ตอนที่24 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ
1/
ตอนที่24 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ
[Paulson] พอลสัน : รักให้จำ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่24 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ
C h a p t e r 24 เมื่อคืนพอลสันไม่ได้นอนเพราะมีงานเข้ามา เกี่ยวกับธุรกิจบางตัวที่แคนาดากำลังอยู่ในขั้นวิกฤติ วันนี้มีเอกสารที่ต้องตรวจดูของต่างประเทศ ทำให้ไม่มีเวลาพัก รวมถึงต้องทำการประชุมบอร์ดผู้บริหารผ่านจอโปรเจคเตอร์อีก เขาต้องใช้สมองในการคิดหาวิธีในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ลืมดูแลตัวเอง และไม่ได้นอนไปหลายวัน 3 วันต่อมา เรียวกลับมาทำหน้าที่เลขาคนสนิทให้เขาตามเดิม วันนี้เธอนั่งอยู่ในห้องทำงานของเขาแทบจะทั้งวัน ไม่มีเวลาที่จะคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ เธอสังเกตเห็นว่าเขามีความอ่อนเพลีย ริมฝีปากซีดอ่อน จนเหมือนคนใกล้จะป่วย ไม่รู้ว่าช่วงที่เธอไม่อยู่เขาได้พักร่างกายบ้างหรือเปล่า “คุณเชนคะ” เรียวเอ่ยเรียกเชนขณะที่กำลังชงกาแฟอยู่ในห้องพักด้านข้าง “ครับ?” “ช่วงที่ฉันไม่อยู่ เขาเป็นยังไงบ้างคะ” “ช่วงที่คุณอิงกาญจน์ไม่อยู่ นายแทบไม่ได้พักเลยครับ มีงานเข้ามาตลอด” “เมื่อคืน เขาไม่ได้กลับไปนอนพักที่โรงแรมเหรอคะ” “เปล่าครับ นายทำงานอยู่ที่บริษัทมาสามวันแล้วครับ” “ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเขาจะแย่เอานะคะ” “ผมทราบครับ แต่ใครจะกล้าพูด” “ฉันกลัวเขาจะป่วย” “ถึงนายป่วย ก็ไม่ยอมบอกใครหรอกครับ” “งั้นรบกวนคุณเชน ช่วยสั่งข้าวขึ้นมาให้หน่อยได้ไหมคะ” “เอ่อ…” “ฉันจะเป็นคนเอาไปให้เขาทานเองค่ะ” “…” เชนลังเลเพราะกลัวเธอจะโดนนายด่า “ผมว่า อย่าดีกว่าครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรับผิดชอบเอง” เชนพยักหน้าอย่างฝืนใจ ก่อนจะเดินออกไป เรียวยืนจิบกาแฟรออยู่ในห้องด้านข้างสักพัก เชนก็เอาข้าวมาส่ง เธอเดินถือเข้าไปในห้องทำงาน ซึ่งขณะนี้ เขากำลังหน้าดำคล้ำเครียดอยู่กับกองเอกสารบนโต๊ะ “คุณพอลสันคะ พักทานข้าวก่อนดีกว่านะคะ” “…” ไม่มีเสียงรับ “คุณพอลสันคะ” “…” หมับ! เรียวใช้แฟ้มเปล่าวางทับลงไปบนเอกสารที่เขากำลังอ่านอยู่ จนชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองด้วยแววตาเยือกเย็น “ทานข้าวได้แล้วค่ะ” “ผมยังไม่หิว” “…” วันนี้เขาดูน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้ เธอก็ไม่ได้อยากจะขัดอะไรหรอก เพียงแต่… “คุณต้องทานข้าวนะคะ ตอนนี้เที่ยงแล้ว” “ผมบอกว่ายังไม่หิวไง!!” “…” เขาเสียงดังจนเธอสะดุ้งตกใจ “ตอนนี้มันเที่ยงแล้ว!! ฉันไม่สนว่าคุณต้องทำงานหนักแค่ไหน!! แต่พอถึงเวลากินข้าว คุณก็ควรจะกิน ไม่ใช่ปล่อยให้ร่างกายทรุดโทรมจนไม่สบาย อีกอย่าง คุณคงไม่เคยได้รู้ว่าสภาพตัวเองตอนนี้เป็นยังไง” “…” “จะกินไม่กินก็สุดแล้วแต่คุณเถอะ” เธอก็แค่เป็นห่วง อยากให้เขาดูแลตัวเองสักหน่อยแล้วค่อยทำงาน แต่ดูเขาสิ ความหวังดีของเธอช่างไร้ประโยชน์ยิ่งนัก แถมยังโดนตะคอกเสียงดังใส่ น่าอายที่สุด!! เรียวกลับหันหลังวางกล่องข้าวไว้บนโต๊ะกลางห้องจากนั้นก็เดินออกจากห้องไป พอลสันยกมือขึ้นนวดขมับเล็กน้อย พยายามจะปรับอารมณ์ให้เย็นลง แล้วเหลือบสายตาขึ้นมองกล่องข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างอ่อนโยน เขามัวแต่มีสมาธิอยู่กับงาน แทบไม่อยากเสียเวลาจะไปทำอย่างอื่น ปกติทุกครั้งที่มีงานด่วนต้องทำ ก็ไม่เคยมีใครสนใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ของเขาอยู่แล้ว พอมีคนมาจู้จี้นิดหน่อย ก็เลยระเบิดขึ้นมา… ก็แค่ยังไม่ชิน ที่มีคนมาคอยบ่นคอยห่วงแบบนี้ แล้วที่สำคัญ เธอก็ดันเป็นคนแรกที่กล้าพูดว่าเขาตรงๆ เป็นคนแรกที่ห่วงใยกลัวเขาจะไม่สบาย… แต่เขากลับ… ให้ตายสิ!! ___________________ ตึด ตึด ตึด ตึด “ค่ะ” [ผม…ขอน้ำเปล่าหน่อย] “ค่ะ” เรียววางสายแล้วเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็น แล้วเอาไปให้เขาในห้องทำงาน ก๊อก ก๊อก ก๊อก แกร๊ก เธอเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นชายหนุ่มนั่งอยู่ที่โซฟารับแขก พร้อมกับกล่องข้าวในมือ เธอวางขวดน้ำให้เขาที่โต๊ะก่อนจะกลับหันหลัง “เดี๋ยว” “ค่ะ” “คุณทานอะไรหรือยัง” “เรียบร้อยแล้วค่ะ” “ผม…” พอลสันอ้ำอึ้ง พูดไม่ออก “…คือ” “ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวนะคะ” “คุณ…อยู่ก่อน” “ทำไมคะ” “ช่วย…ช่วยอ่านเอกสารตรงนี้ให้ผมฟังหน่อย” “…” เรียวไม่ได้ถามต่อ เดินไปนั่งตรงกันข้ามกับเขาและหยิบเอกสารบนกองขึ้นมาอ่าน “คุณจะกินข้าวหรือเปล่า” “กิน” “งั้นก็ได้ค่ะ ฉันจะอ่านให้คุณฟัง” เธอเปิดเอกสารขึ้นมาและเริ่มอ่านให้เขาฟังอย่างตั้งใจ วันนี้ตั้งแต่เช้า เธอช่วยเขาเรื่องเอกสารมาเกือบทั้งวันอยู่แล้ว ส่วนเรื่องแค่นี้ ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น อย่างน้อยก็ยังพอให้เขามีเวลาได้กินข้าวบ้าง หลังจากที่เขากินข้าวเสร็จแล้วก็มานั่งฟังเธออ่านต่อพร้อมกับแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันตามประสาเจ้านายกับเลขา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ดี 17.02 น. “คุณพอลสันจะกลับหรือยังคะ” เธอถามขณะที่กำลังเก็บแฟ้มบนโต๊ะ “อีกสักพัก” “งานเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอคะ” “ใช่ครับ แต่ผมมีอีกอ่านที่ต้องดู” “ฉันคิดว่า คุณกลับไปพักผ่อนบ้างก็ดีนะคะ” “ผมไม่เป็นไร คุณกลับไปได้เลยครับ” พอลสันไม่สนใจเธอ ก้มหน้าลงมองอ่านเอกสารในไอแพด ถึงแม้ว่างานที่แคนาดาจะแก้ปัญหาได้แล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องมานั่งตรวจสอบอยู่ดี ว่าจะมีช่องโหว่อะไรอีกหรือเปล่า เรียวไม่รู้จะพูดอะไร นอกจากเดินออกไปจากห้องตามที่เขาบอก วันต่อมา เรียวโทรติดต่อกับเชนเพื่อถามว่าคุณพอลสันกลับไปที่โรงแรมหรืออยู่ที่บริษัท คำตอบคือ เขากลับไปโรงแรม ทำให้เธอต้องขับรถไปหาเขาที่นั่นในตอนเช้า เหมือนอย่างที่เคยทำ “อรุณสวัสดิ์ครับคุณอิงกาญจน์” เชนเอ่ยทักขณะที่ยืนอยู่หน้าห้อง “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเชน คุณพอลสันทำอะไรอยู่เหรอคะ” “นอนครับ” “เขากลับมาตอนกี่โมงเหรอคะ” “นายกลับมาตอนตี 3 ครับ กว่าจะได้นอนก็ตอนตี 5 ครับ แต่นายสั่งไว้ก่อนแล้ว ว่าถ้าคุณอิงกาญจน์มา ให้เข้าไปได้เลยครับ” “เอ่อ…ให้เข้าไปทำอะไรคะ ในเมื่อเขาหลับอยู่” เธอไม่อยากจะโดนปืนจ่อหัวอีกรอบหรอกนะ “นายบอกว่า รอให้คุณปลุกจะได้ไปทำงานตามเวลาครับ” “ทำไมเขาไม่ค่อยดูแลตัวเองเลย” เธอขมวดคิ้วบ่นพึมพำ “นายเป็นแบบนี้มานานแล้วครับ ไม่มีใครกล้าพูดอะไร เพราะนายไม่ชอบให้ใครบ่น” “แต่คนแบบนี้ไม่บ่นไม่ได้ เขาจะเอาแต่ทำงานจนร่างกายตายด้านเลยหรือไง” “…” เชนก้มหน้านิ่ง ไม่ได้ตอบรับอะไร เพราะคิดว่าสิ่งที่เธอพูด ก็ถูกหมดนั่นแหละ นายไม่เคยฟังใคร แต่ก็ฟังเธอ นายยอมกินข้าวก็เพราะเธอ ผู้หญิงคนนี้เหมือนคนที่มาช่วยเหลือชีวิตน้อยๆ ของพวกเขา “คุณอิงกาญจน์เชิญครับ” “…” เรียวถอนหายใจก่อนจะเปิดประตูเข้าไปข้างใน แล้วตรงไปยังห้องนอน เธอแง้มประตูดูเล็กน้อย เผื่อชายหนุ่มข้างในจะยังไม่หลับ แต่ปรากฏว่า เขานอนหงาย เอาแขนก่ายหน้าผากไว้ คิ้วขมวดเป็นปม ใบหน้าซีดเซียว อิดโรย ใต้ตาดำคล้ำอย่างเห็นได้ชัด เธอรีบเดินไปนั่งข้างเตียง จับแขนของเขาทั้งสองข้างสอดเข้าไปในใต้ผ้าห่ม จากนั้นก็เอามือทาบหน้าผากเขาเพื่อดูว่าตัวร้อนหรือเปล่า \"ตัวอุ่นๆ \" เรียวพึมพำ จากนั้นก็ลุกไปเรียกเชนให้เอายาแก้ไข้มาให้ เดินเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมกับผ้าขนหนูที่ถูกชุบน้ำเปล่ามาแล้ว เธอเดินกลับมานั่งข้างเตียงอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ เช็ดใบหน้าถึงลำคอและวางผ้าขนหนูทาบบนหน้าผากของเขาอย่างอ่อนโยน ชายหนุ่มขยับศีรษะเล็กน้อย เริ่มรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมาก็เจอกับหญิงสาวที่กำลังใช้มือกดผ้ากับหน้าผากเขาอยู่ “เป็นยังไงบ้างคะ รู้สึกปวดหัวไหม ฉันคิดว่าคุณกำลังจะเป็นไข้” \"…\" พอลสันไม่ได้พูดอะไร มองเธอไม่กะพริบตาเหมือนไม่เชื่อว่าจะเป็นเธอ “ถ้าคุณรู้สึกไม่ดี รีบบอกเลยนะคะ ฉันจะให้คุณเชนพาคุณไปหาหมอ” “อืม” เขาส่งเสียงผ่านลำคอก่อนจะกระแอมเล็กน้อย “มาตั้งแต่เมื่อไหร่” “สักพักแล้วค่ะ” “ข้อเท้าคุณเป็นยังไงบ้าง” “ดีขึ้นมากแล้วค่ะ” “…” เรียวจำได้ว่า ช่วง 3 วันก่อนที่เธอจะกลับมาทำงาน เธอกำลังน้อยใจและโกรธเขามาก เขาโทรมาเธอก็ไม่ยอมรับสายแถมปิดเครื่องหนีอีก พอได้กลับมาทำงาน ก็แทบไม่มีเวลาให้คิดถึงเรื่องนั้นเลย มัวแต่ยุ่งอยู่กับเอกสารการทำงานของเขา จนกระทั่งวันนี้…พอได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน ที่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงาน เธอก็ไม่รู้จะมองหน้าเขายังไงดี “ตอนที่คุณไม่มาทำงาน ผมโทรหาคุณตั้งหลายสาย ทำไมไม่รับ” “ฉัน…ไม่ว่างค่ะ” “ทำอะไรถึงไม่ว่าง” “ก็…” ทำอะไรดีนะ ก็ไม่อยากรับสายไง โธ่เอ๊ย “ก็ฉันเดินไม่ได้ โทรศัพท์วางอยู่บนโต๊ะ ฉันก็เลยไม่ได้รับสายใคร” “แล้วหลังจากนั้น ไม่คิดจะโทรกลับมาหาผมบ้างเหรอ” “ยังไงเราก็ต้องได้เจอกันอยู่แล้ว จะต้องโทรหาอีกทำไมเล่า” “ผมก็แค่อยากจะถาม ว่าคุณเป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดูอบอุ่น จนเธอเริ่มรู้สึกผิด แค่ไม่ได้รับสายเขา ก็ทำให้จิตใจอ่อนบางขนาดนี้เลยเหรอ “ฉันสบายดี” “ผมขอโทษ” “…” เขาขอโทษ ขอโทษอะไรเธอ “คุณขอโทษอะไรฉันเหรอคะ” “ผม…” \"คุณช่วยกดผ้าให้หน่อย ฉันจะไปหยิบยามาให้\" เรียวสั่งก่อนจะลุกขึ้นออกไปนอกห้อง ชายหนุ่มก็ทำตามอย่างว่าง่าย เอื้อมมือไปจับผ้าไว้แทนเธอ ไม่นานหญิงสาวก็เดินกลับมาพร้อมกระปุกยาและแก้วน้ำในมือ \"กินยาดักไว้ก่อนดีกว่า จะได้ไม่เป็นหนัก\" เธอหยิบผ้าออกแล้วพยุงชายหนุ่มให้ลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็ส่งยาพร้อมแก้วน้ำให้เขา พอลสันหยิบยาใส่ปาก มองแก้วน้ำที่เธอยื่นมาให้ ก็ใช้ฝ่ามือทาบทับมือบางและยกขึ้นดื่ม สายตาคมเข้มยังคงจ้องมองเธอไม่วางตา เรียวสัมผัสได้ถึงไออุ่นผ่านมือของเขา แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านอะไร เพราะตอนนี้เขายังป่วยอยู่ ก๊อก ก๊อก ก๊อก แกร๊ก “นายครับ” “อืม” “จะไปกี่โมงครับ” เชนเอ่ยถามเจ้านายเพื่อรอเวลาเตรียมตัว เรียวได้ยินดังนั้นก็รีบหันไปมองเขา \"คุณหยุดงานสักวันก็แล้วกันนะคะ ถ้ายังไปทำงาน ฉันกลัวว่าคุณจะไม่ไหว” พอลสันมองเธออย่างอ่อนโยน เอ่ยเสียงเบา \"ถ้าผมไม่ไป...คุณจะอยู่เป็นเพื่อนผมหรือเปล่า\" “…” สีหน้าแววตา เหมือนเขากำลังอ้อนเธออย่างนั้นแหละ ทำไมพอไม่สบายถึงได้กลายเป็นคนละคนได้นะ “ได้หรือเปล่า” “…” เรียวกะพริบตามองเขา ไม่กล้าขยับ เพราะกลัวเขาจะได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังเต้นรัวของตัวเอง อย่า!! อย่าทำเสียงอ้อนได้ไหม!! อย่า!! “คุณ…” “คุณนอนพักเถอะค่ะ” เรียวรั้งสายตากลับไปมองเชน “เดี๋ยวฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเขาเอง” “…” เชนพยักหน้าอย่างงงๆ ก่อนจะปิดประตูออกไป เมื่อกี้เหมือนเจ้านายจะจับมือของคุณอิงกาญจน์อยู่ แถมยังทำสีหน้าออดอ้อนคุณ มันไม่เหมือนเจ้านายในวันปกติเลยสักนิด เรียวลุกขึ้นยืน ดึงมือกลับมาข้างตัว เดินไปหยิบหนังสือในกระเป๋า ก่อนจะลากเก้าอี้มาข้างเตียงแล้วนั่งลง “อ่านให้ผมฟังได้ไหม” “…” “ผม…อยากได้ยินเสียงคุณ” “…” เรื่องมากเกินไปแล้วนะ เรียวถอนหายใจ เปิดหน้าหนังสือขึ้นมาแล้วอ่านออกเสียงให้เขาฟัง จากนั้นก็ไม่รู้แล้วว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ชายหนุ่มบนเตียง เอนตัวนอนหลับสบายใจ ส่วนเธอก็นั่งหาวเพราะเริ่มง่วง เสียงอ่อนหวานเงียบลงแทนที่ด้วยลมหายใจสม่ำเสมอ ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมา หันไปมองหญิงสาวที่นอนพิงเก้าอี้อยู่ เขาไม่รู้เหมือนกัน ว่าตัวเองรู้สึกยังไงกันแน่ รู้แต่ว่าช่วงเวลาที่เธอแสดงท่าทีห่วงใย แววตาใสซื่ออ่อนโยน ทำให้หัวใจของเขาเต้นเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังตื่นตัวภายใต้ผ้าห่ม ให้ตายสิ!! เขาป่วยอยู่นะ ไม่มีแรงจะทำอะไรทั้งนั้นแหละ 2 ชั่วโมงผ่านไป หญิงสาวค่อยๆ ขยับตัวก่อนจะลืมตาขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงแล้ว แต่ข้างกายไม่มีใคร เจ้าของห้องไม่ได้อยู่ที่นี่ เธอลุกขึ้นลงจากเตียง เปิดประตูออกไปข้างนอก เห็นเพียงชายหนุ่มใส่เสื้อยืดสีขาวกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ในครัว “คุณกำลังทำอะไรคะ” “ผม กำลังจะทอดไข่” “คุณทำอาหารเป็นด้วยเหรอ” “เป็นครับ สมัยก่อนผมต้องเลี้ยงน้อง ก็ต้องทำอาหารบ้าง” “แสดงว่าคุณพอร์ชคงได้กินฝีมือคุณทุกวันเลยสินะคะ” “แต่ผมไม่อยากกินแล้ว” “ไม่อยากกิน? แล้วคุณจะกินอะไร” “คุณทำอาหารเป็นหรือเปล่า” “ฉัน? ฉันก็ทำเป็นบ้าง” “ผมอยากกินอาหารฝีมือคุณ” “…” งานเข้าสิ!!! ทำไมเธอต้องมาทำอาหารให้เขากินด้วย ในเมื่อเธอเป็นแค่เลขาคนหนึ่งเท่านั้น เลขาที่ช่วยทำงานเอกสาร!! สุดท้าย เจ้านายก็คือพระเจ้าอยู่ดี เธอจะกล้าไปต่อล้อต่อเถียงเขาได้ยังไง ในเมื่อเขาสั่งก็แค่ต้องทำตามแต่โดยดี อีกอย่าง อาหารที่ทำก็ไม่ได้ยากอะไร ก็แค่โจ๊กปลาอ่อนๆ สำหรับคนป่วย เรียวตักโจ๊กใส่ชามแล้วเอาไปเสิร์ฟให้เขาที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เพื่อรอคอยคำชมให้รู้สึกชื่นใจ “คุณกำลังป่วย กินอาหารอ่อนๆ เบาๆ จะได้ไม่ระคายกระเพาะอาหาร” “…” พอลสันพยักหน้า เอื้อมมือไปหยิบช้อนแล้วตักโจ๊กใส่ปากช้าๆ “เป็นยังไงคะ อร่อยไหม” “อื้อ อร่อย” “นี่คืออาหารที่ฉันทำเองเกือบทุกวันตอนอยู่คอนโดเลยนะคะ” เธอพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความภาคภูมิใจ ชายหนุ่มเพียงแค่ยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกินอาหารในชามจนหมด จากนั้นก็ขอเพิ่มอีกชาม ทำให้เธอนั่งมองเขากินอย่างมีความสุข 18.01 น. เรียวนั่งมองนาฬิกา เป็นเวลาที่เย็นมากแล้ว เธอควรจะกลับบ้านได้แล้ว… เธอเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องนอนก็เห็นชายหนุ่มนั่งพิงหัวเตียงอยู่ “คือ…” “คุณช่วยอยู่ที่นี่ได้ไหม” “คะ?” “ผมอยากให้คุณอ่านเอกสารตรงนี้ให้ผมฟังหน่อย” “แต่มัน…ดึกมากแล้ว” “ผมให้เชนไปขอกระเป๋าเสื้อผ้าคุณจากที่บ้านมาแล้ว คืนนี้ก็นอนที่นี่ไปก่อน” “…” “หรือคุณไม่อยากอยู่” “…” “ผมว่า ผมมีเรื่องจะปรึกษาคุณด้วย” “เรื่องอะไรเหรอคะ” “วันก่อน ผมประมูลกระเป๋ามาได้หนึ่งใบ…” “ได้ค่ะ!!” “ดีครับ งั้นก็อ่านตรงนี้ให้ผมฟังหน่อย” เรียวแทบไม่ต้องคิดเลยว่าจะอยู่หรือไป เกือบลืมไปแล้วเชียว ว่ากระเป๋าลูกรักยังอยู่กับเขา การที่เขาเอ่ยปากขึ้นมา แสดงว่า เธอยังสามารถตกลงกับเขาได้ เธอเดินไปนั่งข้างเตียง หยิบเอกสารขึ้นมาแล้วอ่านให้เขาฟังอย่างตั้งอกตั้งใจอีกครั้ง ผิดกับชายหนุ่ม ที่แทบไม่ได้ฟังเธอด้วยซ้ำ ริมฝีปากบางขยับขึ้นลงไปตามตัวอักษรที่เธอเอ่ย ยิ่งดูก็ยิ่งเพลิน ใบหน้าเรียวยาวยิ่งมองก็ยิ่งสวย ทำไมเธอถึงได้มีอิทธิพลกับหัวใจได้มากขนาดนี้ 21.02 น. พอลสันไข้ขึ้นถึง 38 องศา จนเชนต้องเชิญหมอส่วนตัวของชายหนุ่มมาตรวจดูอาการ “ร่างกายของคุณพอลสัน แข็งแรงก็จริง แต่ยังไงก็ต้องหาเวลาพักบ้างนะครับ ตอนนี้เป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา แต่ถ้ายังไม่ดูแลตัวเองอีก ผมคงต้องให้คุณพอลสันไปโรงพยาบาลแล้วนะครับ” “แล้วตอนนี้ เขาจะดีขึ้นใช่ไหมคะ” “ครับ ผมฉีดยาให้แล้ว มียาที่ต้องกินด้วย ช่วงนี้บอกเขาว่าห้ามนอนดึกเด็ดขาดและทานอาหารให้ตรงเวลาด้วยนะครับ” “ขอบคุณนะคะคุณหมอ” “เฮ้อ…เดือนนี้ไม่สบายมาสี่รอบแล้ว ไม่รู้มีอะไรที่ต้องหักโหมขนาดนั้น” “ช่วงนี้นายต้องจัดการงานของบริษัทใหญ่ครับ” “นายก็น่าจะเตือนจะบอกเขาบ้าง” “คุณหมอก็รู้ว่านายเป็นคนยังไง” “เอาเถอะ ฝากคุณด้วยนะครับ คุณ…” “ฉันคืออิงกาญจน์ค่ะ เป็นเลขาของคุณพอลสัน” “แล้วเควินไปไหนล่ะครับ” “เควินไปแคนาดาค่ะ” “อ๋อ เข้าใจแล้ว ยังไงก็ฝากคุณดูแลเขาด้วยนะครับ” “ค่ะ ขอบคุณค่ะ” เรียกยกมือไหว้หมอจากนั้นก็เดินไปส่งที่หน้าห้อง จากนั้นเชนก็เรียกลูกน้องให้ขับรถไปส่งหมอที่โรงพยาบาล “คุณเชนคะ” “ครับ” “หมอคนนี้ เป็นหมอส่วนตัวของคุณพอลสันเหรอคะ” “หมอเปา เป็นหมอจิตเวชของนายครับ” “หมอจิตเวช?” “เกี่ยวกับอาการนอนไม่ค่อยหลับครับ” “เขา มีปัญหาเรื่องการนอนหลับเหรอคะ” “ใช่ครับ ผมต้องรบกวนคุณอิงกาญจน์แล้วครับ มีอะไรเรียกได้เลยนะครับ ผมจะยืนรออยู่ข้างนอก” “ได้ค่ะ” เรียวพยักหน้าตอบกลับ ก็หยิบผ้าไปชุบน้ำเย็นเพื่อเช็ดตัวให้ชายหนุ่มที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง 22.40 น. เรียวนั่งสัปหงกอยู่ที่เก้าอี้ข้างเตียงเพื่อคอยวัดอุณหภูมิในร่างกายของเขา ว่าไข้ลดลงบ้างหรือยัง ดูจากสีหน้าของเขาที่เริ่มดีขึ้นก็พอจะทำให้โล่งใจได้บ้าง “คุณอิงกาญจน์ครับ” “ค่ะ” “ตอนนี้ก็ดึกแล้ว คุณอิงกาญจน์ไปพักผ่อนในห้องได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมอยู่ดูทางนี้ให้” “งั้น ฉันขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ” “เชิญครับ” เรียวลุกขึ้น เดินไปที่ห้องนอนด้านข้างเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินกลับมาที่ห้องชายหนุ่มเพื่อนั่งเฝ้าไข้คนป่วยต่อไป “คุณเชนกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ ทางนี้ฉันจะจัดการเอง” “แต่…” “ตอนนี้อาการเขาคงที่แล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอกค่ะ” “ผมจะให้คนมายืนรอคำสั่ง…” “ไม่ต้องหรอกค่ะ มีอะไรเดี๋ยวฉันจะโทรไปหาคุณเอง ให้ทุกคนไปพักผ่อนเถอะค่ะ” “เอ่อ…” “ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะเป็นคนบอกเขาเอง” “ก็ได้ครับ” เชนก้มหน้าแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างนอบน้อม 23.32 น. เรียวเช็ดตัวชายหนุ่มเป็นรอบที่หกแล้วของวันนี้ ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะเริ่มอุ่นขึ้น แต่ก็ยังไม่น่าไว้ใจอยู่ดี ก๊อก ก๊อก ก๊อก เรียวชะงักมือ หันไปมองที่ประตูอย่างหวาดระแวง นี่มันห้าทุ่มครึ่งแล้วนะ ทำไมยังมีคนมาเคาะประตูอีก ก๊อก ก๊อก ก๊อก เธอวางผ้าลงบนเตียงก่อนจะเดินไปเปิดประตู แกร๊ก ก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่หน้าห้องในชุดเดรสสั้นสีชมพูอ่อน “คุณ มาหาใครคะ” “ฉันมาหาคุณพอลสันค่ะ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่24 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A