นำเรื่อง   1/    
已经是第一章了
นำเรื่อง
“ชูมือแล้วโยกไป โย่ โย่ ยาวไป เย้ เย้ เฮ้ สาวชุดแดงร่อนหน่อยเร็ว” เสียงดีเจสลับกับเสียงเพลงดังสนั่นลั่นผับหยอกล้อแซวสาวชุดแดงสายเดี่ยวเอวลอยกางเกงรัดรูปเข้ากับทรวดทรงรูปร่างดึงดูดผมสั้นสีทองนั่งโยกตัวชูมือยิ้มยั่วดีเจบนเวที ปึก! น้ำหนักการวางพวงกุญแจรถกระแทกลงโต๊ะแก้วอย่างแรงจนหญิงสาวผมทองลดมือลงเท้าคางมองหญิงสาวผมยาวสีแดงถึงกลางหลังมัดจุกเปิดหน้าผากสวมเสื้อยืดตัวใหญ่สีขาวกับเกงขาสั้นในชุดลำลอง “สนุกหน่อยสิ” เสียงตะโกนจากหญิงผมสั้นเท้าคางมองหน้าเพื่อนสาวที่ก้าวขานั่งเก้าอี้ “พรุ่งนี้แกมีงานเช้าไม่ใช่หรือไง ออกมาปาร์ตี้แบบนี้ตื่นไหวหรอ” เสียงตอบกลับฟังดูเหนื่อยๆเบื่อๆพร้อมสายตาขุ่นเคืองจ้องเขม็งเพื่อนสาว “ไหวสิแกเป็นผู้จัดการฉันนี่ แกลากฉันไปได้อยู่แล้ว” “เหมือนที่แกโทรให้ฉันมาเนี้ยนะ ไอ้ขันเล่นเพลงอะไรบอกมันเลิกเป็นดีเจเหอะ จะหลับ” ยังคงบ่นพาลไปเรื่อยเงยหน้ามองดีเจบนเวทีที่โบกมือส่งจูบทักทาย รอยยิ้มแสยะผุดขึ้นส่งกลับพร้อมชูนิ้วกลางทักทายทำสาวผมสั้นที่นั่งอยู่ตรงข้ามหัวเราะชอบใจยกมือเรียกเด็กเสิร์ฟสั่งเครื่องดื่มเพิ่ม “ข้าว” หญิงผมสั้นหันมาเรียกเพื่อนสนิทตรงหน้าที่หันกลับเลิกคิ้วมอง “เราไปเที่ยวทะเลกันบ้างไหม” “ดูเหมือนฉันให้งานแกน้อยไปใช่ไหม” ข้าว หญิงสาวผมยาวเจ้าของผมสีแดงสดวางมือลงบนโต๊ะ “โห แกก็ ฉันเห็นแกเครียดเลยพาไปผ่อนคลาย แกหนีการแต่งงานอยู่ไม่ใช่หรือไง ฉันกับขันโตกเลื่อนงานเรียบร้อยแล้ว ว่าจะพาแกไปทะเลให้สบายใจสักหน่อย พักงานบ้างเงินทองท่วมหัวแล้วเนี้ย” มุนินสาวผมสั้นตอบกลับพร้อมยกเหตุผลต่างๆนานามายุแยง “ผ่านเบญจเพศมาแล้วยังต้องมาเจออะไรแย่ๆอีก เออก็ได้ ที่ไหน” ข้าวมองหน้ามุนินเพื่อนสาวที่ตนต้องดูแลเป็นผู้จัดส่วนตัวรับงานให้ “มัลดีฟส์” “ได้ ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ข้าวลงจากเก้าอี้หยิบพวงกุญแจเดินเลี่ยงฝ่าฝูงชนที่กำลังเต้นจับคู่กัน เธอเดินเข้ามาเปิดก๊อกล้างหน้าในห้องน้ำที่ไร้ผู้คนก้มหน้าก้มตาล้างน้ำให้คลายความง่วงก่อนขมวดคิ้วหลับตาหยุดชะงักเมื่อภาพหญิงสาวนุ่งจูงกระเบนก้าวขาขึ้นบันไดเรือนไม้ ปัง! เสียงประตูปิดอย่างแรงเรียกสติข้าวกลับมาลืมตามองตัวเองในกระจกหน้าอ่างล้างมือ ดวงตากลมโตกะพริบตาถี่มองประตูห้องส้วมปิดก่อนเหลือบมองผู้หญิงเดินเข้ามาหลายคนเธอจึงรีบละตัวออกจากอ่างเดินออกจากห้องน้ำ สายตากวาดมองรอบผับบวกกับเสียงดนตรีกลบเสียงคน บรรยากาศทำข้าวผ่อนลมหายใจยาวเดินเลี่ยงออกจากผับมาที่รถเก๋งสีขาวเปิดประตูขึ้นรถหยิบมือถือส่งข้อความหาเพื่อนที่อยู่ด้านในก่อนปิดประตูรถขับออกไป ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงรถเก๋งขับเข้ามาจอดอยู่ที่ลานจอดรถในคอนโดย่านกลางเมือง ข้าวดับเครื่องถือกุญแจลงจากรถปิดประตูล็อกรถแล้วเดินเข้าลิฟต์ไปชั้นสามสิบเมื่อลิฟต์เปิด ขาสองข้างก้าวออกตรงดิ่งไปที่ห้องสามศูนย์ศูนย์สองไขกุญแจเข้าห้องแล้วปิดประตูเดินผ่านห้องน้ำทิ้งตัวลงบนโซฟากลางห้องโถงเงยหน้ามองเพดานก่อนหลับตานิ่งอย่างผ่อนคลาย ใบไม้พลิ้วไหวร่วงหล่นตามสายลมพื้นหญ้าเขียวขจีถูกเหยียบย้ำทุกจังหวะการก้าวเดิน ดวงตากลมโตกวาดสายตามองเรือนไม้ทรงไทยเรือนใหญ่ที่สวยสะดุดตา นิ้วมือเรียวยาวขาวผ่องสะอาดตาเอื้อมจับราวบันไดพร้อมก้าวขาขึ้นทีละก้าวจนถึงเชิงบันไดมองโอ่งเล็กวางให้ล้างเท้าก่อนขึ้นเรือน เจ้าของดวงตากลมโตเลื่อนสายตาละออกก้าวขึ้นบันไดที่สะอาดเอี่ยมจนถึงประตูที่เปิดรอรับ ข้าว!!! เสียงเรียกดังก้องอยู่ในหัวทำให้สายตากลมโตกวาดมองรอบอย่างสนใจก่อนเหลือบเห็นแผ่นหลังผุดผ่องสะอาดตาน่ามองสวมสไบนุ่งจูงกระเบนผมทรงดอกกระทุ่มนั่งหันหลังอยู่บนแท่นที่นั่ง ขาสองข้างก้าวเข้าไปใกล้คนตรงหน้า ข้าว!!! ไอ้ข้าว!! ปึก!!! ทั้งเสียงเรียกและเสียงบางอย่างกระทบโต๊ะอย่างดังทำคนนอนอยู่บนโซฟาสะดุ้งตื่นเด้งตัวเช็ดเหงื่อมองมือหนานาบลงบนโต๊ะหลังจากตบด้วยแรงของความเป็นชายขมวดคิ้วจ้องหน้าข้าวที่ยกมือจับต้นคอนั่งนิ่ง “เป็นอะไรของแกเนี้ย กินยานอนหลับหรือไง เรียกตั้งนานก็ไม่ตื่น” ขันโตก ดีเจหนุ่มที่ก่อนหน้าอยู่ในผับแต่ตอนนี้กลับมาอยู่ตรงหน้าข้าวที่เลื่อนสายตามองมุนินลากกระเป๋าเสื้อผ้าออกมาจากห้องนอน “เสร็จแล้ว ไปยังของแกอยู่ในนี้หมดแล้วข้าว ทั้งของแกและของฉัน แล้วแกอะขัน” มุนินเลิกคิ้วลากกระเป๋าไว้หน้าห้องเดินย้อนกลับมาเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำดื่มแล้วเดินมานั่งข้างข้าวที่ยกมือจับหน้าผาก “อาการมันไหวป่ะเนี้ย” ขันโตกยังอยู่ในชุดเดิมพิงโซฟาเดี่ยวมองข้าว “บอกให้ไปหาหมอหลายครั้งแล้ว ฉันถึงให้มันมาอยู่กับฉันไง ต้องคอยเรียกตลอดบางทีก็ไม่หายใจฉันนี่เกือบช็อคหลายรอบ” มุนินเหล่มองข้าวพร้อมตอบคนถาม “ฉันโอเค ล้างหน้าก่อนแล้วกัน พวกแกก็ตื่นตูมไปได้” ข้าวลุกขึ้นเดินอ้อมเข้าห้องน้ำหมุนก๊อกน้ำก้มลงล้างน้ำก่อนเงยหน้ามองตัวเองในกระจก “เฮ้อ ฝันซ้ำซ้อนอะไรนักหนา เดี๋ยวปลูกบ้านทรงไทยซะเลยดีมั้ง” “ก่อนไปแวะตรวจร่างกายก่อนไหม อาการแกทำฉันเป็นห่วง แกรู้ตัวไหม” ขันโตกเดินมายืนกอดอกพิงขอบประตูห้องน้ำเอียงหน้ามองข้าวสีหน้าจริงจัง “ไม่ได้ผลหรอก ฉันลากมันไปหลายรอบแล้วหมอจะโดนด่ามากกว่า ไปเหอะเดี๋ยวตกเครื่อง” มุนินยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กให้ข้าวเช็ดหน้าก่อนตบไหล่ขันโตกเดินลากกระเป๋าออกไป ข้าวเดินผ่านขันโตกไปหยิบกุญแจแล้วลากตัวขันโตกออกจากห้องพร้อมปิดประตูสนิท ตูมมม!! น้ำทะเลสีฟ้าครามใสจนเห็นเบื้องล่างกระเซ็นตามแรงกระโดดของชายหนุ่มร่างกำยำพร้อมเสียงหัวเราะชอบใจของหญิงสาวผมสั้นสีทองสวมบิกินี่สุดวาบหวิวนอนอาบแดดอยู่บนแผ่นพลาสติกลอยน้ำ ข้าวเดินมองเพื่อนสองคนอยู่บนสะพานไม้ด้วยรอยยิ้มก่อนเดินไปจนสุดทางในชุดวันพีชกระโปรงกวาดสายตามองท้องฟ้าที่เริ่มอึมครึมแม้สายลมจะพัดผ่านไม่ได้ทำให้บรรยากาศคลายร้อนแม้แต่นิด “ข้าว!” เสียงเรียกอยู่ด้านล่างทำให้เจ้าของชื่อก้มลงไปมองหน้าคนที่ว่ายน้ำอยู่ “แกเรียกชื่อฉันหรือแกหิว เรียกอยู่นั่นแหละ” ข้าวเท้าเอวจ้องหน้าขันโตกที่กระตุกยิ้มชอบใจ “เช่าเรือไปดำน้ำกัน” “แกเห็นฉันเป็นปลานีโมหรือไง แกก็รู้ว่าฉันว่ายน้ำไม่เป็น อีกอย่างพ่อแกรออยู่บนหัวนู้น ออกกลางทะเลเคยตายไหม ไอ้ดีเจไข่ห่านนี่งี่เง่าจริงๆเลย” ร่ายยาวจนคนที่ลอยน้ำอยู่ต้องยกมือปิดหู “โห ชวนนิดเดียวเหมือนโดนด่าจนบ้านพัง งั้นมาเล่นตรงนี้ตื้นเห็นไหม ขาฉันยืนถึง” ขันโตกเปลี่ยนเรื่องมองน้ำใสเห็นเท้าตนเอง “ไอ้ขัน” “อะไรอีกเล่าแม่คุณ” “ตัวแกกับตัวฉันเท่ากันหรือไง นี่ก็ลึกเท่าคอแกละถ้าฉันลงไปมิดหัวพอดี พูดแต่ละอย่างเจริญหูจริงๆไปหาอะไรกินดีกว่า” ข้าวยกนิ้วกลางชี้หน้าขันโตกแล้วหมุนตัวกลับ “ไปด้วย” เสียงขันโตกตะโกนบอกก่อนว่ายน้ำกลับ ข้าวเหล่มองแล้วฉีกยิ้มส่ายหน้าไปมา โพละ! ซู่!!! ดวงตาเบิกกว้างเมื่อสะพานไม้ที่ตนเหยียบอยู่แตกออกจากกันจนขาขวาหลุดร่วงบวกกับฝนฟ้าคะนองห่าใหญ่ราวกับพายุโหยหวนเสียงอื้ออึงอยู่ในหูเธอพยายามยกขาข้างที่ตกขึ้นก่อนสะพานจะลั่นแตกรอบตัว อั่ก ! ตูมมมม ร่างบางร่วงลงน้ำพยายามตะเกี่ยตะก่ายช่วยตัวเองให้พ้นโผล่จากน้ำแต่ยิ่งดิ้นรนมากเท่าใดความอ่อนแรงครอบงำมากเท่านั้นสีน้ำเริ่มขุ่นจนแสบตาจมดิ่งลงช้าๆ
已经是最新一章了
加载中