ตอนที่ 14
Aengoey’s Talk
ตอนนี้ฉันกำลังนั่งกินเหล้าอยู่ในผับ Demon ผับที่ฉันไม่คิดจะมาเหยียบตั้งแต่วันนั้น ที่ฉันมาเจรจาพันธะบ้าๆนั้นที่เขาสร้างมัดตัวฉันไว้
แต่ว่าวันนี้ฉันก็ต้องมา เพราะว่าไอเจนนี่มันลากฉันมาน่ะสิ และอีกอย่างฉันก็ไม่อยากให้เรื่องของเขา มีอิทธิพลต่อใจของฉัน จนฉันไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตปกติได้ด้วย ฉันเลยตัดสินใจมาที่นี่ โดยที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นว่า ฉันจะได้เจอกับเขา หรือไม่ได้เจอ
“นี่ แกลองดูจมูกฉันสิ ว่ามันเริ่มเข้าที่รึยัง”
“แกจะถามฉันทุกๆ 5 นาทีไม่ได้นะโว้ย..”
แต่ถึงแม้ฉันจะบ่นมันไปแบบนั้น..ฉันก็ยังก้มๆเงยๆ มองจมูกที่มันเพิ่งไปทำใหม่เมื่อ 2 เดือนที่แล้วให้อย่างไม่ได้รังเกียจ หรือรำคาญอย่างที่พูดออกมา.. ซึ่งไม่ว่าฉันจะดูกี่รอบๆ จมูกมันก็ยังเหมือนเดิม และฉัน..ก็พูดเหมือนเดิมทุกครั้ง
“เนียนมากค่ะแม่ ดูไม่รู้เลยว่าไปทำมา อย่างกับพ่อแม่ให้มาแต่กำเนิดจ้ะ”
“อิเอิงงง ไม่จำเป็นต้องประชดกูเบอร์นี้ก็ได้มั้ย .. ก็แหมม กูก็กลัวไง ผู้คนใหม่ฉันไม่ชอบการศัลย์ กูกลัวเขารู้”
“เอาจริงนะ อีเจน..ไม่จริงใจก็ไปไม่รอดมั้ย”
หลังจากที่ฉันพูดจบ ..เพื่อนของฉันก็เริ่มเอ่ยปากเล่าต่อเป็นเรื่องเป็นราว เรื่องที่ฉันได้ฟังจากมันไม่รู้กี่รอบๆ ว่าผู้ของมันดีอย่างนั้นอย่างนี้ มันไม่อยากปล่อยให้หลุดมือไป... และเอาจริงๆ ผู้ที่มันเล่าก็ดีกับมันจริงๆ ไม่รังเกียจที่มันเป็นแบบนี้ คอยดูแล เทคแคร์สุดๆ จนฉันก็แอบคิด ทำไมชีวิตชะนีแท้ๆอย่างฉัน ไม่เจออะไรแบบนี้บ้างวะ
เจอแต่ละคนก็ บับ..มองบนจะ!
โดยเฉพาะล่าสุด ดีนะที่ฉันยังไม่หลงชอบเขามาก ไม่งั้นฉันต้องเจ็บแน่ๆ..เห้อออ..
“เออ แล้ววันก่อนนะ...”
แต่แล้วระหว่างที่ฉันกำลังตั้งใจฟังไม่ตั้งใจฟังไอ้เจนนี่เล่าเรื่องของมันกับผู้อยู่ อยู่ๆมันก็หยุดเล่าไปเสียดื้อๆ พร้อมตาค้างกับอะไรบางอย่างที่อยู่ทางข้างหลังฉัน ฉันเลยต้องมองตามสายตามันไป และฉันก็ตาค้างไม่ต่างจากมันทันทีที่ได้เห็นสิ่งเดียวกับที่มันเห็น..เพราะว่านั้นมันเป็นภาพของพี่ซันกำลังเดินมาทางฉันด้วยสายตาที่นิ่งเรียบ
เห้อ...จะมาหาเรื่องอะไรฉันอีกละเนี่ย!
\"ตามฉันมา\"
และทันทีที่ถึงโต๊ะที่ฉันนั่งอยู่ พี่ซันก็พูดเสียงเรียบทันที พร้อมมองมาทางฉันและยัยเจนนี่ไปมาด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
“ไปไหน ฉันไม่ไป ไม่คุยอะไรกับนายทั้งนั้น”
“ห่างผัวสักนาทีเดียว ไม่ตายหรอกมั้ง”
ฮะ? ผัว? ผัวไหนวะ?!
“ผัว? / ผัว?” และเพราะคำพูดของเขา ก็เลยทำให้ทั้งฉันและเจนนี่ พูดพึมพำขึ้นมาพร้อมกันในทันที.. ส่วนพี่ซันก็ไม่ได้พูดอะไร นอกจากมองไปยังเจนนี่นิ่งๆ และฉันก็เข้าใจในทันที..จนอดที่จะหลุดขำออกมาไม่ได้
“ฮ่าๆๆ นายคิดว่า ..เป็นผัวฉัน?” ฉันเอามือชี้ไปยังเจนนี่ พร้อมกลับพยายามกลั้นขำสุดฤทธิ์
“ขำอะไร”
หึ..เข้าใจผิดแล้วยังมาทำเป็นเหวี่ยงไปอีก! แต่เอาเถอะ ฉันจะชี้ให้เขาตาสว่างเอง หึหึ
“มันไม่อยากเป็นผัวฉันหรอก ถ้าเป็นผัว..นายก็ว่าไปอย่าง”
และประโยคนั้นที่ฉันพูดไป.. ก็ทำให้พี่ซันหน้าเหวอไปในทันที..และฉันว่าเขาคงจะเข้าใจฉันมากกว่าเดิมแน่ๆ เมื่อยัยเจนนี่เปิดปากพูดต่อมา
“อร๊ายย แกรู้จักพี่ซันด้วยเหรอยัยเอิง มีผู้งานดีขนาดนี้ ไม่บอกกันเลยนะยะ”
งานดีแค่ภายนอกน่ะสิ จิตใจนะปีศาจชัดๆ
“เจนนี่ไม่ถนัดเป็นผัวหรอกนะคะ ถนัดเป็นเมียมากกว่า” และตอนนี้ มือเพื่อนของฉันคนนี้ก็อยู่ไม่สุกแล้วด้วย...เพราะทันทีที่พูดจบ..มันก็ลุกขึ้นไปจับตัวพี่ซันทันที...โดยไม่เกรงกลัวสายตาอีกฝ่ายเลยซักนิด..อาจจะเป็นเพราะมันเห็นว่า เขาน่าจะรู้จักฉันล่ะมั้ง เลยทำให้มันกล้าได้ขนาดนี้
แต่แล้ว ทันทีที่มันโดนตัวพี่ซัน..เขาก็ยังคงทำหน้านิ่งเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจับมือของฉัน แล้วก็ลากฉันออกไปจากตรงนี้ทันที..โดยไม่พูดอะไรออกมาซักคำ
“ปล่อยนะ จะพาฉันไปไหน ฉันไม่ไปนะ“
“เงียบสิวะ หนวกหู!”
ไอ้บ้า! กล้าดียังไง มาตวาดฉัน!!!
“เป็นบ้าหรือไง..ประสาท!!!” ฉันโพล่งปากออกมา แต่ว่าเท้าก็ยังเดินไปตามเข้าอยู่ โดยที่เขาไม่พูดอะไรออกมาซักคำ ส่วนฉันก็ไม่ดิ้นเหมือนตอนแรกแล้ว เพราะรู้ยังไง แรงฉันก็สู้เขาไม่ได้อยู่ดี..
และแล้วในที่สุด ฉันก็เดินมาถึงปลายทางที่เขาลากฉันมาจนได้
“ไปร้องเพลงซะ” เขาปล่อยมือของฉันออกเป็นอิสระ ก่อนที่จะพูดออกมา ขณะที่ฉันกำลังลูบข้อมือที่เริ่มเป็นรอยแดง พร้อมทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเพื่อแสดงถึงความไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
ร้องเพลง? คืออะไร?
“ไม่!!\" ฉันตะคอกตอบกลับไปด้วยความหงุดหงิดกับการเล่นอะไรปัญญาอ่อนของเขา.. พร้อมกับหันหลังกลับเตรียมจะออกไปจากตรงนี้
แต่ว่าทันทีที่ฉันก้าวเดินได้ไม่กี่ก้าว เสียงขู่ของเขาก็พ่นออกมา
“ร้องเพลงให้ฉันวันนี้ ไม่งั้นฉันจะแชร์รูปเธอ”
ควับ!!!
“นี่นาย จะบ้าอำนาจเกินไปแล้วนะ”
“เธอไม่มีสิทธิ์พูด มีแค่หน้าที่ทำตามสิ่งที่ฉันต้องการก็พอ”
“นายนี่มัน!”
“อีก 10 นาที จะเริ่มแล้ว”
และยังไม่ทันที่ฉันจะอ้าปากด่า ก็ถูกพี่ซันลากไปอีกครั้ง
แต่คราวนี้เขาลากไปยังจุดที่ควบคุมเครื่องเสียงของผับแห่งนี้แทน พร้อมกับบุคคลที่คาดว่าน่าจะเป็นลูกน้องของเขาและนักดนตรีที่ยืนอยู่เรียงรายประมาน 5 คน
“กูพานักร้องมาล่ะ” พี่ซันก็ปล่อยมือฉัน แล้วบอกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ที่กำลังมองมาที่ฉันเป็นตาเดียว ก่อนจะเดินออกไป ปล่อยให้ฉันยืนงง จนกระทั่งพี่นักดนตรีทักฉันขึ้นมาให้เลือกเพลงที่จะร้อง ฉันถึงสติกลับมาอีกครั้ง
สั่งๆๆ แล้วก็ออกไป ยังงี้ก็ได้เหรอ...เห้ออ
Sun’s Talk
เอาล่ะ ตอนนี้ก็เหลือแค่รอชมผลงานสินะ..
ตอนนี้ผมขึ้นมาที่ห้อง VIP1 เหมือนเดิมแล้วล่ะ พร้อมกับลงไปนั่งตำแหน่งที่เดิม ตรงบริเวณที่มันติดขอบกระจกที่มองเห็นวิวทั้งหมดของผับผม ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้เล็กน้อยให้มันเห็นชัดตรงบริเวณเวทีกลางชัดมากไปอีก เพื่อรอชมผลงานของตนเองอย่างใจจดใจจ่อ จนกระทั่งเสียงของไอ้เคนลอยดังออกมา
“ไหนบอกว่ามีผัวแล้ว ไม่ไปลากไง?”
“ผัวบ้าอะไร มันบอกจะเป็นเมียกูอยู่เลยเมื่อกี้ พูดล่ะกูก็ขนลุก! ”
หึหึ..สรุปว่าเป็นเพื่อนสาวยัยนั่นสินะ... ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ตัวก็ใหญ่สมชาย แถมยังมีหนวดอีก!! แต่ก็ถือว่า ..ก็ดี! หึหึ
และพอผมพูดจบพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ ที่รู้ว่าไอ้เหี้ยนั้น ไม่ได้เป็นผัวเธอ เพื่อนผมในห้องก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหยิบเหล้าและคุยงานกันเหมือนปกติที่พวกเราชอบทำกัน..
ส่วนผมนะเหรอ ผมก็หยิบเหล้ามาไม่ต่างจากพวกมันหรอก แต่ผมไม่หันหน้าเข้าวงสนทนาที่เครียดในตอนนี้หรอกนะ เพราะมันมีอะไรบางอย่างที่ผมตั้งหน้าตั้งตารออยู่หลังวิวกระจกของผม..มากกว่า..
นั่นก็คือ รอดูยัยนี่ยืนร้องไห้ไงล่ะ เธออาจจะร้องไม่เพราะ จนโดนคนรุมด่า หรือไม่ก็ไม่กล้าร้องเพลง จนร้องไห้..
หึหึ แค่คิดก็สนุกแล้ว... นี่ผมยอมเสียลูกค้า เพื่อได้แกล้งยัยนี่เลยนะ
และจากที่ผมคิดได้แบบนั้น ไม่นาน..เธอก็ขึ้นไปบนเวทีกลางนั้นจริงๆ..และก็ตามมาด้วยเสียงไอไนท์พูดมาติดๆ
“อ่าว นั้นน้องเอิงนี่หว่า ทำไมไปยืนบนเวทีงั้นล่ะ“
ก็แน่สิ กูให้ไปยืนเอง
และมันก็ทำให้ผมยิ้มอย่างภูมิใจในผลงานตัวเอง ก่อนจะวางแก้วเหล้าในมือไปวางบนโต๊ะ กดปุ่มเพื่อเปิดเสียงลำโพงให้เข้ามายังห้องที่ผมนั่งอยู่ ซูมหน้าจอกระจกให้เห็นเธอชัดๆ และดันตัวให้ชิดกับกำแพงกระจกมากกว่าเดิม เพื่อจะได้มองเห็นเธอร้องไห้ในระยะที่ใกล้ที่สุด
ไม่นาน ดนตรีก็เริ่มบรรเลง.. ก่อนที่ยัยนั่นจะยกไมค์ขึ้น..จ่อปากและ..เริ่มร้องเพลงออกมา
“เชี้ย เพราะฉิบหาย“
\"น้องเอิงร้องเพลงเพราะนะเนี่ย\"
“อืม\"
บอกเลยว่า..เสียงของเธอ มันทำให้..เพื่อนของผมในห้อง..ต่างก็ชมออกมาในทันที..ซึ่งผมก็เถียงไม่ออก!!!
เออ เพราะจริง! เชี้ยเอ้ย.. เห็นอย่างนี้ ร้องเพลงเพราะซะงั้น
หมดกัน แผนกู!!!
และมัน..ก็เพราะมาก มากจนผมต้องหลับตาฟัง แล้วเคลิ้มไปกับเสียงเพลงนั่น
ถ้าผมไม่รู้จักคนร้อง ผมคงตกหลุมรักเจ้าของเสียงนี้แน่นอน..แต่ว่าผมรู้ไงว่าเธอคือใคร..ผมเลยค่อยๆลืมตาและมองไปยังภาพตรงหน้า ที่มันทำให้ผมเหมือนกับตกไปอยู่ในภวังค์อะไรบางอย่าง..ที่มันทำให้ผม ไม่สามารถที่จะหยุดมองภาพตรงหน้าได้เลยแม้แต่ซักวินาทีเดียว
สวย.. สวยจริงๆ
ยิ่งเธอร้องเพลง ยิ่งทำให้เธอดูมีออร่ากระจายรอบตัว..จนมันโดดเด่นแบบที่ผมไม่เคยเห็นใครมาก่อน..
“ดูสิ หลังงานนี้สงสัยน้องเอิงมีแฟนคลับผู้ชายตามเพียบแน่ๆ หึหึ ว่ามั้ยไอซัน”
แต่แล้วเสียงของไอไนท์ ก็เอ่ยปากออกมา..ในขณะที่ผมกำลังมองภาพตรงหน้าอย่างเหม่อลอย..และคำพูดของมันก็ทำให้ผม..ปรับสายตาจากใบหน้านั้น และหันไปดูรอบๆเวทีที่เธอยืนอยู่แทน..
และก็อย่างที่เพื่อนผมว่า..เพราะตอนนี้มีผู้ชายมากหน้าหลายตา กำลังยื่นแบงค์ หลากสีมากมาย มาให้เธอเต็มไปหมด ทั้งแบงค์เทา แบงค์แดง รวมถึง..หลายรายถึงขั้นย้ายที่นั่งมานั่งตรงขอบเวทีกันหมด!!!
“เหี้ยเอ้ย!”
“หึหึ..”
“หวงของเหรอ ไอ้ซัน..หึหึ”
อะไร ผมไม่ได้หวงของ หรือหวงเธอซะหน่อย แต่ว่าผมกำลังหงุดหงิด..หงุดหงิดที่แกล้งเธอไม่สำเร็จ แล้วยังได้เงินอีก!
ไม่ได้ๆๆๆๆๆๆ แบบนี้ ผมต้องไปจัดการ
พรึ่บ!!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ผมก็ลุกขึ้นพรวด แล้วออกจากห้องเพื่อมุ่งตรงไปยังเวทีนั่นทันที..และมันก็เป็นพอดีกับที่เธอร้องเพลงจบไป แต่ว่าดนตรียังไม่จบ เลยเป็นจังหวะที่เธอ ว่างพอที่จะเอื้อมมือไปรับเงินมากมายที่ถูกยื่นมา พร้อมกับสีหน้าที่ดูมีความสุขเกินเบอร์...และแม่ง มันก็เกินหน้าเกินตาเกินไป!!!
หมับ!!!
ผมกระโดดขึ้นเวที และลากเธอออกมาจากตรงนั้นทันที..พร้อมกับคว้าไมค์ของเธอ มาพูดลวกๆ และโยนไปยังบริเวณข้างๆ..ด้วยความหงุดหงิด
“ต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะครับ วันนี้นักร้องมีธุระต่อคงต้องพอแค่นี้ ขอบคุณครับ”
และทันทีที่ลงมายืนหลังเวทีที่ไร้ผู้คน ยัยตัวแสบถี่ยืนยิ้มร่าอ่อยผู้ชายไปทั่วบนเวที ก็หน้าบึ้งทันที พร้อมกับสะบัดมือที่ผมจับออกด้วยความแรง ราวกับว่ารังเกียจผมยังไงยังงั้น..
“อะไรของนายอีก! ”
“อ่อยผู้ชายเก่งนะ!”
“อ่อยบ้าอะไร..ประสาท!!! แล้วฉันร้องเพลงจบแล้ว พอใจแล้วใช่มั้ย ขอตัว!!!”
หลังจากที่เธอพูดกระแทกกระทั้นผมแบบนั้น เธอก็เบี่ยงตัวจะไปทันที..ในขณะที่ผมก็โพล่งปากออกมาด้วยความไว
“ไหน เงินที่ได้จากเมื่อกี้ ต้องเอาเข้าร้านให้หมด”
ใช่ เงินพวกนั้น เธอห้ามเอาไว้ มันต้องเป็นของผม..ผมเป็นคนให้เธอไปร้อง ผมต้องได้สิ!! ใช่ ผมกำลังหงุดหงิดเรื่องนี้อยู่
และเพราะคำพูดผม ก็ทำให้เธอหยุดเดินไป ก่อนที่จะหยิบเงินมากมายที่มีในมือ ยัดมาใส่มือของผม พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ดูไม่พอใจผมซักเท่าไร
“รวยก็รวย กับเรื่องแค่นี้ขี้งกไปได้ เอาไป!”
และเงินที่ผมได้รับ..ทำให้ผมตกใจทันที..
“ร้องแค่เพลงเดียว ได้ 2 หมื่นเลยเหรอ!”
เมื่อกี้ยืนร้องเพลงยังไม่ถึง 5 นาทีเลยมั้ยวะ ได้ 2 หมื่นเลยเหรอเนี่ย
แต่เอาจริงๆ ก็ไม่แปลก ร้องเพราะขนาดนี้ ถ้าเป็นผม ผมให้ไม่ต่ำกว่าแสน
และหลังจากที่ผมพูดแบบนั้น เอิงเอยก็ยิ้มภูมิใจเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา
“ก็ช่วยไม่ คนร้องสวยก็สวย เพราะก็เพราะ ใครๆก็ชอบเป็นธรรมดา..”
“หึ..หลงตัวเองเกินไปหน่อยมั้ง..”
“ทำไม..นายจะบอกว่า ฉันไม่สวย..ร้องเพลงไม่เพราะหรือไง..หื้มมม”
แต่แล้วระหว่างนั้น เอิงเอยก็เดินตรงเข้ามาหาผม พร้อมกับรอยยิ้มแปลกๆ ที่ผมเห็นแล้วก็ต้องถอยหลังออกไปก้าวหนึ่ง..ก่อนที่จะโพล่งปากออกมา ที่ไม่ให้เธอได้ใจเกินไป
“งั้นๆแหละ แบบเธอหาได้ตามท้องตลาดทั่วไป บอกเลยว่า..ผู้หญิงแบบนี้ฉันเห็นจนเบื่อแล้วล่ะ ธรรมดา เบๆมากกก” คำพูดของผม ก็ทำให้เธอกลับมาหน้านิ่งทันที พร้อมกับพูดอย่างไม่สนใจ
“ถ้างั้นฉันไปล่ะ ..หึ!!!”
ส่วนผม..ก็งงกับความรู้สึกตัวเองแปลกๆ ถ้าอย่างนั้นก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจาก...
“เชิญ!”
เอ่ยปากไล่เธอออกไป ก่อนจะเดินตัดหน้าเดินออกไปจากห้องนี้แทน.. คนที่เดินหนีอีกฝ่ายมันต้องเป็นผมสิ ไม่ใช่เธอ! หึ!!