ตอนที่ 13
ทั้งหมดนี้ ขอเผ็ดนรกแตก
เชี้ยเอ้ย!! เมื่อกี้กูเพิ่งพูดไปปะวะ ว่าไม่กินเผ็ด!
แม่งยัยนี่..แสบเกินไปแล้ว..แล้วนี่ที่ผมขู่ไปแบบนั้น เธอไม่กล้วผมเลยซักนิดเลยเหรอวะ..ให้ตายสิ
“เรียบร้อย”
ทันทีที่เธอกลับมานั่งที่เดิม เธอก็พูดออกมาพร้อมรอยยิ้มภูมิใจในทันที.. ส่วนผมก็ได้แต่คิดว่า..
เอาเถอะ เดี๋ยวกินคำสองคำก็พอ ผมก็ไม่ได้หิวอะไรมากด้วย..
แต่แล้วหลังจากนั้น เธอก็พูดลอยๆออกมา
“ที่นี่มีบริการน้ำฟรีด้วยนะพี่ซัน”
พร้อมกับสายตา ที่มองไปอีกฝั่ง.. ที่มันเขียนเอาไว้ว่า....น้ำฟรีบริการตนเอง
โอเค ให้กูให้ไปเอาให้สินะ!!
“งั้น..เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาให้นะครับ”
เวลาแบบนี้ ใช้กูเก่งจังเลยนะ หึ!
ผมก็เลยลุกขึ้นไปหยิบแก้วน้ำ และตักน้ำแข็ง พร้อมใส่น้ำ แม้ว่ามันออกจะงงๆหน่อย แต่มันก็ไม่ได้ยากอะไร
จนผ่านไปสักครู่ อาหารสีสันไปทางแดงจัด โดยเฉพาะเมนูลาบก้อย ก็ได้วางอยู่ตรงหน้าผม และผู้หญิงสวยอีก 2 คนเป็นที่เรียบร้อย และเมื่อจานมาตั้ง.. ยัยตัวแสบก็แสดงสีหน้าอาการตกใจเกินเบอร์สุดๆออกมา
“อุ๊ย เอิงลืมไปเลยค่ะพี่ซัน ...ลืมบอกป้าแกว่า...ไม่เผ็ด”
หึ ลืมบอก หรือจงใจไม่บอกวะ!!
“ไม่เป็นไรครับ”
แต่ถึงอย่างนั้น..ผมก็ยิ้มตอบกลับไปอย่างใจเย็น แต่ทว่า....สิ่งที่เอิงเอยพูดต่อจากนี้นี่สิ
“อุ้ย แล้วก็ เอิงลืมบอกพี่ซันไปอีกอย่าง ว่าเรา 2 คน กินแฮมเบอร์เกอร์มาเมื่อกี้แล้วด้วย ไม่ใช่เบอร์เกอร์ธรรมดานะคะ แต่เป็นซุปเปอร์ดัลเบิ้ลดับเบิ้ลชีสดับเบิลดับเบิ้ลมีท ขนาดเท่านี้แน่ะ เราสองคนกินซะอิ่มแล้วด้วยน่ะสิ”
บอกเลยว่า ไอท่าทางที่เล่นใหญ่เกินเบอร์ของเธอนั้น ประจบกับคำพูดที่เธอพูดมา มันทำให้ผมชะงักทันที..
และตอนนี้อยู่ๆ เธอก็เริ่มแสดงสีหน้าที่รู้สึกผิด...ที่ผมมองดูยังไงก็รู้ว่ามัน..ปลอม!!!!
แม่งเอ้ย..ยัยตัวแสบ..ผมเข้าใจแล้วว่าที่เธอยิ้มมาตลอดทาง มันเป็นเพราะอะไร..
“สงสัยมื้อนี้ พี่ซันคงต้องกินคนเดียวแล้วล่ะ”
และคราวนี้ ..อยู่ๆเธอก็ไม่มีสีหน้าสลดอีกแล้ว นอกจากคำพูด และรอยยิ้มที่ส่งมาในแบบที่โคตร..กวน
ผมว่า เพื่อนผมแต่ละคนแม่งกวนแล้วนะ ..มาเจอยัยนี่ แม่งสุด!
และจากสภาพอาหารตรงหน้า ที่เป็นเมนูที่ผมไม่เคยแตะเลย รวมถึงสีแดงที่ดูน่ากลัว แล้วยังจะมี แมลงวันตัวน้อยนิดที่อยากจะเข้ามาร่วมวงการกินอาหารมื้อนี้ตลอดเวลาด้วย.. มันเลยทำให้ผมตัดสินใจพูดออกมา
“พี่ว่า ถ้าเราอิ่มกันแล้ว ก็ไม่ต้องกินก็ได้ เก็บเงินเลย”
แต่แล้วทันทีที่ผมทำท่าจะเรียกป้าเก็บเงิน..เสียงยัยเอิงเอยก็เบรกทันทีด้วยความไว..
“ไม่ได้หรอกพี่ซัน ดูหน้าแม่ค้าสิ ถ้าเราไม่กิน ป้าแกด่าเราตายเลย ได้ยินว่าป้าแกปากร้ายมากกก ใช่มั้ยแกๆ” เธอก็พูดพร้อมหาคนสนับสนุน ที่อยู่ข้างๆ และนิ่งมาตลอด ตั้งแต่มาที่นี่.. และไอ้แววตาของเธอที่พูด ก็ดูออกได้อย่างชัดเจนว่า.. กำลังบังคับให้แอมแปร์ เออออตามเธอไปด้วย..
ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า น้ำเสียง รวมถึงมือที่สะกิดเพื่อนข้างๆอย่างชัดเจน จนทำให้แอมแปร์เอ่ยพูดออกมา เหมือนกับเพิ่งคิดได้
“เออ ชะใช่ๆ ”
ส่วนผมนะเหรอ..ด่าก็ด่าสิ..จะไปกลัวทำไม เพราะฉะนั้น เก็บเงินเลยดีกว่า..ไม่เห็นต้องสนใจเลย...
“ป้…”
อั้ม!!
แต่แล้ว ในขณะที่ผมกำลังอ้าปากเพื่อเรียกป้ามาเก็บเงิน อยู่ๆ อาหารตรงหน้าที่ผมไม่อยากจะแตะซักเท่าไร ก็ถูกยัดเข้ามาในปากผมด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับคำพูดเล็กๆ และรอยยิ้มชั่วร้ายที่ผมได้รับจากอีกฝั่ง
“เอิงป้อนให้นะคะ”
ไอเชี้ย!
อึก!!!!
ผมไม่รับรู้หรอกว่า เมนูนั่นรสชาติมันเป็นอย่างไร เพราะทันทีที่เข้ามาที่โดนจ่อจนเกือบถึงคอหอย ผมก็รีบกลืนๆไปในทันที โดยที่แทบจะไม่เคี้ยวเลย พร้อมกับอีกความรู้สึกที่มันตามมาติดๆหลังจากนั้น
สัส เผ็ดฉิบหาย
น้ำๆๆ
ผมรีบหยิบน้ำมาดื่มจนหมดแก้วแก้ความเผ็ดด้วยความร้อนรน จนไม่ได้สนใจอะไรอีกแล้ว
แต่ว่าขณะที่กำลังดื่มน้ำอยู่นั้น ผมก็เหลือบมองหน้าเอิงเอยไปด้วย และได้เห็นใบหน้าของเธอที่กำลังมองมาที่ผมด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
..ดูหน้าที่ยิ้มเหมือนชนะผมแบบนี้สิ แม่ง.. ต้องเอาคืน!
ผมเลยล้มเลิกความคิดจะเก็บเงินและออกจากร้านไป และเปลี่ยนกลับมาเป็นยิ้มเหมือนเดิมทันที ที่เริ่มหายเผ็ดไปบ้าง..ก่อนที่จะทำอะไรบางอย่าง..
“พี่คนเดียว กินไม่ไหวหรอก มามั้ย พี่ช่วยป้อนนะครับน้องเอิง” หลังจากพูดจบ ผมไม่รอช่องว่างให้เธอได้พูดตอบกลับ ผมก็ตักเมนูอาหารรสเด็ดตามที่เอิงเอยโภทนาก่อนหน้าเอาไว้ แล้วยัดใส่ปากเอิงเอยทันทีเช่นกัน
พอเขาปากยัยนี่ เธอก็ทำหน้าแบบพะอืดพะอมไม่ต่างจากผมก่อนหน้า..และมันทำให้ผมคิดว่า..
สะใจโว้ย
อึก
และแล้วในที่สุดเธอก็กลืนลงคอไป.. พร้อมกับหยิบน้ำมากินไม่ต่างจากผมเลย..แต่แล้วอยู่ๆ เธอก็นั่งหลังตรงและกลับมายิ้มอีกครั้ง
“พี่ซันมีน้ำใจจังนะคะ งั้นเอิงป้อนอีกรอบนะคะ”
คราวนี้ เธอเอาช้อนตักคำใหญ่กว่าของผม แล้วก็เอาไปจ่อตรงปาก แล้วยัดเข้าไปอีกครั้ง
“อึก!”
และหลังจากนั้น ผมกับเอิิงเอย ก็เหมือนเล่นสงครามประสาทในร้านส้มตำ เธอป้อนมาผมก็ป้อนกลับ จนตอนนี้หน้าของเอิงเอยแดงไปหมด เหงื่อเต็มหน้า สีปากตอนนี้ก็กลายเป็นสีแดงเข้มยิ่งกว่าสีลิปสติดก่อนหน้า
ส่วนของผมนะเหรอ ก็คงไม่ต่างกับยัยตัวแสบนี่หรอก!
ซี๊ดดดดดด ...แฮ่กๆๆๆๆ
ผมว่าคืนนี้ผมต้องเข้าห้องน้ำทั้งคืนแน่นอน นอกจากน้ำที่กินเป็นลิตรๆ ก็ท้องเสียนี่ล่ะ!
และในขณะที่ผมและยัยตัวแสบจ้องหน้าอย่างไม่มีใครยอมใคร พร้อมกับกินน้ำกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ก็มีผู้หญิงอีกคนที่นั่งนิ่งๆและมองผมและยัยตัวแสบตลอดเวลามาห้ามศึกซะที
“แอมว่า พอแค่นี้ก่อนดีมั้ย ไม่งั้นได้ตายกันทั้งคู่”
นี่ล่ะ...เสียงสวรรค์ของพี่...แอมแปร์
เธอช่างน่ารักกว่ายัยนี่เป็นไหนๆ หึ!!
และเพราะคำพูดนั้น เลยทำให้ผมนั่งจ้องยัยตัวแสบอย่างไม่ลดละ พร้อมกับพูดลิ้นห้อยออกมา..
“ซื๊ดด เห็นว่า..น้องแอมขอหรอกนะ ซื้ด...งั้นวันนี้..พี่ขอตัวก่อนนะครับ แล้วก็..มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง..”
พรึ่บ!!
หลังพูดจบ ผมก็วางเงินบนโต๊ะไว้ พันหนึ่ง แล้วเดินออกไป เพราะตอนนี้ผมอยากอ้วกจะแย่ ต้องรีบออกมาก่อน ถ้าอ้วกกลางร้าน โดนยัยนั่นล้อตายเลย
และทันทีที่ถึงรถ ผมก็บึ่งรถด้วยความไว..แต่ว่ามันก็ไปได้ไม่ไกล ผมก็ทนไม่ไหว ที่จะต้องแวะข้างทาง...
พรวดดดดดดดดดด พรวดดดดดดดดดด
เพื่ออ้วกสิ่งที่ผมกินไปเมื่อครู่ อยู่ตรงเสาไฟฟ้าที่ไหนซักที่อย่างคนหมดสภาพ!!!
เอิงเอย..ผมประมาทเธอเกินไปแล้ว..
เจอกันครั้งหน้า ผมเอาคืนเธอแน่! ยัยตัวแสบ หึ!!!
พรวดดดดดดดดดด!
.
.
.
“มองขนาดนั้น ไปเอาตัวน้องขึ้นมาเลยมั้ย”
ตอนนี้ผมยืนมองยัยตัวแสบอยู่จากห้อง VIP1 ที่วันนี้เธอมากับผู้ชายคนเดิมที่เคยมีเรื่องกับไอ้พอสวันก่อน และที่สำคัญ..เธอยังจูบดูดดื่มกับผู้ชายคนนั้นอีกต่างหาก..
และอาจจะเป็นเพราะผมมองนานไปหน่อย เลยทำให้ไอ้เคน..เอ่ยคำพูดกวนตีนผมออกมาแบบนั้น
ผมก็เลยหมุนตัวกลับมานั่งมองหน้ามัน ก่อนจะหยิบแก้วน้ำสีอำพันตรงหน้ายกขึ้นดื่มและพูดออกมาเสียงเรียบ
อึก อึก อึก
ปั่ก!
“มึงไม่เห็นเหรอ ว่ายัยนั่นมากับผัว ”
หลังจากที่ผมพูดจบ..ด้วยความรู้สึกที่มันหงุดหงิด.. หงุดหงิดที่ผม ทำอะไรยัยนั่นไม่ได้เลยที่ผ่านมา ผมเพิ่งรู้ว่าเธอน่ะตัวแสบของจริง เพราะหลังจากนั้นที่ผมบอกให้เธอนัดผมให้แอมแปร์ทุกครั้ง เธอก็จะมีอะไรแสบๆมาแกล้งผมให้ไม่ต้องยุ่งกับแอมแปร์ได้ทุกครั้ง เหมือนกับครั้งล่าสุด ที่เธอทำทีเป็นเทน้ำให้ผมแต่ว่า..เธอเทยังไงก็ไม่ทราบ เพราะมันมาเลอะและเปื้อนตัวผมไปหมด..
และแน่นอนเธอคงอยากให้ผมอาละวาดและทำตัวแย่ๆ ต่อหน้าแอมแปร์สินะ แต่ว่าผม..ก็เก็บอาการอยู่ พร้อมกับแสดงดีหน้ายิ้มแย้มและแสดงความเป็นสุภาพบุรุษเสมอ แต่บางทีผมว่า...ผมก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน
แล้วขนาดว่าผมขู่เธอไปเรื่องนั้น ยังมีหน้าระริกระรี้ พาผู้ชายมามั่วที่ผับผมอยู่ได้!!!
“หึ”
“เก็บอาการหน่อยมึง”
“เก็บอาการไรสัส กูก็มองดูความเรียบร้อยของผับกูอยู่..”
“อ้ออ...เหรออออออ”
แม่ง..ไอ้พวกเพื่อนผมพวกนี้ ก็กวนตีนซะจริงๆ แม้ว่าจะมีแต่ไอ้เคนที่พูด แต่สายตาของไอเค ผมก็ดูออกว่าไอ้เหี้ยนี้ก็คิดไม่ต่างกัน..
มันคงคิดว่า ผมชอบยัยนั่นสินะ.. แต่จะบ้าหรือเปล่า คนอย่างผมเนี่ยนะ จะชอบใคร..ผู้หญิงก็เป็นแค่ของเล่นของผมเท่านั้นแหละ ส่วนยัยนั่น..ไว้ผมได้กินก่อนเถอะ ผมจะทิ้งไปไม่สนใจใยดีเลย คอยดูสิ หึ!
ก๊อกๆ
แต่แล้วระหว่างที่ผมกำลังหันกลับไปมองยัยนั่นอีกครั้ง..อย่างลืมตัว เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นมา
“คุณซันครับ นักร้องเกิดอุบัติเหตุกะทันหัน เอายังไงดีครับ”
ช่วงเวลา 3 ทุ่มวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ของผับนี้ ปกติจะต้องมีนักร้อง มาร้องเพลงสดทุกครั้ง แต่ว่า..วันนี้มันวันเหี้ยอะไรวะ! แม่งหงุดหงิดโว้ย!!!!
“อะไรวะ! ทำงานกันยังไง ให้นักร้องเกิดอุบัติเหตุได้!!!\"
\"อะเออ\"
\"มึงมีสติหน่อย อย่าหงุดหงิดเรื่องอื่นแล้วไปพาลกับลูกน้องดิวะ\"
ควับ!!
แต่แล้ว อยู่ๆไอเคก็พูดออกมา.. และก็ทำให้ผมหันไปมองหน้ามันทันที..
หงุดหงิดเรื่องอื่นอะไรกัน.. ผมกำลังหงุดหงิดที่นักร้องไม่มาต่างหาก!!
\"เออๆ งั้นมึงไปประกาศขอโทษแขกในร้านละกัน แล้วลดให้โต๊ะล่ะ 5% ส่วนวันนี้ก็เปิดเพลงไปก่อน” ผมพูดส่งๆออกไปด้วยอารมณ์ที่มันยังไม่ดับเต็มที่..ก่อนจะปัดมือไล่มันออกไป
“คะ ครับ”
เอ๊ะ..เดี๋ยวสิ
“เดี๋ยว!”
แต่แล้วอยู่ๆ ผมก็คิดอะไรออก..และผมก็ค่อยๆผุดรอยยิ้มขึ้นมาทันที.. ก่อนที่จะเอ่ยปากโพล่งเสียงห้ามไม่ให้ลูกน้องของผมออกไป..
“ไม่ต้องล่ะ วันนี้จะมีนักร้อง ไปสแตนบายรอได้เลย”
ในเมื่อหลายๆครั้ง เธอชอบทำผมหน้าแตกต่อหน้าหลายคนกลางร้านอาหาร งั้นวันนี้..ผมต้องทำให้เธอหน้าแตกบ้างซะแล้ว..หึหึ
“พวกมึงเดี๋ยวกูมา”
ทันทีที่คิดได้ ผมก็บอกเพื่อนๆผมทันที แล้วก็เดินออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี ไร้ความหงุดหงิดก่อนหน้าไปอย่างสิ้นเชิง..