ตอนที่ 38 ฉันต้องการคุณ
1/
ตอนที่ 38 ฉันต้องการคุณ
ลิขิตฟ้าทุกภพชาติรักแค่เธอ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 38 ฉันต้องการคุณ
ในตอนเช้ามืดพอแม่ของไป่เซตื่นแต่เช้าจัดเก็บเสื้อผ้าอย่างเรียบร้อยจากนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น \" ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! \" แม่ของไป่เซก็ก็ไปเปิดประตูเห็นแม่บ้านยืนยิ้มให้เขาแล้วยื่นคีย์การ์ดมาให้เขาทันที \" สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณหญิง นี่เป็นคีย์การ์ดห้องของคุณหนูไป่ค่ะ \" แม่บ้านยกมือขึ้นสวัสดีตามมาราทไทย(พูดภาษาไทย) แม่ของไป่เซรู้สึกเขินกับคำเรียกของแม่บ้านเพราะตัวเองไม่ใช่พวกคุณหญิงคุณนายอะไรเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งที่ยากจนแล้วมองที่คีย์การ์ดอย่างงงๆ \" เอ่อคุณแม่บ้านคะอย่าเรียกฉันว่าคุณหญิงเลยนะคะดูคุณอายุน้อยกว่าฉันเรียกว่าพี่หรือป้าก็พอค่ะฐานะเราธรรมดาขอเป็นกันเองดีกว่านะคะ \" แม่บ้านรู้สึกว่าแม่ของคุณหนูของเขานั้นเป็นคนดีถ่อมตนไม่เย่อหยิ่งแต่กลับพูดจาสุภาพและเป็นกันเองกับเขาในบ้านหลังนี้มีหัวหน้าแม่บ้านคนเดียวที่พอพูดภาษาไทยได้บ้าง \" เอ่อ แล้วคีย์การ์ดนี่ใช้ยังไงเหรอคะ \" แม่ของไป่เซถามด้วยความอยากรู้เพราะเขาอยู่แต่บนดอยไม่เคยเห็นมาก่อน แม่บ้านก็ตั้งใช้บอกวิธีใช้แกเขาทันที \" งั้นขอเรียกคุณพี่แล้วกันนะคะ \" แม่บ้านพูด \" ค่ะตามแต่สะดวกเลยค่ะ \" แม่ไป่เซพูด \" อันนี้เรียกว่าคีย์การ์ดค่ะจะใช้แทนกุญแจเอาไว้ล็อคประตูถ้าต้องการจะเปิดปิดประตูค่ะสามารถนำคีย์การ์ดเนี่ยแตะเข้าไปตรงที่แตะก็สามารถเปิดประตูห้องได้แล้วค่ะอย่างห้องของคุณพี่จะสาธิตวิธีใช้ให้ดูนะคะ \" แม่บ้านพูดจบก็สาธิตให้แม่ของไป่เซดูบ้านหลังนี้จะใช้ระบบสแกนนิ้วมือและคีย์การ์ดเอาไว้สำหรับให้แม่บ้านถือเพื่อเข้าออกห้องสะดวกในการทำความสะอาดห้อง \" อ๋อ ขอบคุณมากค่ะ \" เมื่อรู้วิธีใช้แม่ไป่เซพูดขอบคุณด้วยรอยยิ้มเตรียมที่จะไปห้องของลูกสาว ไป๋เจิ้นหลงและไป่เซนอนกอดกันอยู่บนเตียงดูแล้วเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันทีเดียวเรือนร่างเปลือยเปล่าไป๋เจิ้นหลงนุ่มเพียงกางเกงชั้นในนอนกอดร่างหญิงสาวอย่างมีความสุข ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออกมาไฟในห้องสว่างขึ้นพ่อแม่ของไป่เซเข้ามาอย่างตื่นเต้นอารมณ์ดี แตะตกตะลึงกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าไป๋เจิ้นหลงที่ค่อยๆลืมตาขึ้นเพราะแสงไฟสว่างแยงตาแล้วตกใจลุกขึ้นนั่งเผยให้เห็กแผ่นอกอันแข็งแกร่ง แม่ของไป่เซตะลึงอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจและเสียใจที่ลูกสาวชิงสุกก่อนห่ามและแทบไม่เชื่อในสายตาตนเองแม้สมัยนี้ชนเผ่าของเขาจะไม่ค่อยใส่กับเรื่องแบบนี้มองเป็นเรื่องธรรมชาติในการลองคบกันก่อนก็เหอะ แต่เขาเป็นคนโบราณและเป็นพ่อแม่ของเธอจะไม่ให้รู้สึกหวงลูกสาวได้อย่างไร \" ลุ...ลูกไป่ ทำไมลูกถึงได้ทำให้พ่อแม่ผิดหวังแบบนี้ \" คุณพ่อไป่พูดด้วยความโกรธน้ำเสียงสั่นเทาและติดๆขัดๆ ไป๋เจิ้นหลงท่าทางตกใจและเซ็งแววตาแสดงความเบื่อหน่ายรำคาญเล็กน้อยราวกับว่าไม่พอใจที่มีคนมาขัดความสุขของเขาเลยพูดออกไปด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำมองอย่างไม่สบอารมณ์ \" คุณลุงคุณป้าตกใจอะไรครับ ทำไมเข้ามาไม่เคาะประตูก่อน \" \" นี่คุณ...คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงนี่มันห้องลูกสาวพวกเราไม่ใช่เกรอ \" พ่อไป่เซไม่เชื่อหูตนเองคิดไม่ถึงว่าไป๋เจิ้นหลงจะพูดแบบนี้กับเขาผู้ที่เป็นพ่อของคนที่เขานอนด้วยหรือจะเรียกว่าคนที่เป็นพ่อตาในอนาคตเขา พ่อไป่เซเริ่มไม่ค่อยชอบไป๋เจิ้นหลงสักเท่าไหร่ ไป่เซที่หลับสนิทตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงคนพูดคุยเสียงดังพอลืมตาขึ้นเธอก็เห็นใบหน้าแม่ที่ตกตะลึงใบหน้าพ่อที่โกรธเคือง : มันเกิดอะไรขึ้นทำไมพ่อกับแม่มาอยู่ที่นี่ได้ทำไมถึงมีสีหน้าแบบนั้นล่ะ : ไป่เซถามตัวเองในใจ พอได้สติเธอก็รู้สึกว่าร่างกายเธอเปลือยเปล่าแววตาเธอโตเป็นไข่ห่านทันทีพอขยับตัวร่างกายก็ชนเข้ากับอกอันแข็งแกร่งที่เปลือยเปล่าของไป๋เจิ้นหลงเธอรีบหันไปมองด้วยความตกใจ \" ไป๋เจิ้นหลง! \" เธออุทานออกมาอย่างตกใจสุดขีดจนลืมไปว่าพ่อแม่ก็อยู่ \" นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง! นายทำอะไรฉัน \" พอคำถามนี้หลุดออกมาจากปากเธอไป๋เจิ้นหลงยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์แล้วกระซิบข้างหูเธอเบาๆ \" ที่รักลืมไปแล้วเหรอเมื่อคืนร่างกายคุณยั่วยวนผมอย่างเผ็ดร้อนและคุณเป็นคนบอกว่าต้องการผมขอให้ผมช่วยปลดปล่อยไปกับคุณเองนะ \" ไป่เซหน้าร้อนผ่าวหูแดงหน้าแดงไปหมดแยกไม่ออกแล้วว่าเพราะโกรธหรือเพราะเขินแววตาเธอดุร้ายไฟในกายลุกโชนขึ้นเรื่อยๆ \" ไป๋เจิ้นหลงไอ้ชั่ว! ไอ้เลวก็เห็นอยู่ว่าคุณจัดฉากขึ้น คุณอยากจะให้พ่อแม่ฉันมาเห็นฉันในสภาพแบบนี้ ไอ้ชั่ว! \" ไป่เซตะโกนด่าทอด้วยความโกรธปกติแล้วเธอเป็นคนด่าไม่เก่งและแม้โกรธมาแค่ไหนก็ไม่หลุดคำด่าที่หยาบคายเกินไปออกจากปากเธอดังนั้นเธอจึงนึกคำด่าไม่ออกนอกจากคำว่า ชั่วและเลว ซึ่งไป๋เจิ้นหลงชินกับสองคำนี้ไปแล้ว คุณแม่ไป่เซเห็นลูกสาวโวยวายก็โรธและพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยและเย็นชาว่า \" ลูกไม่ต้องพูดแล้วรีบอาบน้ำใส่เสื้อผ้าแล้วลงไปคุยกันชั้นล่าง \" \" แม่มันไม่ใช่แบบที่แม่เห็นนะ เป็นไป๋เจิ้นหลงที่จัดฉากขึ้นเป็นเขาที่ต้องการใส่ร้ายหนู \" ไป่เซสีหน้าอ้อนวอนและพยายามอธิบายให้แม่เข้าใจเพราะเธอรู้ดีว่าเรื่องในบ้านทุกอย่างล้านขึ้นอยู่กับแม่ของเธอถ้าแม่เธอปักใจเชื่อเธอก็ต้องแต่งงานกับไป๋เจิ้นหลง แม่ของไป่เซได้ฟังคำแก้ตัวของลูกสาวสุดที่รักที่เขานั้นทั้งรักทั้งตามใจและเอาใจมาตลอดเพราะลูกสาวคนนี้เย็นชาไม่เคยทำให้พ่อแม่เดือดร้อนทุกข์ใจมาก่อนวันนี้กลับทำให้เขาจับได้คาหนังคาเขาจะบอกว่าไม่เชื่อได้อย่างไร \" ไม่ต้องพูดแล้วรีบแต่งตัวเร็วๆ \" พูดจบพวกเขาก็เดินออกไปจากห้องของไป่เซ ไป่เซเอามือทั้งสองกุมขมับไว้แน่นคิดอะไรไม่ออก เท่าที่เธอจำได้เมื่อคืนเธอหิวน้ำและเดินผ่านเตียงเสริมของไป๋เจิ้นหลงแต่ไป๋เจิ้นหลงหยุดเธอไว้แล้วถามว่า \" คุณจะไปไหน \" \" ไปกินน้ำ \" เธอตอบ \" ไม่ต้องลงไปหรอกเดี๋ยวผมจะให้แม่บ้านยกขึ้นมาให้ \" จากนั้นสักพักแม่บ้านก็ยอกน้ำขึ้นมาให้เธอ เธอจึงยกดื่มไปหมดแก้วแล้วเธอก็กลับมานอนจำอะไรไม่ได้อีกเลย ไป๋เจิ้นหลงที่นั่งเงียบขรึมมองดูแผ่นหลังของพ่อแม่ไป่เซก็กระตุกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ นึกถึงเรื่องเมื่อคืนผู้หญิงในชุดนอนที่ปกปิดมิดชิดฉีกเสื้อผ้าตนเองอย่างร้อนแรงแล้วลากตัวเขาขึ้นไปบนเตียงจากนั้นก็ฉีกเสื้อผ้าเขาออกประกบจูบเขาอย่างคลั่งไคล้พร้อมกับพูดว่า \" ฉันต้องการคุณ ขอร้องช่วยฉันเถอะ ฉันร้อนช่วยสัมผัสฉันที ฉันต้องการคุณ \" ร่างกายที่หอมหวานขาวนวลบอบบางลูบเลื้อยอยู่บนตัวเขายั่วยวนเขาไม่หยุดจนเขาทนไม่ไหวกดเธอลงไปใต้ร่างส่งแรงพิสวาทเข้าไป เสียงครางของเธอเซ็กซี่เย้ายวนจนเขาทนไม่ไหวเพิ่มความรุนแรงและป่าเถื่อนอย่างไม่รู้ตัวเป็นเวลานานและจบลงอย่างเหนื่อยหอบโอบกอดร่างของเธอไว้ในอ้อมอก ฤทธิ์ยาหมดลงไป่เซก็หลับไปโดยไม่รู้สึกตัวตอนที่ไป๋เจิ้นหลงสั่งให้แม่บ้านยกน้ำมาให้เธอนั้นเขาได้ส่งข้อความไปให้จินเฉินนำยานั้นใส่ลงไปในน้ำของเธอแม้แต่แม่บ้านเองก็ไม่รู้ ไป่เซมองไปที่ไป๋เจิ้นหลงอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อน้ำตาไหลอาบแก้มและพูดกับไป๋เจิ้นหลงว่า \" คุณวางยาฉัน \" น้ำเสียงเธอหนักแน่นแม้น้ำตาไหลแต่เสียงไม่สั่นคลอเลยสักนิดแสดงถึงความเข้มแข็งและแข็งแกร่งบนตัวเธอ ไป๋เจิ้นหลงตอบไปอย่างไม่ใส่ใจ \" วางยาอะไรกันที่รักผมแค่อยากถูกคุณยั่วยวนคุณรู้มั้ยเมื่อคืนคุณเซ็กซี่มากกระตุ้นให้มีอารมณ์สุดๆ \" ไป่เซโกรธมากไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระของไป๋เจิ้นหลงและไม่อยากเก็บมาใส่ใจแล้วตอนนี้เธอแก้ตัวอะไรกับพ่อแม่ไม่ได้แล้วเธอมองว่าข้อเสียของชนเผ่าเธอคือ ถ้าจับได้ว่าหนุ่มสาวคนใดที่มีอะไรกันแล้วกับแฟนหรือกับใครก็ต้องแต่งงานกับคนนั้น เว้นแต่จะถูกข่มขืนถ้ากรณีถูกข่มขืนผู้ชายจะ \"ถูกตอน\" ไม่ก็ถูกทรมานทำให้อายอายจับส่งตำรวจแต่สมัยก่อนคือ ฆ่าทิ้ง แต่หลังมาผู้คนเริ่มเกรงกลัวกฎหมายผู้หญิงที่ถูกกระทำอับอายจนต้องหนีไปอยู่ที่อื่นบางคนยอมแต่งงานกับคนที่ขืนใจตนเองทั้งที่ไม่ได้แต่ผู้หญิงบางคนเลือกที่จะหนี เพื่อเป็นการปกป้องผู้หญิงกรณีเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็จะยกให้ญาติหรือพ่อแม่ผู้ปกครองของผู้ถูกกระทำเป็นคนตัดสินว่าจะจัดการกับคนที่ข่มขืนยังไง สมัยก่อนใครที่กล้าทำให้ลูกสาวบ้านไหนอับอายพ่อหรือญาติพี่น้องของบ้านนั้นก็จะฆ่าผู้ชายคนนั้นทิ้งซะเพราะผู้หญิงที่ถูกกระทำอับอายจนไม่อาจมีสามีได้และน้อยมากที่จะมีผู้ชายยอมรับมีเพียง 1ใน 100 เท่านั้น ผู้หญิงแม้จะมีชีวิตอยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็นไม่กล้าออกมาเห็นเดือนเห็นตะวัน ใครข่มขืนฆ่าทิ้งดังนั้นเผ่านี้จึงค่อนข้างที่จะปลอดภัยและไม่มีการขืนใจเพศตรงข้ามไม่มีการทำผิดศีลทุกคนเคารพใก้เกียรติกันปกป้องผู้หญิงที่อ่อนแอกว่าเสมอ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องในเผ่าเธอในสมัยก่อน และเธอเป็นคนยุคใหม่เติบโตในสังคมระดับสูงคนนอกจะมองเธอเป็นคุณหนูตระกูลร่ำรวยในนามตระกูลไป๋คู่หมั้นของไป๋เจิ้นหลงแต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอมีแฟนของตนเองที่รักกันมากๆอย่างมู่ๆ เธอรู้สึกเสียใจมองไปที่ไป๋เจิ้นหลงอีกครั้งพร้อมกับพูดว่า \" ไป๋เจิ้นหลงคุณนี่มันหน้าด้านจริงๆ ที่คุณทำแบบนี้เพราะคุณกลัวว่าฉันจะแย่งหุ้นครึ่งหนึ่งของคุณไปใช่มั้ยคุณเลยทำทุกวิถีทางเพื่อให้ฉันดิ้นไม่หลุด ฉันเคยบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันไม่ต้องการหุ้นหรือสมบัติอะไรของตระกูลคุณ เมื่อถึงเวลาแล้วฉันจะโอนคืนให้คุณ แล้วทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้ คุณยังมีความเป็นคนอยู่มั้ย \" เธอพูดไปร้องให้ไปอย่างเดือดดาล \" ฉันรักมู่มู่ฉันมีแฟนแล้วฉันไม่ได้รักคุณทำไมคุณถึงแกล้งฉันแบบนี้ \" นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเสียใจร้องให้อย่างสิ้นหวังน้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาเผยด้านที่อ่อนแอที่สุดออกมาอย่างไม่สนใจ ไป๋เจิ้นหลงโกรธและโมโหขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินชื่อมู่มู่ออกมาจากปากเธอมุมปากเขาก็กระตุกขึ้นอย่างแรง มือทั้งสองบีบเข้าที่แขนของไป่เซอย่างแรงดวงตาราวกับจะฆ่าคนกัดฟันพูดและกดเสียงต่ำจนน่ากลัวความภายในกายเขาถูกแผ่ออกมาทำให้บรรยากาศรอบตัวถูกปกคลุมด้วยความเย็นยะเยือกทำให้คนกลัวจนหนาวสี่นไม่หยุด \" ไป่เซคุณพูดชื่อมันอีกทีสิ พูด \" แววตาเลือดเย็นจ้องไปที่ไป่เซพร้อมกับเขย่าเธอ \" เป็นคุณที่บังคับให้ผมทำแบบนี้ คุณอย่าคิดว่าผมจะโง่ไม่รู้ว่าคุณแอบไปนัดเจอกับไอ้นั่นอย่างลับๆคุณพูดอะไรกับมันอย่าคิดว่าผมจะไม่รู้คุณแสร้งทำเป็นเชื่อฟังเพื่อหลอกให้ผมตายใจคุณรู้มั้ยผมเกลียดที่สุดคือการถูกคนอื่นหลอกและถูกมองว่าเป็นไอ้หน้าโง่ที่หลอกง่าย \" จากนั้นไปเจิ้นหลงก็เดินไปหยิบปากกาบันทึกเสียงออกมาจากกระเป๋าของเธอและตัวติดตามตำแหน่งที่ติดอยู่ในกระเป๋าช่องเล็กด้านใน ไป๋เจิ้นหลงเปิดเสียงที่ถูกบันทึกให้เธอฟัง ไป่เซเบิกตากว้างด้วยความตกใจน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูก็แห้งเหือดไปพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าไป๋เจิ้นหลงจะติดตามเธอและแอบฟังเธอด้วยวิธีนี้ \" คุณ คุณมันโรคจิต คุณทำแบบนี้คุณละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของฉันนะ คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ \" ไป่เซโกรธที่ตัวเองถูกจับได้และโกรธที่ไป๋เจิ้นหลงรู้ความเคลื่อนไหวของเธอตลอด ไป๋เจิ้นหลงมองเธออย่างเยาะเย้ยในความโง่เขลาที่เธอมี \" ใครบอกว่าผมไม่มีสิทธิ์ผมมีสิทธิ์ในตัวคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่เรา....กันแล้วคุณควรยอมรับความจริงข้อนี้ว่าคุณเป็นของผมตั้งนานแล้ว อ่อ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าไอ้ผู้ชายนั่นมันรู้ว่าคุณกับผม....กันแล้วมันจะรู้สึกยังไง คุณอย่าคิดว่าตนเองฉลาดตบตาผมได้คนอย่างผมไม่ยอมให้คุณหลอกได้หรอก ถ้ายังคิดแผนอะไรอีกก็คิดเผื่อผลที่จะตามมาด้วย \" คนอย่างไป๋เจิ้นหลงไม่ว่าจะด้านการบริหารธุรกิจหรือตองการอะไรไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล พูดจบยกยิ้มมุมปากและเข้าไปอาบน้ำอย่างสบายใจมีแต่ไป่เซที่จมอยู่กับผ้าห่มปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเป็นสายอีกครั้งเธอไม่รู้จะบอกมู่มู่ยังไง ที่เธอทรยศเขาแบบนี้ในหัวตอนนี้ของเธอมีแต่มู่มู่ ชั้นล่างในห้องรับแขกพ่อแม่ของไป่เซนั่งอยู่สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ไม่นานคุณปู่และเลขาก็ลงมา ไม่นานไป่เซและไป๋เจิ้นหลงก็ลงมาเช่นกันตาไป่เซบวมแดงใครดูก็รู้ว่าเพิ่งผ่านการร้องให้มาอย่างหนัก ทั้งหมดนั่งคุยกันและมีการวีดีโอคอลหาคุณพ่อคุณแม่ของไป๋เจิ้นหลงที่ไปเที่ยวต่างประเทศด้วย พวกเขานั่งคุยกันเหมือนนั่งประชุมอยู่ในห้องประชุมคุณแม่ไป๋รับวีดีโอคอลของคุณปู่เสร็จก็พูดขึ้น \" อรุณสวัสดิ์ค่ะ ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากัน มีเรื่องอะไรน่าตื่นเต้นเหรอคะ \" ไป๋เจิ้นหลงมองไปที่พ่อแม่ของไป่เซสีหน้าพวกเขาดูไม่ดีเท่าไหร่ จากนั้นเขาก็เป็นคนเปิดประเด็นพูดขึ้น \" คุณลุงคุณป้าครับผมขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยครับ พวกเราสองคนอยู่ด้วยกันแบบนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว...\" พอพูดถึงตรงนี้ไป่เซก็ขัดจังหวะการพูดของเราทันที \" ไป๋เจิ้นหลงคุณพูดอะไรของคุณฉัน......\" ไป่เซยังพูดไม่ทันจบแม่ของเธอก็พูดแทรกขึ้น \" หยุดหนูยังไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น คุณชายไป๋พูดต่อกัน \" แม่ของไป่เซก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าไป๋เจิ้นหลงจะแก้ตัวยังไง ได้ยินแบบนี้ไป๋เจิ้นหลงก็ปั้นหน้าพูดความจริงตีใส่ไข่แต่ดูเป็นสุภาพบุรุษกล้าทำกล้ารับผิดชอบ \" ผมไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ลูกสาวของคุณลุงคุณป้าเสียหายหรือเสียชื่อแต่อย่างใดครับผมรักเธอจริงๆพวกเรารักกันสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเราต่างก็ยินยอมพร้อมใจ มันเป็นธะรมดาของวัยรุ่นสมัยนี้ที่จะชิงสุกก่อนห่ามหากเธอท้องผมพร้อมจะเป็นพ่อเด็กและผมพร้อมที่จะดูแลปกป้องเธอผมยินดีที่จะแต่งงานกับเธอครับตลอดเวลาครับ ถ้าเธอพร้อม \" ไป่เซมองไป๋เจิ้นหลงราวกับอยากจะฉีกจะเฉือนจะแล่เนื้อเขาออกเป็นชิ้นๆแต่เธอพูดอะไรไม่ได้ ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยโดนแม่เธอตำหนิมาก่อนยิ่งพูดหยุดคำพูดของเธอไม่ต้องพูดถึงเธออยู่ในโลกของเธอมาตลอดที่แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่มายุ่งมาขัดอะไรเธอแต่วันนี้อำนาจการตัดสินใจตกอยู่ในมือของแม่เธอแล้ว มันช่างเป็นอะไรที่ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ \" อืม ในเมื่อคุณชายไป๋พูดขนาดนี้แล้วคุณท่านไป๋กับคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายไป๋มีความเห็นว่าอยังไงคะ \" แม่ไป่เซถาม คุณปู่ไป๋พูดขึ้นอย่างเหนื่อยใจและดูลำบากใจเอามากๆแต่ใครจะรู้ว่าทั้งหมดเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น \" อืม ในเมื่อเกินเลยมาถึงขั้นนี้แล้วจะทำยังไงได้ พวกเขาทั้งสองก็ล้วนเป็นหลานรักของฉัน ถ้าพวกเขามีใจให้กันจริงๆฉันก็ไม่คัดค้านอะไร \" ขณะที่คุณปู่ไป๋พูดไป่เซก็มองไปที่คุณปู่ไป่พยายามส่ายหัวเบาๆราวกับจะบอกว่า คุณปู่อย่าเห็นด้วย \" ฉันกับคุณพ่อของเจิ้นหลงต้องขอโทษคุณแป๊ะกับคุณเส่อด้วยนะคะ ที่เราสอนลูกชายมาไม่ดี ทำให้ล่วงเกินลูกสาวคุณพวกเราเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆค่ะ \" คุณแม่ไป๋พูด คุณพ่อไป๋ก็พูดขึ้นว่า \" แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกพวกเรายินดีรับผิดชอบโดยการให้เจิ้นหลงแต่งงานกับหนูไป่ให้เร็วที่สุด \" ไป่เซสะดุ้งตกใจกับคำว่าแต่งงานเป็นครั้งที่สองเธอนั่งแทบไม่ติดจนสุดท้ายความเชื่อฟังที่เงียบมาตลอดก็เงียบไม่ไหวแล้วจึงพูดขึ้นอย่างดื้อรั้นว่า \" หนูยังไม่อยากแต่งงานค่ะ! \" ทุกคนได้ยินสีหน้าเปลี่ยนอย่างรวดเร็วด้วยความนึกไม่ถึงว่าไป่เซจะดื้อรั้นกล้าคัดค้านการแต่งงานทุกคนหันไปมองเธอ ไป๋เจิ้นหลงแอบยิ้มอย๋างผู้ชนะพอใจกับคำตัดสินของทุกคนที่ให้เธอแต่งงานกับเขา แบบนี้เป็นวิธีเดียวที่เธอจะเป็นผู้หญิงของเขาคนเดียวและเป็นภรรยาของเขา แม่ของไป่เซจึงพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ \" ลูกมีเหตุผลอะไรถึงไม่อยากแต่งงานหรือจะรอให้ท้องก่อนค่อยแต่งอย่างงั้นเหรอลูกต้องการจะทำให้พ่อแม่อับอายเหรอ \" เมื่อเธอรู้สึกว่าทุกสายตาจ้องมาที่เธอเธอก็พูดข้ออ้างขึ้นว่า \" หนูเพิ่งเรียนจบหนูยังต้องทำอะไรอีกมายมายยังไม่ประสบความสำเร็จอะไรอยู่ๆจะให้หนูแต่งงานเลยกลายเป็นผู้หญิงไร้ค่าหนูทำไม่ได้ค่ะ \" ทุกคนฟังดูมีเหตุผลแต่มีเพียงไป๋เจิ้นหลงเท่านั้นที่รู้ว่ามันคือข้ออ้างเพื่อที่เธอจะได้อยู่กับชายที่เธอรัก คิดได้แบบนี้ไป๋เจิ้นหลงก็เกิดความอิจฉาริษยา ความเดือดดาลเริ่มปะทุอีกครั้ง คิ้วขมวดเป็นปม แล้วจึงเอ่ยอย่างสุภาพว่า \" ได้ครับเมื่อคุณหนูไป่ยังไม่พร้อมผมก็จะไม่บังคับเธอแต่ผมจะแสดงความรับผิดชอบโดยการหมั้นกับเธอไว้ก่อนเผื่อว่าเธอท้องคืนมาจะได้ไม่ต้องเป็นที่ติฉินนินทาของชาวบ้านครับ \" เธอเกลียดไป๋เจิ้นหลงที่สรรหาคำพูดคำก็ท้องสองคำก็ต้องสามคำก็รับผิดชอบเธออยากจะต่อยปากเขาจริงๆ \" อืมป้ากับลุงเห็นด้วยเรื่องหมั้นหมายไม่ต้องมากพิธีรีตองอะไรทางเราง่ายๆกลับไปมัดมือกินเลียงในหมู่บ้านนิดหน่อยพอก็เป็นอันเสร็จพิธีแต่งงานและถือว่ามันคือการหมั้นหมายพอ หรือถ้าลูกไม่อยากให้ใครรู้ก็ไม่ต้องเชิญเพื่อนไปก็แอบมัดมือให้เสร็จพิธีพอจากนั้นลูกก็กลับมาอยู่ที่นี่แล้วค่อยจัดงานแต่งจริงๆทีหลัง \" ไป่เซไม่มีอะไรคัดค้านแล้วได้แต่พูดว่า \" เอาที่แม่กับพ่อและทุกคนคิดว่าดีและสบายใจค่ะ \" ทุกคนฟังก็รู้ว่าเธอประชดแต่เวลานี้พ่อแม่ของเธอต้องการเพียงคนรับผิดชอบเธอ \" งั้นผมจะให้เจิ้นหลงเดินทางไปประเทศไทยพร้อมกับคุณเลยทำพิธีอะไรเสร็จก็กลับมาผมจะให้อวี้เอ๋อร์เริ่มเรียนรู้งานในบริษัท จากนั้นผมจะจัดงานหมั้นให้ทั้งสองอย่างยิ่งใหญ่คุณคิดว่าไง \" \" ค่ะฉันเห็นด้วย / ครับ \" พ่อแม่ไป่เซตอบ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 38 ฉันต้องการคุณ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A