ตอนที่ 3   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 3
​ “วันนี้ไปสอนพิเศษป่ะแก” ทันทีที่วิชาเรียนของฉันจบลง ฉันก็หันไปถามแอมแปร์ เพื่อนสนิทและเพื่อนรักของฉันทันที พร้อมกับมือที่เก็บชีทเรียนที่กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะไปด้วย ส่วนเพื่อนของฉันเมื่อได้ยินฉันถามอย่างนั้น เธอก็ตอบออกมาอย่างเร่งร้อน พร้อมกับดูนาฬิกาไปด้วย “ไปๆ เนี่ย เดี๋ยวก็ได้เวลาสอนแล้ว..” “เสียใจ เพื่อนไม่ว่างตลอด เหง๊าเหงาาาา” ฉันพูดทีเล่นทีจริงใส่ เพราะช่วงนี้ฉันรู้สึกยัยแอมแปร์มีสอนพิเศษทุกวัน ฉันอยากให้มันพักบ้าง บางทีฉันก็คิดนะว่ามันทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า เพราะว่ามันเป็นเด็กทุนและเด็กกำพร้า ก็เลยต้องหาค่าขนมเอง ก็เลยทำงานวุ่นๆตลอดแบบนี้ “หัดอยู่คนเดียวให้ชินบ้าง ดูอย่างฉันสิ โสดมาตลอด ไม่เห็นเหงาเลย” “เออๆ ฉันจะแข็งแกร่งดั่งภูผาแบบแก แล้วอย่าชิ่งมีแฟนก่อนฉันล่ะ” “โอ๊ย ใครจะมาเอาคนอย่างฉัน” ‘เยอะแยะ’ ยัยแอมนะไม่ได้ขี้เหล่เลยสักนิด เผลอๆสวยกว่าฉันด้วยซ้ำ แต่ติดตรงที่ความหยิ่ง ใครเข้ามาไล่ตะเพิดไปหมด แล้วแบบนี้มันจะไปมีแฟนได้ยังไงกันเล่า ส่วนฉันนะเหรอ ก่อนหน้าก็พอมีแฟนมาบ้าง และแต่ละคนคบไม่เคยถึงปีเลยด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ใครหลายๆคนบอกว่า ฉันเป็นคนง่าย ผ่านผู้ชายมาเยอะ แต่เรื่องจริงเป็นอย่างไร มีแต่ฉันและเพื่อนสนิทของฉันรู้ดีที่สุด ข่าวลือที่คนช่างเม้าท์เอาไปพูดต่อๆกัน ทำให้ผู้ชายที่เข้ามา มีแต่หวังเรื่องอย่างว่าจากฉันกันทั้งนั้น​ แต่เสียใจ ฉันจะเก็บไว้ให้พ่อของลูกฉันเท่านั้นย่ะ ทำให้บางคนก็ขอเลิกฉัน หรือไม่ก็ไปมีคนอื่น แต่ฉันก็จับได้ทุกครั้ง เหมือนอย่างรายล่าสุด แต่แล้วขณะที่ฉันและแอมแปร์กำลังก้าวออกจะเดินออกจากห้องไปนั้น “หยุ๊ดดดดชะนี วันนี้มีตี้กัน ไปด้วยกันป่ะมึงง” เจนนี่ หรือ แมน เพื่อนร่วมคณะของฉันตะโกนเสียงเบรกฉันกับยัยแอมจากระยะไกล เจนนี่เป็นชื่อในวงการ จริงๆมันชื่อแมน มันเป็นหนุ่มหล่อ หุ่นดี ผิวพรรณก็ดีถึงแม้จะออกไปทางโทนสีเข้มก็ตามที และเพราะภายนอกที่ดูคมเข้มนั่น รวมถึงความแอ๊บแมนที่มันชอบทำ เลยทำให้ใครที่ไม่สนิทก็ไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วมันเป็นอย่างไร.. นอกจากนี้มันยังเป็นถึงเดือนคณะอีกด้วย ส่วนดาวคณะนะเหรอ ก็คือฉันเองไงล่ะ ก็เลยทำให้ฉันกับมันค่อนข้างสนิทกัน มันมักจะชวน ฉันและแอมแปร์ไปปาร์ตี้ด้วยกันบ่อยๆ แต่คนที่ตอบรับมักจะมีเพียงคนเดียว “ไปๆ เบื่อพอดีเลย ไปด้วยนะคุณแม่”  ฉันพูดออกไปอย่างดีใจ อย่างน้อยวันนี้ก็ไม่ต้องกลับบ้านไปนอนเบื่ออยู่คนเดียว ฉันขี้เหงานะ..ฉันไม่ค่อยชอบอยู่บ้านคนเดียวซักเท่าไร ยิ่งช่วงนี้เพิ่งเลิกกับแฟนเก่า..อย่างพี่พอสไปไม่นานด้วย “ส่วนนังชะนีน้อยนี่ ก็ไม่ไปอีกตามเคยสินะ” “แหะๆ ฉันมีสอนพิเศษอะแก ไว้วันหลังน้า” “มึงพูดแบบนี้มารอบที่ร้อยแล้วจ่ะ นังชะนีแอมแปร์” “โอ๋ๆ ไม่งอนนน้า เดี๋ยวไม่สวยผู้หายหมดนะ” “หายๆบ้างก็ดี ช่วงนี้ฮอต ผู้เยอะจนน่ารำคาญ เกิดมาสวยแล้วเครียดด” “อีเจน..ถ้าแกสวย ฉันก็สวยมากกกกกกกอะ” “โอ๊ยย อีชะนี..ย่ะ!! ไม่เถียงกับแกแล้ว ชิ!” หลังจากที่มันเดินสะบัดตูดไปอย่างนั้น ฉันก็หัวเราะทันที..ก่อนที่จะเดินออกไปกับแอมแปร์ รวมถึงไปส่งมันที่สอนพิเศษด้วย.. พอฉันส่งมันเสร็จ ฉันก็ตรงปรี่กลับไปบ้านทันที ก่อนที่จะเลือกเสื้อผ้าแบบแซ่บๆสำหรับตี้คืนนี้..ที่ยัยเจนนี่ชวน.. และในที่สุดฉันก็เลือกได้ มันเป็นเสื้อเดรสสายเดี่ยวสีขาวรัดรูปยาวไปถึงหัวเข่า.. โดยดีไซน์ของเสื้อ ก็มีลูกปัดเม็ดเล็กเป็นเส้นๆห้อยตามตัว และเวลาขยับ หรือโดนแสงสีนะ บอกเลยตัวนี้ เลิศ!! “อีเอิง ทางนี้!!!” ทันทีที่ฉันถึงผับ Demon ที่ฉันเคยมาแค่ครั้งสองครั้ง ฉันก็พุ่งตัวเดินไปยัง โต๊ะ 41 โซน G ที่ยัยเจนนี่ทักบอกฉันก่อนหน้าทันที.. และเมื่อถึงแถวนั้นมันก็กวักมือไวๆพร้อมตะโกนเรียกฉันจนฉันต้องหันไปมองท่ามกลางความมืดมิด.. เสียงมันไวกว่าแสงซะอีก..อีเจนนี่..และบอกเลยว่าครั้งนี้โซนที่มันเลือกนั่ง..มันไกลมากก.. ผับนี้ก็ไม่รู้จะใหญ่ไปไหน กว้างซะเหมือนอยู่ในสนามบอล แล้วยังจะแบ่งโซนนู้นนี่เยอะแยะไปหมด ดีนะที่มีแผนผังที่อยู่ทางด้านหน้า ก็เลยเดินมาถูก ที่นี่ตอบโจทย์สำหรับคนที่มาเที่ยวกลางคืนเกือบทุกประเภท เนื่องจากทางผับมีแบ่งแยกตามประเภทต่างๆไว้ ไม่ว่าจะเป็น โซนส่วนตัว ที่เน้นไปการนั่งฟังเสียงดนตรีชิลล์ๆ มากกว่าการพูดคุย หรือโซนกิจกรรม ที่มีรองรับไว้สำหรับใครที่พากันมาแบบกลุ่มใหญ่ และต้องการสร้างสีสรรค์ระหว่างวงเหล้าไปด้วยกิจกรรมและเกมมากมาย หรือจะโซนต่อไป โซนสายแด้นซ์ โซนตรงนี้ก็จะมีไว้สำหรับนักเต้นเท้าไฟ ใครที่อยากปลดปล่อยหรือต้องการความมันให้กับชีวิต ต้องไม่พลาดโซนนี้เลยจริงๆ นอกจากนี้ก็มีโซนคาราโอเกะ โซนธุรกิจ โซนสายดาร์กก็มีนะ เอาเป็นว่ามีเยอะจนตอบโจทย์ลูกค้าเกือบทุกประเภทได้ดีเยี่ยมเลยล่ะ ส่วนฉันตอนนี้ก็อยู่โซน G โซนสายเม้าท์ ตรงนี้เสียงเพลงจะไม่ได้ดังมาก เพื่อ เน้นให้คุยกันได้สะดวก ซึ่งมันอยู่ลึกสุดของผับแห่งนี้ ฉันล่ะ นับถือแนวคิดของคนออกแบบที่นี่มาก และฉันก็รู้ด้วยว่าเป็นใคร..เขาคนนั้นก็คือพี่ซัน ผู้ชายอ่อนโยนที่ช่วยฉันท่ามกลางสายฝนวันนั้นยังไงล่ะ..นอกจากนี้พี่ซันก็ยังเป็นเจ้าของผับที่หรูหราและใหญ่โตที่นี่อีกด้วย และถ้าให้พูดถึงพี่ซัน ก็ต้องพูดถึงโซนนี้ โซน VIP โซนนี้จะอยู่ชั้นสอง แต่ละห้องราคาค่อนข้างสูง แต่สงบและเป็นส่วนตัว พร้อมทั้งรองรับทุกโซนที่กล่าวมาข้างต้นได้ในห้องเดียวอีกด้วย แต่ว่าถึงพี่ซันก็อยู่โซนนี้ แต่ว่า ห้องที่เขาอยู่ มันก็เหนือชั้นไปอีกขั้น เพราะมันเป็นห้อง VIP หมายเลข1 ห้องนี้ เป็นห้องที่รวมตัวกันของกลุ่ม Devil Prince เท่านั้น คนอื่นไม่สามารถเข้าไปได้.. และเห็นว่าห้องนี้มันต้องสแกนนิ้วเข้าไป หรือไม่ก็ต้องมีการ์ดจากกลุ่มพวกเขาที่สั่งทำพิเศษเท่านั้นด้วย ซึ่งจากที่เคยได้ยินมา เขาว่ากันว่า ห้องนั้นจะสามารถเห็นวิว 360 องศา ทั้งผับเลย อืม ว่าแต่.. ตอนนี้พี่ซันอาจจะมองวิวนั้นอยู่ แล้ว..เขาจะเห็นฉันหรือเปล่านะ หื้ม..ทำไมเขาต้องเห็นฉันด้วยล่ะ ..ยัยเอิงเลิกคิดถึงเขาได้แล้ว ฉันสะบัดหัวสองสามทีไล่ความคิด ก่อนจะทักยัยเจนนี่ไป “นั่งซะไกลเชียวนะยะ ไกลขนาดนี้ไม่ไปนั่งหลังร้านเลยล่ะ” “อีนี่ ตบปากฉีกเลย ที่เลือกนั่งตรงนี้ คุณแม่ก็ทำเพื่อลูกสาวนะ” “ยังไงอะ” “ก็ตรงโซนประจำเรานู้น ผัวเก่ามึงนั่งอยู่ไงคะ อีดอก” “ใคร ผัวเก่า กูไม่เคยมีผัวเว้ย” “ก็ไอพี่พอสไง ผัวเก่ามึงล่าสุดอะ” “เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่ใช่ผัว“ “เออๆ กูพูดเล่นแมั้ย แม่ง แต่มันเลวจริงๆเลยนะ ทิ้งมึงไม่ถึงอาทิตย์ ก็เปิดตัวแฟนใหม่แล้ว” มีใหม่แล้วเหรอ​ อะไรจะรวดเร็วปานนั้น! “มึงไม่แก้แค้นหน่อยเหรอ” “ช่างแม่งเหอะ ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า” “ถ้าเป็นกูนะ จะไปตบให้อีนั่นฟันร่วงเลย กล้าดีไงมาขโมยผัวกู” “เลิกเพ้อเจ้อแล้วมาถ่ายรูปให้ลูกสุดสวยคนนี้ดีกว่า จะลงไอจี” “เออ ให้มันได้อย่างนี้สิ ลูกสาวฉัน..มาๆๆ” แต่ถึงปากมันจะบ่นอย่างนั้น..สุดท้ายมันก็รับมือถือฉันไปถ่ายให้แต่โดยดี.. แชะ ​ [รูปภาพ] AngEei แล้วไงใครแคร์ #โสดแล้วสตรอง 36,234 Likes Ying สวยค่าาา BBoi โสดแล้วพี่ขอจีบต่อนะครับ Lio นี่ล่ะ แม่ของลูกเลย Jnie สวยๆเลิสๆ เดินหน้าหาผู้ใหม่ เชื่อคุณแม่นะคะลูกสาว AngEei ไม่ล่ะค่ะคุณแม่ ขอโสดดีกว่า T.Ti พูดแบบนี้ พี่ก็เสียใจแย่เลย “กูก็ถ่ายรูปเก่งเหมือนกันนะเนี่ย” “ไม่อะ กูสวย..” ​“เออ กูยอม!! ..สวยแบบนี้ ป่ะ กูจะพามึงไปหาผู้ใหม่\" “เชิญคุณแม่หาคนเดียวเถอะค่ะ ขอโสดสวยๆดีกว่า” \"ไม่ได้ มึงต้องไปทำให้ไอ้พอสมันเสียดาย มาๆตามแม่มา\" แต่แล้วมันก็ลากฉันเดินไปทันที..และมันก็พาฉันมาตรงกลางผับ และเป็นบริเวณที่มีนักเต้นเท้าไฟอยู่กันเต็มมากมายไปหมด แต่แล้วไงล่ะ เพราะนอกจากฉันเป็นสายดริงค์แล้ว ฉันก็ยังเป็นสายแด้นซ์ด้วยนะ หลีกทางหน่อย แม่มาแล้ว หึหึ.. ​ เพราะฉะนั้น เมื่อถึงกลางลานเต้น ฉันก็เริ่มเต้นแบบมีสเต็ปในทันที ...ฉันไม่ได้เต้นแนวเซ็กซี่ แต่เน้นสวยงามและทรงเสน่ห์มากกว่า ตอนแรกฉันก็ว่าจะเต้นเบาๆหรอกนะ เพราะไม่อยากเด่นเกินไป แต่ว่าพอเพลงมันมา แสงสีมาตกกระทบ และสายตาของหลายๆคนที่มองมาแล้ว มันทำให้ฉันหยุดไม่ได้! ตอนนี้อะไรก็หยุดไม่อยู่แล้วล่ะ การเคลื่อนไหวในร่างกายที่มันไปเองอัตโนมัติเหมือนคนกดเปิดสวิตซ์ในร่างกาย และฉันก็สนุกสุดเหวี่ยงกับมัน..อย่างที่ฉันเป็นฉัน พร้อมกับเอามือไปโอบคอไอเจนนี่ที่พาฉันมาด้วย และมันก็เป็นอย่างนั้น จนรู้ตัวอีกทีเพลงก็จบซะแล้ว “กูพามึงมาดับชีวิตกูแท้ๆ มึงเต้นให้มันเบาๆหน่อย ผู้มองแต่มึงไม่มองกูล่ะเนี่ย..อีกอย่างนะ มึงมากอดคอกูงี้..แล้วมึงจะได้ผู้มั้ย คนก็เข้าใจผิดกันพอดี” “ไม่เห็นเป็นไร ไม่เห็นจะแคร์ ...ไม่ได้อยากหาผู้ใหม่ซะหน่อย..” “แต่กูแคร์ อิดอกกกก..” “ฮ่าๆๆ โอเคๆ กูไม่กอดคอมึงแล้วก็ได้..โอเคนะ” “เอออ!!!” หลังจากที่ฉันกับมันเคลียร์กันเรียบร้อย พร้อมกับเพลงใหม่ที่เริ่มดังขึ้น ฉันกับมันก็เริ่มออกสเต็ปเต้นขึ้นอีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้กลับมีมือใครไม่รู้มาสะกิดไหล่ฉัน พร้อมกับเสียงที่คุ้นเคยตะโกนผ่านเสียงเพลงเข้ามาในหูของฉัน “เอิง” ฉันหันไปตามเสียง แล้วก็พบกับ ‘พี่พอส’ แฟนเก่าล่าสุดฉันเอง และมันทำให้กราฟความสุขที่ได้เต้นไปเมื่อกี้ ลดฮวบลงมาทันที ก่อนที่ฉันจะปรายตามองด้วยหางตาอย่างรังเกียจ “ยกโทษให้พี่นะครับ เรากลับมาดีกันนะ” “ได้ข่าวมาว่ากับแฟนใหม่?\" ฉันถามไปนิ่งๆ โดยปราศจากอารมณ์หึงหวงใดๆทั้งสิ้น อันที่จริง ตั้งแต่เลิกกับพี่พอส ฉันไม่ได้เสียใจที่เขามีคนอื่น แต่ฉันเจ็บใจมากกว่า เจ็บใจที่โดนหักหลังแบบนั้น..และมันก็ทำให้ฉันค้นพบว่า จริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้รักพี่พอสมากมายอะไร อาจจะเป็นเพราะฉันขี้เหงาแล้วพี่พอสก็ดูแลฉันดีในช่วงนั้น ก็เลยทำให้ฉันลองตัดสินใจคบกับเขาดู แล้วไงล่ะ ผลก็ออกมาเป็นแบบนี้ไง \"อะ เออ ยัยนั่นมาตามตื้อพี่เฉยๆ พี่รักเอิงคนเดียวนะครับ\" “โทษทีนะ นี่คนไม่ใช่ควาย” ฉันพูดนิ่งๆใส่พี่พอสไปอีกครั้ง วูบหนึ่งฉันเห็นแววตาไม่พอใจจากสายตาเขา แล้วก็ปรับเปลี่ยนเป็นสีหน้าปกติเหมือนเดิม ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะเต้นต่อแล้ว เลยเปลี่ยนใจ ขอกลับไปนั่งสงบจิตสงบใจที่โต๊ะดีกว่า ซึ่งตลอดที่เดินกลับไปพี่พอสก็เดินตามฉันไม่หยุด พร้อมกับคิดว่า น่ารำคาญ! ควับ พี่พอสคว้าแขนฉันไปจับไว้ “ปล่อย!” “ยกโทษให้พี่นะ เอิง” “บอกให้ปล่อย!” “ปล่อยมันนะ พี่พอส” แต่แล้ว ฉันก็เพิ่งรู้ว่า ยัยเจนตามฉันมาด้วย และมันก็พูดออกมาเสียงดัง เพื่อช่วยฉัน และคำพูดของมันก็ทำให้พี่พอสหันไปตะโกนเสียงดัง และพูดด้วยคำที่หยาบคายออกมาทันที..โดยเฉพาะสำหรับไอเจนนี่.. “เรื่องผัวเมีย มึงอย่าเสือก! อีตุ๊ด!” “อ่าว พูดงี้ก็สวยสิวะ ถึงกูเป็นตุ๊ดกูก็ต่อยเป็นนะโว้ยยย” ผลั๊วะ ไม่ทันรอให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว เจนนี่ ก็ต่อยพี่พอสทันที เชี้ย แมนสมชื่อฉิบหาย “อีตุ๊ด มึง!” และทันทีที่พี่พอสทำท่าจะสวนต่อยเจนนี่ ฉันก็รีบคว้าพี่พอสในทันที..ก่อนจะโพล่งปากออกมาด้วยความโมโหที่เขาจะมาทำเพื่อนฉัน.. “หยุดนะพี่พอส!” “เอิงก็เห็น มันต่อยพี่ก่อน” “มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับคุณลูกค้า” ระหว่างนั้นเอง อยู่ๆก็มีชายชุดดำคาดว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของผับแห่งนี้ 3 คน เดินมาพูดนิ่งๆกับพวกฉัน แต่พวกเขาไม่ได้พูดเปล่านะ แต่ชี้ปืนที่เหน็บไว้ตรงกางเกงให้ดูด้วย และพวกเราสามคน ก็เข้าใจตรงกันในทันที.. นั่นเลยทำให้พี่พอสหยุดอารมณ์ พร้อมกับชี้หน้าคาดโทษอีเจนนี่ และเอ่ยเสียงออกมา..ด้วยอารมณ์ที่พยายามข่ม.. “ฝากไว้ก่อนเหอะมึง” “ไม่มีอะไรแล้วล่ะค่ะ” เมื่อพี่พอสไปแล้ว ฉันก็หันไปพูดกับพี่ชุดดำพวกนั้น ในขณะเดียวกันพวกเขาก็มองหน้าฉันนิ่ง และในที่สุดก็ยอมเดินออกไปจากตรงนี้ ใครเอากาวไปทาตรงหน้าไว้รึเปล่านะ หน้านิ่งชะมัด “เกือบโดนเก็บแล้วมั้ยล่ะ” ทันทีที่ทุกคนออกไป เหลือแค่ฉันกับอีเจนนี่ มันก็พูดเสียงสั่นๆขึ้นมาทันที พร้อมปาดเหงื่อที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้กับอากาศในนี้ได้ในตอนนี้ไปด้วย.. ก่อนจะทรุดลงไปนั่งที่เบาะ และหายใจเหมือนกับโล่งใจ และมันทำให้ฉันเอ่ยปากถามทันที.. “มึงจะกลัวอะไรขนาดนั้น..เมื่อกี้มึงเพึ่งต่อยผู้ชายเองนะโว้ย” “มึงไม่รู้เหรอ เจ้าของที่นี่อะ เขาไม่ชอบให้ใครมาทะเลาะในผับของเขา ใครทะเลาะนะ โดนลากออกไปซ้อมหมด แต่ถ้าคิดสู้ก็โดนเก็บ” “พี่ซันเนี่ยนะ?!”   พี่ซันที่แสนดีคนนั่นนะเหรอ? “ก็เออน่ะสิ! ไม่งั้นเขาไม่เรียกกลุ่มนี้ว่า Devil Prince หรอกย่ะ” เขาโหดขนาดนั้นเลยเหรอ? แต่..ฉันว่ามันน่าจะเป็นการปล่อยข่าวขู่ เพื่อให้คนที่มาที่นี่กลัว จะได้ไม่กล้าทะเลาะกันมากกว่า “เออ ช่างเถอะ..ว่าแต่แกเนี่ย เท่ห์สุดๆไปเลยนะ ฉันต้องกลับไปเรียกแกว่า แมน เหมือนเดิมแล้วล่ะ ฮ่าๆ” “นังชะนี กูมาช่วยมึงนะยะ แล้วดูมึงตอบแทน!” “ฮ่าๆ โอ๋ๆ ล้อเล่นหน่อยเดียวเองคุณแม่” และทันทีที่มันทำท่าโมโหแบบนั้นฉันก็ซบลงหามันอย่างขี้อ้อนทันที.. ส่วนมันก็ยังบ่นกระปอดกระแปดเหมือนเดิม.. “เออๆ มันน่าโมโหจริงๆ หมดสนุกเลยงานนี้” “ขอโทษนะแก งั้นฉันว่าฉันกลับเลยดีกว่า แกไปเต้นกับเพื่อนๆต่อเถอะ” “เออๆ งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งที่รถนะ เผื่อมันกลับมาอีก” “แกนี่ ทำให้ฉันเสียของเลยว่ะ น่าจะเป็นผู้ชายแท้ๆนะเนี่ย” ถ้าชายแท้นะ มันคงตรงสเปกใครหลายคน รวมถึงฉันด้วย หล่อ นิสัยดี และปกป้องฉันได้ ปกป้องฉันได้งั้นเหรอ... แต่แล้วเมื่อนึกถึงคำๆนี้ อยู่ๆ หัวของฉันก็ไปนึกถึงหน้าของ พี่ซัน ทำไมคิดถึงพี่เขาอีกแล้วล่ะ..หยุดคิดถึงเขานะ เอิงเอย.. ฉันสะบัดหัวสองสามทีไล่ความคิดออกอีกครั้ง ก่อนที่เสียงยัยเจนนี่จะเอ่ยออกมาในลักษณะแบบเดิมที่ฉันกับมันชอบพูดเล่นกัน.. “เสียใจด้วยย่ะ กู เกลียด ชะ นี! ” . . . “คุณหนูคะ เมื่อกี้คุณท่านโทรมาบอกว่า พรุ่งนี้คงกลับมาไม่ได้แล้ว ท่านมีงานเข้ามาอาจจะต้องเลื่อนไปเป็นเดือน” ทันทีที่ฉันก้าวเท้าเข้าบ้านได้ไม่กี่ก้าว..ป้าน้อย แม่บ้านของบ้านหลังนี้ ก็พูดกับฉันทันที และมันก็เป็นคำเดิมๆที่ฉันได้ยินบ่อยครั้งตั้งแต่ยังเด็ก.. เห้อ อีกแล้วเหรอ​ เป็นอีกครั้งที่ฉันได้ยินเรื่องแบบนี้ ในรอบปีนี้ ฉันได้เจอหน้าพ่อไม่ถึง 5 ครั้งด้วยซ้ำไป ตั้งแต่ที่แม่ของฉันเสียไป พ่อของฉันที่เป็นทูตไทยญี่ปุ่น..ก็ทำงานหนักตัวเป็นเกลียว จนได้เลื่อนด้วยตำแหน่งสูงขึ้น และก็ทำให้ท่านต้องประจำอยู่ต่างประเทศบ่อยครั้งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ฉันก็ไม่เคยโกรธพ่อนะ ฉันแค่น้อยใจในโชคชะตาตัวเองมากกว่า กลับมาบ้าน ก็ไม่มีใคร เดินทางก็ไกล สู้อยู่คอนโดในห้องที่ไม่ใหญ่มาก ใกล้ๆมหาวิทยาลัยจะยังดีกว่าซะอีก ไม่ต้องอยู่บ้านที่ใหญ่โตแต่เงียบเหงาแบบนี้ \"คุณหนู ยังไงก็ยังมีป้ากับนังนวลอยู่นะคะ ป้าเชื่อว่าอีกไม่นานคุณท่านก็จะกลับมา” ป้าน้อยส่งยิ้มให้ฉันด้วยแววตาสงสารฉันจับใจ เพราะป้ารู้ดีว่าฉันรู้สึกยังไง ฉันเลยส่งยิ้มตอบกลับไปให้แทนโดยที่ไม่ปริปากพูดอะไรออกมา ก่อนจะพาตัวเองเดินเข้าไปยังห้องนอน และทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างหมดแรง ด้วยความคิดถึงพ่อและมีเรื่องอยากจะขอท่าน ฉันก็เลยหยิบมือถือและกดโทรออกไปอย่างอัตโนมัติทันพลัน “[ว่าไงครับ ลูกสาวสุดสวยของพ่อ]” “พ่อคะ เอิงอยากย้ายไปอยู่คอนโด” “[อยู่บ้านเรามีปัญหาอะไรเหรอ]” “กลับมาแล้วไม่มีพ่อ สู้เอิงอยู่คอนโดใกล้มหาวิทยาลัยยังจะดีกว่า” “[เอิง .. ลูกก็รู้ว่าพ่อทำทุกอย่างเพื่อเอิงทั้งนั้น]” “แต่เอิงอยากได้พ่อ มากกว่าเงินในบัญชีนะคะ” “[พ่อขอโทษนะลูก]” “ช่างเถอะค่ะ ส่วนเรื่องคอนโด เอิงก็ตัดสินใจแล้ว นะคะพ่อ” “[อืม แต่ถ้าเมื่อไรพ่ออยู่บ้านเอิงต้องกลับมานอนบ้านนะ]” “แน่นอนสิ นานๆคุณพ่อจะกลับมา เอิงจะไม่มานอนบ้านได้ไงกัน นอกจากจะนอนบ้านแล้ว เอิงจะตัวติดหนึบ ไม่ให้คุณพ่อได้มีเวลาส่วนตัวเลยยย คอยดูสิ” “[ฮ่าๆ งั้นเดี๋ยวพ่อจะให้คนจัดการเรื่องคอนโดให้แล้วกันนะ]” “ขอบคุณนะค่าา คุณพ่อใจดีที่สุดเล้ยย ว่าแต่ พ่อจะกลับมาเมื่อไรเหรอคะ” “[พ่อยังไม่รู้เลย ถ้ารู้พ่อจะโทรบอกเราเป็นคนแรกเลยนะ]” “ค่ะ เอิงรักพ่อนะคะ” “[พ่อก็รักเอิงนะ พ่อขอโทษนะ ที่อยู่ใกล้ๆด้วยไม่ได้]” “ไม่เป็นไรค่ะ” กรึก ทันทีที่ฉันวางสายไป ฉันก็นอนหลับตาบนเตียงสักพัก แล้วก็หยิบมือถือเปิดโปรแกรมหนึ่งขึ้นมาดู ‘วันนี้ไม่มีข้อความ..สินะ’ ฉันเข้าไปดูเพจที่ฉันสร้างไว้ ประมาณปีกว่าๆ กระแสตอบรับมันไม่ได้ดีมากหรอก แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็มีลูกเพจดีเด่น 1 คนถ้วน และเขาก็ชื่อว่า..อาทิตย์ อาทิตย์ ชอบส่งข้อความเกี่ยวกับอารมณ์ของเขาให้ฉัน เพื่อให้ฉันหาเพลงให้ตรงกับเขา ช่วงแรกฉันก็ว่ามันแปลก แต่ว่ามันก็ท้าทายดี ได้หาอะไรแก้ทำคลายเหงาด้วย รวมถึงฉันก็สนุกที่ได้ทำมันด้วย แต่ช่วงหลังๆ มันกลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น มันเริ่มเป็นความผูกพันธ์อะไรบ้างอย่าง ฉันทำมาแบบนั้นเรื่อยๆ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนมารู้ตัวอีกที ฉันก็มักจะรอข้อความจากเขา ไม่ว่าจะตอนเข้านอน ตอนตื่นนอน ตอนเรียน ตอนกินข้าว หรืออย่างตอนนี้..ที่ฉันก็หยิบมือถือมาดูว่าเขาส่งอะไรมาหรือเปล่า ในเมื่อวันนี้ไม่มีข้อความ ฉันก็ตัดสินใจลุกขึ้นก็ไปอาบน้ำดีกว่า หลังจากอาบน้ำเสร็จ ฉันก็หาเพลงให้ตัวเองฟัง เหมือนทุกวันที่ฉันทำ การฟังเพลง ทำให้ฉันไม่รู้สึกเหงา ท่ามกลางความเงียบที่กำลังปกคลุมในบ้านอยู่ตอนนี้ และไม่นานฉันก็หลับไปพร้อมกับเสียงเพลง ด้วยความสุข ​
已经是最新一章了
加载中