ตอนที่ 11   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 11
Aengoey’s Talk โอ๊ย ปวดหัวจัง แล้วทำไมตรงหน้าผากมันเจ็บๆนะ ฉันเอามือลูบไปยังหน้าผาก และค่อยๆลืมตาขึ้นมา พร้อมกะพริบตาสองสามทีเพื่อปรับโฟกัสดวงตา​ มองไปยังภาพตรงหน้าที่มันค่อยๆปรากฏขึ้นมา..และก็พบว่า ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ที่..ห้องของตัวเอง... ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน... จำได้ว่า เมื่อวานฉันแข่งกินเบียร์ แล้วคนที่ชนะก็เป็นยัยแอมแปร์ แล้วก็...คิดไม่ออกแล้วแหะ แต่จะว่าไป ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ มันไปคอแข็งตอนไหนวะ?! แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ฉันว่า..ฉันขอไปล้างหน้าแปรงฟันที่ห้องน้ำก่อนดีกว่า.. ฉันค่อยๆยันตัวและลุกขึ้นเพื่อที่จะไปห้องน้ำ แต่ว่าทันทีที่ฉันลุกขึ้น ฉันกับพบว่า..ตอนนี้สภาพตัวของฉันนั้น..ไร้เสื้อผ้าติดตัวเลยซักชิ้นเดียว. เอ๋? ทำไมฉันไม่ได้ใส่เสื้อผ้าล่ะ ช่างเถอะ สงสัยคงเมาแล้วถอดล่ะมั้ง เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉันก็ค่อยๆขยับตัวและเดินซวนเซตรงไปยังห้องน้ำ เป้าหมายต่อไปของฉันด้วยความรู้สึกที่มันหนักหัวสุดๆ พร้อมกับเอามือกุมศีรษะตัวเองไปด้วย \"โอ๊ยย ปวดหัวชะมัด” และตลอดทางนั้น ฉันก็พยายามนึกด้วยเช่นกันว่า..ฉันกลับมาที่คอนโดตัวเอง ได้อย่างไร...แต่ไม่ว่าจะพยายามนึกยังไง ก็นึกไม่ออก... แต่แล้ว..ทันทีที่ฉันพาตัวเองมายืนปรากฏอยู่ตรงหน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ..เรื่องที่ฉันพยายามนึก หรือเรื่องหนักหัว ก็เบาไปเลยทันที..เมื่อฉันได้เห็นสภาพของตัวเองทั้งเรือนร่างผ่านกระจกตรงหน้า “เฮ้ย!\" นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่เมื่อคืน... รอยตรงคอ ตรงไหปลาร้า รวมถึงตรงเนินอกมากมาย..มันมาได้อย่างไร.. ไหนจะตรงหน้าผากที่มันแดงปูดขึ้นมาอีก!!! ฉันยอมรับว่า เรื่องตรงหน้าผากฉันไม่รู้จริงๆว่ามันมาได้อย่างไร แต่ไอ้ตรงรอยแดงเป็นจ้ำๆ ตามตัวนี่สิ..ที่ฉันคิดว่า ฉันก็ไม่ได้ใสซื่อพอที่จะไม่รู้ว่ามันคือรอยอะไร และรอยพวกนี้ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือเกิดจากการที่ฉันอยู่ตัวคนเดียวด้วย... แล้วใครกัน..ใครเป็นคนที่ทำรอยพวกนี้บนตัวฉัน แล้วเมื่อคืนนี้..ฉันเสียตัวไปแล้วหรือยัง?! ตอนนี้ฉันได้แต่ตกใจ และกังวลไปหมด แต่ก็ยังมีสติที่จะขยับแข้งขาไปมา..พร้อมกับกระโดดตรวจสอบว่า ฉันรู้สึกอะไรตรงกลางกายหรือเปล่า เขาบอกกันว่า มีครั้งแรก จะเจ็บนี่นา..แต่ว่าฉันไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย.. แต่มันจะเป็นไปได้เหรอ ที่โดนกระทำแบบนี้ แต่ฉันกลับรอด โอ๊ยยยย บอกตรงๆว่า ฉันปวดหัวสุดๆ คิดเรื่องเมื่อคืนก็ไม่ออก ยังจะมามีเรื่องปวดหัวเรื่องนี้อีก ฉันมันบ้าแท้ๆเลย..ที่ไปแข่งกินเบียร์บ้าๆอะไรนั่น..โธ่เอ้ยย..หมดกัน ยัยเอิง... ฉันค่อยๆทรุดตัวลงไปนั่งบนพื้นอย่างท้อแท้ใจ..และรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก..แต่แล้วอยู่ๆฉันก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้.... เอ๊ะ..หรือว่าจริงๆแล้วฉันอาจจะแพ้อะไรบางอย่าง..แล้วรอยพวกนั้นมันจะเป็นรอยผื่นแพ้เท่านั้นเอง.. อืม มันต้องใช่แน่ๆ เพราะว่า..ฉันเองก็คิดว่า..ฉันไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย เพราะฉะนั้น ฉัน..ยังไม่เสียซิงหรอก! ใช่ มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ หลังจากที่ฉันคิดให้กำลังใจตัวเอง พร้อมกับยิ้มอย่างมีความหวังอยู่นั้น ฉันก็จัดการล้างหน้าแปรงฟันให้ตัวเองสดชื่น สดใส..อีกครั้ง ก่อนที่จะแต่งตัวสบายๆ และเดินไปหยิบดูมือถือ เพื่อจะติดต่อไปยังเพื่อนรักของตัวเอง ยัยแอมแปร์ ที่ฉันไม่รู้เรื่องเลยว่า เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือเปล่าแล้วตอนนี้เธออยู่ไหน.. แต่ว่ายังไม่ทันที่ฉันจะได้โทรหายัยแอม.. ฉันก็เห็นข้อความเข้ามาของพี่ซันซะก่อน..ฉันเลยเลือกที่จะกดเข้าไปดูข้อความของอีกฝ่ายทันที ( รูปภาพถูกส่งจากพี่ซัน ) พรึ่บ! และทันทีที่เห็นรูป..ที่ถูกส่งมาจากพี่ซัน ฉันก็ขาอ่อนไร้เรี่ยวแรงไปทันที.. พร้อมกับความรู้สึกที่มันอื้อไปหมด มันรู้สึกตัวชา เหมือนกับว่าฉันไม่มีแรงและไร้ตัวตนในตอนนี้..ก่อนที่ฉันจะพูดออกมาเหม่อลอย ราวกับคนเสียสติไปชั่วขณะ \"มะ ไม่จริง\" ที่ฉันเป็นแบบนี้ ก็เพราะว่า..รูปที่พี่ซันส่งมา มันเป็นรูปฉันเอง..ไม่ใช่รูปที่ถ่ายตอนฉันแข่งกินเบียร์ หรือรูปถ่ายสวยๆอะไร แต่มันเป็นรูปถ่ายที่..น่าจะเกิดขึ้นเมื่อคืนในห้องนอนของฉัน..และเป็นฉันที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอะไรติดตัวเลย!!!! และที่สำคัญ..บนตัวของฉัน ก็มีรอยในตำแหน่งเดียวกับที่ฉันมีตอนนี้เลย แต่ในรูปเป็นสีแดงจาง เหมือนเพิ่งโดนสร้างรอยไม่นาน ต่างจากตอนนี้ที่เข้มมากกว่า แต่ว่านั่นมันไม่สำคัญเท่ากับว่า ทำไม..ทำไมพี่ซันถึงมีรูปนี้!!! แล้วเขา ส่งมาทำไมกัน!!! \"Rrr Rrr” แต่แล้วขณะที่ฉันกำลังอึ้งกับภาพบนหน้าจออยู่..ก็มีเสียงสายเรียกเข้าโทรเข้ามา.. สายเรียกเข้าของใครบางคน ที่ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉันก็คงจะตื่นเต้นดีใจ และรีบกดรับสายนี้ในทันที.. แต่ว่าในตอนนี้ มันไม่ใช่เลย...ฉันไม่อยากรับ และฉันก็มีแต่ความรู้สึกกลัว..กลัวเหลือเกินกับการกดรับสายครั้งนี้ แต่ว่าไม่รับก็ไม่ได้.. กรึก... “[เห็นรูปแล้วใช่มั้ยครับ น้องเอิงเอย]” และทันทีที่ฉันกดรับสาย ปลายสายก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส เหมือนกับทักทายอรุณสวัสดิ์ยามเช้ายังไงยังงั้น ในขณะที่ฉัน..ไม่ได้รู้สึกสดใสเหมือนน้ำเสียงเขาเลยซักนิดเดียว “ลบภาพพวกนั้นเดี๋ยวนี้เลยนะ!” “[จุ๊ๆๆ ไม่โวยวายสิครับ]” “นายต้องการอะไร” “[หึหึ คุยทางโทรศัพท์ไม่ค่อยสะดวกเท่าไรเลย ว่ามั้ย]“ “…” “[สามทุ่ม มาหาฉันที่ผับคืนนี้ อ่อ ถ้าเธอไม่มาละก็..เตรียมตัวดังได้เลยนะ]“ กรึก ​ แมั้ย! แม้ว่า..ปลายสายจะวางหูไปแล้ว..แต่ว่ามือของฉัน..ก็ไม่สามารถที่จะเอาลงไปได้เลย.. มันยังคงแนบที่หูอยู่อย่างเดิม พร้อมกับ..น้ำตาของฉัน ที่มันค่อยๆไหลรินออกมา..อย่างช้าๆ ด้วยความหวาดกลัว และเจ็บปวด ก่อนที่น้ำตามากมายเหล่านั้น..จะกระทบลงตรงเข่าของฉัน..ที่กำลังนั่งชันอยู่ตรงกลางห้องนอนของตัวเอง พร้อมกับความคิดมากมายที่มันผุดขึ้นมาในสมองไม่หยุด นี่..มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกัน.. ​ พี่ซันที่ฉันแอบปลื้ม พี่ซันที่แสนดี คุยสนุกและเป็นสุภาพบุรุษ คนนั้นหายไปไหนแล้ว หรือจริงๆแล้ว คนๆนั้นไม่เคยมีอยู่จริง . . ตอนนี้ ฉันยืนอยู่หน้าผับ Demon ที่เดิม ตำแหน่งเดิมกับเมื่อวาน แต่ความรู้สึกนั้นต่างจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง เมื่อวานฉันดีใจที่จะได้เจอพี่ซัน แต่วันนี้ฉันไม่สามารถประเมินอารมณ์ตัวเองได้เลย มันทั้งเสียใจ เศร้า สับสน และกลัวไปหมด กลัวว่าหลังจากที่ฉันเดินเข้าไปวันนี้ ฉันจะต้องเผชิญกับอะไร..และคนที่ฉันจะไปเจอ จะเป็นคนคนเดียวกับที่ฉันเคยรู้จักก่อนหน้าจริงๆหรือไม่...และแน่นอน..มันไม่ใช่พี่ซันคนเดิมอีกแล้วล่ะ และมันคงไม่มีวันนั้นแล้วด้วย.. แต่ถึงฉันจะกลัวอย่างไร ฉันก็ถอยไม่ได้แล้ว เรื่องนี้ฉันไม่ผิด ฉันคือคนที่โดนกระทำ ฉันเป็นเหยื่อ แล้วทำไมฉันจะต้องถอยหรือยอมแพ้ด้วยล่ะ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าฉันจะเจอกับอะไร ฉันก็จะสู้กับสิ่งที่ต้องเจอให้ถึงที่สุด!!! ฉันฮึบและบอกตัวเอง..ให้เข้มแข็ง พร้อมกับก้าวเท้าอย่างมั่นคง มายังโซนเดียวกับเมื่อวาน และเมื่อมาถึง เหตุการณ์ก็เหมือนเดิมจริงๆ เพราะทันทีที่ถึงก็มีชายชุดดำเข้ามาทักและนำทางฉันไปหาเข้านายของเขา ตามที่ได้สั่งเอาไว้ในทันที “เชิญทางนี้ครับ” ฉันเดินตามทางไปเรื่อยๆ และปล่อยให้สมองล่องลอยไปด้วย ซึ่งวันนี้ฉัน..ไม่ได้ไปทาง VIP1 เหมือนเมื่อวาน มันเป็นอีกทางที่ไม่ได้เปิดตอนรับลูกค้า และเมื่อถึงหน้าห้อง ฉันก็พอจะเดาได้ว่า มันคือห้องทำงานของเขานั่นเอง “มาแล้วครับ” ทันทีที่ประตูเปิดขึ้น..ชายชุดดำก็พูดรายงานเจ้านายของเขา ที่นั่งนิ่งอยู่ในห้องทันที.. ในขณะที่อีกฝ่าย ก็ทำเพียงเงยหน้าขึ้นมามองอย่างช้าๆ..ก่อนที่จะยกมือปัด เพื่อบ่งบอกให้ลูกน้องของเขาออกไปจากห้องนี้..เลยเป็นผลทำให้ลูกน้องของเขา ที่ฉันมองหลังมาตลอดทาง เดินออกไปจากห้องนี้ ด้วยความไว..และทิ้งฉันไว้กับปีศาจอีกตัว ที่วางเอกสารในมือลง ก่อนจะเบนหน้าเปลี่ยนเป็นมามองฉันด้วยสายตานิ่ง..ที่บ่งบอกจริงๆว่า ....เขาไม่ใช่พี่ซันของฉันอีกต่อไป “นั่งก่อนสิครับ น้องเอิงเอย” แต่ว่าไม่นาน เขาก็ค่อยๆยิ้มแบบเดิมๆ แบบที่เขาชอบทำ และก็ทำให้ฉันตกหลุมพลางคิดว่าเขาเป็นพี่ซัน พี่ชายที่แสนใจดี แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย และฉันก็เริ่มมองเห็นและรับรู้ได้ว่า..รอยยิ้มที่เขากำลังยิ้มอยู่..มันเป็นรอยยิ้มของปีศาจ! “นายต้องการอะไร พูดมาเลยดีกว่า” “จุ๊ๆๆ ไม่โมโหสิครับ ....พี่บอกให้นั่งก็นั่ง!” แต่แล้วคราวนี้ เขาก็เริ่มเปิดเผยตัวตนมากขึ้น.. เพราะตอนนี้เขาไม่ได้ยิ้มอีกแล้ว..แต่เขาเปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งเรียบและตะโกนเสียงดังลั่นออกมา จนฉันถึงกับสะดุ้ง แต่ว่าฉันก็ไม่กลัวหรอก ฉัน...ยังทำหน้านิ่งเฉยและไม่ขยับตัวไปนั่งตามที่เขาสั่ง พร้อมกับมองจ้องเขาไปไร้ความกลัวเลยซักนิดเดียว “หึ อยากลองดี?” “นายต้องการอะไร!” คราวนี้เป็นฉันที่พูดเสียงดังกลับไปบ้าง ฉันก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน แม้วันนี้ สายตาและน้ำเสียงของเขา มันดูนิ่งและเฉยชา และดูน่ากลัว ต่างจากที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิงก็ตามที “นั่ง” และเมื่อเขาเห็นฉันเป็นแบบนั้น เขาก็กลับมาใช้เสียงโทนนิ่ง แต่ก็ยังเป็นการออกคำสั่งอยู่ดี..พร้อมกับส่งสายตาไปยังเก้าอี้ว่างในห้อง..ที่บ่งบอกว่า..ถ้าฉันไม่นั่ง..เราจะได้เห็นดีกันแน่ และฉันก็ไม่อยากให้เรื่องนี้ มันมามีประเด็นเหนือเรื่องหลัก รวมถึงฉันก็ไม่อยากจะอยู่ในห้องนี้นานๆด้วย ฉันเลยต้องยอมทำตามไปด้วยสีหน้า สายตา และการกระแทกเท้าที่ไม่พอใจ..เพื่อเดินไปนั่งยังเก้าอี้ตัวนั้นตามคำสั่งเขา.. และเมื่อเขาเห็นว่า ฉันยอมนั่งแต่โดยดี.. เขาก็ยิ้มอย่างผู้ชนะเล็กน้อยทันที ก่อนจะเอ่ยปากออกมา “เธอ ต้องทำยังไงก็ได้ ให้แอมแปร์มาคบกับฉัน” และคำที่เขาพูด ก็ทำให้ฉันหันหน้าไปมองเขาด้วยความตกใจทันที.. นี่มันเรื่องบ้าอะไร  เพราะเรื่องนี้เหรอ ที่ทำให้เขาต้องทำกับฉันถึงขนาดนี้ และบอกเลยว่าสำหรับเรื่องนี้แล้ว.. “ไม่มีทาง!” ฉันรู้ตัวตนเขาแบบนี้แล้ว ฉันไม่มีทางให้เพื่อนของฉันต้องมาคบกับคน เลวๆแบบนี้หรอก หึ..ฝันไปเถอะ แต่แล้วทันทีที่ฉันตอบไปอย่างมั่นใจ อีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไร นอกจากค่อยๆหยิบมือถือขึ้น ก่อนจะหันหน้าจอมาทางฉัน และไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่าเขาให้ฉันดูรูปอะไร..เพราะนั่นมันก็คือรูปของฉันเอง รูปที่เขาเอามาแบล็กเมล์ฉัน.. และบอกตรงๆว่า ต่อให้ฉันทำใจให้เข้มแข็งอย่างไรก่อนมาที่นี่ แต่การเจอแบบนี้ ฉันเองก็รับไม่ได้ ฉันเลยเบี่ยงใบหน้าหันไปมองทางอื่นทันที ที่เห็นรูปนั้น แต่แล้ว หมับ มือใหญ่ของผู้ชายตรงหน้า ก็เอื้อมมาบีบหน้าของฉัน ให้หันมามองภาพในหน้าจออย่างเอาแต่ใจ และร้ายกาจ ก่อนที่จะพูดคำพูดออกมา ที่ไม่เหมือนกับมนุษย์! “ถ้าเธอไม่ทำ รูปสวยๆแบบนี้ เห็นทีคงต้องแบ่งๆให้คนอื่นดูด้วยแล้วล่ะ เธอคิดว่าไง หึหึ” และหลังสิ้นสุดคำพูดที่แสนร้ายกาจนั้น.. ก็ทำให้ฉันที่พยายามเข้มแข็ง อดทนต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ.. มันทนไม่ไหว จนออกมาในรูปแบบของน้ำตาที่มันอ่อนแอ ที่ฉันเองก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นซักเท่าไร .. เพราะฉะนั้นฉันเลยได้แต่พยายามสกัดกั้นน้ำตาของตัวเองอย่างสุดความสามารถ ก่อนจะโพล่งปากด่าอีกฝ่ายออกไป พร้อมกับจ้องเขม็งด้วยความโมโหทันที “เลว!” แม้ว่า ช่วงหนึ่ง ฉันจะเห็นดวงตาไหววูบจากพี่ซัน แต่ไม่นานเขาก็กลับมาเหมือนเดิม ก่อนจะคลายมือออกจากหน้าของฉัน “ฉันจะไม่พูดซ้ำ เธอมีหน้าที่ต้องทำตามสิ่งที่ฉันต้องการเท่านั้น” เขากลับมาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกอีกครั้ง พร้อมกับโยนมือถือไปบนโต๊ะ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนพนักเก้าอี้อย่างสบาย และมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่แข็งกร้าวอย่างที่ฉันไม่เคยเจอมาก่อน และมันก็ทำให้ฉันยกมือขึ้นปาดน้ำตา ก่อนจะหายใจเข้าลึกๆอย่างใจเย็น และคิดว่า ห้ามแสดงความอ่อนแอต่อหน้าเขาอีกเด็ดขาด! “ฉันไม่มีสิทธิ์ไปบังคับใจใคร ว่าจะให้คบหรือไม่คบใคร” “นั่นมันไมใช่ปัญหาของฉัน แต่เป็นปัญหาที่เธอต้องจัดการ” ฉันเคยชอบผู้ชายแบบนี้ไปได้ยังไงกัน บางทีก็ตลกตัวเองเหมือนกันนะ ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ว่าฉันเป็นคนที่ไม่มีความสามารถในการอ่านผู้ชายจริงๆ เพราะผู้ชายที่ผ่านมาในชีวิตของฉัน มักจะเลว เหมือนกับคนตรงหน้าคนนี้..ที่เขาเป็นคนที่เลวที่สุดตั้งแต่ฉันเคยรู้จักใครมา แต่ฉันก็ไม่เข้าใจจริงๆว่า เขาจะให้ฉันทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร..หรือว่าเขา.. “นายรักแอมเหรอ” แต่แล้ว หลังจากที่ฉันเอ่ยปากถามไปนิ่งๆ เพื่อต้องการรู้ในสิ่งที่เขาบังคับฉัน..เขากลับ หน้านิ่งตอบออกมา..ไร้ความเป็นพี่ซันที่แสนดีก่อนหน้าไปอย่างสิ้นเชิง “เธอไม่จำเป็นต้องรู้” ก็ดี..ถ้าเขาร้ายแบบนี้..ก็จะได้เห็นฉันในแบบร้ายเช่นกัน..และบอกเลยว่า ฉันยอมให้ตัวเองโดนประณาม ดีกว่าปล่อยให้เพื่อนรักอย่างแอมแปร์ต้องมาคบกับคนอย่างเขา “งั้นเชิญจัดการรูปฉันตามสบายเลย ฉันก็จะบอกทุกคนว่า มันแค่รูปตัดต่อ เท่านั้นก็จบ” และสิ้นเสียงของฉันที่พูดออกมาอย่างไม่สนใจในคำขู่ของเขาเลยซักนิด..ก็ทำให้อีกฝ่ายเกิดบันดาลโทสะทันที.. “นี่ เธอ!” ตอนนี้เขาลุกขึ้นมาพร้อมแสดงสีหน้าเกรี้ยวกราดอย่างที่สุด และมันก็ทำให้ฉันรู้สึกสะใจ ที่เขาไม่สามารถทำอะไรฉันได้ แต่แล้วไม่นาน เขาก็เปลี่ยนเป็นแสยะยิ้มให้ทันพลัน ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่มันเจ็บแสบ..และก็ไม่มีมูลความจริงเลยซักนิด แต่ว่าฉันก็ไม่จำเป็นจะต้องแก้ข่าวอะไรทั้งนั้น.. แม้ในใจอยากจะเตะ กระทืบคนตรงหน้าอย่างที่สุดก็ตามที “หึ ผู้หญิงอย่างเธอ คงนอนอ้าขาให้ผู้ชายนับไม่ถ้วน กับอีแค่รูปแค่นี้ เลยไม่ถือสาอะไรสินะ” เอาเถอะ เขาอยากจะพล่าม อยากจะพูดอะไร ก็ปล่อยเขาไปเถอะ..เพราะตอนนี้ฉันได้รู้แล้วว่า เขาเป็นคนอย่างไร และเขาทำแบบนี้ไปทำไม ฉันเพิกหน้าเฉย ไม่สนใจผู้ชายตรงหน้าเลยซักนิด พร้อมกับลุกขึ้นและทำท่าจะเดินออกจากห้องไป ราวกับว่า เขา..ไม่มีตัวตน แต่ทว่า..ทันทีที่ฉันกำลังจะถึงประตูของห้องนี้ เสียงปีศาจอย่างเขาก็ดังไล่หลังมา ที่ทำให้ฉันต้องชะงักในทันที “แล้ว.. พ่อเธอล่ะ ได้ข่าวว่าเป็นทูต...หึหึ” ใช่..ฉันลืมนึกถึงหน้าพ่อไปได้ยังไง “จะเป็นไงนะ ถ้าลูกท่านทูต มีภาพเปลือย ถึงมันจะเป็นภาพตัดต่อก็เถอะ แต่ของแบบนี้ จริงเท็จไม่มีใครสนใจหรอก จริงมั้ย” “นายมันเลว!” ฉันหันไปตวาดใส่เขาที่นั่งหน้ายิ้มอยู่ตรงที่เดิมทันที..อย่างทนไม่ไหว ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากเหนือกว่าขึ้นมาอีกครั้ง “สรุปว่า?” “ได้! ฉันจะทำ” บอกตรงๆว่า..ฉันไม่สนใจหรอกว่าคนจะว่าฉันอย่างไร.. แต่ถ้ามีคนมาว่าพ่อฉัน รวมถึงถ้ากระทบกับการงานของท่านด้วย..แบบนั้นฉันคงทนไม่ไหวแน่ “แค่นี้ใช่มั้ย” ฉันตบปากรับคำไปก่อน พร้อมกับคิดว่าค่อยหาทางออกปัญหานี้กันอีกทีก็แล้วกัน.. “เชิญ “ และเมื่อเขาพูดเช่นนั้น ฉันก็สะบัดหน้าและหันหลังเตรียมตัวจะก้าวเดินไปยังทางออกของห้องนี้อีกครั้งทันที แต่ว่าเสียงของเขาก็ดังไล่หลังฉันมาเช่นเดิม \"อ่อ..ภายในเดือนนี้นะ ถ้าเดือนนึงแล้วฉันยังไม่ได้คบกับแอมแปร์ พ่อเธอเตรียมขายหน้าได้เลย” เจ็บใจ...มันเจ็บใจจริงๆ.. และฉันก็พูดอะไรไม่ออก ไม่สามารถที่จะตอบโต้อะไรเขาได้เลย ได้แต่กำหมัดในมือแน่นๆ พร้อมก้าวขาอย่างช้าๆ เตรียมจะเปิดประตูออกไป “เดี๋ยว!” อะไรอีกวะ!!! จะสั่งอะไรอีกละ! “ถ้าเรื่องนี้ มีคนอื่นรู้ เธอก็รู้นะว่าจะเป็นยังไง” และก็เป็นอีกครั้งที่ฉันชะงักเท้าเพื่อรอฟังว่าเขาจะพูดอะไร โดยไม่หันไปมองและสนใจเขาเลยซักนิด และเมื่อเขาพูดจบ..ฉันก็เดินออกจากห้องทันที.. และครั้งนี้ ฉันก็ได้ออกจากห้องที่มีปีศาจอยู่แล้วจริงๆ.. เห้อออ... นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันนะ.. ในที่สุดฉันก็เดินเรื่อยๆ จนถึงรถของตัวเอง และเมื่อฉันได้เข้าไปอยู่ในรถ ความรู้สึกทุกอย่างที่เป็นตัวเองมันก็ถูกปลดปล่อยออกมาทันที..อย่างไม่ต้องกลัวว่าใครจะเห็นความอ่อนแอของฉัน อ่อนแองั้นเหรอ..หึหึ.. ไม่หรอก คนอย่างเอิงเอย อย่าหวังเลยว่าฉันจะอ่อนแอ และร้องไห้ให้เขาเห็นง่ายๆแบบนี้อีก.. ฉันไม่ใช่นางเอกน่าสงสารหรอกนะ ถ้าทำกันขนาดนี้ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน! อีพี่ซัน!!! Sun’s Talk ตั้งแต่ไหนแต่ไร ผมถูกเลี้ยงให้เป็นคนที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่ต้องการ แม้ว่ามันจะโหดร้าย หรือมันจะทำร้ายจิตใจของใคร ผมก็ไม่สน และที่สำคัญ..คือ ต้องห้ามอ่อนแอระหว่างทางเด็ดขาด แต่ว่าสายตาที่เอิงเอยที่มองมาผมพร้อมกับน้ำตาจากสายตานั้น มันก็มีช่วงหนึ่งที่ผมเกือบจะเปลี่ยนใจเหมือนกัน..แต่ว่า เธอเองก็เก่งไม่ใช่ย่อยนะ เพราะมันก็แค่ช่วงนั้นเท่านั้นที่ผมสงสาร..นอกจากนั้น ผมก็รู้สึกว่า เธอเองก็เป็นนักต่อสู้ไม่ใช่น้อย หึหึ..แบบนี้ ก็ดี เพราะมันยิ่งทำให้เกมของผมมันสนุกมากขึ้นไปอีก.. ก๊อกๆ แต่แล้วระหว่างที่ผมกำลังคิดถึงเรื่องเมื่อครู่ที่เกิดขึ้น เสียงเคาะประตูก็ดังออกมา เลยทำให้ผมปรับท่านั่งให้เหมาะสมและเอ่ยเสียงเข้มบอกลูกน้องออกไป “เข้ามา” “นายครับ หมายเลขที่โทรเข้ามาเมื่อวาน เป็นหมายเลขตู้โทรศัพท์สาธารณะครับ” หมายเลขเมื่อวานที่ทำผมวุ่นวายเมื่อคืนสินะ.. “ไปหาสืบมาให้ได้ เวลานั้นใครใช้ตู้โทรศัพท์นั่น ถ้าหาตัวมันมาไม่ได้ ไม่ต้องมาให้กูเห็นหน้า!” “ครับ!”
已经是最新一章了
加载中