ตอนที่ 27
Aengoey’s Talk
เนื่องจากห้องน้ำที่ฉันจะเข้าเมื่อกี้ ดันเป็นช่วงเวลาที่แม่บ้านกำลังทำความสะอาดพอดี ฉันเลยต้องยืนรอนานสองนานกว่าจะได้เข้า และก็อย่างที่บอก ฉันต้องเอาชีทเรียนของแอมแปร์ที่ฉันถือติดมาด้วยไปคืนมัน ฉันก็เลยต้องแวะไปหามันที่กำลังสอนพิเศษอยู่ก่อนที่จะได้กลับไปที่คอนโด แต่ความลำบากลำบนไม่ได้มีแค่นั้นน่ะสิ เพราะขากลับรถดันติดจากอุบัติเหตุข้างทางอีก ทำให้ฉันเสียเวลาไปนานพอสมควรกว่าจะกลับถึงคอนโดได้
วันนี้มันวันอะไรไม่รู้ ตั้งแต่นั่งฟังยัยเจนนี่ดราม่าล่ะ โคตรเหนื่อยเลย
ตื๊ด!
ฉันเอาคีย์การ์ดสแกน แล้วเดินเข้าห้อง ฉันก็ถอดรองเท้าอย่างคนหมดแรง ก่อนจะล้มตัวลงบนโซฟาในทันที..
ปั่ก
แต่แล้ว..ทันทีที่ล้ม..ฉันก็สะดุ้งตัวขึ้นโดยพลัน! ก็เพราะว่าโซฟาที่ฉันล้มลงไป มันแข็งราวกับว่า มีคนกำลังนั่งอยู่น่ะสิ!
ฮะ มีคนนั่งอยู่เหรอ
ฉันเลยเงยหน้ามองไปด้วยความเร็ว ก่อนจะเห็นเงาตะคุ่มๆของใครสักคนตรงโซฟาที่ฉันกำลังนั่งอยู่
โจร!
“กรี๊ดดด ไอโจรบ้า แกเข้ามาได้ไง”
แต่แล้ว โจรบ้าที่ว่าก็รวบตัวฉันจากด้านหลังไว้แน่นมาก จนทำให้ฉันกลัวไปหมด ได้แต่นั่งสั่นอยู่อย่างนั้น พร้อมกับคิดว่า..โจรมันจะมีอาวุธหรือเปล่านะ แล้วทำไม มันไม่พูดอะไรเลย เพราะฉะนั้น ฉันเลยกลั้นใจพูดออกมาแทน
“แกจะเอาอะไรเอาไปเลย หยิบไปได้เลย แต่..อย่าทำอะไรฉันเลยนะ”
ฉันรอให้มันพูดอะไรออกมาบ้าง แต่กลับเงียบไม่พูดอะไรสักคำ ฉันเลยตัดสินใจหันไปปะทะหน้า เป็นไงเป็นกัน แต่ยังไม่ทันจะได้มองเห็นอะไร ฉันก็โดนกระชากพร้อมโดนมือแกร่งล๊อคหน้าเอาไว้ แล้วประกบปากทันที
“อ่อยยย” (ปล่อย)
ทันทีที่ได้สัมผัสริมฝีปาก ของคนที่ถูกขนานนามเมื่อครู่ว่าโจร ฉันก็รู้ได้ทันทีว่านั่นไม่ใช่โจร ฉันจำกลิ่นกายและรสสัมผัสนี้ได้ แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ขอดิ้นและขัดขืนสุดชีวิต สุดแรงกำลังที่มี จนผ่านไปสักพัก เขาก็ผละจูบออกแล้วพูดออกมา
“เป็นไงบ้าง รสจูบโจรอย่างฉัน พอๆกับไอเคนมั้ย!”
ทั้งเสียงและสีหน้าในระยะใกล้ แม้จะไม่ได้เปิดไฟ ก็ทำให้ฉันแน่ชัดว่าฉันเข้าใจไม่ผิดคนจริงๆ
พี่ซัน
“นายเข้ามาได้ไง!!”
ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาถามเลยเลือกที่จะไปถามกลับออกไปแทน แต่สิ่งที่ฉันสงสัยก็คือ คอนโดหรู ระบบปลอดภัยดีชั้นเยี่ยม เขาเข้ามาได้ยังไง!!
“ไปไหนมาล่ะ กลับมาสะดึกดื่น”
แต่ว่า..พี่ซันกลับไม่ตอบคำถามฉัน แต่เลือกที่จะถามฉันออกมาด้วยเสียงนิ่งเรียบ แต่ทว่าดูมีความเย้ยหยันในตัว พร้อมโอบเอวล็อกฉันไม่ให้ขยับไปไหนเหมือนเดิม
ส่วนฉัน ก็ปรับอารมณ์ตัวเองให้ปกติ ไม่ฉุนเฉียว ไม่โวยวาย เพราะในสถานการณ์แบบนี้ คนที่เสียเปรียบคงเห็นจะมีฉันแค่คนเดียว จากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายครั้งก็เห็นๆกันอยู่..
เพราะฉะนั้นครั้งนี้ฉันจะมาแนวใหม่..ไม่ขัดขืนเขาแล้ว
“ไปคอนโดพี่เคนมาน่ะ อ่อ แล้วก็แวะเอาชีทเรียนไปให้ยัยแอมแปร์ด้วย วันนี้ฉันโคตรเหนื่อยเลย นายกลับไปก่อนเถอะ ฉันไม่มีอารมณ์เล่นประสาทกับนายหรอก ฉันอยากนอนจะแย่แล้ว”
ฉันพูดไปเรื่อย เพราะตอนนี้ฉันเหนื่อยจริงๆ เพลียมากด้วย อยากนอนจะแย่แล้ว
“หึ! เหนื่อยมากเลยสินะ”
“ก็ใช่น่ะสิ เพราะฉะนั้น ปล่อย ฉัน ได้ แล้ว!” ฉันพูดช้าๆชัดๆ พร้อมพยายามแงะมือที่โอบฉันไว้อยู่ แต่ก็เหมือนที่ผ่านมา แรงของฉันไม่มีผลอะไรกับเขาเลย ฉันจึงหยุดการกระทำของตัวเอง แล้วเปลี่ยนเป็นหายใจเข้าลึกๆ เพื่อควบคุมอารมณ์ตัวเอง ก่อนจะพูดกับเขาอย่างใจเย็นไร้อารมณ์ใดๆทั้งสิ้น
\"ถ้าฉันทำอะไรให้นายไม่พอใจ ฉันขอโทษ เราเลิกแล้วต่อกันเถอะนะ อย่าอาฆาตแค้นกันเลย ต่างคนต่างอยู่กันดีกว่ามั้ย เคยได้ยินมั้ย เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร\"
นึกถึงครั้งล่าสุดที่ทำกับฉันไว้ มันน่ากลัวมาก ฉันกลัวมันจะเกิดขึ้นอีก ต้องคุยให้เขาได้สติๆ แต่ว่าอีกฝ่ายกลับพูดกลับมาเสียงนิ่ง..
\"หึ ฉันก็ไม่ได้โกรธอะไรเธอนี่\"
ไม่โกรธอะไรแล้วมาทำแบบนี้ทำไมวะ! หรือแค่อยากแกล้งฉันสนุกๆ
\"ฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงเท่านั้น นายจะเอาอะไรกับฉันนักหนา เลิกแกล้งกันได้แล้ว แล้วก็ปล่อยฉันสักที\"
แต่ว่าฉัน ก็ยังคงใจเย็นคุยกับเขาเหมือนเดิม แต่ทว่า อีกฝ่ายก็พูดนิ่งๆเช่นเดิม ซึ่งมันขัดกับคำพูดของเขาเอามากๆ
“ไม่ปล่อย และวันนี้...ไม่มีใครช่วยเธอได้แล้วล่ะ หึหึ”
“นะ นายหมายความว่าไง”
ฉันเลยเอ่ยถามตะกุกตะกักออกไป ทั้งที่ในใจฉันรู้ความหมายของมันดี และสายตาของเขาที่มองมาผ่านความมืดนี้ ก็ทำให้ฉันเกิดความกลัวขึ้นมาจับใจ..
“ย อย่าทำอะไรบ้าๆนะ..ถ้านายทำ ฉันจะโกรธ ฉันจะเกลียดให้มากกว่านี้แน่ๆ..”
“หึ..ทีกับคนอื่น ไม่เห็นเธอจะเล่นตัวแบบนี้เลย..หรือว่ามันเป็นแผนที่ทำให้ฉันสนใจเธอ?”
แผนบ้าแผนบออะไรของเขากัน!! และตอนนี้บอกเลย..ไม่ใจยงใจเย็นแล้วโว้ยย
“นายมันบ้าไปแล้ว.. บอกไว้เลยนะ อย่าคิดว่านายมันดีเลิศประเสริฐศรี จนผู้หญิงทุกคนต้องยอมถวายตัวให้..อย่างน้อยก็ฉันคนนึง ที่ไม่มีทางยอมแน่ๆ หึ!!!”
และหลังจากที่ฉันพูดจบ.. เขาก็เปลี่ยนเป็นลุกขึ้นทั้งๆที่โอบกอดฉันไว้ พร้อมเหวี่ยงฉันลงไปที่โซฟา ก่อนจะขึ้นมาคร่อมฉันเอาไว้ทันที!
“ปล่อยฉันนะ ไอชั่ว”
“เดี๋ยวได้คนชั่ว เป็นผัวอีกคนแน่ เอิงเอย หึ”
ทันทีที่เขาประกาศกร้าวออกมาแบบนั้น เขาก็ยันตัวขึ้นมาจากฉันเล็กน้อย พร้อมจับข้อมือของฉันแยกออกจากกันและแนบลงบนโซฟาใหญ่ในทันที
“นายบ้าไปแล้วเหรอ ปล่อยฉันไปนะ ปล่อยสิ ปล่อยสิโว้ยยย”
แต่ว่าก็ยังคง ไร้เสียงตอบรับใดๆจากคนตรงหน้า นอกจากรอยยิ้มเล็กๆมุมปาก จากเงาในความมืดเท่านั้น จากนั้นมือที่แยกออกจากกันก็ถูกรวบด้วยมือใหญ่มือเดียวให้มาอยู่ด้วยกันไว้เหนือศีรษะ ส่วนมือใหญ่อีกข้างก็จัดการแกะกระดุมนักศึกษาออกทีละเม็ด ทีละเม็ด อย่างใจเย็น
ในขณะที่ฉันพยายามดิ้นรนสุดชีวิต แต่ถึงดิ้นให้ตาย กำลังที่มีเหมือนไม่มีผลอะไรกับคนบนตัวฉันตอนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ให้ตายเถอะ
\"ขอร้องล่ะ วันนี้ฉันเหนื่อยจริงๆ อย่าแกล้งกันอีกเลยนะ” ฉันพูดเสียงเบาเชิงอ้อนวอนขอความเห็นใจอีกฝั่งไปแทน แต่เหมือนคำพูดนั่นกลับกลายเป็นอาวุธร้ายแรงที่กลับมาทำร้ายตัวฉันเองสะมากกว่า
“เหนื่อยเหรอ? ไม่เป็นไร อยู่เฉยๆ เดี๋ยวกูทำเอง!” รอยยิ้มมุมปากก่อนหน้าหายไปทันพลัน แต่กลับกลายเป็นสายตาวาวโรจน์ที่ดุร้ายมาแทนที่
มือที่ค่อยๆบรรจงปลดกระดุมออก บัดนี้ก็ถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นกระชากเสื้อนักศึกษาจนขาดวิ่น พร้อมกับกระดุมที่หลุดทุกเม็ดในรวดเดียว
แคว่ก!!!!!
กระดุมที่หลุด และเศษผ้าที่ขาด บาดกับผิวขาวจนเกิดความเจ็บเข้ามาแทนที่
“ฉันเจ็บนะ นายไม่มีส..”
ยังไม่ทันที่ปากเล็กจะเอ่ยคำพูดให้จบประโยค ปากหนาที่มีอำนาจควบคุมคนใต้ร่างและเอาแต่ใจก็พุ่งมาประกบปากเล็กด้วยความรวดเร็วและร้อนแรง ฉันเม้มปากปิดสนิทไม่ให้เขาได้รุกล้ำเข้าไปข้างในได้ นั่นเลยทำให้เขากัดปากฉันจนรับรู้ถึงกลิ่นคาวเลือด ฉันร้องอ้าปากอออกมาเพราะความเจ็บและตกใจในการกระทำอันป่าเถื่อนของเขา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่ลิ้นร้ายเข้ามาในโพรงปากนุ่มนั่นทันทีเช่นกัน พร้อมกับมือว่างอีกมือที่ไล่เค้นนวดหน้าอกของฉันไปด้วยความหยาบโลน
“อื้อออ อ่อยย”
ฉันยังคงพยายามดิ้นต่อไป แม้จะรู้ว่าไม่มีประโยชน์ก็ตามที
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไร มันอาจจะผ่านไปไม่กี่วินาที หรืออาจจะผ่านไปหลายนาทีก็ไม่อาจจะทราบได้ เพราะในเวลานี้ ทุกอย่างเหมือนถูกหยุดเวลาไว้ สัมผัสวาบหวิวที่ได้รับจากเขา ไม่ว่าจะจากทางปากหรือมือร้ายนั่น ทำให้สติและลมหายใจของฉันเหมือนไร้การควบคุมไปในทันที รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เขาถอนจูบออกมาแล้ว
“แฮ่กๆ เป็นบ้าหรือไง มีสติหน่อยสิ!”
เขามองหน้าฉันอย่างไม่สนใจในเสียงนกเสียงกาที่เอื้อนเอ่ยออกจากปากฉันแม้แต่น้อย ก่อนจะก้มลงมาจูบดูดวิญญาณฉันอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง เขาทำอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ จนพอใจ
ไม่นานพี่ซันค่อยๆ ลากลิ้นร้อนที่แสนร้ายกาจลงไปตามซอกคอ แอ่งชีพจรที่เต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาให้ได้ และเนินหน้าอกทรงสวย จนร่างกายเกิดความวาบหวิวร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง
ระหว่างที่เขากำลังพรมระดมจูบอยู่นั้น เขาก็เอื้อมมือไปปลดบราเซียของฉันให้หลุดพันธนาการออกจากกัน ก่อนจะถอดมันออกไปจากร่างกายของฉันด้วยความรวดเร็ว ทำให้ตอนนี้มีเพียงแค่แพนตี้สีดำตัวน้อยและกระโปรงทรงเอที่ร่นมากองที่เอวเท่านั้นที่ประดับอยู่บนร่างกายของฉัน แต่ยังดีที่ห้องนี้อยู่ในความมืดไร้แสงไฟ อาจจะส่งผลทำให้เขาเห็นไม่ชัดเจน ไม่ว่าจะเรือนร่างหรือใบหน้าที่เห่อร้อนจนแดงเกือบสุกของฉัน
ริมฝีปากหนาค่อยๆลากจากเนินอกมาเป็นโลมเลียปลายยอดสีชมพูหวานแทน นอกจากฝ่ามือที่ร้ายกาจที่ค่อยๆลูบไล่ตัวฉัน ก็ยังมีปากของเขาที่ขบกัดโลมเลียอย่างตะกระตะกราม
“แผล๊บๆ ซู้ดด”
ปากร้ายกำลังขบเม้มหน้าอกอย่างเมามัน รวมถึงฝ่ามือร้อนที่กำลังบีบเค้น ร่วมใจกันสามัคคีสร้างความเสียวซ่านให้กับร่างกายของฉัน จนสติของฉันเหมือนจะล่องลอยหายไปไกลแสนไกล
ไม่นะ ฉันต้องไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับเขา
แต่แล้วอยู่ๆคนบนร่างก็หยุดการกระทำนั้นลงไป แล้วก็เปลี่ยนเป็นเอาตัวฉันที่เริ่มไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาพาดไว้บนบ่า ก่อนจะเดินจ้ำก้าวเร็วๆไปยังสวิตช์ไฟ
“มืดๆ เอาไม่มันส์เท่าไร”
หลังเพิ่มความสว่างให้ห้องนี้ พี่ซันพาฉันไปวางตรงโซฟาเช่นเดิม ก่อนจะกระทำการจาบจ้วงอย่างต่อเนื่องเหมือนก่อนหน้านี้
“อื้ออ ยะ หยุดดดนะ” ฉันรวบรวมกำลังที่มีทั้งหมด เอ่ยปากออกไป
เขาทำเพียงเงยหน้าขึ้นมา แล้วใช้มือเอื้อมไปถลกกระโปรงทรงเอของฉันให้ขึ้นไปกองกันที่เอวอีกครั้ง ก่อนจะใช้ฝ่ามือร้อนล้วงเข้าไปภายใต้แพนตี้น้อยของฉันจนไปหยุดอยู่ตรงจุดกลางกายด้วยความรวดเร็ว จนฉันสะดุ้งตกใจกับการกระทำนั่นในทันที
แค่เขาจับส่วนหน้าอกฉันยังตกใจ แต่นี่เขา..กำลังจับส่วนล่างจุดสงวนของฉัน มันทำให้ฉันทั้งตกใจปนเขินอายปนโมโหปนอารมณ์อีกหลากหลายอย่างที่พุ่งเข้ามาพร้อมเพรียงกันอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทันเหมือนกับมือร้ายนั่นไม่มีผิด
ฉันคาดการณ์อนาคตในไม่ช้าได้ไม่ยาก ความหวังที่จะรอด จะบอกว่า 1% ยังน้อยไปเลยในเวลานี้ แต่ถึงจะความหวังน้อยเพียงใด ฉันก็ขอสู้สุดใจ เหมือนกับที่ผ่านมา ฉันยังรอดมาได้..
\"ขอร้อง ยะ อย่า อ้ะ” ฉันพูดขอร้องและพยายามปัดป่ายด้วยแรงที่มีเช่นเดิม แต่ผลที่ออกมาก็เหมือนเดิม คำพูดของฉันไม่ส่งผลต่อการกระทำของเขาแม้แต่น้อย แถมมือหนานั่นก็เปลี่ยนเป็นใช้นิ้วกรีดกรายลูบขึ้นลงไปมาตรงรอยแยกสวาทแทน จนฉันอดที่จะเด้งตัวสู้มือเขาและร้องเสียงหลงออกมาไม่ได้
“ให้หยุดจริงเหรอ แฉะขนาดนี้แล้ว” พี่ซันพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ คำพูดนี้ทำเอาฉันอายแทบจะแทรกแผ่นดินหนี แต่ก็ทำไงได้ อย่าว่าแค่หลบไปไหนเลย แค่ต้องไม่ปะทะสายตาเจ้าเล่ห์ตรงหน้ายังทำได้ยากลำบาก นอกจากจะปิดตาเท่านั้น แต่ตอนนี้ฉันต้องสบตาสู้กับเขาก่อน เพราะฉันบอกแล้วยังไงฉันก็จะสู้จนวินาทีสุดท้าย
มือร้อนยังคงอยู่ที่เดิม และยังกระทำแบบเดิมอย่างต่อเนื่อง เริ่มแรกก็เพียงแค่ถูไถจุดไวต่อความรู้สึกอย่างอ่อนโยน ช้าๆไปมา จนฉันเสียวซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย แต่แล้วอยู่ๆความช้าเนิบนาบนั้น ก็ถูกเปลี่ยนเป็นความเร็วมาแทนที่ มันทั้งเร็วและแรง จนฉันต้องจิกแขนของคนตรงหน้าพร้อมกับสั่นไปตามแรงแขนร้ายนั่น พร้อมกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่ฉันไม่มีทางลืมได้ลง
“อื้ออออออ” ฉันอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงที่น่าเกลียดนี้ ตอนนี้ฉันรู้สึกร่างกายไร้เรี่ยวแรง สติที่มีก็เหมือนจะเลือนหายไปทุกที แล้วไม่นานฉันก็รู้สึกได้ว่ามีน้ำเหนียวไหลทะลักออกมาจากตัวของฉัน พร้อมแรงกระตุกของร่างกายที่ฉันไม่สามารถห้ามมันได้ รวมถึงภาพขาวโพลนในสมอง
ฉันได้แต่นอนหายใจกระเพื่อมอยู่บนโซฟาเหมือนคนใกล้ตาย
“เสร็จแล้วสินะ”
พี่ซันปล่อยมือของฉันที่กดไว้เหนือหัวเป็นอิสระ แล้วเปลี่ยนไปหยิบกระเป๋าตังเพื่อหยิบอะไรบางอย่างออกมาแทน ส่วนฉันก็พยายามปรือตาหันไปมองกับสิ่งที่เขากำลังทำ แต่เมื่อฉันเห็นสิ่งที่เขาหยิบออกมา มันทำให้ฉันตาโตออกมาทันที
...ถุงยาง
“ฉันไม่เสี่ยงติดโรคจากคนอย่างเธอหรอกนะ” พี่ซันพูดขึ้นมาพร้อมมองเหยียดมาที่ฉัน เมื่อเห็นฉันเอาแต่มองถุงยางของเขาอย่างไม่กะพริบตา
คนที่พูดประโยคนี้ควรเป็นฉันรึเปล่าวะ!!!