ตอนที่ 25
\"เฮียครับ ผมได้ข้อมูลคนที่โทรไปที่บ้านนาย แล้วก็คนที่โทรบอกคุณนายแล้วครับ“ ผมวางเอกสารที่กำลังอ่านลงพร้อมเงยหน้าขึ้นมาเพื่อรอฟังคำพูดต่อไปของเทิด
“คุณแพรวาครับ”
อืม..แพรวา...งั้นเหรอ..?
ผมพยักหน้าเบาๆและส่งสายตาไปยังประตูห้องเพื่อเป็นสัญญาณว่าให้เทิดออกจากห้องไปก่อน เมื่อมันออกไปแล้ว ผมก็เอนตัวพิงลงหนักเก้าอี้อย่างใช้ความคิดเพียงลำพัง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แพรเข้ามาวุ่นวายกับชีิวิตของผมและผู้หญิงที่ผมยุ่งด้วย ถ้าผมไม่เห็นว่า เธอเป็นน้องสาวที่เราโตมาด้วยกัน ตอนนี้เธอคงไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อแล้วล่ะ
ผมรู้ว่าแพรเป็นคนเอาแต่ใจ เธอทำตัวหวงผมเหมือนหวงของต่างๆ เธอเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ สมบัติทุกชิ้นถ้าเธอชอบ เธอจะไม่แบ่งปันให้ใคร แล้วถ้าเธออยากได้อะไร เธอก็จะคว้ามา แม้ว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม
ผมไม่มองว่านั่นคือนิสัยที่แย่หรอก เพราะถ้าเธอแย่ ผมก็ไม่ต่าง
แต่โดยนิสัยเนื้อแท้ แพรเป็นเด็กน่ารัก สดใส และไม่ได้หวังร้ายกับใครจริงๆหรอก แต่ผมก็คิดกับแพรเกินคำว่าน้องไม่ได้จริงๆ
ผมทำได้เพียงแค่ถอยห่าง รอสักวันที่เธอจะเจอใครสักคนที่รักเธอและเธอก็รักคนนั้น ถ้าถึงวันนั้นจริง ผมก็ยินดียอมให้เธอกลับมาเป็นน้องสาวที่แสนน่ารักของผมอีกครั้ง แต่ว่าระหว่างนี้ ผมคงให้คำๆนี้กับเธอไม่ได้แล้วจริงๆ
และหลังจากนี้ผมคงทำได้แค่ให้ลูกน้องเฝ้าดูเธอเอาไว้ ไม่ให้เธอมายุ่งกับผมอีก พื้นที่ระหว่างแพรกับผม แน่นอน มันคงต้องห่างมากกว่าเดิม และที่สำคัญ ผมจะไม่มีทางให้เธอมาขวางผมได้เป็นครั้งที่ 4!
Preawa’s Talk
“ดังนั้น...คนที่ชนะที่แท้จริง ต้องเป็น..”
\"ผู้หญิงคนนี้ครับ !\"
ใช่แล้วล่ะ คืนนั้น ฉันยืนดูการแข่งกินเบียร์จากบนเวที แล้วเห็นเฮียซันพายัยเอิงเอยขึ้นรถกลับไปด้วย
ฉันขับตามไป จนพบว่าเฮียพามันไปที่คอนโดใครสักคน ก็คงเป็นคอนโดของยัยเอิงนั่นล่ะ เฮียหายเข้าไปกับมันนานพอสมควร ฉันเลยตัดสินใจ โทรไปที่บ้านของเฮียซัน แล้วแจ้งว่า พ่อแม่เฮียรถคว่ำ
ฉันไม่อยากโกหกแบบนี้หรอก เพราะฉันก็เคารพพวกท่านเหมือนญาติคนหนึ่ง แต่ถ้ามันทำให้เฮียไม่ต้องยุ่งกับมัน ฉันยอม
ฉันยืนดูไม่นาน เฮียก็วิ่งลงมา
หึ แกไม่มีทางได้เฮียไปหรอก เอิงเอย
วันที่ไปกินข้าวกับเฮีย ฉันลองแกล้งพูดถึงเอิงเอยในแง่ลบใส่ สีหน้าและปฏิกิริยาของเฮียก็ทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าเฮียเริ่มชอบยัยเอิงเอยเข้าแล้ว
รวมถึงการที่เฮียรีบเช็กบิลทันทีที่โต๊ะยัยนั่นเช็กบิล ทั้งๆที่ฉันเองก็ยังไม่กินไม่เสร็จ แถมยังลุกขึ้นพรวดออกไป เมื่อเห็นว่าเธอออกจากห้องน้ำและกำลังออกจากร้าน..โดยไม่สนใจฉันแม้สักนิดเดียว
..ตอนนั้น ..ฉันเจ็บมาก เจ็บจริงๆ แต่ต้องข่มอารมณ์เสียใจเอาไว้ แล้ววิ่งตามเฮียออกไปดูหน้าร้าน ก็พบว่าเฮียขับรถผ่านฉันไปพอดี และที่สำคัญยัยเอิงก็นั่งข้างๆภายในรถ !
ฉันตัดสินใจรีบขับตามไป จนกระทั่งถึงคอนโดของเฮีย
ฉันเคยขอเฮียไปหาที่คอนโดหลายครั้ง แต่เฮียก็ไม่เคยอนุญาตให้ฉันไปเลยสักครั้ง แล้วยัยนี่มันเป็นใคร ทำไมเฮียถึงพามันเข้าคอนโด! ตั้งแต่ขับรถจนถึงตอนนี้ น้ำตาฉันพาลไหลแล้วไหลอีกไม่มีทีท่าจะหยุด และแน่นอนฉันไม่สามารถขึ้นไปคอนโดเฮียได้ เพราะลูกน้องเขาเต็มไปหมด คงมีแต่แม่ของเฮียเท่านั้นที่จะขัดขวางเรื่องนี้แทนฉันได้ ฉันเลยตัดสินใจอีกครั้ง โทรไปบอกท่านว่าเฮียพาผู้หญิงไปทำไม่ดีไม่ร้าย แล้วฉันก็ได้แต่รอ รอจนกระทั่งพ่อแม่ของเฮียมาถึงและขึ้นไปยังคอนโด
หึ แกไม่มีทางได้เฮียไปหรอก เอิงเอย
และครั้งสุดท้าย ฉันเห็นยัยเอิงเดินเข้าไปที่ห้องทำงานเฮีย
ตามด้วยเฮียที่เดินตามเข้าไปในนั้นด้วยสีหน้าที่ดุพล่าน ฉันเลยตัดสินใจ ไปหาม๊าแล้วชวนไปกินข้าวด้วยกันกับเฮียซันเพื่อไม่ให้สองคนนั่นอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง แต่เมื่ออยู่หน้าห้อง เลขาเฮียโทรเข้าไป เขาก็ไม่รับ รับแล้วก็ตัดสาย สุดท้าย ม๊าเคาะประตูนานสองนาน กว่าจะยอมออกมา ทั้งสถานการณ์และสภาพทั้งคู่ที่เห็น รวมถึงการกระทำของม๊าที่เอ็นดูเอิงเอย ทำให้ฉันรู้ในทันทีว่าฉันอาจจะสูญเสียเฮียไปจริงๆ
แต่..มันต้องไม่มีวันนั้น ผู้หญิงของเฮียต้องเป็นฉันเท่านั้น!
ส่วนผู้ชายของฉันก็ต้องเป็นเฮียเท่านั้น
มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ยังเด็กแล้ว..
ฉันเป็นเด็กกำพร้า แต่แม่ก็รับฉันมาเลี้ยงตั้งแต่ฉันยังจำความไม่ได้ ช่วงที่แม่ยังมีชีวิต เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับฉันมาก แต่จุดเปลี่ยนของชีวิตเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่แม่เสียไปในวัยที่ฉันยังเป็นเด็ก ตั้งแต่วันนั้นพ่อก็เปลี่ยนไป พ่อส่งเฮียพอสไปเรียนต่างประเทศ ทำให้ฉันต้องห่างจากพี่ชายอย่างเฮียพอส ส่วนตัวฉัน พ่อก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญ ไม่สนใจฉันเหมือนเดิม ของต่างๆที่ฉันเคยอยากได้ พ่อก็ไม่ซื้อให้เหมือนเมื่อก่อน
มีครั้งหนึ่ง ฉันวางปราสาทเจ้าหญิงที่เป็นโมเดลที่แม่ซื้อให้ก่อนท่านจะเสียขวางทางเดินในบ้าน พ่อหยิบมันแล้วเขวี้ยงจนมันพังไม่เป็นชิ้นดี ฉันได้แต่นั่งร้องไห้ และเสียใจกับปราสาทที่พังลงไปต่อหน้าต่อตา แต่ระหว่างที่ฉันนั่งร้องไห้อยู่นั้นเอง
\"เธอร้องไห้ทำไม\" ฉันเงยหน้าไปพบกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่ลงมานั่งข้างๆฉันพร้อมทำหน้าสงสัยและถามออกมา
\"ปราสาทมัน..พังแล้ว ฮึก แล้วเจ้าหญิงเจ้าชายจะอยู่ยังไง ฮึก\"
\"ปราสาทพังก็ซ่อมใหม่ได้ ไม่งั้นคงไม่มีอาชีพคนสร้างบ้านหรอก พังได้ก็ซ่อมได้ ไม่ต้องร้องนะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนสร้างบ้านให้เธอเอง\" เด็กผู้ชายคนนั่นลูบหัวฉันไปมาพร้อมกับสายตาให้ฉันเชื่อใจ
แล้วเวลาไม่นาน เขาก็ซ่อมปราสาทกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้จริงๆ
\"เย่ๆๆ ปราสาทกลับมาแล้ว เอ๋..แต่ว่า..ก่อนหน้านี้ มันไม่มีอันนี้นี่นา\" ฉันชี้ไปที่แบบจำลองเครื่องบินที่ติดอยู่ตรงยอดปราสาท แล้วถามออกไปด้วยความสงสัย
\"ของฉันเอง ฉันเพิ่มให้ เจ้าหญิงเจ้าชายจะได้ไปเที่ยวรอบโลกได้ด้วยไง อยู่แต่ในปราสาทเบื่อแย่เลย\" เขาหันมาตอบฉันพร้อมรอยยิ้มที่ฉันไม่มีวันลืม
\"ซัน ป๊าเสร็จแล้ว ป่ะเรากลับกันเถอะ\" ผู้ชายสูงใหญ่ใจดีเรียกเด็กผู้ชายที่นั่งข้างฉันให้ไปหาเขา
\"ครับป๊า\" แล้วเขาก็ลุกไป ทิ้งไว้เพียงปราสาทเจ้าหญิงและรอยยิ้มของเขาที่ฝากไว้ในความทรงจำของฉัน
นั่นคือครั้งแรกที่ฉันได้เจอเฮียซัน รักแรกและรักเดียวของฉัน..
Aengoey’s Talk
“พี่เลิกกับบีน่าแล้วนะ”
วันนี้ฉันชวนพี่พอสออกมากินข้าว ตามที่ฉันเคยได้บอกไว้ จะได้มีความคืบหน้าสักที แต่ว่าทันทีที่อาหารมาเสิร์ฟตรงหน้า พี่พอสก็พูดออกแบบเช่นนั้นทันที..และเมื่อฉันได้ยิน ก็ทำให้ฉันถึงกับตาโตตกใจ..
นี่ฉันไปทำให้คนอื่นเค้าเลิกกันหรือเปล่านะ
“พี่พอสไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้”
“พี่รักเอิงจริงๆไงครับ เรากลับมาคบกันเหมือนเดิมเถอะนะ” แล้วคราวนี้..พี่พอสไม่พูดเปล่า แต่เขายังเอามือมากุมมือฉันที่วางบนโต๊ะด้วย
ส่วนฉัน ก็ดึงมือของฉันออกไป..ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างตามแผน
“เออ..เอิงว่า ขอดูเวลาอีกนิดดีกว่านะคะ พี่พอสต้องพิสูจน์ว่าจริงใจกับเอิงมากกว่านี้”
“จะให้พี่พิสูจน์ยังไงอีก”
“พี่พอสต้องบอกเอิงทุกเรื่อง ห้ามมีความลับต่อกัน”
“ได้เลยครับ เอิงอยากรู้อะไร พี่จะบอกหมด”
“เรื่องนั้นไว้ก่อน เรากินข้าวกันดีกว่าค่ะ”
“เออ ว่าแต่วันก่อนที่เอิงบอกว่าเกลียดไอซัน มันทำไมเหรอ”
แต่แล้ว ขณะที่กินข้าวกันไปครึ่งจาน พี่พอสเอ่ยปากถามออกมา ส่วนฉัน..ก็ได้เวลาเจ้าแม่การแสดงองค์ลงล่ะนะ
“ใช่ค่ะ เอิงเกลียดมัน ครั้งหนึ่งมันเคยทำร้ายร่างกายเพื่อนของเอิง จนเขาอาการสาหัส และสุดท้ายก็ต้องตายไป ทั้งๆที่เพื่อนเอิงแค่เหยียบเท้าแค่นั้นเอง”
ฉันพยายามรือฟื้นวิชาการแสดงที่ฉันเคยเรียนเมื่อตอนมัธยมปลายมาใช้ ให้แนบเนียนที่สุด
แน่นอน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉันแต่งขึ้น ฉันนั่งคิดทั้งคืน ว่าจะโกหกอะไรดีให้ดูเธอเกลียดพี่ซันได้เหมาะสมที่สุด แล้วก็มาจบที่เรื่องนี้ หวังว่าจะแนบเนียน แล้วดูสมจริงนะ
“หึ แน่นอนสิ ก็มันเป็นมาเฟีย”
ฮะ มาเฟีย?
“พี่ซันเป็นมาเฟียเหรอคะ”
“หึ ก็เพราะมันมีอิทธิพลไง ถ้าเราคิดจะจัดการมัน เราต้องวางแผนให้ดี”
“พี่พอสหมายความว่าไง”
“ตอนนี้เราก็มีศัตรูคนเดียวกันไงล่ะ พี่ก็เกลียดมัน มันโกงเงินพ่อพี่ เอาหุ้นส่วนของพ่อพี่ไปหมด แล้วยังไล่ท่านออกจากงานอีก ทั้งๆที่พ่อของพี่ทำงานก่อนที่มันจะเข้ามาซะอีก! เพราะมันคนเดียว ที่ทำให้ครอบครัวพี่ทุกวันนี้....ช่างมันเถอะ” พี่พอสพูดด้วยสีหน้าที่แสดงความโกรธแค้นอย่างเห็นได้ชัด จนฉันสัมผัสได้ แต่เพียงไม่นานพี่พอสก็ปรับสายตาให้กลับมาเป็นปกติ
“แล้ว..พี่พอสจะทำยังไงต่อไปคะ”
“ตอนนี้พี่กำลังวางแผนอยู่”
“ถ้าพี่พอสมีอะไรให้เอิงช่วยได้ บอกเอิงเลยนะคะ” ตอนนี้ฉัน เริ่มมาสงสารพี่พอสขึ้นมา ถ้าเขาทำขนาดนั้น มันก็ไม่แปลกที่พี่พอสจะเอาคืน
จากนั้น ฉันก็เปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากให้เป็นที่สังเกตว่าอยากรู้ข้อมูลของพี่พอสมากเกินไป
อย่างน้อยวันนี้ฉันก็รู้อะไรบางอย่างแล้ว
เขาเป็นมาเฟีย
เขาเป็นคนเลว
เขาเป็นปีศาจ แต่..ฉันก็ยังเลือกช่วยเขา..
Sun’s Talk
ขณะที่ผมลงไปสำรวจความเรียบร้อยของผับตามปกติอยู่นั้น
\"สรุปมึงจะกลับไปกินของเก่าจริงเหรอวะ ไอพอส\"
ผมไม่ได้หันไปตามเสียง เพราะเกรงว่าจะเป็นไอพอสเดียวกันกับที่ผมรู้จัก ผมจึงหันแอบมองจากผนังกระจกที่สะท้อนออกมา ก็พบว่าเป็นไอพอสเดียวกับผมนั่นล่ะ มันนั่งกับพวกเพื่อนของมันประมาน 4-5 คน ผมเลยยืนฟังต่อ เผื่อมันจะหลุดอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่มันจะหักหลังผมและบริษัท
\"เออ กูเบื่อบีน่าแล้ว แม่งงี่เง่าฉิบหาย ตามจิกกูอยู่ได้ ต่างจากเอิงเลย เลิกกับยัยนั่นได้ก็ดี โคตรรำคาญ\"
มันเลิกกับแฟนแล้วหันไปหายัยตัวแสบเหรอ
หึ! ปากก็บอกไม่อยากทำ แต่แค่เวลาไม่กี่วันก็ทำคนอื่นเขาเลิกกันได้แล้ว ไม่ธรรมดาจริงๆ
\"เออ กูก็ว่าน้องเอิงแม่งสวยกว่า แล้วก็น่าจะเด็ดกว่าด้วย ใช่มั้ยมึง\"
\"เออนั่นสิ เล่ามาหน่อย / เออเล่าเรื่องน้องเอิงหน่อย กูอยากรู้ มึงไม่เคยเล่าเลยนะโว้ย.. / เด็ดจริงป่ะวะมึง\"
\"ใจเย็นๆพวกมึง เอิงนะเหรอ..อื้ม...ก็ถือว่าร้อนแรงพอสมควร เอิงแม่งคงติดใจกูถึงได้จะกลับมาหากูอีก เอางี้นะพวกมึง กูได้กินครั้งหน้าเมื่อไร เดี๋ยวกูถ่ายคลิปให้พวกมึงดู\"
\"เห้! มันต้องยังงี้ดิวะเพื่อน” ไอพอสพูดขึ้นมา พร้อมกับเสียงเฮของเพื่อนพวกมัน
ไอ้พวกเหี้ยเอ้ย!!
แม่ง ถึงพวกผมจะเลวยังไง พวกผมก็ไม่เคยเอาเรื่องบนเตียงมาเล่าให้เพื่อนฟังกันจนสนุกปากแบบนี้หรอกนะ
แล้วนี่มันพูดถึงยัยตัวแสบของผมซะด้วย
กูต้องเอาคืนให้ยัยนั่น
\"อ่าว ไอ้พอส บังเอิญจังเลยนะ\" ผมทำทีเดินเข้าไปทักมัน
\"นี่ผับมึง จะเจอกันก็ไม่เห็นจะแปลก\" ไอ้พอสหันมามองหน้าผม พร้อมส่งยิ้มยียวนมาให้
\"อ้อ จริงด้วย ขอบคุณนะที่มึงเอาเงินที่พ่อมึงโกงกูมาใช้จ่ายในผับกู เหมือนเป็นระบบเงินหมุนเวียนเลยว่ามั้ย หึหึ”
ตอนนี้ไอพอสมันหน้าเสีย พร้อมกับเพื่อนๆมันๆมันที่นั่งนิ่งๆมองมาที่มัน
คนขี้อวด หน้าบางอย่างมันคงทนอะไรแบบนี้ไม่ได้ และมันก็ทำให้ตอนนี้..มันเดือดแล้วล่ะ
\"พ่อกูไม่ได้โกง มึงใส่ร้ายพ่อกู\"
\"โกงไม่โกง มึงรู้อยู่แก่ใจ หรือว่าต้องให้ถึงตำรวจก่อนมึงถึงจะรู้ตอนนั้น หึหึ\"
\"มึงต้องการอะไร!!\"
\"ป๊าว แค่อยากมาทักทายเพื่อนร่วมงานเฉยๆ\" ผมยิ้มกวนส่งกลับไป ส่วนมันก็ได้แต่ยืนกำหมัดเอาไว้อย่างโกรธแค้น แต่ทำอะไรผมไมไ่ด้
\"อ้อ ฝากบอกพ่อมึงด้วยนะ อย่าเอาเงินที่โกงไปเล่นพนันจนหมดล่ะ เพราะตอนนี้ได้ยินมาว่าโกงจนต้องขายลูกสาวกิน\"
\"มึง!! อย่ามาลามปามถึงพ่อ ถึงยัยแพรน้องกู!\"
ทีมึงยังเอายัยเอิงเอยมาพูดเสียๆหายๆในกลุ่มเพื่อนได้เลยป่ะวะ!
\"มาบอกแค่นี้ล่ะ ทุกคนก็ระวังกันไว้นะครับ เก็บเงินเอาไว้ดีๆ ระวังไอพอสมันจะขโมยเงินไปเหมือนพ่อของมัน!\"
“มึง!!\" แล้วไอพอสก็ลุกขึ้นง้างมือมาจะต่อยหน้าผม แต่โทษที ผมก็หลบทัน ก่อนที่จะสวนหมัดไปยังใบหน้าของมันแทน
ผลัวะ
ตุ๊บ!!
และก็ทำให้มันลงไปนอนเล่นที่พื้นได้อย่างง่ายดาย
มันกับผม..คนละชั้นกัน..หึ!!
แต่ว่ามันก็ยังไม่จบแค่นี้หรอก เพราะหลังจากมันล้มไปกองกับพื้นแล้ว ผมลงไปกระชากคอเสื้อมันขึ้นมาในทันที..ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างออกไปด้วยความโมโห..
\"เอิงเอยไม่ใช่ของเล่นของใคร โดยเฉพาะมึง จะพูดจะจาอะไรก็หัดให้เกียรติด้วย อย่างน้อยนั่นก็แฟนเก่ามึง!”
หลังผมพูดเบาๆให้ผมและมันได้ยินสองคน ผมก็สะบัดมือปล่อยให้มันลงไปนอนเล่นบนพื้นอีกครั้ง จากนั้นก็ลุกขยับเสื้อของผมให้เข้ารูปเข้าทรงเล็กน้อย พร้อมเดินออกไปจากตรงนี้ แต่แล้วเท้าผมก็ชะงักขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงออกจากปากของมัน
\"หึ มึงชอบเอิงเหรอ”
ชอบยัยนั่นงั้นเหรอ?..
\"คนอย่างกู ไม่ชอบผู้หญิงแบบนั้นหรอก” และผมก็หันไปตอบทันที ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น พร้อมกับคิดว่า..
ไม่มีทาง ผม..ไม่มีทางชอบผู้หญิงคนไหนเด็ดขาด