ตอนที่ 7
“ว่าไงหลานรัก”
ทันทีที่กฤษฎ์ อดีตลูกน้องสนิท ควบคู่ตำแหน่งเพื่อนสนิท ของผู้เป็นพ่อของท่านประธาน บริษัท Tritrans ปัจจุบันอย่างซัน และเป็นหนึ่งในตำแหน่งผู้บริหารของบริษัทนี้ด้วย ถูกเรียกให้เข้าพบท่านประธานเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า เขาก็มุ่งหน้าเดินเข้ามาตามคำเชิญในทันที..ก่อนจะ เอ่ยปากถามอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นหน้าอีกฝ่าย ที่นับถือเขาเสมือนกับลุงคนหนึ่งที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็ก
ส่วนซัน เมื่อเห็นอีกฝ่ายยิ้มเช่นนั้น เขาเองก็ยิ้มไม่ต่างกัน ก่อนจะวางเอกสารหนึ่งปึกตรงหน้าผู้เคยเป็นคนสนิทของพ่อที่เขาเห็นมาแต่เด็กๆพร้อมกับพูดออกมาอย่างอารมณ์ดีไม่ต่างกัน
“ผมมีบางอย่าง อยากให้คุณลุงดูหน่อยครับ”
และเอกสารที่วางตรงหน้าก็ทำให้ ชายสูงอายุหน้าซีดเผือดลงทันทีที่เห็นเอกสารนั่น
จะไม่ให้ซีดได้อย่างไรกัน ในเมื่อนั่นเป็นหลักฐานชั้นเยี่ยมที่สามารถทำให้เขาเปลี่ยนที่ซุกหัวนอนจากบ้านหลังใหญ่ที่เขากอบโกยเงินจากบริษัทนี้ไปมากมาย เปลี่ยนเป็นไปอยู่สถานที่กักกัน ที่เรียกว่า ว่าเป็นแหล่งรวมของนักโทษได้เลย
และทันทีที่เขาแสดงสีหน้าแบบนั้นออกมา..ซันก็หุบยิ้ม ไร้แววตาขี้เล่นอีกต่อไป
“..ผมจะไม่เอาเรื่องครั้งนี้ “
คำพูดที่จริงจังที่หลุดออกมาจากปากอีกฝ่าย ทำให้กฤษฎ์ยิ้มโล่งใจในทันที พร้อมกับคิดว่า อย่างน้อยตนเองก็พอเป็นที่รักของหลานคนนี้อยู่บ้างสินะ เขาถึงได้ไม่เอาเรื่อง
..แต่ว่า ในเวลาไม่นาน..อีกฝ่ายก็เริ่มเปลี่ยนท่านั่งเป็นไขว้ห้าง ก่อนที่จะเอามือประสานตรงใต้คางและพูดเอ่ยออกมานิ่งๆ ที่ทำให้กฤษฎ์ต้องหุบยิ้มไป
“แต่...คุณลุงต้องโอนหุ้นทั้งหมดมาเป็นของผม แล้วออกจากที่นี่ไปซะ”
เป็นที่รักของหลานคนนี้นั่นหรือ..? หึ..ไม่มีอยู่จริงหรอก..สำหรับคนอย่างเขา
ซัน..เด็กหนุ่มอัจฉริยะ ที่จบการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยม และสามารถเข้ามานั่งในตำแหน่ง CEO ของบริษัทนี้ได้ เพียงอายุ 21 ปีเท่านั้น
และนอกจากตำแหน่งประธานบริษัทใหญ่แห่งนี้ เขายังมีอีกกิจการลับที่เขาที่สืบสานกิจการต่อจากผู้เป็นพ่อ นั่นก็คือการค้าอาวุธสงคราม และอาวุธมากมาย.. ที่ทำให้เขาถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลหนึ่งราย ในประเทศ .. ทำให้ใครต่อหลายคนเรียกได้ว่า..เขาคือมาเฟีย
เพราะฉะนั้น ด้วยตำแหน่งการงานต่างๆที่เขานั่งทับไว้มากมายนั้น ทำให้เขาคือปีศาจที่โหดร้าย และทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ
เหมือนกับที่เขาเอ่ยพูดเสียงเรียบ โดยปราศจากความเมตตาปราณี หรือให้โอกาส อดีตเพื่อนพ่อคนนี้แม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะเคยนับถือเป็นลุง..มาก่อนก็ตามที
ในขณะที่อีกฝ่ายคิดว่า..
เขาเป็นหุ้นส่วน 10% และพอสลูกของเขาอีก 5%
ถ้าเขายอมรับข้อเสนอนี้ ก็เท่ากับว่า เขายอมรับที่จะทิ้งรายได้มหาศาลของเขาไป รวมถึงเขาจะไม่มีโอกาสที่จะกอบโกยเงินของบริษัทนี้ได้อีกด้วย..เพราะฉะนั้นเรื่องอะไร เขาจะยอมให้มันเกิดขึ้น!
“เอางี้มั้ย ฉันยกแพรวาให้แก แล้วถือซะว่าไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น“
และนั่นก็คือข้อเสนอที่เขาพูดออกมา โดยไม่ผ่านสมองเลยซักนิดเดียว..แน่ล่ะ เพราะเขามีแต่ได้กับได้ ได้ทั้งปรองดองกับคนในตระกูลนี้ ได้ทั้งยกความผิดออกไปทั้งหมด
แต่ฝ่ายซันกลับคิดว่า มันเอามาชดเชยกันได้ด้วยเหรอ ของแบบนี้? และข้อเสนอนี้..เขาไม่มองเห็นช่องทางได้ประโยชน์กับตัวเองแม้แต่นิดเดียว รวมไปถึง..
“ผมคิดกับแพรวา แค่น้องสาว”
“แต่งๆกันไป เดี๋ยวก็รักกันเอง”
กฤษฎ์พยายามโน้มน้าวอีกครั้ง เพราะเขาก็มั่นใจ ลูกสาวของตนเองก็หน้าตาสะสวยไม่แพ้ผู้หญิงที่ซันเคยควงด้วยซ้ำ เผลอๆอาจจะสวยมากกว่า และแม้ว่าเขาเองจะรู้ดีว่า..หลานคนนี้ ทิ้งผู้หญิงยิ่งกว่ากระดาษทิชชู เขาก็ไม่สนใจ..เพราะว่าอะไรที่เขาได้ผลประโยชน์ เขาก็ไม่สนใจทั้งนั้น
แต่ทว่า..ซันก็ยังคงยืนยันคำเดิม..พร้อมกับความรำคาญที่เริ่มก่อเกิดขึ้นในใจอีกครั้ง..ไม่ว่าอย่างไร เขาก็คิดกับแพรวาได้แค่น้องสาวเท่านั้น และที่สำคัญข้อเสนอนั้น มันคือบทลงโทษเขามากกว่า..ชีวิตของเขา ยังไม่พร้อมที่จะหยุดที่ใครทั้งนั้น!
“ผมจะไม่พูดซ้ำอีกครั้ง โอนหุ้นมาและออกไปซะ”
“แก! แกจะมาทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ”
ในเมื่อซันยังคงหนักแน่นเช่นนี้...เลยทำให้ชายสูงอายุ เริ่มมีโทสะ เอ่ยปากโวยวายในทันที และน้ำเสียงที่ขึ้นนั้น ก็ทำให้ซัน หมดความอดทนเช่นกัน!
แล้วทีลุงล่ะ ทำไมยังทำกับเขาได้
“ถ้างั้น ก็เชิญคุณลุงไปคุยกับตำรวจก็แล้วกัน....ไอเจท มาลากคุณกฤษฎ์ออกไป”
สิ้นเสียงที่ซันเอ่ยปากบอกลูกน้องที่ยืนอยู่หน้าห้องนั้น กฤษฎ์ก็ตื่นตกใจเล็กน้อยทันที..และคิดว่า อีกฝ่ายเอาจริงแน่นอนถ้าไม่ยอมรับข้อเสนอนั้นตั้งแต่แรก
เขารีบลุกขึ้นยืนเต็มด้วยด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ พร้อมกับเอ่ยเสียงดังและเดินกระแทกเท้าออกไปจากห้องนี้ในทันที โดยไม่ต้องรอให้ลูกน้องของอดีตหลานที่เคยเคารพตัวเขา มาจับตัวเขาโยนออกไป
“ได้!! ฉันจะโอนหุ้นให้แก!! พอใจยัง!”
แต่ทว่า..ซันยังไม่พอใจ เพราะทันทีที่ฝ่ายชายสูงอายุกำลังจะถึงประตูห้องเขาอยู่แล้ว ซันก็โพล่งปากนิ่งเรียบ แต่เสียงดังฟังชัดในทันที
“เดี๋ยวครับ! ภายในอาทิตย์นี้ ผมหวังว่า ทุกอย่างจะเรียบร้อยและไม่เห็นคุณลุงอยู่ที่นี่แล้วนะครับ เชิญ!”
ปัง!!!
Aengoey’s Talk
ตอนนี้ฉันกับยัยแอมแปร์ มาอยู่หน้าผับ Demon เป็นที่เรียบร้อย ที่ฉันมาวันนี้ เพราะคำชวนของพี่ซันเมื่อวันก่อนไงล่ะ และพี่ซันก็บอกอีกว่า ถ้ามาถึงแล้วให้ไปหาที่ห้อง VIP1 ได้เลย
ห้อง VIP1 !
ห้องที่ใครๆต่างก็รู้ดีกันว่า เป็นห้องส่วนตัวของเจ้าชายปีศาจ !!
กรี๊ดดดดดด ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าฉันจะได้มีโอกาสได้ไปเหยียบห้องนี้ บอกเลยนะ ว่าฉันน่ะ นึกถึงอีเจนนี่สุดๆ เพราะว่ามันชอบบ่นบ่อยๆ ว่าอยากเห็นห้องนี้สักครั้ง และบ่นทุกครั้งที่มาเหยียบที่นี่
เห็นที..พรุ่งนี้ต้องเอาไปอวดมันซะหน่อยแล้วล่ะ คริคริ
แต่ประเด็นนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ เอาประเด็นตอนนี้ก่อนดีกว่า..ฉันมาถึงที่นี่ก็จริง แต่ว่า..การ์ดก็ไม่มี อะไรก็ไม่มี แล้วตอนนี้ จะเข้าไปได้ยังไง!
“แกเอาไงต่ออะ”
และนั่นก็คือเสียงของยัยแอมแปร์ ที่ยืนมองหน้ามองหลัง ด้วยสีหน้างงๆ ไม่ต่างกับฉัน.. หลังจากที่เรา 2 คน ยืนอยู่ตรงทางเข้าประตู เพื่อเดินไปโซน VIP อยู่ได้ซักพัก
คือตรงนี้ เหมือนว่าจะต้องมีคีย์การ์ดให้เขาไปไง แต่ก็อย่างที่บอกฉันไม่มีอะไรเลย ทำให้ฉันต้องโทรออกไปหาพี่ซัน..แต่ว่า เขาก็ไม่รับสาย เลยทำให้ฉันและแอมแปร์ลักษณะเหมือนเด็กหลงทางกำลังมายืนรอผู้ปกครองอยู่ตรงนี้ยังไงยังงั้น
แต่ทว่า หลังจากที่เรารอไม่นาน..อยู่ๆก็มีบุรุษชายใส่เสื้อสีดำ..เดินตรงมาหาเรา 2 คน ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยสุดๆ
“ตามมาครับ คุณซันรออยู่ข้างบน”
หื้ม.. อ่ออ..พี่ซันคงให้คนมารับสินะ..
จากนั้นฉันและแอมแปร์ ก็เดินตามผู้ชายคนนั้นไปเรื่อยๆ จากตอนแรกที่พอได้ยินเสียงดังจากภายในผับก็เริ่มเบาลงๆ จนในที่สุดเรา 2 คนก็มาหยุดอยู่หน้าห้องห้องหนึ่งที่มันดูแยกออกมาจากโซนทางไปห้องอื่นๆอย่างสิ้นเชิง และบานประตูตรงหน้าก็ดูใหญ่โอ่อ่า ราวกับห้องของเจ้าชาย..และมันก็เป็นห้องของเจ้าชายจริงๆ เพราะทันทีที่ประตูบานนั้นเปิดขึ้น จากชายชุดดำ.. ฉันก็พบเจ้าชายจริงๆ
อือหืออออ งานดี
จะไม่งานดีได้ไง เพราะตอนนี้..ฉันเห็นกลุ่มชายที่ใครต่อใครต่างก็เรียกกันว่า เจ้าชายปีศาจ ครบทั้ง 4 ไม่มีขาดมีเกินเลย
อ้อ..จะว่าไปก็ขาดนะ เพราะเมื่อก่อนมันเคยมี 5 คน ...แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าคนที่ 5 หายไปไหน แต่เอาเป็นว่าตอนนี้ภายในห้อง มีพี่เค พี่เคน พี่ไนท์ และพี่ซัน ครบเจ้าชายปีศาจในเวอร์ชันปัจจุบันที่คนในมหาวิทยาลัยรู้จักกันก็พอ
และภาพที่เห็น มันทำให้ฉันนึกถึง อีเจนนี่อีกครั้ง ฉันว่านะ ถ้ามันได้มาเห็นภาพนี้แบบฉัน ..สงสัยเป็นลมล้มพับไปก่อนแน่ๆ เพราะขนาดฉันไม่ได้บ้าผู้ชายขนาดนั้น ฉันยังแทบจะเป็นลมกับรัศมีอ่อร่าที่พุ่งออกมาจากแต่ละคนเลยล่ะ
พี่ไนท์ที่ดูนิ่ง ดุดัน ฉลาด ราวกับเจ้าชายปีศาจ
พี่เคที่ดูนิ่งเฉยชา เหยือกเย็น ราวกับเจ้าชายน้ำแข็ง
พี่เคนที่ดูโหดเถื่อนดิบ แต่ทว่ากลับดูกร้าวใจ ราวกับเจ้าชายสายเถื่อน
และพี่ซันที่เป็นคนเดียวที่ส่งยิ้มมาให้ เฟรนลี่และเป็นกันเอง ..ราวกับเจ้าชายเพลย์บอย..
“กินอะไรมายังครับ สั่งได้เลย บอกแล้วว่าวันนี้พี่เลี้ยง”
และทันทีที่พวกเรา 2 คนเดินเข้าไปในห้อง..พร้อมกับนั่งลงตรงที่พี่ซันชี้ไป.. พี่ซันก็เริ่มเอ่ยปากทักทายอย่างอารมณ์ดี ในแบบที่ฉันเห็นทุกครั้ง เลยทำให้ฉันยิ้มตอบไปเช่นกัน..
เอาจริงๆ ฉันเริ่มไม่แน่ใจว่าข่าวที่ได้ยินมามันถูกต้องหรือเปล่า เพราะที่เคยได้ยิน พวกพี่ๆกลุ่มนี้ เข้าถึงยาก ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบให้ผู้หญิงมาเข้าใกล้หรือสนิทสนมสักเท่าไร แต่ทำไมตอนนี้ฉันและแอมแปร์ถึงได้มานั่งอยู่ในห้องนี้ได้ก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะพี่ซันเผลอเอ่ยปากชวนไปแล้ว ก็เลยต้องทำตามนั้นล่ะมั้ง มันคงจะไม่มีอะไรมากไปกว่านี้หรอก
แต่แล้วระหว่างนั้น..ยัยแอมแปร์ ที่ปกติเป็นคนเข้ากับผู้ชายได้ยากมาก และไม่ค่อยสุงสิงกับใคร..กลับเอ่ยปากพูดกับพี่ซันอย่างอารมณ์ดี..ออกมา
“ไม่กลัวร้านเจ้งแล้วเหรอคะ ฮ่าๆ”
“ตัวแค่นี้ พี่เลี้ยงไหว ไม่เจ้งหรอก ฮ่าๆ”
ฉันไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า บ่อยครั้งที่ฉันเห็นพี่ซันมองยัยแอมด้วยแววตาเอ็นดู เหมือนกับครั้งนี้ก็เช่นกัน หรือพี่ซันจะชอบแอมแปร์กันนะ
แต่จังหวะนั้นเอง ฉันก็หันไปเห็นพี่ไนท์ที่นั่งตรงข้ามกับฉันพอดี ที่ไม่ได้มีสีหน้าที่ยิ้มตั้งแต่แรก ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นใบหน้านิ่งกว่าเดิม พร้อมกับจ้องเขม็งไปยังแอมแปร์เพื่อนของฉัน เหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง
หรือว่า พี่เขาจะรำคาญพวกเราหรือเปล่านะ ที่เข้ามาในเขตพื้นที่ของพวกพี่ๆเข้าวันนี้
แต่ทว่า..ฉันอาจจะคิดผิด เพราะอยู่ๆ พี่เคนที่ดูหน้าโหดพร้อมกับรอยสักมากมาย..ก็ค่อยๆยิ้มแปลกๆเหมือนคิดอะไรอยู่ ก่อนจะพูดออกมาที่ทำให้บรรยากาศมันผ่อนคลายไปได้ระดับหนึ่ง
“พวกน้องๆ กินแอลกอฮอล์กันได้มั้ย”
ส่วนฉันก็ตอบไปว่า..
“กินได้ค่ะ แต่เลือกได้ก็ไม่กินดีกว่า”
ปกติฉันก็คอแข็งอยู่นะ แต่ฉันยังไม่ได้รู้จักพวกพี่เขาดีพอ แถมยังได้ยินชื่อเสียงความน่ากลัวมาก็เยอะ อยู่ในห้องแบบนี้กับผู้ชาย 4 คน ฉันว่ามีสติตลอดเวลาจะดีกว่า และที่สำคัญยัยแอมแปร์ กินไม่ถึงอึกมันก็ไปแล้วด้วย..และฉันต้องดูแลมันให้ดี..
แต่ว่าหลังจากที่ฉันตอบแบบนั้นออกไป พี่ซันก็พูดสวนออกมาทันที
“เสียดาย วันนี้ผับกำลังจะมีจัดดวลกินเบียร์เฉพาะสาวๆ ใครชนะ ได้เงินสองแสน ”
อืม..สองแสนเลยเหรอ..
แต่เรื่องเงิน ฉันไม่ได้สนใจหรอก.. ซึ่งขัดจากอีกคนที่โพล่งปากทันที เมื่อได้ยินการแข่งขันนี้
“งั้น...แอมจะแข่งด้วย”
“แกจะบ้าเหรอ ไอแอม คออ่อนแล้วยังไม่เจียม”
“สองแสนเลยนะแก”
และจากสายตาของมันที่เป็นประกายในตอนนี้..ทำให้ฉันต้องส่ายหัวกับมันอย่างช้าๆ ...พร้อมกับเอ่ยปากยื้อมันไม่ให้ลงแข่งอีก แต่ว่า...มันก็ไม่ฟังฉันไง...
เงิน 2 แสนมาล่ออยู่ตรงหน้า ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ ฉันก็รู้ดีว่า ยัยแอมแปร์ไม่พลาดเด็ดขาด..
เมื่อตกลงได้ตามนี้ อยู่ๆพี่ซันก็ลุกขึ้น แล้วก็กึ่งจูงกึ่งลากยัยแอมแปร์ ออกไปจากห้องนี้ และลงไปข้างล่างหน้าเวทีทันที ทำเอาฉัน พี่เค พี่เคน และพี่ไนท์ต้องเดินตามไปด้วย โดยเฉพาะพี่ไนท์ ที่เดินเร็วมาก ส่วนฉันนะเหรอ แถบจะวิ่ง พร้อมกับคิดตลอดทางว่า..
จะขายาวไปไหนกันแต่ละคน!
ซึ่งทันทีที่ถึงข้างล่าง พี่ซันก็ขึ้นไปบนเวทีแล้วหยิบไมค์มา
“ทุกคนครับ วันนี้ที่ผับจะแข่งดวลกินเบียร์กันเฉพาะสาวๆ ใครแพ้ต้องจ่ายเงินเอง ส่วนคนที่ชนะ จะได้เงินสองแสน! และได้ตัวพี่ไปทั้งคืน!”
ฮะ!
ได้ตัวพีซันทั้งคืน! ไม่ใช่ได้แค่ 2 แสนเหรอ
และเพราะคำประกาศนั้น...ทำให้ตอนนี้ทั้งผับโดยเฉพาะผู้หญิง ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่โต
ส่วนฉัน ก็ได้แต่หันไปมองหน้าพวกพี่เพื่อนพี่ซันเท่านั้น ซึ่งก็พบว่า ทุกคนต่างก็มีปฏิกิริยากับคำพูดของพี่ซันต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง
สำหรับคนแรก พี่เค คนนี้ฉันบอกตรงๆว่าขอผ่านดีกว่า เพราะไม่รู้พี่แกจะหน้านิ่งไปถึงไหน นิ่งจนฉันเองก็ดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่
ต่อมาก็พี่เคน คนนี้ก็เหมือนกัน ตั้งแต่ในห้องแล้ว เอาแต่ยิ้มแปลกๆตลอดเวลา เหมือนอย่างตอนนี้ก็ยิ้มไม่หยุด ..มันเป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนสนุกและคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา
และสุดท้าย พี่ไนท์..คนนี้ก็แปลก.. ฉันเห็นตั้งแต่ในห้องแล้วว่าพี่ไนท์ที่หน้านิ่ง จริงๆแล้วก็แอบหน้าบึ้งเหมือนโกรธใครตลอดว่า..หรือว่านี่มันเป็นบุคคลิกส่วนตัวของพี่ไนท์กันนะ โดยเฉพาะตอนนี้..หน้าบึ้งเว่อร์
แต่เอาเถอะ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องมาสนใจว่าพี่ๆจะรู้สึกอะไร สิ่งที่ฉันสนใจคือของรางวัลจากการแข่งนั่นต่างหาก แบบนี้ถ้ายัยแอมแปร์ชนะก็จะได้พี่ซันด้วยอย่างนั้นเหรอ?
แต่แล้ว..ระหว่างที่ฉันยืนคิดอยู่นั้น อยู่ๆพี่ไนท์ก็เดินตรงไปหาพี่ซันด้วยสีหน้าที่มันดูเครียดและจริงจังเพื่อคุยอะไรบางอย่างในทันที ก่อนที่พี่เคและพี่เคนก็เดินตามเข้าร่วมในวงสนทนาด้วย จนทำให้บริเวณตรงนั้น มันเจิดจ้าราวกับมีสปอร์ตไลท์ส่องไปกระทบเลยเชียวล่ะ ซึ่งไม่ใช่ฉันคนเดียวหรอกที่คิดอย่างนั้น เพราะจากสายตาของสาวๆบริเวณนี้ที่มองไปยังจุดนั้น ฉันว่าก็คิดไม่ต่างกันหรอก
ซึ่งฉันก็ได้แต่ยืนดูจากข้างนอก และไม่รู้ว่าพวกพี่ๆเขาคุยอะไรกัน รู้แต่ว่า..ตลอดการคุยนั้น พี่ซันเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอดเวลา
ว่าแต่..การให้ตัวเองเป็นของรางวัลผู้ชนะ..มันต้องมีความสุขเบอร์นี้เลยเหรอ??
Sun’s Talk
“มึงคิดจะทำอะไร”
หลังผมประกาศไปแบบนั้น ไอไนท์ก็เรียกขอคุยกับผมทันที มันคงเดือดสินะ ก็แน่ล่ะ ถ้าแอมแปร์ชนะ นอกจากจะขวางทางมันได้ ผมอาจจะชนะเกมนี้เลยก็ได้ หึ
“เออ นั่นสิ ดูน้องแล้วน่าจะไม่รอดนะนั่น”
และไอ้เคน เพื่อนผม..ทีี่แม่งสนุกกับการเล่นเกมระหว่างของผมกับไอไนท์ตลอดเวลา ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากออกมาอย่างใช้ความคิด พร้อมมองไปยังแอมแปร์ที่ยืนยิ้มมีความสุข..ราวกับว่าเธอต้องได้ 2 แสนในคืนนี้อย่างแน่นอน... และบอกเลยว่า..เธอได้มันแน่..หึหึ
“มึงเดินเกมได้ กูก็แก้เกมได้ ฮ่าๆ” ผมพูดตอบไอไนท์กลับอย่างอารมณ์ดี พร้อมยักคิ้วส่งให้ไอไนท์อย่างท้าทาย ในขณะที่มัน..เอาแต่หน้านิ่งเหมือนเดิมตั้งแต่อยู่ในห้องเมื่อครู่แล้ว
ใช่..ไม่ใช่มีแค่มันหรอก ที่เดินเกมได้..อย่าคิดนะว่าผมไม่รู้ว่า มันเล่นเกมยังไง..และผมนี่ล่ะที่จะแก้เกมมันเอง..
“มึงมีแผนที่ทำให้ยัยนั้นชนะใช่มั้ย”
“ฉลาดตลอดนะมึง”
“กูชักเริ่มสนุกกับพวกมึงแล้วล่ะสิ“
เริ่มสนุกอะไรล่ะ..ผมว่า ดูจากสีหน้ามัน มันสนุกมานานแล้วมากกว่า ไอเคน..
และแตกต่างจากอีกคน..ที่เอาแต่หน้านิ่งและแสดงสีหน้าเบื่อหน่าย..กับการกระทำของผมและไอไนท์ตลอดเวลา..ไอ้เค
“พวกมึงนี่นะ มีการมีงานทำกันแล้ว ยังเล่นกันเป็นเด็กๆ”
แต่ถามว่าผมสนใจมั้ย..ก็ไม่..หึหึ และไอไนท์ก็ไม่ต่างกัน
“ไอซัน ไม่ว่ามึงจะทำอะไรกูจะขัดขวางมึงทุกทาง”
ไอ้ไนท์พูดนิ่งๆและเดินออกจากวงสนทนานี้ไปทันที..ส่วนผมก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะแวะไปหลังเวที..เพื่อบอกอะไรบางอย่างให้ลูกน้องสนิทผมอย่างไอเทิดช่วยจัดการให้
“...ได้ครับ”
“ดี! หึหึ”
เตรียมตัวแพ้ได้เลย ไอไนท์!! หึหึ