ตอนที่ 4   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 4
ตอนนี้ฉันกำลังลงลิฟต์ของอาคารเรียนกับยัยแอมแปร์ หลังจากเรียนวิชาสุดท้ายของวันนี้ ด้วยใจเต้นตุ่มๆต่อมๆ นั่นเป็นเพราะว่า..เมื่อคืนพี่ซันโทรมาหาฉันน่ะสิ! แต่ว่าเขาไม่ได้โทรมาจีบหรือชวนคุยหรอกนะ..พี่ซันโทรมา เพื่อที่จะคืนเสื้อให้ฉัน รวมถึงจะขอเสื้อของพี่ซันคืนด้วยต่างหากล่ะ....ตอนแรกฉันก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว เพราะหลังจากเหตุการณ์วันนั้นมันก็นานอยู่หลายวันเลยทีเดียว.. ซึ่งเขาก็ไม่โทรหาและฉันก็ไม่กล้าโทรไป เลยว่าจะปล่อยเรื่องนี้ให้เงียบๆไป..แต่ว่าเมื่อวานเขาก็โทรมาจนได้ และเขาก็นัดที่หน้าตึกเรียนวันนี้หลังเลิกเรียน ..ซึ่งมันก็อีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้เอง... ที่จริงมันก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร พี่ซันคืนเสื้อฉัน ฉันคืนเสื้อพี่ซัน..แล้วเราก็แยกย้ายกันไป แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่.. ฉัน..ดันลืมเสื้อพี่ซันไว้ที่บ้านน่ะสิ! ก็เมื่อเช้า น้าพงษ์คนขับรถ อยู่ๆก็บอกฉันกะทันหันว่า คุณพ่อจัดการเรื่องคอนโดฉันเรียบร้อยแล้ว ให้วันนี้ย้ายไปอยู่ได้เลย ฉันก็เลยรีบเก็บของอย่างลวกๆ เอาของที่จำเป็นมาก่อน ก็อย่างว่านะ ของฉันมันเยอะแยะไปหมด แค่กระเป๋าฉันก็ปาไป 6 กระเป๋าเดินทางแล้ว  ทำให้ฉันลืมเสื้อพี่ซันไว้ที่บ้าน พอนึกได้อย่างนั้น ฉันก็เลยโทรไปขอเลื่อนนัด แต่พี่ซันกลับบอกว่า ไว้คืนวันหลังก็ได้ ส่วนวันนี้พี่เขาขอเอาเสื้อฉันมาคืนก่อน ซึ่งมันแปลว่า ไม่ว่ายังไง วันนี้ฉันก็จะได้เจอพี่ซันอีกครั้งแน่ๆ.. ได้เจอพี่ซันตัวเป็นๆ คนที่ทำให้ฉันเก็บเอาไปคิด บ่อยครั้งในตลอดหลายวันที่ผ่านมา.. ฉันเองก็แปลกใจนะ ทั้งๆที่ก็เจอกันแค่ครั้งเดียวเอง ไม่รู้ทำไม..ฉันเป็นได้ขนาดนี้ และก็ไม่รู้ว่าการเจอกันครั้งนี้ แม้ว่าจะแค่การคืนเสื้อ ฉันจะเป็นยังไงบ้าง แต่ที่แน่ๆ..ฉันจะทำยังไงดีกับหัวใจตัวเองที่มันตื่นเต้นไม่หยุดในตอนนี้ดีนะ..เห้ออ และมันก็คงทำได้ดี ถ้าฉันไม่ได้อยู่กับพี่ซัน 2 ต่อ 2.. เพราะฉะนั้นฉันเลยขอร้องให้แอมแปร์อยู่เป็นเพื่อนด้วยกัน แต่ว่าเพื่อนตัวดีของฉันก็ลังเลเหมือนจะไม่อยู่ด้วยกัน แต่แล้วระหว่างที่ฉันกำลังรบเร้าให้แอมแปร์อยู่เป็นเพื่อนกับฉันอยู่นั้น ก็มีเสียงทุ้มลอยเขามา..และฉันก็รู้ได้ทันทีว่าเสียงของใคร.. “สวัสดีครับ” “พะ พี่ซัน มาแล้วเหรอคะ” ไม่อยู่ก็ต้องอยู่แล้วล่ะ..แอมแปร์.. “ครับ อะนี่พี่เอามาคืน ขอบคุณมากนะครับ” ไม่เจอกันหลายวัน..พี่ซันก็ยังหล่อเหมือนเดิมสินะ..แถมยังสุภาพและน่ารักเหมือนเดิม..และรอยยิ้มจากอีกฝั่งก็ทำให้ฉันลดความประหม่าลงไปในระดับหนึ่งเลยล่ะ ฉันก็เลยส่งยิ้มคืนไป พร้อมกับเอื้อมมือไปรับถุงกระดาษตรงหน้า ก่อนที่จะแนะนำเพื่อนข้างๆให้รู้จัก..เพื่อไม่ให้เสียมารยาท “ไม่เป็นไรค่ะ เอิงมากกว่า ที่ต้องขอบคุณ .. เอ้อ พี่ซันคะ นี่เพื่อนเอิง ชื่อแอม ที่เอิงเคยบอกว่าสนิทไงคะ” “สวัสดีครับ น้องแอม” หลังจากนั้น..พี่ซันก็พูดอะไรออกมามากมายกับยัยแอมแปร์ ที่ทำให้ฉันได้รู้เพิ่มมาอีกเรื่อง ว่าจริงๆแล้วแอมแปร์เคยเจอกับพี่ซันมาก่อนแล้ว เรื่องมันเกิดในคืนที่ฉันจับแฟนเก่าได้ว่านอกใจนั่นล่ะ ตอนนั้นฉันเสียใจอยากกินเหล้าเลยนัดแอมแปร์ไปผับ Demon แต่วันนั้นมันเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาสดๆไง ฉันก็เลยเอาแต่ร้องไห้จนสุดท้ายก็ผล็อยหลับไปตอนไหนไม่รู้ ทำให้แอมแปร์ต้องรอที่นั่นคนเดียว พี่ซันก็เลยเข้าไปคุยกับแอมเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายกับผู้ชายแถวๆนั้น แบบนี้แสดงว่า..เขานิสัยดีจริงๆสินะ เพราะเขาไม่ได้ปฏิบัติดีแค่เฉพาะกับฉัน เขายังทำแบบนี้กับเพื่อนฉันด้วย.. ข่าวที่บอกว่า กลุ่มนี้ร้ายกาจ....บางทีอาจจะเป็นแค่ข่าวลือก็ได้แห่ะ.. อืม..ฉันหมายถึงพี่ซันนะ ส่วนคนอื่นๆ ฉันก็ไม่แน่ใจ.. หลังจากที่เราคุยกันไม่นาน อยู่ๆพี่ซันก็เอ่ยคำพูดอย่างไม่ถือตัว.. ทั้งๆที่ปกติแล้วพี่ซันไม่น่าจะมายุ่งกับคนธรรมดาๆอย่างฉันและแอมแปร์ด้วยซ้ำ.. “แล้วน้องๆกินข้าวกันยังครับ” “กำลังจะไปกินเลยค่ะ งั้นพี่ซันไปกินด้วยกันนะคะ แอมเลี้ยงเอง ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่ทำตัวไม่ดีใส่พี่ซันคราวก่อน” “ยินดีครับ” และในที่สุด ฉันก็เลือกมากินร้านอาหารในโรงอาหารของคณะ ตอนแรกฉันก็แอบคิดนะ ว่าเขาจะไม่ยอมรับ หรืออยากไปกินร้านอาหารหรูๆมากกว่าหรือเปล่า..แต่เปล่าเลย พี่ซันกลับยิ้มแย้ม..แถมยังเดินนำทางไปเหมือนรู้เส้นทางอีกด้วย.. เป็นเจ้าชายที่ติดดินจริงๆ ดีงาม.. และไม่ใช่แค่ติดดินอย่างเดียว..ยังดูแล และเป็นสุภาพบุรุษเอามากๆ..ไอตอนแรกที่ยัยแอมแปร์เอ่ยปากไปว่าจะเลี้ยง..สุดท้ายมันก็ไม่ได้เลี้ยงหรอก.. เพราะทันทีที่เราสามคนรับชามก๋วยเตี๋ยวที่สั่งร้านเดียวกัน..พี่ซันก็ชิงจ่ายเงินตัดหน้าแอมแปร์ทันที.. พร้อมกับเอ่ยปากพูดเล่นอย่างไม่ถือตัว “น้องแอมจะเลี้ยงทั้งที..เลี้ยงแค่ชามเจ็ดสิบบาทได้ไง..ไว้ครั้งหน้าแล้วกันนะครับ..” “โหหห หมดกันแผนที่จะเลี้ยงอาหารถูกๆ” “ฮ่าๆ ป่ะๆไปหาที่นั่งกันดีกว่า” ฉันก็ได้แต่ฟังแล้วหัวเราะกับแอมแปร์ มันยังงี้ล่ะ ขี้งกตลอด! “ว่าแต่ พวกเราเรียนเอกอะไรกันเหรอครับ” “ฝรั่งเศสค่ะ” “พี่อยากฝึกภาษาฝรั่งเศสพอดีเลย” ฉันเคยได้ยินว่าพี่เขาเคยไปเรียนฝรั่งเศษตอนมัธยมต้นไม่ใช่เหรอ สงสัยจะจำมาผิด “ถ้าเรื่องสอน ต้องยกให้แอมเลยค่ะ มันสอนพิเศษภาษาฝรั่งเศสอยู่” ฉันพูดออกมา เพราะยัยแอมมันสอบพิเศษวิชานี้อยู่ด้วยพอดี นอกจากนี้มันก็มีรับสอนหมด ไม่ว่าจะ อังกฤษ หรือภาษาไทย.. “จริงเหรอครับ งั้นน้องแอมสอนพี่หน่อยสิ” “สำหรับพี่ซัน ต้องคิดค่าสอนแพงๆ ฮ่าๆ” “เท่าไรว่ามาเลย พี่ทุ่มไม่อั้น” “นาทีละพันดีมั้ย สอนสัก 50 ชม หกสิบคูณห้าสอบคูณหนึ่งพัน อืม... เท่าไรนะ” “สามล้านบาท! นี่รับสอนพิเศษหรือจะรีดไถเงินพี่กันแน่ครับ” พี่ซันเอ่ยขึ้นมาก่อนจะทำหน้ายอมแพ้ในความขี้งกของยัยแอม แต่ก็แอบยิ้มมุมปากเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู หล่ออออะะ! “ฮ่าๆๆ” “งั้นเปลี่ยนคนสอนดีกว่า น้องเอิงละครับ คิดราคาสอนพี่เท่าไร” อยู่ๆ พี่ซันก็หันมาถามฉันซะงั้น เอาไงดีล่ะ คิดยังไงดี สอนฟรีแต่เอาตัวพี่มาแลกดีมั้ย “อืม... งั้นนาทีละ 999 บาท ตัดราคาคู่แข่งตั้ง 1 บาทเลยนะ” “พี่ว่า พี่พูดภาษาไทยก็สื่อสารได้ ไม่ต้องเรียนฝรังเศสก็ได้เนอะ” พี่ซันพูดยิ้มๆอย่างอารมณ์ดี ตามประสาคนขี้เล่น แต่มันช่างมีเสน่ห์เหลือล้น เพราะดูได้จากสาวๆโต๊ะอื่นที่นั่งในบริเวณโรงอาหารนี้ ต่างมองและพากันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ กันเป็นแถวๆ บางรายก็กรี๊ดกร๊าด ถึงขั้นก็ต้องวางช้อนซ้อมในมือแล้วหยิบกล้องถ่ายรูปออกมาถ่ายกันเลยทีเดียว ก็ไม่แปลก เพราะเขา..ยิ้มที โลกละลายอะ บอกเลย ขนาดฉันเองมองหน้าพี่ซันแล้วยังเคลิ้มเลย ผู้ชายอะไร ดูดีไปหมดจริงๆ “แล้วพี่ซันเรียนบริหารเป็นไงบ้าง” อยู่ๆแอมแปร์ถามขึ้นมา นั่นเป็นเพราะว่ามันอยากเรียนบริหารมากกว่า แต่ว่ามันดันได้ทุนคณะอักษรศาสตร์แทน “สนใจเรียนกับพี่มั้ย พี่สอนฟรีเลย ไม่คิดตัง เพราะพี่ หล่อ ใจดี และฉลาดมาก” “พี่ซันกับยัยแอม นิสัยเหมือนกันเลย หลงตัวเองทั้งคู่” ฉันได้ยินพี่ซันพูดแบบนั้นแล้วนึกถึงยัยแอมเพื่อนฉัน ชอบชมตัวเองกันทั้งคู่เลย “เค้าเรียกว่า รู้จุดเด่นของตัวเองต่างหาก ใช่มั้ยพี่ซัน” “ใช่ครับ” “เข้ากันดีจังเลยนะยะ” ผู้ชายแสนดีอย่างพี่ซัน และเพื่อนรักฉันอย่างแอมแปร์ ก็ดูเข้ากันไม่ใช่น้อย แต่ติดอยู่ตรงชื่อเสียงเรื่องความเจ้าชู้ของพี่ซันนี่ล่ะ เพราะฉะนั้น ตัดไป! และไม่ใช่ตัดแค่มันนะ..ฉันเองก็ต้องตัดใจเช่นกัน.. อย่าไปหลงเคลิ้มกับเขามาก..อีเอิง.. จากนั้น พวกเราทั้งสามคนก็นั่งคุยกันไปมาหลายเรื่อง ตอนแรกฉันคิดว่าจะวางตัวไม่ถูกเวลาอยู่กับพี่ซัน แต่เปล่าเลยพี่ซันเป็นกันเอง ไม่ถือตัวเลยสักนิด แถมยังช่างคุย ทำให้ไม่นาน ทั้งโต๊ะก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน มีแต่เสียงหัวเราะตลอดเวลา จนผู้หญิงรอบข้างจิกพวกฉันจนตาแทบถลน จนกระทั่งพวกเรากินอาหารหมด..และเริ่มยกจานไปเก็บ..ยัยแอมแปร์ก็เปิดประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง \"พี่ซันเป็นเจ้าของผับที่หนูไปวันนั้นเหรอคะ” “ครับ วันหลังไปแล้วบอกพี่นะครับ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” “พรุ่งนี้เลยมั้ย” “เห็นของฟรีเป็นไม่ได้เลยนะแก” “ถือว่าเพื่อนกันจริง ฮ่าๆ” “อย่าถล่มกันเยอะนะ พี่กลัวร้านพี่เจ้ง” เอาจริง..ผับใหญ่ขนาดนั้น ใครจะไปถล่มไหวกัน และฉันก็รู้ว่า พี่ซันเองก็พูดเล่น ฉันเลยสวนกลับไปอย่างอารมณ์ดีเช่นกัน “ฮ่าๆ ไม่ถล่มหรอก เอาแค่พอพวกเราอิ่ม” “พี่ไม่แปลกใจล่ะ ว่าทำไม สองคนนี้ถึงเป็นเพื่อนกันได้ งกทั้งคู่” สิ้นเสียงคำพูดที่ชวนยิ้ม พวกเราสามคนก็ส่งยิ้มให้กันเล็กน้อย ก่อนที่ยัยแอมจะพูดขึ้นมา เมื่อมันก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง.. “เออ.. แอมขอตัวไปสอนพิเศษก่อนนะคะ” “ให้พี่ไปส่งมั้ย” “มะ ไม่ต้องๆ แอมไปก่อนนะคะ ไปก่อนนะแก” หื้ม?? แปลก..แปลกจริงๆ จะว่ามันหยิ่ง ก็ไม่น่าจะใช่..เพราะที่ผ่านมาหลายนาที มันก็ออกจะคุยดีกับพี่ซัน แต่ว่า..ทำไมมันถึงไม่เลือกที่จะเดินทางฟรีๆ ไปกับพี่ซัน..มันอะ ค่อนข้างขี้งก..เอาเรื่องเลยล่ะ.. อะไรฟรีมันก็คว้าหมด.. หรือเป็นเพราะว่า มันเกรงใจ..อืม..คงงั้นล่ะมั้ง และตอนนี้ เมื่อมันพูดจบ..มันก็วิ่งไปยังรถรางของมหาวิทยาลัยที่กำลังมาพอดี พร้อมกับโบกมือลา ยิ้มหน้าบาน จนรถออกไปไกลลับตา รีบขนาดนี้ สงสัยลืมเวลาสอนอีกแล้วสินะ “แล้วเรา จะกลับเลยมั้ย” ในเมื่อมันไปแล้ว..ตอนนี้ฉันก็อยู่กับพี่ซัน 2 คนสินะ..แล้วคำถามแบบนี้..เขาจะชวนฉันกลับด้วยมั้ยนะ..แต่ว่าคงไม่หรอกมั้ง..เขาก็รู้อยู่ว่า..ฉันมีรถ แม้ว่าวันนี้ฉันจะไม่ได้เอามาก็เถอะ มันเป็นเพราะ วันนี้ฉันวานให้ลุงพงษ์มาส่งที่มหาวิทยาลัยรวดเดียวเลยหลังจากย้ายของเข้าคอนโด เพราะฉันย้ายของจนเหนื่อย ขี้เกียจขับรถเอง ซึ่งฉันก็คิดว่า..เดี๋ยวพอแยกกลับพี่ซัน ฉันก็คงโทรให้ลุงมารับ “คงกลับเลยค่ะ” “ป่ะ เดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่รถ” “เออ..วันนี้ไม่ได้เอารถมาหรอกค่ะ เรา..แยกย้ายกันตรงนี้เลยก็ได้ๆ” “...ได้ไงล่ะ จะให้พี่ปล่อยให้กลับคนเดียวได้ไง ไปครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” “เออ ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ กลับคนเดียวได้ เดี๋ยวเอิงโทรบอกให้ลุงที่บ้านมารับๆ” “ไม่ได้ อย่าดื้อ.. งั้นเอางี้ ไปเอาเสื้อคลุมของพี่ด้วยเลย จะได้ไม่เสียเที่ยว..ดีมั้ย” ถึงฉันจะย้ายมาคอนโดแล้ว แต่ตอนจัดของฉันก็พบว่ายังเอาของมาไม่ครบ ยังขาดกระเป๋าและรองเท้าลูกรักอีกตั้งหลายใบ หลายคู่ เลยคิดไว้ว่าวันนี้จะนอนบ้านอีกคืนอยู่แล้ว ...ถ้างั้น​ “ก็ได้ค่ะ” ให้เขาไปส่งก็ดี เพราะฉันก็ขี้เกียจรอลุงพงษ์เหมือนกัน และสุดท้าย ก็อยู่กับเขาสองต่อสองจนได้สินะ เห้อ! หวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรหรอกนะ และมันก็ไม่มีอะไรจริงๆ ไม่มีอะไรเลย..แม้กระทั่งการพูดคุยกัน..เพราะตลอดเวลาที่ฉันนั่งรถ ฉันรู้สึกเขินยังไงก็ไม่รู้..มันวางตัวไม่ถูก ไม่รู้จะทำยังไงดี..ก็เลยทำให้ฉันแกล้งหลับ..แต่ก็ตื่นมาพอดิบพอดี..ตอนที่ถึงหน้าบ้านของฉันเหมือนในตอนนี้.. “อ่าว..ถึงบ้านแล้วเหรอค่ะ..เออ..งั้นพี่ซัน..รอตรงนี้แป๊บหนึ่งนะคะ เดี๋ยวเอิงไปเอาเสื้อให้” แต่แล้ว ทันทีที่ฉันทำเนียนเหมือนเพิ่งตื่นนอน พร้อมกับพูดออกมาและปลดเข็มขัดนิรภัย..เสียงของผู้ชายข้างๆก็พูดออกมา..ด้วยเสียงที่ดูแหบแห้ง “หึ่ม หื้มม คอแห้งจัง~ ถ้าได้กินน้ำสักแก้วก็คงดี” เออ เอาไงล่ะ..เขาก็อุตส่าห์มาส่งอะเนอะ..ชวนเขาให้ไปดื่มน้ำ ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง.. “เออ งั้นเข้ามากินน้ำในบ้านก่อนก็ได้ค่ะ” “ขอบคุณคร๊าบบ” เอ๊ะ..ฉันคิดไปเองหรือเปล่านะ ทำไมอยู่ๆเสียงพี่ซันก็สดใสไม่เหมือนเมื่อกี้เลยล่ะ..แล้วไหนจะรอยยิ้มนั้นอีก..อย่าบอกนะ ว่าเขาจงใจจะเข้ามาบ้านฉัน.. ...อย่ามาทำแบบนี้กับฉันมากได้มั้ยเล่า! “อ่าว คุณหนู ย้ายไปคอนโดแล้วไม่ใช่เหรอคะ..แล้วนั่น แฟนคุณหนูเหรอ” แต่แล้วทันทีที่ฉันเดินเข้ามาในบ้าน ป้าน้อยก็ทักฉันทันที แต่คำทักนั้น ทำเอาฉันไปไม่ถูกเลยทีเดียว แต่ว่าฉันก็ยังหน้านิ่งทำเหมือนไม่ได้ขัดเขินอะไรกับคำพูดของป้าแม่บ้านของฉัน..เลยซักนิดเดียว.. “เออ ไม่ใช่ค่ะป้าน้อย นี่พี่ซัน รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย พอดี เอิงเอาของไปไม่ครบ คืนนี้เลยจะนอนที่บ้านอีกคืนค่ะ” แต่แล้ว เหมือนว่าป้าน้อยจะไม่สนใจคำตอบของฉันเลยซักนิด เพราะป้าเอาแต่มองผู้ชายข้างๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปมองใกล้ๆ และพูดออกมาไม่หยุดปาก จนทำให้ฉันต้องยิ้มเอ็นดูให้กับป้าแม่บ้านของฉัน พร้อมกับคิดไม่ต่างกับพี่ป้าพูดเลยซักนิด “โอ๊ย พ่อคู้นน หล่อ หล่อมาก หล่อจริงๆ” “สวัสดีครับป้าน้อย ขอบคุณครับ ชมผมแบบนี้ผมก็เขินแย่เลย แต่ป้าเนี่ย ตาถึงจริงๆเลยนะครับ” “ฮ่าๆ ช่างเหมาะกับคุณหนูของป้าซะจริงๆ” ฮะ.. “อ เออ..ป้าน้อยพูดอะไรอะ ขอโทษนะคะพี่ซัน” บอกเลยว่า ตอนนี้ฉันเริ่มจะเขินจริงๆซะแล้วสิ.. และมันก็เขินหนักไปกว่านี้..เมื่อพี่ซันพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดีสมทบเข้าไปอีก “เป็นธรรมดาของคนสวยกับคนหล่อ ป้าน้อยก็เลยมองว่าเหมาะสมกัน ใช่มั้ยครับ” นี่เขาชมว่าฉันสวยสินะ งื้อออ ใจเย็นๆ อย่าเขินๆ แล้วก็....แกต้องไม่หลงไปกับเขา..เอิงเอย ​ “เออ ป้าน้อยคะ ขอน้ำให้พี่ซันด้วยนะคะ” “อ้อ ได้เลยค่าคุณหนู ไอนวลเอ้ย ไอนวล เอาน้ำมาให้แขกคุณหนูหน่อยย” “อะไรป้า! ว๊าย ตาเถร ดารา!” ทันทีที่นวล เด็กรับใช้ผิวค่อนข้างไปทางคล้ำ รูปร่างอวบอั๋นไซส์ XL เดินออกมาตามเสียงเรียกของผู้เป็นป้า เธอก็ทำท่าทางตกอกตกใจใหญ่เกินเบอร์ไปมาก ตามประสานิสัยของเธออยู่แล้ว..พร้อมกับจ้องมองผู้ชายข้างๆฉันตาเป็นมัน.. ก่อนที่ป้าของเธอจะโวยวายใส่เรียกสตินวลให้กลับมาเข้ารูปเข้ารอยเหมือนเดิม “นี่แขกคุณหนูโว้ย ไม่ใช่ดารา แล้วก็..ไปเอาน้ำให้แขกคุณหนูแก้วนึง ไปๆ” แต่ว่าเสียงของป้านั้น ก็เหมือนเสียงลมที่พัดผ่านหูนวลไป นอกจากนวลจะไม่ขยับไปทำตามที่ผู้เป็นป้าสั่งแล้ว ยังเอาแต่ยืนมองตาละห้อยปนหวานเยิ้มอย่างหลงใหลอีกด้วย และการกระทำนั่นบอกเลยว่า ทำให้พี่ซันเริ่มที่จะเลิ่กลั่กแปลกๆ และก็ทำให้ป้าเอ่ยเสียงเตือนสติหลานสาวตัวเองอีกครั้ง “ไอนวล เก็บอาการหน่อย แล้วก็ไปเอาน้ำมาเสิร์ฟได้แล้ว” “โถ่..ป้าอ่ะ..ไปก็ได้..” แม้ว่านวลก็ทำหน้าไม่ค่อยพอใจ พร้อมกับเดินกระแทกเท้าออกไป....แต่ว่าเมื่อถึงประตูทางออก นวลก็ไม่วายหันมามองผู้ชายข้างๆฉันอีกครั้งด้วยสายตาแบบเดิม..สายตาที่ดูเหมือนจะกลืนกินไปทั้งตัว..จนทำให้เขาสะดุ้งอีกครั้ง พร้อมกับยิ้มแห้งๆ มาบ้านฉันวันแรก ก็เจอนวลเลยมั้ยล่ะ.. แม้ว่าฉันเองจะนึกขำขันอยู่ในใจ..แต่ว่าฉันก็ทำเพียงแค่ยิ้มเล็กๆและหันไปพูดกับเขาในประเด็นที่ฉันให้เขามาบ้านฉันในวันนี้แทน “งั้น..เดี๋ยวเอิงไปเอาเสื้อก่อน รอตรงนี้นะคะพี่ซัน” “ครับ” แต่ว่า..ขอแกล้งเขาซะหน่อยเถอะ..หึหึ “แล้วก็... รอดีๆ ระวังจะโดนนวลจับปล้ำเอานะคะ..พี่ซัน..ฮ่าๆๆ” Sun’s Talk “น้ำมาแล้วค่าา” มาอีกแล้วสินะ..สาวใช้ที่มองผมด้วยสายตาเหมือนจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว..ที่มีนามว่านวล.. บรื๋อ.. คือ ปกติผมไม่ได้รังเกียจสาวใช้หรอกครับ ออกจะคุยเล่นหยอกล้อด้วยซ้ำ แต่สำหรับคนนี้..ผมว่า ผมขอยกเว้นเป็นกรณีพิเศษดีกว่า เพราะสายตาที่เธอมองนั้น..มันเหมือนผมกำลังโดนขืนใจทางสายตายังไงไม่รู้.. แถมตอนนี้ไม่ได้มองอย่างเดียวนะ เธอยังส่งมินิฮาร์ดมาหาผมด้วย หลังจากที่เธอวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะข้างๆ..จากนั้นเธอก็เดินมาจ้องใบหน้าผมใกล้ๆด้วยสายตาแบบเดิม..จนทำให้ผม..สะดุ้งเล็กน้อย และถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างอัตโนมัติทันที.. นี่สาวใช้ยัยนี่..ก็นิสัยเหมือนเจ้าของหรือเปล่านะ.. เอิงเอยไม่ได้มองผมด้วยสายตาเหมือนสาวใช้คนนี้หรอก..แต่ผมก็รับรู้ได้ว่าเธอ..เขินทุกครั้งที่ผมมองไป..อย่างเมื่อครู่ที่นอนหลับในรถ ผมก็รู้ว่าเธอทำแก้เขินเท่านั้น มันก็น่ารักดีอยู่หรอกนะ..แต่ว่า เรื่องที่เธอมั่วผู้ชายจนรถไฟมาชนกันที่ผับผมวันนั้น มันก็ทำให้ความน่ารักของเธอลดลงไปมากอยู่.. “เอ็งไปได้แล้วไอนวล แขกคุณหนูกลัวเอ็งแล้วเนี่ย” “โถ่ ป้า! ไปก็ได้ หนูไปก่อนนะคะพี่สุดหล่อ จุ๊บบบ” เห้อ...ไปจนได้... “ป้าขอโทษแทนมันด้วยนะคะ” ป้าน้อยคนนี้..คงจะเหมือนกับป้าแววของผมสินะ หัวหน้าแม่บ้านที่คอยดูแลบ้านนี้ทุกอย่าง..ว่าแต่ ดูๆไปบ้านนี้ก็ดูเงียบๆนะ..จริงๆนี่มันก็เวลาเย็นแล้ว..พ่อแม่ของเธอล่ะ..หรือว่าจะออกไปทำงานกัน.. ด้วยความสงสัย เลยทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะโพล่งปากถามคนที่น่าจะรู้คำตอบเรื่องนี้ดีที่สุดอย่าง ป้าน้อย..ออกไป “ไม่เป็นไรครับ เออว่าแต่ ทำไมบ้านดูเงียบๆ คุณพ่อคุณแม่ของเอิงละครับ” “คุณนายเสียไปเมื่อปีที่แล้วค่ะ ส่วนคุณท่านก็นานๆทีจะกลับไทย ป้าล่ะสงสารคุณหนูของป้าจริงๆ” หรือเพราะแบบนี้นะ เลยทำให้เธอไม่มีผู้ใหญ่ควบคุมเลยกลายเป็นเด็กใจแตก..อืม..คงใช่แน่ๆ แถมตอนนี้ยังจะย้ายไปอยู่คอนโดอีกเหรอ? อันนี้ตามที่ผมจับใจความจากบทสนทนาเมื่อครู่นะ..แต่ว่าลองถามอีกทีเพื่อความมั่นใจดีกว่า “ผมได้ยินเมื่อกี้ ป้าบอกว่าเอิงย้ายไปคอนโดเหรอครับ” “ใช่แล้วค่ะ เพราะเหตุผลนี้แหละ เธอบอกว่าอยู่บ้านแล้วคิดถึงคุณนายคุณท่าน แล้วคุณท่านนะก็ไม่กลับบ้านเลย คุณหนูเลยขอเลือกไปอยู่คอนโดจะดีกว่า” หึ..ผมว่า จะได้มั่วผู้ชายได้สะดวกสบายมากกว่าล่ะสิ.. แต่แล้วระหว่างที่ผมคิดอยู่นั้น..ป้าน้อยก็ยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะเอ่ยคำพูดตามประสาผู้สูงวัยน่ารัก ที่ชอบจับคู่ให้ลูกหลาน คล้ายๆกับม๊าผมและป้าแววไม่มีผิด “คุณซันจีบคุณหนูของป้าเลย ป้าสนับสนุนเต็มที่ คุณหนูเธอน่ารักนะ ขี้เล่น ขี้อ้อน เรียบร้อย” จีบ.. คำๆนี้ห่างไกลตัวผมไปค่อนข้างเยอะเลย เพราะผมไม่เคยจีบใคร และก็ไม่คิดจะมีคำนี้ในหัวด้วย..สำหรับผม มีแค่หว่านเสน่ห์ ดีลกัน ขึ้นเตียง..ติดใจก็สานต่ออีกครั้งสองครั้ง ไม่ติดใจก็แยกย้าย.. มีแค่นั้นละครับ วัฎจักรของชีวิตผม.. และอีกเรื่องเลยนะ ที่ป้าบอกว่าคุณหนูของป้าเรียบร้อย ผมว่าป้าคงเข้าใจผิดแล้วล่ะ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว ท่าเต้นอันโดดเด่น การคล้องคอผู้ชายขณะเต้น รวมไปถึง ผู้ชายเปิดศึกแย่งกันที่ผับของผมวันนั้น มันไม่มีตรงไหนบอกได้เลยว่า..ผู้หญิงคนนี้..เรียบร้อย ถึงเธอจะสวย ตรงสเปกผมก็จริง แต่ว่าผมก็ให้เธอเป็นได้มากสุด ก็แค่คู่นอนผมเท่านั้นละครับ..และผมไม่พลาดแน่ๆ..แต่ว่าขอให้เกมผมมันจบก่อน ส่วนตอนนี้ผมขอ..พูดอะไรกับป้าของเธอซักหน่อยแล้วกัน “คุณหนูของป้า ไม่ได้มีผมคนเดียวหรอก” แต่แล้วทันทีที่ป้าขมวดคิ้วสงสัยออกมา..ผมก็เปลี่ยนใจคิดว่า ให้ป้าได้สบายใจในสิ่งที่ป้าคิด น่าจะดีกว่ารับรู้ว่า..เด็กสาวที่ป้าดูแลมา..เหลวแหลกแค่ไหน นั่นเลยทำให้ผมกลับมายิ้มให้ และพูดอธิบายต่อ “ผมหมายถึง คุณหนูของป้าสวยขนาดนี้ ผู้ชายหลายคนต่างก็รุมกันจีบเธอทั้งนั้น ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวหรอกครับ” “อ้อ ใช่ๆ คุณหนูของป้านะเธอสวยจริงๆ ผู้ชายก็รุมจีบเยอะจริงๆ..แต่พวกผู้ชายพวกนั้น ป้าไม่ชอบใครสักคนเลย ไม่เหมือนกับคุณซัน ที่ป้ารู้สึกถูกชะตา และรู้สึกว่า..คุณซันนะ เหมาะสบกับคุณหนูป้าจริงๆ” หึ..นี่ยัยนั่นคงพาผู้ชายมาบ้านนี้บ่อยสินะ.. พูดแล้วผมก็สงสารคุณป้าจริงๆ ที่มองว่าคุณหนูของคุณป้าเป็นนางฟ้านางสวรรค์แบบนี้ แต่แล้วอยู่ๆป้าน้อยก็หันซ้ายหันขวา ก่อนที่จะป้องปากและกระซิบกระซาบผม “แต่..ป้ามีเคล็ดลับจีบคุณหนูมาบอก” “…” “คุณหนูเธอชอบฟังเพลงมาก คุณซันจีบคุณหนูด้วยเพลงสิค่ะ..รับรองยอมใจอ่อนแน่ๆ” หื้ม..เพลงงั้นเหรอ..นั่นล่ะ สายถนัดผมเลย.. แต่แล้วผมก็ยังคิดอะไรได้ไม่มากนัก เสียงของคนที่คุณป้าตรงหน้านินทาอยู่นานสองนาน ก็เอ่ยเสียงออกมา.. “กระซิบกระซาบอะไรกัน ป้านินทาอะไรหนูอยู่ใช่มั้ย” “ป๊าวว เออ งั้นป้าไปก่อนนะคะคุณหนู” และนั่นก็เลยทำให้ป้าน้อย หันไปส่งยิ้มให้กับคุณหนูของเธอ ก่อนจะเดินออกจากตรงนี้ไป..แต่ว่าก่อนออก ก็ไม่วายหันมาทำสัญลักษณ์มือบอกให้ผม สู้ๆด้วย.. และผมอยากจะบอกป้าเหลือเกินว่า.. ป้าเชียร์ผิดคนแล้วครับ แต่ว่าผมก็ทำได้แค่เพียงส่งยิ้มกลับไป..ก่อนที่จะเปลี่ยนสายตา และหันไปสนใจกับบุคคลมาใหม่ ที่ถือสิ่งที่ผมอ้างว่าจะมาเอาในตอนนี้..ซึ่งจริงๆแล้ว ผมไม่สนใจเสื้อตัวนี้เท่าไรหรอก..แต่ว่าผมแค่อยากรู้เฉยๆว่า เธอเป็นอยู่ยังไงในบ้านหลังนี้ก็เท่านั้น จะได้รู้ว่า ผมสามารถวางแผน ที่จะให้เธอคนนี้ทำให้ผมจีบแอมแปร์ได้สำเร็จยังไงต่อ..แต่เอาจริงๆ จากคำพูดและการกระทำของแอมแปร์วันนี้ ผมก็คิดว่า มันก็เริ่มเข้าทางผมแล้วนะ.. เธอไม่ได้รังเกียจ หยิ่ง หรือตั้งแง่กับผมแล้ว.. แต่ไม่รู้ล่ะ..ยังไงผมก็ขอมียัยนี่เป็นแผนสำรองไว้ก่อนดีกว่า “นี่ค่ะพี่ซัน เสื้อคลุม” และทันทีที่เอิงเอยยื่นเสื้อคลุมนั่นมาให้ผม..ก็ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น แม่ง.. คนอะไรวะแม่งหุ่นน่าฟัดฉิบหาย และผมไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษหรอกนะครับ แต่ผมกลัวผมจะอดใจไม่ไหวต่างหาก เลยต้องถอดเสื้อคลุมให้ในวันนั้น “ขอบคุณครับ งั้นพี่กลับก่อนดีกว่า ดึกแล้ว” “ขอบคุณอีกทีนะคะ ที่มาส่งวันนี้” หึ...คิดจะยิ้มอ่อยผมเหรอ..ไม่สำเร็จหรอก..แบบนี้ต้องเจอยิ้มของผมกลับซะแล้ว..ยัยเอิงเอย.. “ยินดีรับใช้ครับ คุณหนูเอิงเอย” “อ เออ..แหมม อย่าแซวกันแบบนี้สิค่ะ..ถ้าอย่างนั้น..เดินทางปลอดภัยนะคะ ดาราสุดหล่อของนวล” หึ.. “โอ๊ย พูดแบบนี้ พี่รีบกลับดีกว่า” “ค่ะ ^ ^” จากนั้น เธอก็เดินไปส่งผมที่รถอีกครั้ง พร้อมกับส่งยิ้มและยกมือโบกลาผม..ในขณะที่ผมก็ส่งยิ้มไปให้เธอเช่นกัน ก่อนที่จะสตาร์ทรถและขับออกไป..และตลอดทางผมก็คิดว่า..เอิงชอบฟังเพลง ..เหมือนกับผมสินะ....อืม...
已经是最新一章了
加载中