ตอนที่ 21
ทันทีที่ฉันถึงคอนโด ยัยแอมแปร์ก็ติดต่อฉันมาทันที มันบอกว่าพรุ่งนี้ให้ฉันและมันไปศึกษางานที่บริษัทพี่ซัน!!
ที่ต้องไป ก็เพราะว่าวันนี้ฉันได้รับโปรเจคจากอาจารย์สมร ให้นักศึกษาจับคู่กันเพื่อทำเปเปอร์ภาษาฝรั่งเศส โดยที่อาจารย์จะให้นักศึกษาสุ่มจับหัวข้อเอง และ มันก็ซวยตรงที่ฉันและแอมแปร์ ดันจับได้หัวข้อ เครื่องยนต์การบินน่ะสิ
ตอนที่ฉันจับได้หัวข้อนี้ ฉันแทบจะเขวี้ยงทิ้ง
ทำไมต้องได้หัวข้อเกี่ยวกับบริษัทเขาโดยตรงด้วยนะ!
ฉันรู้ว่าพี่ซันทำบริษัทเกี่ยวกับเครื่องยนต์การบิน แต่ฉันก็เลือกที่จะไม่บอกยัยแอมในตอนนั้น เพราะฉันไม่อยากข้องเกี่ยวอะไรกับพี่ซันอีก แต่กลับกลายเป็นว่า วันนี้ตอนที่ยัยแอมกินข้าวกับพี่ซัน ดันโพล่งประเด็นงานนี้ออกมา แล้วพี่ซันก็ดันเอ่ยปากชวนไปศึกษางานที่บริษัทเขาอีก เรื่องมีให้คุยตั้งร้อยแปด ทำไมต้องมาคุยเรื่องงานนี้ด้วยนะ!
ฉันตัดสินใจว่าจะปฏิเสธให้มันไปคนเดียว แต่มันก็ดักคอรู้ทันฉันอีก บอกว่าถ้าฉันไม่ไปมันก็ไม่ไป แล้วงานก็ไม่เสร็จ
แล้วแบบนี้...ฉันจะทำไงได้ล่ะ ก็คงต้องไปนั่นล่ะ แต่ประเด็นคือ พี่ซันดันบอกยัยแอมว่าให้ฉันเป็นคนโทรไปคอนเฟิร์มเขาเอง
เขาน่ะ ...จงใจจะกวนประสาทฉันชัดๆ
ซึ่งหลังคุยกับยัยแอมเสร็จ ฉันก็เลยต้องโทรไปหาพี่ซันเพื่อคอนเฟิร์มนัดทันที..จะได้จบๆไป
\"[ไง คิดถึงฉันเหรอ]”
รับสายก็กวนตีนเลยมั้ยล่ะ!
\"ใครจะไปคิดถึงคนอย่างนายกัน ..แล้วนายเองไม่ใช่เหรอ ให้ฉันเป็นคนโทรมาคอนเฟิร์มนัดวันพรุ่งนี้อะ\"
\"[หึหึ]\"
\"ถ้านายรับรู้แล้ว งั้นก็แค่นี้นะ\"
\"[แล้วเจอกันนะครับ น้องเอิงเอย]\"
กรึก!
แค่ได้ยินเสียง ฉันก็เห็นเป็นภาพ คงเป็นหน้ายิ้มๆที่ทำเหมือนบริสุทธ์จริงใจ แต่จริงๆแล้วตอแหลทั้งนั้น!
แล้วไหนจะเรื่องพี่พอสที่เขาจะให้ฉันทำวันนี้อีก..
ฉันจะหาหลักฐานยังไงดีล่ะ ครั้งล่าสุดที่เจอกัน ก็ไม่ได้เจอกันแบบดีๆซะด้วยสิ เห้อ!
แต่คิดไปคิดมา สั่งให้ทำเรื่องนี้มันก็ดีกว่าที่ให้ฉันจับคู่ให้กับเขาและเพื่อนฉัน
ก็ไม่รู้ทำไมเขาถึงเปลี่ยนใจขึ้นมาแบบนี้ หรือเพราะเห็นว่าไปได้ด้วยดีกับยัยแอมแล้ว โดยที่ไม่ต้องพึ่งฉันอีกก็ได้มั้ง ฉันไม่สามารถเดาใจอะไรเขาได้เลยจริงๆ ได้แต่คิดไปเองทั้งนั้น
เอาเถอะ ฉันมาโฟกัสเรื่องพี่พอสดีกว่า จะได้จบๆการแบล็กเมล์บ้าๆนี่ซะที
ไม่อยากจะติดต่อพี่พอสไปเลย แต่ถ้าไม่ทำก็คงไม่ได้
คิดได้อย่างนั้น ฉันเลยตัดสินใจ กดโทรหาพี่พอสทันที
ตรู๊ด ตรู๊ด
“[พี่ฝันไปรึเปล่า ที่น้องเอิงโทรมาพี่]”
\"เออ ยุ่งอยู่มั้ยคะ” ฉันลองถามยั้งเชิงก่อน ถ้าเขาตอบว่าไม่ยุ่ง ก็แสดงว่าเขาน่าจะไม่ได้ใส่ใจกับการทะเลาะครั้งล่าสุดที่เจอกัน และคงมีโอกาสที่ฉันจะเข้าถึงตัวเขาอีกครั้ง
“[ไม่ยุ่งครับ สำหรับน้องเอิงพี่ว่างเสมอ]”
เห้อ!!
“เอิงคิดถึงพี่พอสค่ะ” แม้ว่าฉันจะพูดอย่างนั้น แต่ว่า..ฉันก็กำลังเปะปากมองบนให้กับตัวเองอยู่เหมือนกัน..
“[พี่ก็คิดถึงเหมือนกันครับ]”
หึ..คิดถึงกับผีสิ!
ได้ข่าวว่าตอนนี้มีแฟนใหม่แล้ว?! สันดานเลวยังไงก็ยังเลวยังงั้น แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น ฉันก็ทำเสียงหวานและกรอกลงไปเช่นเดิม..
\"งั้นสักวันเรามาเจอกันหน่อยมั้ยคะ\"
“[คืนนี้เลยมั้ย พี่ว่างพอดี]”
เหอะ นี่ก็สี่ทุ่มแล้วมั้ย!...ไปก็บ้าแล้ว
\"เออ ไว้วันหลังดีกว่านะคะ พอดีเอิงกำลังจะนอนแล้ว” ฉันพูดด้วยเสียงออดอ้อนเหมือนที่ฉันเคยทำเมื่อครั้งที่ยังคบกับพี่พอส และก็ได้ผลทุกครั้ง..
\"[เสียดายจัง แต่ไม่เป็นไรครับ ไว้เรานัดกันวันหลังก็ได้ครับ]\"
\"ค่ะ งั้นเอิงขอตัวนอนก่อนนะคะ ฝันดีค่ะ\"
\"[ฝันดีครับ]\"
กรึก
ให้ตายเถอะ ฉันอยากจะบ้าตาย ชีวิตฉันทำไมต้องมาเจอเรื่องซวยๆอะไรแบบนี้ด้วย และเรื่องนี้ ต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่าเพิ่งเข้าถึงตัวเขามากเกิน เดี๋ยวอีกฝ่ายจะสงสัย..
เห้อ!
ตอนนี้ฉันและยัยแอมแปร์ มาบริษัทของพี่ซันเป็นที่เรียบร้อย บริษัทพี่ซันใหญ่โตและดูหรูหรามาก แต่ก็ไม่แปลกหรอก ก็บริษัทนี้ ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนตร์เกือบครอบคลุมทั้งหมด ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ รวมไปถึงประกอบยานยนต์ส่งออก และเป็นเจ้าของสนามบินยักษ์ใหญ่ ในหลายๆประเทศ ยังไม่รวมกับรถสาธารณะทั่วไปของโซนเอเชียอีกนะ
เอาจริงๆ ฉันก็อดทึ่งไม่ได้จริงๆเลย เขาก็อายุมากกว่าฉันแค่ 2 ปีเอง แต่ว่า..เขากลับรับผิดชอบหน้าที่ ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ซะแล้ว แถมยังทำออกมาดีซะด้วย..
ถ้าไม่ติดเรื่องที่เขาเจ้าชู้ และร้ายกาจแบบนั้น..เขาคือผู้ชายในฝันของฉันเลยจริงๆ แต่ว่า..ตอนนี้มันไม่ใช่ไง..เพราะฉะนั้น ตื่นค่ะ อีเอิง..ตื่นนน
“แกไปติดต่อก่อนนะ ฉันขอไปห้องน้ำก่อน สงสัยส้มตำทำพิษว่ะ” แต่แล้ว ทันทีที่ฉันและแอมแปร์ เหยียบเข้ามาในตึกหรูแห่งนี้..ได้แค่ไม่กี่ก้าว อยู่ๆยัยแอมก็พูดออกมา แล้วก็วิ่งไปห้องน้ำทันที โดยที่ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรกลับไปเลยซักคำ..
สงสัยคงทำพิษจริงๆ..
ฉันเดินไปที่ล็อบบี้ใต้ตึก พร้อมกับโทรออกไปหาพี่ซัน..แต่เขาก็ดันไม่รับสาย
หรือเขาจะฝากเรื่องไว้กับประชาสัมพันธ์แล้วนะ.. อืมๆ คงเป็นอย่างนั้น ก็นัดกันแล้วนี่นา..
ฉันก็เลยเดินไปยังโซนประชาสัมพันธ์ในทันที ก่อนจะยิ้มและเอ่ยคำพูดออกมา..อย่างมีมารยาท..
“มาหาคุณซันค่ะ”
แต่แล้ว..ทันทีที่ฉันพูดจบ..พนักงานประชาสัมพันธ์ ที่หน้าตาก็ดูสวยอยู่หรอก แต่ติดตรงที่เธอดันใช้รองพื้นผิดเบอร์ ก็เงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะปลายตามองดูฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า อย่างเสียมารยาทสุดๆ พร้อมกับพูดกระแทกกระทัน และเหยียดฉันเอามากๆ อาจจะเป็นเพราะว่าฉันใส่ชุดนักศึกษาด้วยล่ะมั้ง..
“ที่นี่ไม่รับนักศึกษาฝึกงานค่ะ”
“เปล่าค่ะไม่ได้มาฝึกงาน แต่มาดูงานสำหรับทำโปรเจคเฉยๆค่ะ”
แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังคงพูดตอบกลับไปอย่างใจเย็น..เพราะฉันเองก็ไม่ได้อยากให้มีเรื่องราวใหญ่โตอะไร.. แต่อีกฝั่งกลับดูไม่ได้ใจเย็นและมีมารยาทเลยซักนิด..เพราะหลังจากที่ฉันพูดไปเช่นนั้น เธอกระแทกเสียงดังใส่ฉันทันที
“นัดคุณซันไว้รึเปล่าคะ!”
นี่ฉันก็เปรียบเสมือนลูกค้านะ ทำยังงี้ก็ได้เหรอ?! แต่ฉันก็ใจเย็นเหมือนเดิม ก่อนจะเอ่ยปากพูดออกไป
“นัดค่ะ โทรไปเมื่อกี้แล้วแต่เขาไม่รับโทรศัพท์”
\"คุณซันสั่งว่า ถ้ามีผู้หญิงมาแล้วไม่ได้นัดไว้ก็ห้ามขึ้นไปค่ะ\"
\"แต่ฉันมาศึกษางานจริงๆนะคะ\"
“มุกเดิมๆ ฉันว่า เชิญคุณกลับไปเถอะค่ะ คุณซันไม่สนใจผู้หญิงอย่างคุณหรอก”
“ผู้หญิงอย่างฉัน?”
“ก็ผู้หญิงที่วันๆ ไม่ทำการทำงาน คิดแต่เรื่องผู้ชายไปวันๆไงคะ”
“ขอโทษนะคะ ไอที่วันๆคิดแต่เรื่องผู้ชาย น่าจะไม่ใช่ฉัน แต่เป็นคุณมากกว่านะคะ” ฉันไม่เคยยอมใครอยู่แล้ว เรื่องอะไรมาว่าฉันบ้าผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายอย่างเขาเนี่ยนะ!!
“นี่แก!”
“เพิ่งรู้นะคะ มารยาทพนักงานที่นี่ เป็นแบบนี้เหรอคะ เรียกลูกค้าว่า แก ”
“อร๊ายย แก”
แล้วยัยนี่ ก็ออกมาจากที่นั่ง เตรียมง้างมือจะตบฉัน แต่ฉันก็หลบได้ แต่ระหว่างนั้นเอง
“เกิดอะไรขึ้น!”
“หึ แกตายแน่..” ยัยนี่หันมาพูดกับฉัน ก่อนจะหันไปประจบประแจงผู้ที่มาใหม่
“คุณผินคะ เธอคนนี้มาตามตื้อคุณซันค่ะ ดิฉันพยายามไล่ยังไงเธอก็ไม่ไป”
“อ่าว หนูเอิง มาหาตาซันเหรอลูก”
คนที่ตายไม่ใช่ฉันหรอก แต่เป็นเธอต่างหาก นังผู้หญิงหน้าลอย หึ
“สวัสดีค่ะม๊า” ฉันปรับสีหน้ากินเลือดกินเนื้อยัยนั่น เปลี่ยนมายิ้มอ่อนหวานและอ่อนโยนแทน ก่อนจะหันไปหาแม่พี่ซัน พร้อมยกมือไหว้ และเอ่ยปากเรียกสรรพนามที่จงใจตอกหน้าใครบางคนในทันที..
และบอกเลยว่า.. หลังจากทำแบบนั้นเสร็จ ฉัน..ก็อดไม่ได้ที่จริงๆ ที่จะหันไปยักคิ้วใส่ยัยประชาสัมพันธ์หน้าลอยนั่น อย่างผู้ชนะ
หึหึ.... คิดจะสู้กับฉันเหรอ ยัยหน้าลอย!!
“จ้ะ แล้วนีี่มันเกิดอะไรขึ้น? อธิบายมา” แม่พี่ซันตอบรับคำทักทายของฉัน แล้วหันไปถามพนักงานหน้าลอยคนนั้นที่ยืนหน้าซีดจนลอยมากกว่าเดิมด้วยเสียงเข้ม
แต่ว่า..ตอนนี้ฉันเป็นนางเอกนี่นา..เพราะฉะนั้น..
“เออ..เธอเข้าใจเอิงผิดค่ะ สงสัยพี่ซันมีสาวมาตามราวีทุกวันมั้งคะ ฮ่าๆ” ฉันพูดขำๆออกไป แต่ในใจกลับรู้สึกเหนื่อยใจกับความเจ้าชู้ของเขา คงมีผู้หญิงมาตามราวีเยอะสินะ รวมถึงยัยนี่ด้วย เผลอๆก็เป็นอีกคนในสต็อกของเขา
“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เธอก็ไม่มีสิทธิ์จะทำร้ายลูกค้า...”
“ขอโทษค่ะคุณผิน” ตอนนี้สาวประชาสัมพันธ์ก้มหน้า ทำหน้าให้สำนึกผิดที่สุด
“คุณบุ๋มคะ ทำเรื่องหา รีเซปชันใหม่ด้วยนะคะ” แม่พี่ซันหันไปพูดกับเลขาที่ยืนอยู่ใกล้ๆด้วยเสียงเย็น โดยไม่มองหน้าเธอคนที่กำลังจะโดนเปลี่ยนงานแม้แต่น้อยนิด
“ค่ะ”
แต่ว่า..เมื่อฉันเห็นหน้าของยัยนี่ที่ทำท่าจะร้องไห้แล้ว มันก็รู้สึกสงสารขึ้นมาซะงั้น
“เออ ม๊าคะ จริงๆแค่นี้เธอก็รู้สึกผิดแล้ว ถือว่าครั้งนี้เป็นบทเรียน ให้โอกาสเธออีกครั้งได้มั้ยคะ” ฉัน..ปรับสีหน้าเป็นปกติ ก่อนจะช่วยพูดให้
ถึงเธอจะร้ายก็จริง แต่อันที่จริง ต้นเหตุมันเป็นเพราะเจ้านายของเธอมากกว่า ถ้าไม่เจ้าชู้ ไม่มีคำสั่งลงมาแบบนั้น เธอก็คงไม่เป็นแบบนี้
“ไม่ได้หรอกจ้ะ คำไหนคำนั้น หวังว่าฉันลงมาอีกครั้ง จะไม่เห็นเธอยืนอยู่ตรงนี้แล้วนะ”
อึก.. ช่างเหมือนกันจริงๆ แม่ลูกคู่นี้
และฉันก็คงไม่มี..อำนาจอะไรที่จะช่วยเธอได้แล้วล่ะ..ฉันก็เลยหันไปมองยัยนั่นอีกครั้ง พร้อมกับคิดว่า..ฉันช่วยเธอได้เท่านี้จริงๆ..ขอโทษนะ
แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็เดินก้าวต่อไป ตามแม่พี่ซัน..ในขณะเดียวกันเธอก็เอ่ยปากยิ้มส่งมาให้ฉัน ระหว่างกำลังรอเข้าลิฟต์ไป
“หนูเอิงไม่ต้องบอกตาซันนะว่าเจอม๊าที่นี่ ม๊าจะมาเซอร์ไพรส์ซะหน่อย พอดีม๊าเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศน่ะ”
“อ่อ ได้ค่ะ”
“ตอนแรกจะเช็กว่ามันแอบพาสาวที่ไหนมารึเปล่า แต่พอเห็นหนูเอิงเอย ม๊าก็โล่งใจ” แม่พี่ซันพูดด้วยน้ำเสียงยิ้มแย้ม ต่างจากเมื่อกี้ลิบลับ..ที่ดูน่ากลัว ส่วนฉันที่ได้ยินม๊าพูดแบบนั้น ฉันก็ทำเพียงแค่ยิ้มแห้งๆใส่...
“เออ ค่ะ”
“โชค พาหนูเอิงไปชั้นตาซันหน่อย”
แต่แล้ว..ระหว่างนั้น..แม่พี่ซันหันไปสั่งลุงโชค มือวางอันดับหนึ่งของยามกดลิฟต์ที่บริษัทแห่งนี้ ให้พาฉันขึ้นไป แต่ว่าฉันยังขึ้นไปไม่ได้หรอก..
“เออ หนูต้องรอเพื่อนหนูก่อน พอดีเพื่อนกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ค่ะ”
“อ่าวเหรอ ไม่เป็นไรๆ งั้นถ้าเพื่อนหนูเอิงมาเมื่อไรฝากพาไปหาตาซันด้วยนะ โชค”
\"ครับ คุณผิน”
ตึ๊ง...
\"งั้นม๊าไปก่อนนะ อย่าลืมนะ อย่าบอกตาซันว่าเจอม้าที่นี่\"
\"ได้เลยค่ะ สวัสดีค่ะม๊า\"
จากนั้น ท่านก็เดินก้าวเข้าไปในลิฟต์ อย่างสวยสง่า พร้อมกับส่งยิ้มใจดีมาทางฉัน และฉันก็ส่งยิ้มกลับให้เช่นกัน จนกระทั่งลิฟต์ปิดลง และก็เป็นเวลาพอดีกับที่..แอมแปร์วิ่งร่าเริงมาทางฉันอย่างสดใส ต่างจากตอนก่อนที่จะเข้ามาบริษัทอย่างลิบลับ..
“มาแล้วๆ โล่งสบายมากเลยแกตอนนี้ อ่าา”
“จ้าาา เห็นหน้าก็รู้แล้ว..ย่ะ”
“ฮ่าๆ..เออ ว่าแต่เมื่อกี้นะ ฉันเห็นผู้หญิงใส่ชุดประชาสัมพันธ์เดินร้องไห้สวนกันกับฉันอะ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น”
“สงสัยดูซีรีย์แล้วร้องไห้มั้ง”
“แอบดูซีรีย์ในที่ทำงานเลยเหรอ ไม่กลัวโดนไล่ออกหรือไงกันนะ”
โดนไล่ออกเรียบร้อยแล้วจ้ะ
หลังจากนั้น..ลุงโชค ก็พาฉันและแอมแปร์ไปยังชั้นบนสุด ชั้นที่ทำงานของพี่ซัน ตามที่ได้รับคำสั่งก่อนหน้า แต่ว่า..พอถึงชั้นแล้ว กลับพบว่า..เขาไม่อยู่ในห้อง และพบเฉพาะ เลขาของเขาเท่านั้น..
“สวัสดีครับ ตอนนี้คุณซันประชุมอยู่ อีกสักครู่ก็จะเลิกประชุมแล้ว คุณซันบอกว่าให้รอให้ห้องทำงานได้เลยครับ”
อ้อ..ถึงว่า ก่อนหน้านี้ถึงไม่รับโทรศัพท์สินะ
และฉันกับแอมแปร์ ก็เลยต้องไปนั่งรอในห้องของพี่ซัน มันเป็นห้องที่โล่งโปรงสบาย ค่อนข้างกว้างขวางพอสมควร
ภายในห้อง มีโมเดลเครื่องยนต์ต่างๆ พาหนะทุกชนิดหลากหลายรูปแบบ ทั้ง รถ เครื่องบิน และเรือ มันมีหลากหลายรุ่น ที่ฉันมองจนตาลาย ประดับประดาไว้แทนฝาผนังของห้องแห่งนี้ มันคงเป็นของสะสมของเขาล่ะมั้ง คงเหมือนกับฉันที่ชอบสะสมกระเป๋า
เรานั่งรอกันพักใหญ่ๆ แต่ก็ไม่นานมาก..จนในที่สุด ประตูบานใหญ่ของห้อง ก็เปิดขึ้นมา..พร้อมกับเสียงร่าเริงที่ดูอารมณ์ดีลอยเข้ามาในหูด้วย
\"พี่มาแล้วครับ รอนานมั้ย”