ตอนที่ 11 ไปตามนัด ช่วยชีวิตคน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 11 ไปตามนัด ช่วยชีวิตคน
ตอนที่ 11 ไปตามนัด ช่วยชีวิตคน มู่จิ่งเหยียนเพิ่งจะเข้าประตูมหาวิทยาลัยมา ระหว่างทางได้ถูกขวางไว้โดยร่างที่สูงเพรียว เธอเงยหน้าขึ้น มองไปยังใบหน้าที่กำลังโกรธของส้งเสี้ยนด้วยสายตาเย็นชา ซึ่งเขาก็กำลังมองเธออย่างเย็นชาเช่นกัน เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น “เธอบอกมา เธอกับผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกัน เธอถูกเขาเลี้ยงดูแล้วจริงเหรอ” ส้งเสี้ยนถามออกไปด้วยความไม่พอใจ มู่จิ่งเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปยังผู้ชายตรงหน้าที่กำลังโกรธ สายตาของเธอแสดงออกถึงความหงุดหงิด พร้อมพูดไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันจะถูกใครเลี้ยงแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย หลีกไป!” “ฉันไม่ไป มู่จิ่งเหยียน เธอบอกฉันมา เธอกับผู้ชายคนนั้นตกลงเป็นอะไรกันแน่ รู้มั้ยข่าวลือเรื่องที่เธอมีเสี่ยเลี้ยง คนเขารู้กันทั้งโรงเรียนแล้ว เธอยังไม่รู้สึกละอายใจบ้างเหรอ” สีหน้าและการแสดงออกของส้งเสี้ยน เริ่มหงุดหงิดมากขึ้น จ้องมองไปยังมู่จิ่งเหยียนด้วยความเยือกเย็น “รู้ก็รู้ไปสิ นายไปซะเถอะ นายไม่ต้องมากังวลใจเรื่องของฉันหรอก!” มู่จิ่งเหยียนเริ่มจะหมดความอดทน และเริ่มเกลียดส้งเสี้ยนมากขึ้น “มู่จิ่งเหยียน นี่เธอยังมียางอายอยู่รึเปล่า ให้เขาเลี้ยงดูแล้วยังจะกล้าที่จะพูดเต็มปากเต็มคำ” ส้งเสี้ยนตะคอกใส่ มู่จิ่งเหยียนหัวเราะอย่างเย้ยหยัน จ้องมองส้งเสี้ยนที่กำลังโกรธด้วยความเย็นชา แล้วพูดไปอย่างเยาะเย้ย โดยไม่สนใจคำดูถูกเหล่านั้น “ส้งเสี้ยน นายคิดว่านายเป็นใคร มีสิทธิอะไรมาจุ้นจ้านเรื่องของฉัน” “ฉัน.......” เมื่อถูกมู่จิ่งเหยียนมองด้วยสายตาเยาะเย้ยและเย็นชา ส้งเสี้ยนก็พูดอะไรไม่ออก ความโกรธบนใบหน้าเขาก็ได้เบาบางลง คิ้วที่ขมวดก็ค่อยๆคลายออก “จิ่งเหยียน ฉันรู้ว่าฉันไม่มีอะไรดีสักอย่าง แต่ฉันจริงใจกับเธอจริงๆ ฉันไม่สามารถเห็นเธอหลงผิดได้ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้งนะ ฉันสาบานว่าจะดูแลเธออย่างดี” พูดแล้ว ส้งเสี้ยนก็ยื่นมือออกไปเพื่อจะกอดมู่จิ่งเหยียน มู่จิ่งเหยียนมองไปยังมือคู่นั้นที่กำลังเอื้อมมา แววตาเธอได้เปลี่ยนเป็นความเย็นชา แล้วเอนตัวหลบไปด้านหลังเล็กน้อย เพื่อหลบหลีกการแตะต้อง ของส้งเสี้ยนอย่างเยือกเย็น การแสดงออกของเธอแบบนั้น ทำให้ส้งเสี้ยนโกรธมาก จนแสดงความรู้สึกหวาดกลัวและวิตกกังวลออกมาทางดวงตา “มู่จิ่งเหยียน เธออย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน วันหนึ่งฉันจะทำให้เธอต้องขอร้องให้ฉันกลับมาหาเธอ” ส้งเสี้ยนตะโกนร้องออกไปอย่างเย็นชา แล้วหันหน้าหนีอย่างรวดเร็ว มู่จิ่งเหยียนไม่ได้มองส้งเสี้ยน ที่กำลังเดินจากไป เธอเดินไปยังอาคารหอพัก ระหว่างทางทุกคนต่างจ้องมองเธอ แต่เธอก็ยังคงเฉยเมยต่อสายตาเหล่านั้น กลับถึงหอพัก เธอไม่เห็นเงาร่างของเชี่ยนเชี่ยน ก็คิดว่าคงออกไปเที่ยวข้างนอก และโทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้น ขณะที่หยิบโทรศัพท์ออกมา พบว่าเป็นเบอร์ของคนแปลกหน้า เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดว่าเป็นเบอร์ของผู้ชายคนนั้นอีก ขณะที่กำลังจะตัดสายทิ้ง เธอก็ได้ยินเสียงตะโกนด่าทุบตี กรีดร้องดังมาจากปลายสาย “ใคร” มู่จิ่งเหยียนถามไปยังปลายสายอย่างเย็นชา แต่สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและหวาดกลัว เธอคุ้นเสียงกรีดร้องนั้นมากๆ พึมพำว่า ต้องเป็นเชี่ยนเชี่ยน เชี่ยนเชี่ยนอาจจะกำลังถูกทำร้ายอยู่รึเปล่า “เฮ้ย มู่จิ่งเหยียน รีบมาที่ภูเขาข้างมหาวิทยาลัย หากเธอกล้าที่จะไม่มา ฉันจะฆ่าเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยนแน่!” โทรศัพท์ที่โทรเข้ามานั้น เป็นเสียงผู้ชายที่แปลกหน้าและดูโหดเหี้ยม มู่จิ่งเหยียนขมวดคิ้ว พร้อมพูดอย่างเย็นชา “ฉันไปก็ได้ แต่แกห้ามทำอะไรเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยนนะ ถ้าแตะต้องเธอแม้แต่ปลายเส้นขน ฉันจะเอาคืนแกสิบเท่า!” “วะฮ่าๆ มู่จิ่งเหยียน แกมันโง่หรือบ้ากันแน่ แกคิดว่าแกมีสิทธิอะไรมาต่อรองเงื่อนไขกับฉันแบบนี้ สิ่งที่แกควรทำคือ มาหาฉันเดี๋ยวนี้” เสียงผู้ชายโหดเหี้ยมคนนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ข้างๆตัวเขามีเสียงของผู้ชายหลายคนตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำสกปรก “เหยียนเหยียน อย่ามานะ ฉันไม่เป็นอะไร อ๊ะ ตายซะเถอะ ถ้าพวกแกแน่ก็ฆ่าฉันสิ” เสียงของเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยนสวนมาทันที ฟังเสียงนั้นแล้วมันกระทบก้นบึ้งหัวใจของมู่จิ่งเหยียน ใบหน้าเปลี่ยนเป็นความเลือดเย็นอำมหิต แววตาแสดงออกถึงความอาฆาต ได้ ในเมื่อกล้าจะแตะต้องเพื่อนของเธอ เธอก็จะต้องรู้ให้ได้ว่าใครกันที่กล้าทำเรื่องแบบนี้ เมื่อวางสายโทรศัพท์ในมือแล้ว มู่จิ่งเหยียนได้ออกจากหอพัก เดินออกจากมหาวิทยาลัยมุ่งไปทางภูเขา เมื่อมองจากระยะไกล เธอมองเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังลากเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยนอยู่บนพื้น ทั้งเตะทั้งต่อย มู่จิ่งเหยียนเห็นแบบนั้น สายตาอันเยือกเย็นได้แตกสลายในทันที กลายเป็นสายตาแห่งความเกลียดชังและอาฆาต เมื่อได้เห็นว่ามู่จิ่งเหยียนได้มาจริงๆแล้ว ชายที่เป็นหัวโจกมองเธอและพูดด้วยความเหยียดหยาม “ไม่นึกเลย แกจะกล้ามาจริงๆ และแกก็ไม่กลัวว่าจะต้องเอาชีวิตตัวเองมาทิ้งไว้ที่นี่” “ฉันมาแล้ว ตอนนี้พวกแกก็ปล่อยเขาได้แล้ว!” นัยน์ตาที่ดูเย็นชานั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจ เมื่อได้เห็นเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยนกำลังพยายามม้วนตัวขึ้นมาจากพื้นดิน เธอรู้สึกผิดอยู่มาก เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้ต้องการจะจัดการกับเธอ แต่กลับทำให้เชี่ยนเชี่ยนต้องมารับได้รับความไม่เป็นธรรม “เหยียนเหยียน เธอไม่ควรมาที่นี่!” เสียงที่อ่อนล้าของเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยนสวนขึ้นมา ดวงตาสีแดงก่ำและรอยบวมแดงเริ่มปรากฏบนใบหน้าที่ถูกทุบตี หลังจากจ้องมองมาที่มู่จิ่งเหยียนดวงตาของเธอก็ปิดลงและสลบไป “พวกแกกล้าทำร้ายเธอจนอยู่ในสภาพนี้ ใครเป็นคนลงมือ ออกมา!” เมื่อได้เห็นอาการบาดเจ็บของเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยน เธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและกระอักกระอ่วนใจ ความโกรธแค้นของมู่จิ่งเหยียน รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้เห็นหน้าของคนโฉดสิบกว่าคนที่อยู่ตรงหน้า ความเกลียดชังและเยือกเย็นของมู่จิ่งเหยียนที่ไหลเวียนไปทั่วร่างกาย ทำให้คนสิบกว่าคนนั้นเริ่มเสียความมั่นใจเล็กน้อย ตามคำบอกของผู้ว่าจ้าง มู่จิ่งเหยียนคนนี้ ควรจะเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอ เหตุใดจึงมีลมหายใจที่น่ากลัวดูอันตรายแบบนี้ “นี่เหรอมู่จิ่งเหยียน มีคนซื้อชีวิตเธอไว้ ว่าไม่ต้องการให้เธอต้องทุกข์ทรมาน มาให้พวกเรามัดมือซะดีๆ ไม่อย่างนั้นจะมาว่าพวกเราโหดร้ายไม่ได้นะ” “งั้นเหรอ” แววตาที่ดูน่ากลัวและอันตรายของมู่จิ่งเหยียน ใบหน้าที่ดูเย็นชาไม่แยแสต่อสิ่งใด บัดนี้เต็มไปด้วยความกระหายเลือดจากความเย็นชาและอาฆาต นานมาแล้วที่ไม่มีใครกล้าลงมือกับเธอ แววตาที่เปล่งประกายอย่างแรงกล้า พร้อมรอยยิ้มเย้ยหยันต่อผู้คนกว่าสิบคน ที่อยู่เบื้องหน้า “พวกแกจะลองดูก็ได้นะ มาลองดูสิว่าพวกแกจะทำอะไรฉันได้มั้ย ” “ฮึ้ย พูดดีๆด้วยแล้วไม่ยอมทำตาม อย่างนั้นก็อย่ามาโทษพวกเราละกัน” ชายหัวโจกตะคอกใส่ ร่างคนกว่าสิบคนนั้นได้ล้อมมู่จิ่งเหยียนไว้ ดวงตาเต็มไปด้วยความโลภที่อยากจะได้เธอ มองสำรวจเธอทั่วเรือนร่างด้วยความปรารถนาอย่างกลัดมัน “ลูกพี่ เขาคนนั้นบอกว่า ร่างกายของผู้หญิงคนนี้ปล่อยให้พวกเราจัดการได้เลย งั้นพวกเรามาเพิ่มกำลังใจกันก่อนดีมั้ย” ผู้ชายที่ดูเหมือนโจรคนหนึ่งยิ้มด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ตาทั้งคู่กำลังจ้องมองดูใบหน้ารูปไข่อันสวยงามของมู่จิ่งเหยียน “ฮ่าๆๆ ดี วันนี้จับผู้หญิงมาได้ เราน่าจะมามีความสุขร่วมกันดีกว่า” ชายผู้เป็นหัวโจกแสดงให้เห็นถึงดวงตาที่เต็มไปด้วยความโลภและรอยยิ้มมีนัย เมื่อมองไปยังชายกว่าสิบคนนั้นที่ใกล้เข้ามา สายตาที่เยือกเย็นของมู่จิ่งเหยียน แสดงออกถึงความอาฆาต ร่างกายก็รู้สึกมีพลัง แบกความเกลียดชังและความอาฆาตนั้นไว้ ทันใดนั้นชายกลุ่มนั้นก็ได้จู่โจมเข้ามา ด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยม และความคล่องแคล่วในการลงมือ มันรวดเร็วจนมองไม่ทัน หมัดและเท้าที่มีความประสานกัน มู่จิ่งเหยียนได้เตะกระเด็นไปหลายคน ไม่มีใครคาดคิดว่าร่างอันเพรียวบางและตัวเล็กแบบเธอ จะทรงพลังและอาฆาตได้ขนาดนี้ การเคลื่อนไหวที่ดุร้าย แต่ละหมัดที่ต่อยลงไปล้วนแต่โดนจุดอ่อนของพวกมัน “ปัง ปัง ปัง” “อ้า ซื้ด ……” เสียงของการกระแทกพื้นดังแล้วดังอีก เสียงกรีดร้องที่น่ากลัว และเสียงของกระดูกที่ถูกบดขยี้ โดยมู่จิ่งเหยียน ความอาฆาตแค้นและความกระหายเลือดของมู่จิ่งเหยียนยังคงถูกระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง
已经是最新一章了
加载中