน้าเปื้อนยิ้มเหมือนที่เขาทำมาตลอด จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินจากไปจากตรงนี้ทันที..โดยปล่อยให้หญิงสาวยืน งงพร้อมกับกำมือถือของตัวเองไว้แน่น.. และเธอคงไม่รู้หรอกว่า ทันทีที่อีกฝ่ายหันหลังไปแล้ว ใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้น ก็ถูกแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่เป็นแสยะยิ้มขึ้นมาทันทีเช่นกัน
ส่วนสำหรับเธอนั้น เธอก็ได้แต่คิดว่า..การกระทำที่ทั้งหมดของรุ่นพี่หาตัวจับยากคนนี้ มันทำให้บ่อยครั้งที่เธอแอบรู้สึกหวั่นไหว แต่ด้วยความที่เธอก็รู้ว่าเขามันตัวอันตรายแค่ไหน ทำให้เธอต้องห้ามใจตัวเองเอาไว้ เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ครั้งนี้ถ้าเธอไม่ห้ามใจไว้ เธอต้องเจ็บหนักกว่าครั้งก่อนๆเป็นแน่
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เอิงเอยก็สะบัดหัว 2-3 ที ก่อนจะตั้งใจขับรถมุ่งไปยังบ้านของตัวเอง
ส่วนชายหนุ่มอีกคน เมื่อไปถึงรถหรูรุ่นใหม่ราคาแพงของเขาเอง..เขาก็เปิดประตู แล้วก็จัดการโยนเสื้อผู้ชายกลิ่นหอมน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เพิ่งได้รับ เข้าไปในรถอย่างไม่แยแสเลยซักนิด พร้อมกับคิดว่า..
หึ หน้าตาก็สวยอยู่หรอก แต่ท่าทางไม่ธรรมดา พกเสื้อผู้ชายในรถ คงของผู้ชายของเธอคนใดคนหนึ่งล่ะสิ
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็ไปนั่งในรถ พร้อมกับเปิดเพลง แล้วสตาร์ทรถออกไปอย่างสบายใจกับแผนการที่ก้าวหน้าไปขั้นหนึ่งในวันนี้ และตลอดทางเขาก็เอาแต่คิดว่า
สีหน้าแววตาของเอิงเอยที่มองมาที่เขานั้น มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ชายหนุ่มจะได้เห็นจากผู้หญิงที่เขาคุยด้วย เขาเห็นแบบนี้จนชินชา และก็เบื่อหน่ายกับผู้หญิงประเภทนี้นัก แต่ก็ต้องแสร้งยิ้มไป เพราะเรื่องหว่านเสน่ห์ มันเป็นงานถนัดของเขาอยู่แล้ว
และที่สำคัญ สำหรับวันนี้..มันก็เป็นหนึ่งในแผนการของเขา ที่จะใช้เธอคนนี้เป็นเครื่องมือก็เท่านั้นเอง!..หึหึ