ตอนที่ 2
“คุณผู้หญิง! คุณผู้ชาย! หนูซันมาค่าา” ป้าแวว ตะโกนร้องลั่น เมื่อเห็นผมยืนอยู่ตรงหน้าบ้าน ก็แน่ล่ะ ผมไม่ได้กลับบ้านมาหลายเดือนแล้ว
ป้าแววเป็นแม่บ้านของที่นี่ และก็เป็นคนที่เลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่ผมเพิ่งเกิดจนตอนนี้ผมโตแล้ว แต่ป้าก็ยังไม่เลิกเรียกผมว่า หนูซัน สักที ให้ตายเถอะ!
“ป้าตาฝาดรึเปล่าที่เห็นหนูซันของป้า”
“โถ่ ป้าแวว เลิกเรียกผมว่าหนูซันซะที ผมโตแล้วนะ”
“ยังไงหนูซันก็ยังเป็นเด็กน้อยในสายตาป้าอยู่ดี มาๆ มาให้ป้ากอดให้หายคิดถึงหน่อย”
“ถ้าสาวๆผมรู้ ผมจะเอาหน้าไปไว้ไหน อายตายเลย” ถึงปากผมจะบ่นไปอย่างนั้น แต่ผมกอดป้าไปแน่นๆให้หายคิดถึงเหมือนกัน
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมวันนี้มาบ้านได้ฮะ ตาซัน” เสียงแม่ของผมเอง ...คุณนายผิน หรือ ผินผิน ...ประมุขใหญ่ของบ้านหลังนี้ ส่วนรองประมุขนะเหรอ คงไม่ต้องบอกว่าใคร หึหึ
“ไม่ใช่ไปทำสาวที่ไหนท้องมาล่ะ ฮ่าๆ”
ยังไม่ทันตอบคำถามนายแม่ เสียงพ่อของผม ‘อัสว’ หรือรองประมุขของบ้านหลังนี้..ก็ดังตามมาติดๆ
แต่ประโยคทักนี่ ช่างไม่เป็นมงคลกับผมจริงๆ
และเพราะประโยคทักนี้แหละ ทำให้ตอนนี้ม๊าผมหันไปมองค้อน จนป๊าต้องหยุดขำแทบไม่ทันเลยทีเดียว
“โถ่ ที่รัก ผมพูดเล่น ไม่มีเรื่องแบบนั้นใช่มั้ย เจ้าซัน” ป๊าหันหน้ามารอคำตอบจากผมด้วยสีหน้าขอความช่วยเหลือ ส่วนผมก็ยิ้มรับ ก่อนตอบออกมาอย่างภาคภูมิใจ
“ไม่มีเรื่องแบบนั้นแน่นอนครับ ไว้ใจได้ ..เพราะ..ผมป้องกันตลอด”
เพี้ยะ!
นั่นปะไร โดนฟาดจนได้
“เชื้อไม่ทิ้งแถว เหมือนพ่อมันเลย เจ้าชู้!”
“อ่าว ไอซัน เพราะมึงเลย เมียกูโกรธกูล่ะเนี่ย ..ที่รัก ไม่โกรธผมนะ ตั้งแต่มีที่รัก ผมก็เลิกหมด มีที่รักแค่คนเดียว จริงๆนะ” ป๊าพูดพร้อมโอบกอดภรรยาที่รักยิ่งกว่าชีวิตเอาไว้ ทำเอาทุกคนรวมทั้งผมในบริเวณนั้นต่างพากันหัวเราะให้กับความน่ารักของพ่อแม่ผม ที่ผมเห็นเป็นประจำ เห็นจนชินตา แต่เรื่องที่ป๊ามาโทษผมมันก็ไม่ถูกนะ มันเป็นเพราะเรื่องอดีตของป๊าเอง ช่วยไม่ได้ ผมเลยพูดเชิงขำๆกวนพ่อผมออกมา
“เรื่องของป๊าสิ เกี่ยวไรกับผม”
“เอ้า ไอลูกเวรนี่!”
“พอเลยๆ ทั้งพ่อทั้งลูก แล้วสรุปมานี่มีอะไรรึเปล่า”
“ผมก็คิดถึงป๊ากับม๊าไง มาๆ ขอกอดให้ชื่นใจหน่อย”
“ไม่ต้องมากอดกู ขนลุก! มีอะไรว่ามา”
ถึงป๊าผมจะพูดแบบนั้น แต่ก็ยืนนิ่งให้ผมกอดแต่โดยดี แถมยังยิ้มไม่หุบด้วยนะ ส่วนผมก็เหมือนเดิม..กอดป๊าพอเป็นพิธีก็พอ..ให้พ่อผมได้ยิ้มเล็กๆน้อยๆ
“รู้ทันตลอด พ่อใครหว่า ฉลาดเหมือนลูกมันเลย ฮ่าๆ ไปกินข้าวกันก่อน ผมหิวจะแย่แล้ว”
“อืมก็ดี ม๊ากำลังจะกินข้าวพอดีเลย แวว ฝากจัดโต๊ะเผื่อหนูซันของป้า เพิ่มอีกที่..”
“ได้ค่ะ คุณผู้หญิง”
และทันทีที่ผมถึงโต๊ะอาหาร ที่มีกับข้าวที่ผมเห็นจนชินตาสมัยเด็ก ผมก็ตักอาหารเข้าปากทันที พร้อมกับหันไปพูดอ้อนกับเจ้าของฝีมือจานนั้นบนโต๊ะ และหยิบจับอาหารบนโต๊ะ มากินอย่างเอร็ดอร่อย ให้สมจริงกับคำพูดของตัวเองที่ได้พูดออกไป
“อาหารป้าแววกินกี่ครั้งก็อร่อย ผมล่ะคิดถึ๊งงคิดถึงรสมือป้าแววที่สุดเลยครับบ”
“ปากหวานตลอดนะคะ งั้น..หนูซันก็กลับมาอยู่บ้านสิคะ เดี๋ยวป้าทำให้ทานทุกวันเลย”
“เคยได้ยินมั้ยป้า ที่เค้าบอกว่านานๆเจอกันจะคิดถึงมากกว่าเจอกันทุกวัน อาหารป้าก็เหมือนกัน นานๆกินทีมันจะอร่อยมากกว่าเป็นพิเศษ”
“หึ กะล่อนเหมือนพ่อมัน!\"
ทันทีที่ม๊าพูดจบ ป๊าผมก็สะดุ้งเลยทีเดียว ก่อนที่ม๊าจะพูดอีกครั้ง
\"ไม่ต้องมาอ้างนู้นอ้างนี่เลย อยู่บ้านไม่สะดวกเรื่องผู้หญิงกับงานผับของแกล่ะมากกว่า”
“ม๊าใคร ฉลาดเหมือนลูกเลย”
นี่ล่ะ ม๊าผม..ไม่เก่งแบบนี้ คงจะเหนือพ่อผมไม่ได้หรอก..ส่วนผมก็เป็นลูกของท่านไง เพราะฉะนั้น ผมก็ได้แต่หันไปพูดยิ้มอย่างอารมณ์ดี แล้วก็กลับไปเคี้ยวอาหารอย่างเอร็ดอร่อยต่อเช่นเดิม พร้อมกับคิดว่า
อยู่บ้านมันก็ดี แต่คอนโดผมมันอยู่ใกล้ผับและมหาวิทยาลัยมากกว่า เดินทางสะดวกกว่า และที่สำคัญเลย ผมไม่ชอบที่ม๊าต้องมายืนรอผมทุกคืน เพราะผมมันสายกลางคืน กว่าผับของผมจะปิด หรือบางวันผมต้องเสียเวลาไปกับการหิ้วผู้หญิงไปกินอีก กว่าจะได้หลับได้นอน นู้นน ก็ดึกละครับ เพราะฉะนั้น นอนคอนโดนั่นล่ะ สะดวกสุดแล้ว อ้อ แต่ผมไม่พาผู้หญิงขึ้นคอนโดนะครับ นั่นมันพื้นที่ส่วนตัวของผม และผมไม่มีทางให้คนไม่สนิทเข้าเด็ดขาด
“เห้อ!! แกก็เพลาๆเรื่องผู้หญิงบ้าง แล้วหาสะใภ้ดีๆให้ม๊าได้แล้ว”
“เอาอีกละ! ป๊า ช่วยผมด้วย”
ช่วงหลังๆมานี้ ม๊าชอบบ่น บอกว่าอยากให้ผมมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที แล้วจะให้ผมไปเอาจากไหนล่ะ ที่ผ่านมาก็เหมือนๆกันหมด มีแต่ผู้หญิงที่เข้ามาเพราะเงิน หน้าตา หรือชื่อเสียงของผมเท่านั้น ส่วนผม ก็สนใจแค่เรื่องบนเตียงเท่านั้น ให้มาเป็นแฟนหรือต้องมาบงการชีวิต เหมือนกับม๊าที่ทำกับป๊าตอนนี้นะเหรอ
หึ ผมไม่เอาเด็ดขาด
“ป๊าจะช่วยอะไรแกได้ คุณนายว่ายังไงป๊าก็ว่าตามนั้น”
นั่นไงล่ะ พูดไม่ทันขาดคำ และเมื่อป๊าพูดจบ ป๊าก็หันไปยิ้มให้ม๊าอย่างประจบประแจง ส่วนผมก็รู้อยู่แล้ว ว่าป๊าต้องตอบแบบนี้ เหมือนกับทุกครั้งที่ป๊าตอบมา
ป๊าผมเนี่ย ถ้าเป็นเรื่องของม๊าไม่เคยช่วยเหลืออะไรผมได้เลย ให้มันได้อย่างนี้สิ
หัวหน้าตระกูล อำนาจชัยฤทธิ์ ผู้มีอิทธิพล อดีตประธาน..บริษัท Tritrans..ที่เกี่ยวกับการขนส่งสาธารณะและสนามบินของเอเชีย ผลิตอะไหล่ยานพาหนะทั้งบนบก บนน้ำ และบนอากาศ.. รวมถึงยังเป็นมาเฟียค้าคลังอาวุธที่ใหญ่ระดับต้นๆ อีกด้วย..กลับต้องมากลัวเมีย หมดกันป๊าผม!
“โถ่ม๊า ผมอายุแค่นี้เอง จะรีบไปทำไม ผมอยากอยู่กับม๊ากับป๊าไปนานนานนน”
“ไม่ต้องมาอ้อนเลย แกมีการมีงานมั่นคงแล้ว พร้อมแล้วๆ”
“ผู้หญิงดีๆ มันหาง่ายซะทีไหนล่ะ ทุกวันนี้มีแต่คนจ้องจะจับผมเพราะรวยทั้งนั้นแหละ” ผมพูดอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะลงมือตักอาหารตรงหน้าเข้าปากเหมือนเดิม
ผู้หญิงก็เหมือนๆกันหมด ผมมีหน้าที่สนองความต้องการเรื่องบนเตียงให้กับผู้หญิงพวกนั้นก็แค่นั้น จบแล้วแยกย้าย
“ถ้าแกหาไม่ได้ ม๊าจะหาให้เอง หนูแพรวาก็ดีนะ แกว่ามั้ย”
“ม๊าก็รู้ผมคิดกับแพรวาแค่น้องสาว”
“ที่รัก เดี๋ยวมันก็เจอของมันเองแหละ อย่าไป..”
“หยุดเลยๆ ไม่ต้องมาห้าม ฉันอยากอุ้มหลานแล้ว... อืม..หรือจะเป็นยัยแก้วใจลูกยัยเพียงตาดี แต่ยัยหลินลูกอาเจียงก็ได้อยู่นะ หรือว่าจะเป็น..”
“เออ ผมว่า เรามาคุยเรื่องผมมาวันนี้ดีกว่า”
ผมเปลี่ยนเรื่องดีกว่า เดี๋ยวม๊าจะถลำไปไกลกว่านี้ และมันก็เบี่ยงเบนความสนใจได้เยอะเลยทีเดียว เพราะทันทีที่ผมพูดแบบนั้นม๊าผมก็ลืมเรื่องก่อนหน้าแล้วเอ่ยถามผมทันที
“เออนั่นสิ ลืมไปเลย ว่ามาๆ”
และทันทีที่ทั้งพ่อและแม่ผมหันมามองพร้อมกัน ผมก็หยิบเอกสารที่ผมเก็บเอาไว้ขึ้นมาวางบนโต๊ะพร้อมพูดขึ้นมาทันที
“นี่ครับ หลักฐาน”
“อืม ถ้าเรื่องนี้ ป๊ารู้มาสักระยะแล้วล่ะ”
“เรื่องอะไรเหรอคะ”
“ไอกฤษณ์ มันโกงเงินในบริษัทของเรา”
กฤษณ์ที่พูดถึง คือคนทำงานคนเก่าคนแก่ของพ่อผมเอง ที่ตอนนี้พ่อมอบตำแหน่งให้ท่านมาทำงานเป็นผู้บริหารให้บริษัท tritrans ของพ่อผมแล้ว เพราะท่านเป็นคนที่อยู่กับพ่อมานาน และผมก็นับถือท่านเหมือนลุงผู้ใหญ่ที่ผมเคารพคนหนึ่ง ซึ่งท่านก็เป็นพ่อของแพรวา คนที่ม๊าเสนอชื่อมาคนแรกนั่นเอง
ส่วนเอกสารหลักฐานที่ผมเอาขึ้นมาวางบนโต๊ะ ที่บ่งบอกว่าลุงกฤษณ์โกง ก็เป็นเพราะ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พ่อผมเพิ่งออกจากตำแหน่งประธาน แล้วให้ผมรับช่วงต่อแทน ส่วนเหตุผลนะเหรอ ป๊าบอกว่าอยากมีเวลาอยู่บ้านกับเมียไงล่ะ!
เพราะฉะนั้น งานทุกอย่างก็โยนมาที่ผมแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเมื่อผมได้รับงานนี้แล้ว ผมก็ตั้งใจและจริงจัง พร้อมกับตรวจสอบบัญชีความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา จนได้รู้ว่าบริษัทผมมีการโกงเกิดขึ้นภายในเมื่อปีที่แล้ว และก็เกิดจากคนใกล้ตัวอย่างลุงกฤษณ์
และที่พ่อผมพูดแบบนี้ก็ไม่แปลก เพราะถ้าผมเดาไม่ผิด ผมว่าพ่อรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนจะสละตำแหน่งท่านประธานแล้วล่ะ ผมรู้จักป๊าผมดี นอกจากอยากอยู่กับม๊าอย่างที่บอกแล้ว ป๊าก็ยังอยากทดสอบศักยภาพของผมด้วย ว่าผมจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง
พ่อผมเป็นอย่างนี้เสมอ ถึงท่านจะกลัวเมีย แต่เรื่องงานหรือวิธีการเลี้ยงผม ท่านเองมักจะชอบทดสอบและเด็ดขาดกับผมเสมอ
“ตายจริง! แล้วโดนไปเยอะมั้ย”
“ก็เอาเรื่องอยู่อะม๊า หลักสิบล้าน”
“สิบล้าน! จะเป็นลม”
“ที่รักๆ ไหวมั้ย มาๆเดี๋ยวผมผายปอดให้”
เพี๊ยะ!
“เปรียบเปรยย่ะ ไม่ได้จะเป็นลมจริงๆ ทะลึ่งอยู่ได้ ต่อหน้าลูกหน้าเต้า”
“อืมมม ต่อหน้าเต้า”
เพี๊ยะ!
“ยังจะทะลึ่งอีก”
ผมมองดูพ่อแม่เขาหยอกล้อกันด้วยความเคยชิน มันเป็นเรื่องธรรมดามากที่จะเห็นแบบนี้บ่อยๆ ไม่ว่าท่านทั้งคู่จะอายุมากขึ้นเท่าไร แต่ความรักที่มีให้กันไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย หวานยังไงก็ยังงั้น
ถ้าผมมีคนรัก ผมจะเป็นแบบพวกท่าน อ่อๆไม่สิ เพราะว่า ผมจะไม่
‘กลัวเมีย’ เหมือนพ่อเป็นอันขาด!
“นี่แหละน้า อำนาจของเงิน ผิดถูกชั่วดีก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ..เออ แล้วแกจะเอายังไง” ม๊าพูดออกมาก่อนจะหันมาถามผม ส่วนผมนะเหรอ..ก็ลองพูดถามลองเชิงป๊าผมไปก่อน
“ผมมานี่เพราะอยากจะถามป๊าดูก่อน..ยังไงลุงกฤษณ์ก็เคยเป็นคนสนิทของป๊า”
“ป๊ายกบริษัทนั่นให้แกแล้ว ไอซัน..”
หึ คิดไม่มีผิด และยิ่งได้เห็นรอยยิ้มของพ่อผมแล้วมันยิ่งชัดเจนว่า..ป๊าโยนทุกอย่างให้ผมจัดการแล้วจริงๆ.. ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มตอบก่อนจะพูดออกมาในแบบผม
“หึหึ ครับ เอาล่ะ กินข้าวกันต่อดีกว่า.. เดี๋ยววันนี้ผมจะกินให้เกลี้ยงเลยนะป้าแวว!”
.
.
อาทิตย์ : ผมต้องทำอะไรบางอย่างที่ไม่อยากทำ แต่ผมจำเป็นต้องทำมัน
ผมรู้ตัวอีกที ผมก็เปิดโปรแกรมสนทนาออนไลน์ที่ผมเล่นเป็นประจำแล้วก็พิมพ์ข้อความนี้ส่งไป หาใครบางคนที่ผมเองก็ไม่รู้จัก..
ที่ผ่านมาเวลาผมสุขหรือทุกข์ ผมมักจะทักไปในข้อความของเพจเพจหนึ่ง แล้วทุกครั้ง admin เพจก็จะตอบกลับมาเป็นเพลงที่ตรงกับความรู้สึกของผม และบอกเลยว่า..ทุกเพลงที่ส่งกลับมามันทำให้ผมสบายใจขึ้นจริงๆ
มันเป็นอะไรที่แปลกว่ามั้ยครับ แต่ผมก็ทำไปแล้ว ทำมาเป็นปี เพียงแค่ผมพิมพ์ข้อความ ทางนู้นก็จะตอบมาเป็นลิงค์เพลงและเนื้อเพลง
การสนทนาพิสดารนี้ มันเริ่มต้นจากตอนที่ผมเปิดผับใหม่ๆ กิจการของผมเอง..ตอนนั้น ทุกอย่างมันดีหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการวางโครงตึก การออกแบบภายใน การวางการตลาด ทุกอย่างมันดีหมด..เหลืออยู่อย่างเดียวที่ผมยังคิดไม่ตก.. คือเพลงที่ผมจะใช้เปิดในผับของผม..
ผมอยากได้เพลงที่มันโดน ตรงใจ และเหมาะกับลูกค้าของผับผมในแต่ละโซนที่ผมออกแบบไว้ แล้วผมก็ไปเจอโพสต์ของเพจเพจหนึ่ง ชื่อ vienna
โพสต์นั้น เป็นโพสต์รวมรายชื่อเพลงสำหรับผู้ฟังแต่ละแบบ ไม่ว่าจะเป็นสำหรับสายเฮฮา สายชิลล์ สายกินบรรยากาศ สายเงียบขรึม หรือจะสายอกหัก.. และทุกสายมันก็ตรงโจทย์กับผับผมในแต่ละโซน..ที่ผมออกแบบไว้..
และ ผมก็เลยตัดสินใจเลือกเอารายชื่อเพลงนั้นไปเปิดในผับดู ปรากฏว่าได้ผลตอบรับดีมาก ทำให้ผมสนใจกับความสามารถในการเลือกเพลงของ admin เพจนี้มากขึ้น
ผมเลยนึกอะไรสนุกๆ ทดสอบ ให้admin ส่งเพลงตามอารมณ์ต่างๆของผม ซึ่งพบว่าทุกเพลงที่ admin เลือกให้ มันตรงโจทย์และดีต่อความรู้สึกของผมจริงๆ ผมทำบ่อยครั้ง จนกลายเป็นความเคยชินในที่สุด
ตึ๋ง!
เหมือนกับครั้งนี้..เรื่องที่ผมไม่อยากทำกับลุงกฤษณ์ที่ผมเองก็เห็นมาตั้งแต่เด็ก..แต่ว่าผมก็ต้องทำ..
Vienna : Respect your own - ABC ?
Vienna :
If you consider to be done (ถ้าหากคุณตรึกตรองแล้วว่าควรทำ)
Please don’t turn back (โปรดอย่าหันหลัง)
Then proceeded to move steadily (แล้วก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง)
Respect your own decision. (จงเคารพการตัดสินใจของตัวเอง)
อีกครั้งสินะ.. ที่มันตรงกับความรู้สึกในใจของผม....ผมต้องก้าวไปข้างหน้าและไม่หันหลังกลับ..ผมต้องเคารพในการตัดสินใจของตัวเอง..
ว่าแต่..ผมอยากรู้จริงๆ อีกฝั่งไม่หลับไม่นอนหรือไงนะ เพราะทุกครั้งที่ผมส่งไป อีกฝ่ายก็มักจะตอบกลับมาในเวลาไม่เคยเกิน 1 ชั่วโมงเลยซักครั้ง แม้ว่ามันจะเป็นเวลาที่ดึกดื่นแค่ไหนก็ตามที..
แต่.. มันก็ไม่ใช่เรื่องของผมซะหน่อย แค่อีกฝ่ายตอบกลับมาก็พอ.. และเมื่อคิดได้เช่นนั้น ผมก็จัดการเปิดเพลงนี้เชื่อมต่อกับบลูทูธลำโพงในห้องน้ำของผม ก่อนที่ผมจะจัดการปิดโปรแกรมสนทนา..แล้วก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำอย่างสบายใจ เพื่อเตรียมตัวไปดูกิจการเล็กๆของผมที่ผมสร้างมาเล่นๆในวัยเด็กของผมซะหน่อย..
และมันก็เป็นที่รวมตัวของเพื่อนรักของผมด้วย..ผับ Demon
“ไงมึง แผนมึงถึงไหนล่ะ”
ทันทีที่ผมมาถึงผับตัวเอง พร้อมกับอยู่ในห้องเดิมๆ ห้องที่ผมนั่งเป็นประจำกับพวกเพื่อนๆผม..ที่เมื่อก่อนกลุ่มผมมี 5 คน แต่ตอนนี้เหลือ 4 คนแล้ว แต่ผมไม่อยากพูดถึงมันซะเท่าไร.. ไอ้นั่นมันหมาบ้าไง..เพราะฉะนั้นข้ามไป..รู้แค่ว่าเพื่อนผมตอนนี้ มี เค เคน ไนท์ แล้วก็ผมก็พอ
ส่วนคำถามที่ไอไนท์ทักผมมาเมื่อกี้นะเหรอ..หึหึ
“เรื่องอะไรกูต้องบอก คู่แข่งอย่างมึง”
ใช่แล้วล่ะ ไอ้ไนท์ เพื่อนผมที่ทักผมขึ้นมา มันก็คือคู่แข่งของผม..ในเกมที่ผมเพิ่งเล่นกับมันเมื่อไม่นานมานี้..
แข่งกันจีบผู้หญิงคนหนึ่ง ใครปิดจ๊อบก่อนก็ชนะ..
ผู้หญิงคนนั้น ผมเห็นเธอเข้ามาในผับแห่งนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน..เธอสวยมาก สวยเหมือนกับแม่ของผมตอนสาวๆเลยก็ว่าได้..อ้อ แต่ตอนนี้แม่ผมก็ยังสวยอยู่นะ.. และที่สำคัญ ผมรู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้ยังไงก็ไม่รู้..
อันที่จริงปกติผมไม่เคยเล่นเกมอะไรแบบนี้กับเพื่อนผมหรอก..และกลุ่มผมทุกคนก็ไม่มีรสนิยมที่จะล่อลวงหรือหลอกผู้หญิงมาฟันแล้วทิ้งด้วย.. พวกผมจะทำก็ต่อเมื่อพวกเธอเต็มใจ และรายนี้..ผมว่ามันก็ไม่น่าจะยากซะเท่าไร..ส่วนหนึ่งเพราะไม่มีผู้หญิงดีๆที่ไหนหรอก มาผับคนเดียวแบบนี้ และอีกอย่าง..ผมก็มั่นใจในเสน่ห์ของผมที่ไม่เคยพลาดด้วย..
แต่ว่า ผมกลับคิดผิด..เพราะเธอไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย เนื่องจากวันนั้นที่ผมเข้าไปทัก เธอกลับทำเหมือนผมไม่มีตัวตน และยังไม่พอ เธอยังบอกพนักงานว่าผมเป็นแมลงวัน ผมเนี่ยนะ แมลงวัน ปกติผมเข้าหาใครไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับผมเลย ให้ตายสิ!
ผมเลยเปลี่ยนแผน
ผมคงเข้าทางเธอโดยตรงไม่ได้แล้วล่ะ เพราะเธอน่าจะมีอคติกับผมไปแล้ว เพราะฉะนั้นผม เลยต้องเลือกเข้าทางเพื่อนเธอแทน และจากที่ผมให้คนไปสืบ ผมก็รู้ว่า เธอมีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวและเธอก็รักเพื่อนเธอคนนี้มาก ซึ่งเพื่อนของเธอก็คือ เอิงเอย
ใช่แล้วครับ ..เธอคือคนที่ผมช่วยกลางสายฝนวันนั้น
ผมไม่ได้เป็นคนดี และมีน้ำใจขนาดนั้นหรอก มันคือแผนของผมล้วนๆ หึหึ
“พี่ซันคะ ชมพูมาแล้วค่ะ..”
และเมื่อผมนั่งโซฟาในห้องนี้ไม่ถึง..1 นาที เด็กใหม่ที่ผมสั่งไอเจท ลูกน้องคนสนิทของผม ตั้งแต่หน้าห้อง ก็เดินเข้ามาอย่างรู้งาน..พร้อมกับเดินมานั่งตักผมในทันที..
ส่วนผมก็เช็กของทันทีเช่นกัน
หมับ..
เห้อ..ของปลอมอีกแล้วสินะ..คืนนี้กูต้องจับแบบแข็งๆอีกแล้วสินะ..
“อื้อ..พี่ซันอะ รีบร้อนอะไรขนาดนั้นคะ พูอายนะคะ..”
หึ..อายตรงไหน? เพราะหลังจากที่เธอพูด เธอก็ซุกใบหน้ามาที่ซอกคอของผมทันที..พร้อมกับนัวเนียผมไม่หยุด
รุกแรงกว่ากูไปอี๊ก..
แต่ว่าผมก็ชินแล้วล่ะ เพื่อนผมในห้องก็เช่นกัน..เพราะฉะนั้นพวกแม่งทั้งหมด ไม่มีใครสนใจผมหรอก ส่วนผมก็เปลี่ยนสายตาเป็นหันไปมองดูตรงกระจกใหญ่ของห้องนี้ ที่มันถูกสร้างเป็นพิเศษ ให้เป็นผนังของห้องนี้ เพื่อจะได้เห็นวิวผับของผมทั้งหมด..แต่ข้างนอกมองไม่เห็นห้องผมหรอกนะครับ..มีเพียงแค่คนในห้องนี้เท่านั้นที่จะเห็นข้างนอกได้..
และผมคิดค้นเพิ่มเติมไปอีกอย่างคือ..กระจกที่เห็นว่าธรรมดา..แต่จริงๆแล้วมันสามารถซูมเข้าไปดูในจุดที่สนใจได้..อีกด้วย
“อื้อ พี่ซันขาา”
แต่แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผู้หญิงคนนี้ไม่อยู่เฉย..เหมือนของขาด
เพราะตั้งแต่เขามาเธอก็รุกเร้าผมไม่หยุด ก่อนจะพูดเสียงออดอ้อนออกมา..ส่วนผมก็กำลังสนใจมองอะไรผ่านกระจกอย่างใจจดใจจ่ออยู่ในตอนนี้ จนไม่ได้ตอบรับหรือสนใจอะไรผู้หญิงคนนี้ซักเท่าไร..
“เรา..ไปต่อกันดีมั้ยคะ”
อืม..ไอให้ไปต่อนะ ไปต่ออยู่แล้ว แม้ว่าจะปลอม แต่ใบหน้าเธอก็สวยอยู่..ถือว่าพอถูไถไปได้ ..แต่ว่าผมยังไม่ไปตอนนี้หรอก..เพราะตอนนี้ ผมกำลังมองดู ใครบางคนที่เห็นแค่ข้างหลังก็รู้สึกได้ว่า..แม่งหุ่นโคตรดี..และตอนนี้เธอกำลัง เต้นอยู่กลางผับโซนสำหรับนักเต้น
อือหื้อ ทั้งหุ่น ทั้งท่าเต้น มันน่ากินซะจริงๆ
อยากจะรู้จริงๆ ว่าหน้าจะเป็นยังไง..
“มึงไปเปิดห้องดีกว่ามั้ยวะ ไอสัสซัน”
แต่แล้วระหว่างนั้น ไอเคน เพื่อนผมอีกคน ที่แม่งเป็นสายโหด ก็พูดขึ้นมา..ในขณะที่ตาผมยังจ้องที่เดิมไม่กะพริบพร้อมกับปากที่พูดตอบคำถามเพื่อนผม..ไปด้วย..
“เออ กูไปแน่”
แต่ขอกูดูหน้าผู้หญิงแซ่บคนนั้นก่อน
หันหน้ามาสักทีดิวะ!
“พี่ซันขา”
แต่แล้ว เสียงเบาของผู้หญิงที่นั่งบนตัก และเอาแต่นัวเนียผมอยู่ก็ดังมาขึ้นมาอีกครั้ง และเธอก็พูดพร้อมกับผู้หญิงคนนั้นที่กำลังจะหันหน้ามาทางผม ผมเลยรีบลุกขึ้นทันที..โดยไม่สนใจว่าใครนั่งอยู่ตรงตักของผมหรือเปล่า..
“โอ๊ย..”
“ไรของมึงวะ ไอซัน”
เฮ้ย!
ยัยผู้หญิงหุ่นเซี้ยะ เต้นแซบคนนั้น..คือ เอิงเอย เองเหรอ?! หึหึ..
“โอ๊ยพี่ซัน..พูเจ็บนะคะ”
แล้วไอ้ผู้ชายที่เต้นกับเธอล่ะ..เป็นใคร..
อืม.. ดูจากท่าเต้นของเธอ ที่คล้องคอผู้ชายคนนั้น..มันก็คงเป็นผู้ชายของเธอคืนนี้สินะ ..งั้นก็ช่างแม่งเถอะ.. ยังไง อนาคตผมก็ต้องได้กินเธอเหมือนผู้ชายคนนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น เลิกสนใจ แล้วไปสนใจผู้หญิงอีกคนในห้องนี้ดีกว่า..
เมื่อคิดได้เช่นนั้นผมก็หมุนตัวกลับไป ก็พบว่าเธอยืนจับบั้นท้าย..ตัวเองเหมือนกับเจ็บกับอะไรบางอย่าง..แต่แล้วระหว่างนั้น ไอเคนก็ลุกขึ้นมา..พร้อมกับมายืนข้างๆผมและจ้องมองออกไปทางหน้าต่างเหมือนผมเมื่อครู่ และพูดออกมาอย่างสงสัย
“มึงมองอะไรข้างนอกอยู่นานสองนานวะ ไอซัน”
“เออนั่นดิ.. ถึงขั้นลุกขึ้นพรวดแบบนั้น ไม่สนใจเด็กมึงเลย ฮ่าๆ”
“กูก็ดูความเรียบร้อยผับกูเหมือนปกตินั่นล่ะ..งั้น..คืนนี้กูฝากพวกมึงดูร้านกูต่อด้วยนะ”
“อีกละ สัส! หุ้นส่วนก็ไม่ได้เป็น ใช้งานพวกกูกันจัง..”
“หึหึ.. กูไปล่ะ..ป่ะ น้องชมพู..”
หลังจากผมยิ้มกวนส่งให้พวกเพื่อนๆ ผมก็เดินไปโอบเอวเด็กใหม่ของผมที่ยืนยิ้มแห้งและจับบั้นท้ายตัวเองไม่หยุด..เพื่อที่จะพาเดินออกจากห้องนี้ไปและไปทำในสิ่งที่ผมถนัดและสนุก..แต่แล้วทันทีที่เดินออกไปเพียงสองก้าว เสียงไอเคนที่ยืนมองตรงกระจกห้องนี้แต่แรกก็เอ่ยปากขึ้นมา..
“เกิดเรื่องว่ะ..”
หื้ม..
เมื่อผมเห็นว่าไอเคนมองแต่ตรงกระจกห้อง ผมก็ปล่อยมือที่โอบผู้หญิงข้างๆ แล้วหันไปมองตามที่มันพูดทันที..ก่อนจะเห็นว่ามันเกิดเรื่องจริงๆ และมันก็เกิดเรื่องกับคนที่ผมมองก่อนหน้าด้วย..
เพราะตอนนี้ผมเห็นผู้ชายสองคนกำลังมีเรื่องทะเลาะกัน..คนแรก คือคนที่เอิงเอยคล้องคอเต้นก่อนหน้า ส่วนอีกคน..ก็เป็นคนหน้าใหม่แต่ว่าผม..รู้จักมันดี..เพราะมันคือ ไอพอส..ลูกชายของลุงกฤษณ์
เอิงเอยรู้จักมันด้วยเหรอ? แล้วนี่อะไร รถไฟชนกัน? หึ..เธอมันไม่ธรรมดาจริงๆสินะ เอิงเอย..
และเมื่อเห็นแบบนี้แล้ว..ผมก็หมุนตัวกลับไปโอบเอวผู้หญิงคนเดิมก่อนจะเอ่ยปากพูดเสียงเรียบบอกพวกมันไป..
“เดี๋ยวก็มีคนจัดการเอง..ไปขึ้นสวรรค์ดีว่า..ไปครับ น้องพู”
ก็อย่างที่ผมบอก.. เดี๋ยวก็มีคนจัดการเอง.. เพราะผับผมมีเซอร์วิสให้พิเศษสำหรับคนที่ก่อเรื่องในผับของผม.. นั่นก็คือ..ทางผม ยินดีช่วยจัดการอีกฝ่ายให้ฟรี ไม่คิดเงินเพิ่ม..
และถ้าใครหน้าไหนมันมีปัญหามากนัก..มันก็จะไม่มีโอกาสได้มาผับผมอีก..ไม่ใช่ว่าผับผมไม่ให้เข้าหรอกนะครับ แต่ว่า..มันไม่มีชีวิตให้เข้ามาผับแล้วต่างหาก..หึหึ
“เออ ควรไปตั้งนานละ สัส ..”
แต่แล้วก็เป็นอีกครั้งเมื่อผมจะก้าวขาเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี เสียงไอไนท์ก็เอ่ยออกมา..และมันก็ทำให้ผมยกนิ้วส่งไปให้มัน แต่ไม่ใช่นิ้วโป้งนะครับ ก่อนที่สายตาผมจะลากไปเห็นคนที่นั่งข้างๆมัน ที่นั่งนิ่งตลอดเวลา เป็นแบบปกติของมัน จนใครหลายคนต่างก็เรียกมันว่า เจ้าชายน้ำแข็ง..เพื่อนของผมอีกคน..ไอเค
และไอ้เหี้ยนี่แม่ง ก็น้ำแข็งเกิ๊น..และมันก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงที่ไหนเลยซักคน เพราะ มันบอกว่าจะรอคนที่มันรักเท่านั้น แม้ว่าพวกผมจะพยายามยุมัน แต่แม่งยุยังไงก็ยุไม่ขึ้นจริงๆ ผมก็รู้ดีว่ามันไม่เปลี่ยนความตั้งใจหรอก แต่ผมก็ชอบแกล้งมันอยู่ดี เหมือนกับครั้งนี้ไง
“ไอเค..ถ้ามึงสนใจเด็กในผับกูคนไหน..บอกไอเจทได้เลยนะ...กู..”
ควับ....
และยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ.. ไอเคก็หันหน้ามามองผมนิ่งๆ ด้วยสายตาเยือกเย็นแบบที่มันเป็นมาตลอด พร้อมกับยกนิ้วส่งให้ผม เหมือนที่ผมส่งให้ไอไนท์ก่อนหน้าไม่มีผิด ผมก็เลยแสยะยิ้มหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหันกลับไปโอบเอวผู้หญิงข้างๆอีกครั้ง และหมุนตัวหันหลังให้พวกมันพร้อมกับยกมือลาพวกเพื่อนผมทั้งสามคนอย่างกวนๆตามสไตล์กลุ่มของผม
“หึหึ..บาย!!”