บทที่9 พบกับเฉียวจือซวนอีกครั้ง
1/
บทที่9 พบกับเฉียวจือซวนอีกครั้ง
แดดดี้สายเปย์ ลูกแฝดสุดน่ารัก
(
)
已经是第一章了
บทที่9 พบกับเฉียวจือซวนอีกครั้ง
บทที่9 พบกับเฉียวจือซวนอีกครั้ง ฉินจิ้งเวินขับรถไปยังโรงเรียนอนุบาล และประหลาดใจอย่างยิ่งที่เห็นป้านเย่และลูกชายของเฉียวซู่นเฉินเดินออกมาด้วยกัน “หม่ามี๊” ป้านเย่กระโจนเข้าใส่อ้อมกอดของฉินจิ้งเวินด้วยความดีใจ ในขณะที่เฉียวจือซวนยืนอยู่อีกด้านหนึ่งด้วยความอิจฉา “สวัสดีครับคุณน้า” “สวัสดีจ้ะซวนซวน คิดไม่ถึงเลยว่าจะเจอหนูที่นี่ น้าดีใจมากๆ” ฉินจิ้งเวินเผยความยินดีในใจของตนออกมา ก่อนจะคลายอ้อมกอดจากป้านเย่และเข้าไปกอดเฉียวจือซวนอย่างเต็มรัก “ซวนซวน ก็ดีใจมากๆเหมือนกันครับ” เฉียวจือซวนกอดตอบฉินจิ้งเวิน ท่าทางดูเงอะงะทำตัวไม่ถูก “หม่ามี๊ พี่ซวนซวน อยู่ชั้นเดียวกับหนู พี่ชายดูแลดูดีมาก” ป้านเย่ด้านหนึ่งเอ่ยปากพูดไป ท่าทางดูตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าฉินจิ้งเวิน “อื้ม บังเอิญจังเลยจ้ะ ขอบคุณซวนซวนที่ดูแลน้องนะจ๊ะ..” เทียบกับพ่อหน้าน้ำแข็งคนนั้นแล้ว เฉียวจือซวนถือเป็นเด็กผู้ชายที่อบอุ่นน่ารักอย่างยิ่ง “คุณน้าไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ผมสมควรดูแลป้านเย่อยู่แล้ว” เฉียวจือซวนทำตัวราวกับผู้ใหญ่มิปาน เอ่ยพูดอย่างใจกว้าง นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ถึงความสำคัญของตนเอง แถมเมื่อกี้คุณน้าที่คุณน้ากอดเขานั้นช่างอบอุ่นช่างมีความสุขอย่างยิ่ง “หนูน้อย รู้จักพูดแบบนี้ น้าชอบหนูจะแย่แล้ว” ฉินจิ้งเวินบีบใบหน้าเล็กๆเบาๆด้วยความเอ็นดู ในใจมีความขมขื่นผุดขึ้นมา “คุณชายน้อย พวกเราควรกลับบ้านได้แล้ว” ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ฉินจิ้งเวินหันไปดู และหันกลับมามองดู เฉียวจือซวน ใบหน้าเล็กๆไม่มีรอยยิ้มอีกต่อไป “คุณน้า ผมต้องกลับบ้านแล้ว ลาก่อนครับคุณน้า ลาก่อนป้านเย่” “อื้ม จ้ะ รีบกลับเถอะ เจอกันพรุ่งนี้นะจ้ะ” “พี่ชายซวนซวนลาก่อน” เฉียวจือซวนตามผู้ชายคนนั้นไป มองดูด้านหลังอ่อนแอของเขา เธอก็นึกไปถึงสายตาที่จู่ๆก็หม่นหมองลงของเขา ฉินจิ้งเวินคล้ายรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้เอ่อล้นออกมา “หม่ามี๊ หม่ามี๊สามารถมีพี่ชายให้หนูสักคนบ้างได้ไหมคะ มีพี่ชายเขาจะคอยปกป้องหนู” บนรถ ป้านเย่เอ่ยถามด้วยความใสซื่อ นัยน์ตาของฉินจิ้งเวินมีประกายสายหนึ่งปรากฏขึ้นมา จู่ๆในใจก็รู้สึกเจ็บปวด “มีพี่ชายซวนซวน คอยปกป้องหนูก็พอแล้วจ้ะ” ถ้าหากตอนนั้นเธอไม่ส่งลูกไป ตอนนี้เขาก็คงโตพอๆกับซวนซวน เช้าวันถัดมา ฉินจิ้งเวินไปส่งป้านเย่ที่โรงเรียนอนุบาลก็ตั้งใจรอนานขึ้นอีกหน่อย แต่กลับเจอเฉียวจือซวน บางทีอาจเป็นเพราะเขาอาจจะมาเช้ากว่านี้ วันนี้เป็นที่สองของการเริ่มงาน ดังนั้นจึงถือว่าเข้าสู่ระบบการทำงานอย่างเป็นทางการ โทรศัพท์มือถือที่เตรียมวางขายในท้องตลาดล็อตแรก ได้เริ่มออกแบบรูปร่างในขั้นแรกแล้วเรียบร้อย ตอนนี้ทุกคนกำลังปรึกษากันถึงระบบซอฟต์แวร์และชิปสำหรับแต่ละรุ่นอยู่ในห้องประชุม วันนี้ไม่มีเฉียวซู่นเฉิน ดังนั้นฉินจิ้งเวินจึงรู้สึกเป็นตัวของตัวเองขึ้นมาก ไม่มีใครคอยมาหาเรื่องเธอ เธอก็ไม่ไปตั้งแง่เผชิญหน้ากับใครเช่นกัน “ตามข้อมูลที่พวกคุณให้ฉันมา ฉันได้เสนอระบบสำหรับแต่ละรุ่นเอาไว้แล้ว นอกจากนี้ ฉันมีคำแนะนำเกี่ยวกับโพรเซสเซอร์ หน่วยความจำ กล้องถ่ายรูป หรือแม้แต่เซนเซอร์หน้าจอ เอาไว้อย่างละเอียดแล้ว นอกจากนี้ยังมีส่วนของอินเตอร์เฟสของผู้ใช้และซอฟต์แวร์แอปพลิเคชัน ฉันก็ได้เขียนแนะนำไว้แล้วเช่นกัน ผู้อำนวยการเห่า คุณรายงานเรื่องนี้กับท่านประธานเฉียวสักหน่อย หากมีตรงไหนที่ไม่พอใจฉันจะแก้ไขให้” ตั้งแต่เริ่มประชุมมาจนกระทั่งตอนนี้ ส่วนมากแล้วเป็นฉินจิ้งเวินที่เป็นคนเอ่ยอธิบาย ความรู้เฉพาะทางของเธอดึงดูดความสนใจของทุกคนอย่างยิ่ง เทียบกับเมื่อวานแล้วราวกับเป็นคนละคน “โอเค เดี๋ยวประชุมเสร็จลงฉันจะไปที่ออฟฟิศท่านประธาน” ผู้อำนวยการเห่าก็มองดูฉินจิ้งเวินด้วยสายตาชื่นชม อายุยังน้อยแต่กลับโดดเด่นขนาดนี้ “ผู้อำนวยการเห่าคะ รบกวนฝากคุณไปบอกหน่อยนะคะ ฉันเห็นว่าไม่เพียงแค่จะต้องมีการกำหนดค่าขั้นสูงเท่านั้นแต่จะต้องมีระบบการทำงานที่สูงด้วยเช่นกัน ราคานั้นไม่จำเป็นต้องเป็นมิตรมากนัก ถ้าหากทำได้ตามนี้โทรศัพท์ล็อตแรกของเราจะต้องเปิดตลาดได้อย่างแน่นอน” ฉินจิ้งเวินเสริมขึ้นอีกครั้ง บอกความคิดของตนเองกับผู้อำนวยการเห่า ให้เขาเป็นผู้บอกต่อ เนื่องจากตนไม่อยากจะเห็นหน้าคนหน้าน้ำแข็งนั่น “ฉันจะบอกต่อให้ คุณหนูฉิน ยังมีอีกเรื่อง โทรศัพท์มือถือรุ่นนี้แผนกดีไซน์เพิ่งจะส่งมา เป็นรุ่นอัพเกรด คุณลองดูภาพดีไซน์ภายนอกสักหน่อย ให้ดีคือทำให้ต้นทุนลดลงมาสักหน่อย” ฉินจิ้งเวินยื่นมือไปรับเอกสารจากผู้อำนวยการเห่ามาเปิดดู แค่เห็นรูปการณ์ดีไซน์ภายนอกคิ้วของเธอก็ขมวดขึ้นมา “มือถือรุ่นนี้มีเจ้าอื่นผลิตขายบนท้องตลาดแล้วเรียบร้อย หากเรายังทำการผลิตก็เท่ากับพวกเราลอกเลียนแบบแล้ว ถ้าหากไม่ใช่สิ่งที่เราคิดขึ้นมาใหม่เอง แบบนี้ยากที่จะทำให้ผู้บริโภคจดจำพวกเราได้” “มือถือรุ่นนี้ยังถือว่าไม่ใหม่พอ ฉันคิดว่าถ้าไม่เพิ่มประสิทธิภาพให้แข็งแก่รงกว่าเดิมก็ไม่ต้องลงทุนผลิตจะดีกว่า” ฉินจิ้งเวินยังมองไม่เห็นข้อดีของมือถือที่พับเก็บได้แบบนี้ เธอรู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าสนใจยกเว้นเรื่องราคา “หากเพิ่มประสิทธิภาพ ต้นทุนก็จะยิ่งสูง ถ้าหากแพงกว่าแบรนด์อื่นๆที่เป็นรุ่นเดียวกันในท้องตลาด พวกเราก็จะไม่มีข้อได้เปรียบอะไรอีก” ผู้อำนวยการเห่าเสริมความเห็นของตนเองเข้าไป “ดังนั้นฉันถึงบอกว่าเราไม่สามารถเดินตามรอยเท้าคนอื่นได้ พวกเราจะต้องทำสิ่งใหม่ขึ้นมา ให้แผนกดีไซน์ลองไปวิจัยเพิ่มให้ดีๆสักหน่อย ความเห็นของฉันเป็นความเห็นส่วนบุคคล สุดท้ายยังเป็นท่านประธานเฉียวที่เป็นคนตัดสินใจ” หลังพูดจบฉินจิ้งเวินก็เงียบไปครู่หนึ่ง “ผู้อำนวยการเห่ารอฉันสักสองนาที ฉันลองกำหนดค่ามือถือเครื่องนี้สักครู่” ฉินจิ้งเวินรู้สึกไม่ถูกต้องอยู่บ้าง งานของเธอนั้นจำกัดไว้แค่ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ภายในเท่านั้น ขอแค่เธอทำงานในส่วนของตัวเองให้ดีก็พอ ในส่วนที่ว่าบริษัทจะขายสินค้าอะไรบนตลาด อันที่จริงไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนเองแต่อย่างใด ผ่านไปไม่กี่นาที ฉินจิ้งเวินก็ใช้คอมพิวเตอร์ทำเอกสารขึ้นมา และทำระบบกำหนดค่าขึ้นมาสองแบบ ส่วนเรื่องการเลือกใช้การกำหนดค่าแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับพวกเขา “ผู้ตรวจการใหญ่ฉิน คุณไม่ได้บอกว่ามือถือรุ่นนี้อย่าวางขายจะดีกว่าไม่ใช่หรือ?” ผู้อำนวยการเห่าถามอย่างไม่เข้าใจ “ฉันบอกไปแล้วว่าที่พูดไปเป็นแค่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น ฉันแค่ออกแบบขึ้นมาให้เท่านั้น แต่ฉันก็ยังคงยืนยันตามความคิดเห็นส่วนตัวอยู่ คุณไปรายงานกับท่านประธานเฉียวเถอะค่ะ” ฉินจิ้งเวินพูดจบก็ลงมือเก็บเอกสารและคอมพิวเตอร์ของตนเอง หลังประชุมเสร็จ วิดีโอในห้องของประธานบริษัทยังคงล็อกเอาไว้ที่ตัวของฉินจิ้งเวิน แววตาของเฉียวซู่นเฉินดำสนิทล้ำลึก พร้อมกับคิ้วที่เลิกขึ้น ท่าทางที่ฉินจิ้งเวินแสดงออกมา เขาเห็นมันทั้งหมด เวลาที่เธอทำงานขึ้นมานั้นดูมีความมั่นใจและจริงจังอย่างมาก โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องเฉพาะทางก็ยิ่งทำได้อย่างยอดเยี่ยม ในสายตาของเฉียวซู่นเฉินแล้ว ประสบการณ์ทำงานของฉินจิ้งเวินนั้นไม่เหมาะสมกับอายุเลยสักนิด “ท่านประธานเฉียว พวกเรายังจะยื่นเรื่องให้ทาง MTเปลี่ยนคนไหมคะ?” ซูชิ่นเอ่ยปากถาม “รอดูไปก่อนอีกสักระยะ” ผู้หญิงคนนี้ยังมีค่าพอ จำเป็นต้องสังเกตต่อไป จะสูญเสียคนที่มีความสามารถไปไม่ได้เป็นอันขาด “บอกให้แผนกดีไซน์ออกแบบมือถือรุ่นอัพเกรดใหม่ทั้งหมด” คิดถึงคำแนะนำของฉินจิ้งเวิน เฉียวซู่นเฉินก็รู้สึกหงุดหงิด แม้กระทั่งวิศวกรซอฟต์แวร์ยังรู้ว่าดีไซน์นี้เลียนแบบมา แล้วนักออกแบบที่เขาจ้างมาด้วยราคาแพงลิบเหล่านั้นจะไม่รู้ได้อย่างไร? “ฉันจะไปบอกเดี๋ยวนี้ค่ะ” ซูชิ่นออกไปได้ไม่นาน ผู้อำนวยการเห่าก็เดินเข้ามารายงานการทำงาน ตลอดระยะเวลาการประชุมเฉียวซู่นเฉินนั้นเห็นหมดแล้ว ดังนั้นผู้อำนวยการเห่าจึงไม่จำเป็นต้องรายงานอะไรอีก เขาอ่านข้อแนะนำด้านระบบของฉินจิ้งเวินอย่างจริงจัง ก่อนที่สีหน้าจะค่อยๆดีขึ้นมา “ไม่ต้องแก้ไขอะไรแล้ว ลงมือผลิตตามคำแนะนำนี้ ยกเว้นมือถือรุ่นอัพเกรด” ฟังก์ชันและระบบทั้งหมดที่ฉินจิ้งเวินให้มานั้นเฉียวซู่นเฉินหาไม่เจอข้อผิดพลาดเลยสักนิด “ผู้อำนวยการเห่า คืนนี้บอกพนักงานในแผนกคุณว่าเรามีเลี้ยงอาหารค่ำ ต้อนรับผู้ตรวจการใหญ่ฉิน” “ผมจะกลับไปบอกพวกเขา ท่านประธานเฉียว แล้วเรื่องมือถือรุ่นอัพเกรด?” ผู้อำนวยการเห่าไม่เข้าใจว่าทำไมเฉียวซู่นเฉินถึงไม่เอ่ยถึงมือถือรุ่นอัพเกรดสักนิด “ลองเสนอความคิดของนายมาก่อน” เฉียวซู่นเฉินเอ่ยปากด้วยท่าทางเย็นชา “ผมเพิ่งจะทำการศึกษาข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการใหญ่ฉิน เห็นว่าเธอได้ออกแบบระบบมาสองชุด ผมรู้สึกว่าที่ผู้ตรวจการใหญ่ฉินวิเคราะห์นั้นมีเหตุผลอย่างยิ่ง ความเห็นของผมคือหรือเราจะไม่ต้องผลิตดีกว่า ถ้าหากผลิตก็ต้องใช้ระบบประสิทธิภาพต่ำ ไม่ต้องใช้เป็นรุ่นอัพเกรด” ผู้อำนวยการเห่าเอ่ยความคิดของตนเองขึ้นมา “ผมจะคุยกับนักออกแบบฉินเพิ่มเติม ถ้าหากรุ่นนี้เราไม่ทำเป็นรุ่นอัพเกรด แต่เราก็ยังจำเป็นต้องมีรุ่นอัพเกรดออกมาอยู่ดี ไม่งั้นตำแหน่งของเราจะต่ำกว่าคนอื่น” สายตาอันลึกซึ้งมองไม่ออกของเฉียวซู่นเฉินกำลังคิดถึงการตั้งต้นแบรนด์อย่างให้ความคิด
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่9 พบกับเฉียวจือซวนอีกครั้ง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A