บทที่ 9 ให้ยอมรับก็ไม่ยอมรับหรอก (1)
1/
บทที่ 9 ให้ยอมรับก็ไม่ยอมรับหรอก (1)
แม่ทัพหญิงของจวนหลง
(
)
已经是第一章了
บทที่ 9 ให้ยอมรับก็ไม่ยอมรับหรอก (1)
บทที่ 9 ให้ยอมรับก็ไม่ยอมรับหรอก (1) “ข้าบอกเจ้าไว้เลยนะ ข้าเป็นนายทหารที่ฮ่องเต้มอบให้ ถ้าเจ้ากล้าไม่ทำความเคารพข้า ข้าจะส่งสาส์นกล่าวโทษเจ้าไปให้ฮ่องเต้!” ชายวัยกลางคนที่ถูกหิ้วออกมาคือ แส้หลิน คนอื่นที่ไม่ถูกจับกุมคงไม่รู้ แต่เมื่อสักครู่เขาได้สัมผัสความเร็วที่น่ากลัวของหลงเส้าจิ่นแล้ว คนเช่นนี้ จะมีวรยุทธ์ต่ำต้อยได้หรือ ดังนั้น แส้หลิน รู้สึกหวาดกลัวในทันใด เขาจึงทำได้เพียงอ้างถึงฮ่องเต้ หวังว่าฉายานามของฮ่องเต้จะช่วยชีวิตเขาไว้ได้ ทว่า ที่ แส้หลิน นึกไม่ถึงก็คือ เขาไม่อ้างถึงฮ่องเต้ยังจะดีกว่า เพราะพอเขาเอ่ยถึงฮ่องเต้ ก็ไปกระตุ้นต่อมโมโหของหลงเส้าจิ่นในทันใด ฮ่องเต้? ฮ่องเต้ใช่ไหม วันนี้นางหลงเส้าจิ่นจะคอยดูว่า ในค่ายทหารนี้ คำพูดของหลงเส้าจิ่นหรือคำพูดของฮ่องเต้ที่จะเป็นใหญ่กันแน่ “ส่งสาส์นกล่าวโทษข้าใช่ไหม ได้เลย เช่นนั้นข้าอยากถาม รองแม่ทัพแส้ สักหน่อย ไม่ทำตามคำสั่งทหาร หมิ่นเบื้องสูง ทำให้ขวัญของเหล่าทหารสั่นคลอน ข้าควรจะส่งสาส์นกล่าวโทษ รองแม่ทัพแส้ สักกี่เล่มดี?” หลงเส้าจิ่นยังไม่ทันได้ขยับตัว พอสิ้นประโยคของนาง แส้หลิน ก็ถูกฝูหลิงตีให้คุกเข่าลงบนพื้น แส้หลิน เงยศีรษะขึ้น มองดูหลงเส้าจิ่นในยามนี้ ไม่รู้ว่าเหตุใด ในใจจึงรู้สึกหวาดหวั่น เขาส่ายศีรษะ แส้หลิน วางแผนจะพูดแก้ต่างให้ตนเอง “เจ้า เจ้าอย่าพูดจาเลอะเทอะ เป็นเจ้าที่ไร้ความสามารถเอง เรื่องพวกนี้จะมาโยนความผิดให้ข้าไม่ได้หรอก!” “เจ้า เจ้า เจ้า แล้วก็เจ้า ก้าวออกมาเดี๋ยวนี้” คร้านจะสนใจ แส้หลิน ที่นั่งคุกเข่าอยู่ หลงเส้าจิ่นจึงเรียกคนออกมา และคนที่ถูกนางเรียก ล้วนเป็นนายพลที่มีชื่อเสียง และนักต่อสู้ที่มีบารมีค่อนข้างสูงส่งในค่ายทหารนี้ ยกทัพออกศึก ท่านพ่อของตนนำทัพมาตั้งหลายปี หรือว่าพอถึงคราวที่หลงเส้าจิ่นออกโรงก็จะหวาดหวั่น ทำได้ไม่ดีแล้วอย่างนั้นหรือ น่าขำสิ้นดี! คนพวกนั้นเห็นหลงเส้าจิ่นเรียกตนออกมา ก็มองสบตากันในทันที ก่อนก้าวเท้าออกมาทีละคน จากนั้น ที่เบื้องหน้าของหลงเส้าจิ่นก็พลันปรากฏแนวกำแพงที่เกิดจากนักต่อสู้และนายพลห้าหกนายที่ยืนเรียงกัน หลงเส้าจิ่นยืนอยู่เบื้องหน้าคนพวกนี้ หากไม่ใช่เพราะว่าหลงเส้าจิ่นมีอำนาจเต็มเปี่ยม ก็อาจจะถูกข่มไว้แล้วก็เป็นได้ ดีมาก หลงเส้าจิ่นพยักศีรษะ ในค่ายทหารนี้ หากทำให้คนพวกนี้ยอมเชื่อฟังแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวว่าคนอื่น ๆ จะไม่เชื่อฟังอีก “ลงมือเถอะ พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันเลย” หลงเส้าจิ่นไม่แม้แต่จะขยับตัว เสียงใสกังวาน ดังก้องขึ้นกลางค่ายทหารที่กว้างใหญ่นี้ พอได้ฟังเช่นนั้น คนพวกนั้นที่ถูกเรียกออกมาก็ยิ้มในทันใด ทว่า รอยยิ้มของพวกเขาคือการยิ้มเยาะ ความโกรธเคืองในใจของพวกเขาไม่กี่คนนั้นพลุ่งพล่านขึ้นมา เข้าไปพร้อมกันอย่างนั้นหรือ หลงเส้าจิ่นผู้นี้ดูแคลนพวกเขาเกินไปจริง ๆ หรือว่ามั่นใจในตนเองมากเกินไปก็ไม่รู้ ตอนที่พวกเขาควบม้าบนลานทราย หลงเส้าจิ่นเจ้าเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่ ยังไม่ทันเกิดมาบนโลกเสียด้วยซ้ำ! “หลงเส้าจิ่น วันนี้ หากว่าคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าพวกข้าคือบิดาของเจ้า พวกข้าอาจจะเกรงกลัวอยู่บ้าง ทว่า ในเมื่อเป็นเจ้า เช่นนั้น พวกข้าจึงต้องหารือกันให้ดีเสียก่อน เพื่อไม่ให้คนอื่นตำหนิปู่ ๆ อย่างพวกข้าว่าไปรังแกแม่นางอย่างเจ้าได้” คนผู้หนึ่งในคนกลุ่มนั้นก้าวออกมาพูดเช่นนี้ ในสายตาของพวกเขา หลงเส้าจิ่นไม่ถือเป็นภัยคุกคามอันใด ดังนั้น ต่อให้ปะทะกัน พวกเขายังต้องพิจารณาสักหน่อย คิดไปคิดมา พวกเขาก็ตัดสินใจว่า จะส่งคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มพวกเขาออกไปสู้กับหลงเส้าจิ่น เฮอะ เป้าหมายของหลงเส้าจิ่นพวกเขาจะไปรู้ได้อย่างไร เพียงแต่ คิดจะสร้างบารมีในค่ายทหารนี้ผ่านทางพวกเขา หลงเส้าจิ่นเหมือนจะคิดเพ้อฝันเกินไปเล็กน้อย มองคนที่ก้าวออกมา หลงเส้าจิ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฝูหลิง สิบกระบวนท่า” คำพูดของหลงเส้าจิ่นสั้นกระชับจนน่ากลัว ทว่า ฝูหลิงกลับตอบรับอย่างกระตือรือร้น นางมองคนที่ก้าวเท้าออกมา จากนั้นก็เข้าไปจัดการในทันที นายพลที่ก้าวออกมาคนนั้นยังคงมึนงงอยู่เล็กน้อย ทว่า ถูกฝูหลิงเข้าประชิดตัว เขาจึงทำได้เพียงสู้อย่างไม่สมัครใจนัก “ห้า สี่ สาม.....” ฝูหลิงเคลื่อนไหวว่องไว ปากพึมพำนับเลขเบา ๆ ถึงขนาดที่ยังมีเวลาหันมาสังเกตหลงเส้าจิ่น หลงเส้าจิ่นมองฝูหลิงที่ว่อกแว่ก แต่กลับไม่ได้พูดอันใด ความสามารถของฝูหลิงนางรู้ดี บอกว่าสิบกระบวนท่าก็คือสิบกระบวนท่า ไม่มีทางพลาดแน่ ฝูหลิงมองหลงเส้าจิ่น นางนับเลขอยู่เงียบ ๆ น่าเสียดาย ผลลัพธ์คงทำให้นางผิดหวังแล้วอย่างแน่นอน จนกระทั่งนางนับเลขตัวสุดท้าย คุณหนูก็ไม่ได้ปราดตามองมาทางนางสักนิด โครม! จากนั้นก็มีเสียงวัตถุตกลงที่พื้นหนัก ๆ ฝูหลิงใช้ครบกระบวนท่าของตนแล้ว นางปัดฝุ่นออก จัดแต่งชุดของตนให้เรียบร้อย จึงเดินมาอยู่เบื้องหน้าหลงเส้าจิ่น “คุณหนู สำเร็จแล้ว แปดกระบวนท่า” แม้ฝูหลิงไม่ทันได้ตระหนัก ทว่า หลงเส้าจิ่นก็รับรู้ได้ถึงความไม่พอใจเล็ก ๆ ของฝูหลิง ฝูหลิงกำลังตำหนินางที่ไม่ได้มอบความมั่นใจให้นาง ฝูหลิงกับหลงเส้าจิ่นนายบ่าวสบตากันแล้ว ท้ายที่สุด ฝูหลิงก็แพ้ให้นาง คุณหนูของพวกเขา ตั้งแต่ไหนแต่ไรก็มีท่าทีเฉยชาเช่นนี้เสมอมา แต่อย่างไร ตนเองก็รักคุณหนูที่เป็นแบบนี้สุดหัวใจ ฝูหลิงแสดงออกว่า ตนคงเป็นคนมีรสนิยมชอบความเจ็บปวดเป็นแน่จึงได้ติดตามอยู่ข้างกายคุณหนูอย่างถึกทนถึงเพียงนี้ ฝูหลิงหันหน้ากลับไป นางในยามนี้เพิ่งจะนึกออกว่าตนยังคงอยู่ในค่ายทหาร ท่าทางเช่นนี้ของนางเกรงว่าจะเหมือนสาวน้อยเกินไป ตนไม่อาจให้คุณหนูเสียหน้าได้ ทว่า ตอนที่สายตาของฝูหลิงมองไปยังทหารเหล่านั้นอีกครั้ง นางก็รู้สึกมึนงง นี่ นี่เกิดอันใดขึ้นกัน? เห็นเพียงเหล่าทหารที่ล้อมรอบอยู่แต่ละคนล้วนอ้าปากค้าง เบิกตากว้างมองตนและคุณหนู ทุกคนเหมือนจะตื่นตกใจกันหมด “ยังมีใครอีก” หลงเส้าจิ่นไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองกับภาพสถานการณ์เช่นนี้ นางมองคนที่เมื่อสักครู่เพิ่งจะพูดคุยปรึกษากันอย่างโอ้อวดว่าจะปะทะกับนางอย่างไร อ้าปากกว้างจนคางแทบจะหล่นลงพื้น โดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ พอหลงเส้าจิ่นส่งเสียง ก็ทำให้คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์พวกนั้นตื่นตกใจ พวกเขาแต่ละคนมองหลงเส้าจิ่น คิดจะก้าวออกไป แต่ฝีเท้านั้นหนักอึ้งราวกับมีหินถ่วงไว้ ก้าวเท้าไม่ออกสักนิด “ซี้ดด โอ๊ย! เจ็บจริง ๆ!” นายพลที่ถูกฝูหลิงล้มไปอยู่ที่พื้น ผ่านไปครึ่งค่อนวันแล้ว เพิ่งจะมีโอกาสได้ร้องแสดงความเจ็บปวด เมื่อสักครู่ ตอนที่เขาถูกฝูหลิงล้มไปอยู่บนพื้น เจ็บจนเขาไม่มีแม้แต่เสียงจะร้อง เห็นได้ชัดถึงความมือหนักของฝูหลิง นายพลคนหนึ่งคิดจะเดินออกมาข้างหน้าไปประคองคนที่ถูกตีจนล้มลงอยู่ที่พื้นคนนั้น กลับนึกไม่ถึงว่า เขาเพิ่งจะก้าวเท้าออกมาข้างหน้า ฝูหลิงก็ก้าวเท้ายาวมาอยู่ที่เบื้องหน้าเขาแล้ว “เจ้า คิดจะทำอะไรน่ะ” ไม่ได้รับความมั่นใจจากคุณหนู โทสะในใจของฝูหลิงก็พลุ่งพล่าน นางมองคนที่คิดจะก้าวเท้าออกมาประคองชายผู้นั้น ก็มีท่าทีไม่ยินดีในทันใด มองนายพลคนนั้นด้วยหน้าตาอึมครึม ราวกับกำลังพูดว่า ‘ถ้าเจ้ากล้าเข้ามา เจ้าก็จะมีจุดจบเช่นเดียวกับเขา’ อึก กลืนน้ำลายเข้าไปหลายอึก เท้าที่กำลังจะก้าวออกไปของนายพลคนนั้นก็ถอยกลับมาที่เดิม เขาเดินไปอยู่ข้างหลังกองทัพ มองฝูหลิงอย่างหวาดหวั่น จากนั้นก็วิ่งหายไปจากที่นั่น น่ากลัวเกินไปแล้ว มีสตรีที่น่ากลัวถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน! เพียงแค่ฝูหลิงคนเดียว ก็สยบคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในที่นี้ไว้ได้แล้ว หลงเส้าจิ่นมองภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ก็อดส่ายศีรษะไม่ได้ คุณภาพกองทัพเช่นนี้ ไม่อยากจะพูดถึงเลยจริง ๆ จุนหลินเย่เลี้ยงกองทัพเช่นนี้ไว้ เพื่อให้คนมาเอาชนะเลยแท้ ๆ ทว่า แม้คนส่วนใหญ่จะตกตะลึง แต่คนพวกนั้นที่ถูกหลงเส้าจิ่นเรียกออกมา แต่ละคนล้วนเจนจัดในด้านนี้ จะมาหวาดกลัวง่าย ๆ เช่นนี้ได้อย่างไรเล่า
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 9 ให้ยอมรับก็ไม่ยอมรับหรอก (1)
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A