ตอนที่14 เจ้ายินดีจะแต่งงานกับข้าไหม
1/
ตอนที่14 เจ้ายินดีจะแต่งงานกับข้าไหม
ลิขิตฟ้าทุกภพชาติรักแค่เธอ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่14 เจ้ายินดีจะแต่งงานกับข้าไหม
หลังกลับจากการเข้าเฝ้าเสด็จพ่อจิ้นมู่หลงก็มาหาไปเซทันที “ ท่านกลับมาแล้ว ” “ อืม ซิ่วอิงเจ้าอยู่แต่ในจวนทุกวันเบื่อมั้ย อยากไปเดินเที่ยวตลาดมั้ย ข้าจะพาไป ” “ อื้ม ดีเหมือนกัน ข้าก็อยากไปดูเสื้อผ้าเด็กสักหน่อย ” “ เออ ใช่ ข้าลืมบอกเจ้าเรื่องนี้น่ะ ข้าให้ช่างตัดเสื้อที่ดีที่สุดของแคว้นมาตัดเสื้อให้เจ้ากับองค์ชายน้อยแล้วนะเจ้าไม่ต้องห่วงหรือกังวลเรื่องเสื้อผ้าแล้วเข้าใจมั้ย ” จิ้นมู่หลงพูด สายตาอ่อนโยนมองใบหน้างดงามของไป่เซ ไป่เซมองเขาอย่างตะลึงอย่างคาดไม่ถึง จิ้นมู่หลงเห็นไป่เซนิ่งเงียบจึงเอ่ยถามอย่างนุ่มนวลว่า “ หืม ทำไมเหรอหรือเจ้าไม่พอใจช่างตัดเสื้อคนนี้ งั้นข้าจะเรียกพวกเขามาให้เจ้าเลือกเองจากผลงานเขาดีไหม ” “ เอ่อ ไม่ใช่ๆเพคะ ข้าแค่คิดไม่ถึงว่าท่านจะใส่ใจขนาดนี้ ” “ เรื่องของเจ้าสำคัญที่สุดเหตุใดข้าถึงจะไม่ใส่ใจอีกอย่างลูกของเจ้าก็เหมือนลูกของข้าเช่นกัน ” จิ้นมู่หลงยิ้ม “ ขอบคุณท่านมากเพคะ ไปกันเถอะ ” ไป่เซพูด ระหว่างนั่งอยู่บนรถม้าไป่เซเอ่ยถามจิ้นมู่หลงเสียงเบาอย่างระมัดระวังว่า “ มู่หลงท่านชอบข้าทำดีต่อข้าไม่กลัวจะเสียใจภายหลังเหรอ อีกอย่างข้าไม่ใช่ตัวคนเดียว ” จิ้นมู่หลงเอามือโอบไหล่ของไป่เซไว้พูดว่า “ ซิ่วอิง เจ้าอย่าคิดมากเรื่องนี้เลย ข้าชอบเจ้าตกหลุมรักมานานหลายปี เจ้าคือหญิงคนเดียวที่ข้ารักเจ้ารู้มั้ยตอนที่ข้าตัดสินใจจะไปสู่ขอเจ้าพอรู้ว่าเจ้าตกลงจะแต่งกับฉินฉีอินข้าเสียใจมากและพอได้ยินว่าเจ้าถูกรังแกข้าเจ็บปวดมากอยากจะเข้าไปช่วยเจ้าแต่ลึกๆข้าก็ดีใจที่ฉินฉีอินทำไม่ดีต่อเจ้าเพราะมันทำให้ข้าแย่งเจ้ากลับมาจากเขาโดยไม่รู้สึกผิดต่อเขาวันที่ต่อสู้กันข้าจึงไม่ใช้กำลังภายในยอมให้เขาทำร้ายข้าถือเป็นการชดใช้ให้เขา ข้าสัญญากับตัวเองว่าชาตินี้ทั้งชาติข้าจะรักเพียงเจ้าคนเดียวแม้ไม่ได้แต่งกับเจ้าข้าก็จะไม่แต่งกับใครใจของข้าข้ามอบให้เจ้าตั้งแต่งครั้งแรกที่เจอเจ้า ข้ารักเจ้า ” พูดจบจิ้นมู่หลงก็ดึงไป่เซเข้ามากอดในอ้อมอกอันแข็งแกร่งอย่างเบามือ “ แล้วท่านไม่กลัวเดส็จพ่อเสด็จแม่ของเจ้าจะโกรธเคืองเหรอ ความจริงแค่ท่านดีต่อข้าจริงใจต่อข้าแค่นี้ข้าก็ซาบซึ้งใจมากแล้ว ข้ากับลูกติดหนี้บุญคุณท่านชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรในชีวิตท่านเพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่างอล้ว ” ไป่เซกล่าว จิ้นมู่หลงจับมือเธอแล้วนั่งลงต่อหน้าเธอแววตาลุ่มลึกอ่อนโยนประกายคู่นั้นจ้องตาของไป่เซแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆพอได้ยินแค่สองคนว่า “ หากเจ้าอยากตอบแทนข้า เจ้าแต่งงานกับข้าเถิด ” ไป่เซนิ่งอึ้งไปสักพักจิ้นมู่หลงก็เอ่ยต่อ “ ว่าไงเจ้ายินดีจะแต่งกับข้าไหม ” ไป่เซเองก็ไม่รู้จะตอบยังไงสำหรับเธอแล้วมันก็เร็วไปหน่อยเพิ่งจะพบกันแต่ความดีความสุภาพอ่อนโยนความเอาใจใส่ที่เขาปฏิบัติต่อเธอบวกกับใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเธอเองก็ยอมรับว่าชอบเขามากเพราะผู้ชายคนนี้ไม่รังเกียจเธอที่เป็นหญิงม่ายลูกติดเลย “ มู่หลงท่านเป็นถึงองค์ชายราชทายาทคงจะไม่เหมาะที่จะมาแต่งกับข้าจะเป็นคำครหานินทาของผู้คนทำให้เจ้าเสื่อมเสียชื่อเสียง ” “ หากเจ้ากังวลเรื่องลูก ตอนเจ้าออกมามีคนรู้ว่าเจ้าท้องแค่สองคนและข้าก็บอกเสด็จพ่อเสด็จแม่ของข้าแล้วว่าเจ้าท้องลูกของข้าอยู่ ดังนั้นเจ้าไม่ต้องห่วงหรือกังวลเรื่องนี้อีกต่อไปข้ารักเจ้ากับลูกจากนี้ไปให้ข้าเป็นคนดูแลเจ้ากับลูกนะข้าสัญญาว่าจะดูแลเจ้าอย่างดีที่สุดแม้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม ” “ ท่านพูดอะไรน่ะแลกด้วยชีวิตอะไรกันเจ้าพูดเช่นนี้ทำให้ข้าไม่สบายใจ ” “ ข้าขอโทษๆ เจ้าเป็นห่วงข้าหรือ ” จิ้นมู่หลงถามด้วยใบหน้ายิ้มอ่อนอย่างรักใคร่แล้วเอ่ยต่อว่า “ ข้าดีใจที่เจ้าเป็นห่วงข้า เจ้ารักข้ามั้ย ” “ อื้ม ” ไป่เซพยักหน้ายอมรับ หลังจากที่มู่กลงบาดเจ็บเพราะนางแล้วฟื้นขึ้นมาเวลาหนึ่งเดือนมู่หลงดูแลเธออย่างดีจนมู่หลงได้ซึมซาบเข้ามาในหัวใจเขาทีละนิดๆเพราะเขาเองก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดามีเลือดเนื้อมีหัวใจ ก่อนหน้านี้ไม่เคยรักใครชอบใครพอเริ่มมีใจให้ฮ่องเต้ฉินขึ้นมานิดหน่อยก็ถูกทำลายจนสลายไปเหลือเพียงความโกรธเกลียดแค้นพอได้เจอกับจิ้นมู่หลงไป่เซก็มีเขาที่คอยอยู่เคียงข้างทำลายไฟแค้นในใจเธอให้ดับลง “ ตกลงเจ้ายินดีแต่งงานกับข้าหรือไม่ ” “ อืม ข้ายินดีแต่งกับท่าน ” จิ้นมู่หลงดีใจลุกไปนั่งที่เดิมข้างๆไป่เซดึงเธอเข้ามาโอบกอดแล้วจูบลงตรงหน้าผากหนึ่งทีทั้งสองจ้องตากันหวานซึ้งร่างกายมู่หลงร้อนรุ่มขึ้นมาทันทีใจเต้นแรงความรู้สึกนี้เขาไม่เคยเป็นมาก่อนจากนั้นก็จูบลงบนริมฝีปากของไป่เซอย่างนุ่มนวลอ่อนโยนสักพักก็ปล่อยเธอไป่เซตกใจเบิกตากว้างคิดไม่ถึงว่าตนเองจะถูกจูบ จิ้นมู่หลงยิ้มอย่างมีความสุข ในใจคิดว่าการขอหญิงสาวที่รักแต่งงานบนรถม้าคงจะมีเพียงเขาเท่านั้นที่ทำ สำหรับเขาแล้วทุกเวลาที่อยู่กับไป่เซนั้นสำคัญและมีค่าเสมอใช้ทุกวินาที่ให้คุ้มค่ามีความสุขที่สุด เพราะเขาเชื่อคำพูดติดปากของคนที่ว่า ระยะเวลาแห่งความสุขนั้นมักจะสั้นเสมอ รถม้าขับไปเรื่อยๆจนถึงตลาดพวกเขาเดินเที่ยวชมตลาดอย่างมีความสุขเข้าไปในร้านขายเครื่องประดับ ไป่เซหยิบปิ่นปักผมและตุ้มหูขึ้นมาหันไปถามจางจิ้งว่า “ จางจิ้งเจ้าว่าสวยมั้ย ” “ สวยเจ้าค่ะ ” จางจิ้งตอบ “ เจ้าชอบมั้ย ” “ คุณหนูชอบข้าก็ชอบทั้งนั้นเจ้าค่ะ ” ไป่เซจ่ายเงินเสร็จก็เอาปิ่นกับตุ้มหูยื่นให้จางจิ้ง “ ข้าให้เจ้า ” “ คุณหนูคงไม่เหมาะเจ้าค่ะ ของแพงดีๆเช่นนี้ข้ามิกล้ารับไว้อีกอย่างไม่เหมาะกับฐานะอย่างข้าเจ้าค่ะ ” จางจิ้งปฏิเสธอย่างเกรงใจ “ เจ้าเป็นหญิงก็ต้องใช้ของสวยๆงามๆพวกนี้ถึงจะเหมาะ แล้วจะมาบอกว่าไม่เหมาะอะไรกัน รับไว้ข้าอุตส่าห์ซื้อให้ ” “ เจ้าค่ะคุณหนู ” จางจิ้งรับของจากมือ ไป่เซนึกอะไรขึ้นมาได้จึงหยิบปิ่นปักผมกลับมาแล้วเสียบปิ่นปักผมใก้จางจิ้งทันที จิ้นมู่หลง จางจิ้งและทหารองครักษ์ตะลึงกับการกระทำของไป่เซที่ปฏิบัติต่อสาวใช้ “ ขอบ…ขอบคุณคุณหนูเจ้าค่ะ ” จางจิ้งกล่าวขอบคุนอย่างเกรงๆ ไป่เซยิ้มแล้วเดินเที่ยวต่อแต่ก็ไม่ซื้ออะไรจิ้นมู่หลงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้น “ เจ้าไม่อยากได้อะไรเหรอ ” “ ข้าไม่อยากได้เพราะข่ามีหมดแล้วน่ะ ” จากนั้นพวกเขาก็พากันไปนั่งกินข้าวที่โรงเตี้ยมที่หรูที่สุดในตลาดเมืองหนานแห่งนี้ ทางด้านฮ่องเต้ฉินฉีอินหลังจากแยกจากกันกับไป่เซเมื่อปีที่แล้วเขาก็ลงโทษตัวเองไม่สนใจหรือแตะต้องหญิงงามคนไหนอีกเลย ความเย็นชาโหดเหี้ยมเลือดเย็นก็กลับมาอีกครั้งวันๆอยู่แต่ในห้องหนังสือใช้เวลาครึ่งปีกว่าจะกลับมาสนใจงานราชการบ้านเมือง ขณะที่กำลังอ่านหนังสือราชการอยู่ในห้องหนังสือชายชุดดำปรากฏตัวต่อหน้าเขารายงานว่า “ ฝ่าบาทวันนี้พระชายาออกมาเดินเล่นในตลาดเมืองหนานกับองค์ชายจิ้นพ่ะย่ะค่ะ ” “ อืม จับตาดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาไว้มีโอกาสก็ชิงตัวพระชายาคืนมาได้ทันที ” “ พ่ะย่ะค่ะ เอ่อ ฝ่าบาทเหมือนพระชายาทรงตั้งครรภ์พ่ะย่ะค่ะ ” ฮ่องเต้ฉินได้ยินว่าตั้งครรภ์ก็โมโหเดือดดาลขึ้นมาทันที “ เจ้าว่านางตั้งครรภ์งั้นรึ ตั้งครรภ์ลูกของใคร! ” ฮ่องเต้ตบโต๊ะเสียงดังถามขึ้นด้วยความโมโห “ กำลังสืบอยู่พ่ะย่ะค่ะ ” “ ไปสืบมาให้ข้าสืบไม่ได้ ให้เร็วที่สุดแล้วรีบมารายงานข้า ” ชายชุดดำจากไปด้านนอกประตูหลันเอ๋อร์มาได้ยินเข้าพอดีสีหน้าก็ปรากฏความโกรธแค้นเกลียดชังความอิจฉาริษยาทันที “ หวังซิ่วเอ๋อเจ้าอย่าหวังว่าจะกลับมาได้แม้เจ้าจะกลับมาได้ก็อย่าหวังว่าจะอยู่อย่างมีความสุข ข้าจะฆ่าเจ้านังมารหัวใจ ” หลันเอ๋อร์พึมพำแววตาโหดร้ายกำมือแน่นแม้ตอนนี้เขาจะได้เลื่อนเป็นสนมเอกแต่หากมีไป่เซอยู่เขารู้ดีว่าเขาไม่ได้เป็นฮองเฮาแน่นอน ลึกๆเขาก็แอบกลัวความโหดของไป่เซอยู่ ฮ่องเต้อยู่ไม่สุขเมื่อได้ข่าวของไป่เซท้องจึงเดินออกมาจากห้องหนังสืออย่างโมโหพบเข้ากับหลันเอ๋อร์ “ เจ้าแอบฟังข้า ” ฮ่องเต้ถามอย่างไม่พอใจสีหน้าโมโหแววตาดุมีดที่พร้อมจะเฉือนคนเป็นชิ้นๆ “ ป่ะ…เปล่าเพคะ หม่อมฉันทำบัวลอยมาให้ฝ่าบาทเพคะ ” “ เจ้าเอากลับไปเถอะข้าไม่กิน ” “ ฝ่าบาท ” “ เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดรึไง ” พูดจบฮ่องเต้ก็เดินไปที่ห้องอาบน้ำให้คนรับใช้เอาน้ำมาให้ หลันเอ๋อร์ให้คนใช้เอาบัวลอยมาให้ฮ่องเต้และให้บอกฮ่องเต้ว่านางเป็นลมกะทันหันแผลเก่ากำเริบเพื่อให้ฮ่องเต้สนใจนางจึงแสร้งป่วย “ ฝ่าบาทเพคะ พระสนมไม่สบายเป็นลมอีกแล้วเพคะ ” “ เจ้าตามหมอหลวงมาดูแลนาง ” “ ตามแล้วเพคะหมอหลวงบอกว่าแผลเก่ากำเริบ พระสนมไม่ยอมรับการรักษา จ่ะ…จึงเชิญเสด็จไปดูเพคะ \" “ เจ้าออกไป ” “ ฝ่าบาทเพคะ ฝ่า…. ” เคร้ง! ฉึก ฮ่องเต้ดึงดาบขึ้นมาฟันลงบนคอสาวชายอย่างเลือดเย็นความ เขารู้สึกโมโหรำคาญไม่อยากแม้แต่จะได้ยินคำพูดใครทั้งสิ้น “ ทหารเจ้าทำความสะอาด ” ทหารรีบเข้ามาทำความสะอาดอย่างรวดเร็วไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงฮ่องเต้ผู้เหี้ยมโหดกลางสนามรบคนเดิมกลางมาแล้ว ทางบ้านตระกูลหวัง ฮูหญิงหวังยืนชมดอกไม้ให้อาหารปลา พูดคุยกัยสาวใช้ของเขา “ จิ่วจิว เข้าว่าตอนนี้คุณหนูของเจ้าจะคิดถึงข้าไหม ” ฮูหญิงเอ่ยถาม “ ต้องคิดถึงแน่นอนเจ้าค่ะ ” สาวใช้พูดจาท่าทางร่าเริงสดใส “ เจ้าว่าซิ่วเอ๋อร์จะถูกดูแลอย่างดีไหม ” “ ฮูหญิงอย่างก่วงเลยเจ้าค่ะ องค์ชายรักคุณหนูขนาดนั้นต้องดูแลดีแน่นอนเจ้าค่ะ แถมยังส่งสารบอกข่าวคุณหนูแก่ท่านตลอดนี่เจ้าคะ ” ฮูหญิงหวังถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “ เฮ้อ ! คนเป็นแม่อย่างข้าไม่เห็นกับตาก็อดห่วงไม่ได้ ” พูดจบก็เดินกลับห้องไปจิ่วจิวและเหล่าสาวใช้คนอื่นๆก็เดินตาม เขาพบเข้าทหารองครักษ์ของฮ่องเต้ฉินที่เดินออกมาจากห้องโถงใหญ่ นางจึงเดินเข้าไปหาสามีนางที่สีหน้าเคร่งเครียดอยู่เอ่ยอย่างระมัดระวังว่า “ ท่านเป็นอะไรเจ้าคะเหตุใดสีหน้าดูไม่ค่อยดีเลย ” “ ไม่เป็นอะไรหรอก แค่งานมีปัญหานิดหน่อย ” นายท่านหวังพูด ฮูหญิงรู้ว่าสามีกำลังปิดบังตนเองอยู่จึงเอ่ยว่า “ เมื่อกี้ข้าเห็นทหารองครักษ์ของฮ่องเต้ฉิน เขามาท่านคุยเรื่องอะไรกับท่านกันแน่ ” นายท่านหวังรู้ว่าภรรยาเขาฉลาดถึงไม่บอกเขาก็จะรู้จนได้ “ ฮ่องเต้จะให้พวกเราเข้าไปอยู่ในวัง แต่เรื่องนี้เราจะให้ลูกรู้ไม่ได้เขาจะเป็นห่วงเอา ฮ่องเต้รับสั่งว่าให้เวลาเตรียมตัวหนึ่งเดือน ” “ เช่นนั้นเราจะปฏิเสธได้มั้ยเจ้าคะ ” “ คงจะไม่ได้ ฮูหญิงท่านอย่าคิดมากเลย ข้าคิดว่าฮ่องเต้ไม่ทำอะไรพวกเราหรอก ที่เขาทำแบบนี้เพื่อบบีบใก้ซิ่วเอ๋อร์กลีบมา เป็นเช่นนี้พวกเราก็ทำตามพระประสงค์ของฮ่องเต้ก่อนแต่เราจะไม่ให้ซิ่วเอ๋อร์รู้ว่าเราอยู่ในวัง ก่อนเข้าวังก็ส่งข่าวให้ซิ่วเอ๋อร์ว่าไม่ต้องห่วง หากจัดการงานทุกอย่างเรรยบร้อยพวกเราจะย้ายไปอยู่กับเขา เจ้าว่าดีไหม ” “ เจ้าค่ะ ดีๆ ” สองสามีภรรยาโอบกอดปลอบใจกัน เก้าเดือนผ่านไปไป่เซเดินเล่นในสวนดอกไม้อยู่ๆก็รู้สึกเจ็บท้องขึ้นมา “ โอ้ย! ข้าปวดท้อง ” จางจิ้งรีบมาผยุงเขาเดินกลับไปยังห้อง “ ไปตามหมอหลวงมาเร็ว ” จางจิ้งคอยดูแลจับมือคุณหนูของเขาอยู่ตลอดเวลา จางจิ้งออกคำสั่งแก่คนอื่นๆอย่างตื่นตระหนกสักพักหมอหลวงก็มาบอกว่ากำลังจะคลอดจึงรีบตามหมอผู้หญิงมาทำคลอดทหารรีบไปรายงานองค์ชายจิ้นมู่หลงฮองเฮาและฮ่องเต้ทันที พวกเขาต่างมารอหน้าห้องทำคลอดยังใจจดใจจ่อสีหน้าเป็นกังวลผ่านไปครึ่งชั่วยามก็มีเสียงเด็กร้องออกมาจากด้านใน \" แง้ แง้ แง้ \" เสียงเด็กร้องให้เสียงดัง ทุกคนที่รออยู่ด้านนอกใจชื้นขึ้นมาหน่อยถอนหายใจกันอย่างโล่งอก ทารกถูกห่อแล้วอุ้มออกมาให้องค์ชายจิ้นมู่หลง “ ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง เป็นองค์ชายน้อยเพคะ ” หมอพูดพร้อมยื่นให้จิ้นมู่หลง จิ้นมู่หลงดีใจรับเด็กเข้ามาอุ้มอย่างรักใครเด็กหน้าตาเหมือนซิ่วอิงเลยยิ่งทำให้จิ้นมู่หลง หลงมากขึ้นไปอีก หนึ่งอาทิตย์ต่อมาร่างกายของไป่เซเริ่มดีขึ้นเวลาผ่านไปใกล้ครบเดือน จิ้นมู่หลงมาหาไป่เซที่ห้องทั้งสองนั่งลงบนโต๊ะพูดคุยกัน “ ซิ่วอิงเจ้าคิดชื่อลูกหรือยัง ” จิ้นมู่หลงถามไป่เซยิ้มแล้วตอบว่า “ คิดไว้แล้วเจ้าค่ะ ” “ ข้าให้เขาชื่อว่า เนี่ยน เจิน หวังเนี่ยนเจิน ” “ ทำไมล่ะ แต่ข้าอยากให้เขาชื่อนี้ หวัง หย่ง ที่แปลว่ากล้าหาญ ” “ ไม่เอาๆชื่อข้าก็แปลว่ากล้าหาญแล้ว เนี่ยนเจินแหละดีแล้ว ” “ ทำไมล่ะ ” จิ้นมู่หลงถามอย่างผิดหวัง “ ก็เพราะว่าท่านไง ” ไป่เซยิ้มแล้วเอ่ยต่อ “ อย่างไรรึ ? ” จิ้นมู่หลงเลิกคิ้วจ้องเธอ “ ตั้งแต่ได้พบท่านก็มีท่านคอยดูแลสร้างความเชื่อมั่นมีความซื่อสัตย์มอบความจริงใจให้แก่ข้า ข้าเลยตั้งใจตั้งชื่อนี้ให้เขา ข้าคิดชื่อนี้นานแล้ว และเมื่อเขาโตขึ้นข้าจะบอกเขาว่าที่ตั้งชื่อนี้ให้เขา เพราะอยากขอบคุณความรักความซื่อสัตย์ความจริงใจของท่าน ข้ามอบเนี่ยนเจินให้ท่านหากท่านรับรักเขาเหมือนลูกแท้ๆข้าจะถือว่า ท่ารับคำขอบคุณจากข้า เขาคือตัวแทนรักที่ความบริสุทธิ์ ของเราสองคน” “ ข้าขอบคุณเจ้าที่ยอมอยู่เคียงข้างข้า ” “ ซิ่วเอ๋อร์ พวกเราไม่ต้องพูดถึงเรื่องในอดีตแล้วนะลืมไปซะว่าเนี่ยนเจินเป็นลูกของใครแต่ให้จำว่าเขาคือสายเลือดของเราสองคนได้ไหม ” “ ได้ข้าสิข้าจะลืมและไม่พูดถึงเรื่องอดีตอีก ” “ ซิ่วอิงถ้าลูกอายุครบสามเดือนแล้วพวกเราแต่งงานกันนะ เนี่ยนเจินจะได้มือครอบครัวที่สมบูรณ์จริงๆมีพ่อแม่ลูกให้ครอบครัวที่อบอุ่นแก่เขาข้าสัญว่าจะรักมั่นคงต่อเจ้าเพียงคนเดียวตลอดไป ” “ เจ้าค่ะ ” เวลาผ่านไปจนเด็กน้อยอายุครบเดือน จิ้นมู่หลงจัดงานเลี้ยงตั้งชื่อเด็กน้อยครบหนึ่งเดือน ผู้คนมากมายต่างถูกเชิญมาแสดงความยินดีจางจิ้งและหลงๆคอยต้อนรับแขกหน้าห้องโถงใหญ่ งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นยิ่งใหญ่ นอกวังก็มีการจัดงานเลี้ยงให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความยินดี ในวังแขกชนชั้นสูงเหล่าข้าราชการหลั่งไหลเข้ามาในวังกันอย่างคึกคักครึกครึกครื้น ผู้คนต่างรู้ว่าไป่เซเป็นว่าที่พระชายาขององค์ชายจิ้นมู่หลงและมีองค์ชายน้อยด้วยกัน ไป่เซอุ้มลูกไว้ในอ้อมอกมีองค์ราชทายาทคอยอยู่เคียงข้างเขาไม่ห่างผู้คนต่างชื่นชมในความรักของพวกเขาที่มั่นคงรักเดียวต่อกัน เหล่าสตรีลูกขุนนางต่างพากันอิจฉาเธอแต่เมื่อเห็นใบหน้างดงามของเธอต่างก็พากันตะลึงในรูปร่างหน้าตาสวยงามบุคลิกสูงส่งสง่าน่าหลงไหล เมื่อยืนเคียงข้างอง์ชายราชทายาทจิ้นมู่หลงแล้วผู้คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากิ่งทองใบหยก
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่14 เจ้ายินดีจะแต่งงานกับข้าไหม
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A