[ 10 ] จูบแรก [1.2]   1/    
已经是第一章了
[ 10 ] จูบแรก [1.2]
“ฉันอยากเสียจูบแรกกับหนูอัญ” “ฉันอยากเสียจูบแรกกับหนูอัญ” “ฉันอยากเสียจูบแรกกับหนูอัญ....” ชอว์พูดไปเพียงแค่ครั้งเดียว แต่คนที่ได้ยินเหมือนหูจะอื้อ ในหัวในหูเธอจึงก้องไปด้วยเสียงประโยคนี้ของเขาซ้ำมาซ้ำไป แม้ชอว์ไม่มีประสบการณ์จูบปากผู้หญิงมาก่อน แต่เขาหาได้ไร้น้ำยาหรือลีลาว่าจะไม่มีหรือจะไม่ทำให้เธอไม่ประทับใจ ฝ่ามือหนาจับศีรษะคนตลึงงันเข้าใกล้ใบหน้าเขา ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดกัน ดวงตาสีเทาจับจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลกลมโตดั่งกับว่าจะตรึงเธอไว้ให้สยบเขาด้วยนัยน์ตาสีเทานั้น จุ๊บ! ริมฝีปากทั้งสองพบเจอกันครั้งแรก ชอว์หยุดนิ่งเพราะหนูอัญเกร็งจนตัวเธอแข็งมาก ลมหายใจเธอถี่แรงมาก “ดีใจที่เธอยังหายใจต่อได้” ชอว์กระเซ้าอย่างเหลือเชื่อตัวเองเสียมากกว่า ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเจอผู้หญิงวัยแบบ หนูอัญแต่พวกเธอเหล่านั้นกร้านโลกในเรื่องเซ็กส์อย่างมาก แตกต่างกับเธอคนนี้มาก “เมื่อกี้ยังไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าจูบแรกได้หรอกนะ...” หนูอัญยังนิ่งเธอไม่พูด ไม่ขยับ แต่ก็เหมือนได้ยินสิ่งที่ชอว์เอ่ยออกมาอยู่ พรึ่บ! ชอว์ขยับสลับตำแหน่ง หนูอัญย้ายไปอยู่ใต้ร่างเขา ลมหายใจของเขาเริ่มเปลี่ยนไป ให้ตายเถอะ! สาบานต่อพระผู้เป็นเจ้าที่เขาไม่เคยคิดว่ามี...เขาอยากเสียจูบแรกกับเธอคนนี้จริงๆ จุ๊บ!!! ชอว์ไม่รอช้า หนูอัญอยู่ในภวังค์ที่ตกใจ แต่เธอตกใจแบบนี้ก็ดีเพราะเธอเงียบ นิ่ง ไม่ขัดขืน แต่ก็ไม่ได้ตอบสนอง เพราะเธอคงไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง บางทีสมองของอัจฉริยะก็ไม่อาจวิเคราะห์และเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ได้ เรื่องของความรู้สึกใช้สมองแปลงสัญญาณไม่ได้หรอกนะ... ชอว์ดูดรั้งเรียวปากอิ่ม เขาไม่ได้ตระกละตระกลาม เรียวลิ้นร้ายค่อยๆละเลียดไปมาบนพื้นผิวริมฝีปากอิ่มอย่างช้าๆ เขารับรู้ได้ถึงลมหายใจที่แรงขึ้นของหนูอัญ ปลายลิ้นค่อยๆแยกกลีบเปลือกปากอิ่มให้ค่อยๆเปิด จ๊วบ!!! ชอว์เปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขาล้วงล้ำเข้าไปในโพรงปากอิ่ม เธอช่างหวานล้ำ ไร้เดียงสามาก เรียวลิ้นกวัดแก่วงหยอกล้อลิ้นเล็กที่ตื่นตระหนกอยู่ในโพรงปากอิ่ม การตอบสนองกลับช่างแตกต่างจากภายนอกยิ่งนัก สองมือเล็กกำแน่น เธอไม่เคยจูบมาก่อน ไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกเหมือนมีอะไรก็ไม่รู้วิ่งไปมาในร่างกายแบบมันขึ้นมาบนสุดและลงไปล่างสุดแบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุด ร่างกายเธอหลั่งสารอะดรีนาลีน มันคือสารแห่งความสุข ของจูบแรก! เธอตอบสนองกลับไม่เป็น แต่เรียวลิ้นของเขาก็ช่างหยอกล้อนำทางเธอจนเธอสงสัยให้ต้องติดตามเขาไปไม่หยุดหย่อน ชอว์ผละปลดปล่อยโพรงปากอิ่ม นิ้วยาวลูบไล้ความอิ่มเอิบและแดงฉ่ำตรงหน้า อื้ม! ชอว์ครางออกมา เมื่อหนูอัญแลบลิ้นเลียฝีปากตัวเองตามสัญชาตญาณ และนั่นทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนเมื่อเขาคิดว่าจะหยุด แต่ไม่ควรเลย....หนูอัญไม่ควรทำแบบนี้เลย จ๊วบ! ริมฝีปากหยักกดลงต่ำอีกครั้ง ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่แต่เปลี่ยนไปจากเดิม ชอว์รุกล้ำหนักขึ้น ความเร้าร้อนฉายชัด ลิ้นหนาดูดดื่มความหอมหวาน ความตระกละตระกลามเริ่มบังเกิด ชอว์รู้ตัวดีว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แล้วหนูอัญเล่าจะเข้าใจหรือเปล่า ฟืดดดด ลมหายใจร้อนเลื่อนลงสูดกลิ่นหอมสาปสาวแรกแย้ม อ้าร์รรรร หนูอัญร้องออกมา เมื่อชอว์ก็ยังเป็นชอว์ จ๊วบ!!! เขาดูดรั้งผิวที่ซอกคอเล็กตามแรงอารมณ์ปราถนา ทำให้ร่างบางที่เคยอยู่นิ่งงันเริ่มขยับ มือเล็กขยับดึงรั้งเส้นผมนุ่มของชอว์ไว้ทันทีเมื่อเขากัดเธอด้วย ร่างกายเธอรับรู้ถึงความวาบหวามระคน แม้เธอจะไม่เคยกับเรื่องแบบนี้แต่เธอก็ผ่านการเรียนทฤษฎีมาแล้ว ชอว์เดินหน้าต่อ เขาต้องการเธอแล้ว แท่งเนื้อภายใต้กางเกงนอนขยายและแข็งแรง กรึ๋บ! เสียงปลดตะขอเอี้ยมยีนส์ มือใหญ่เลื่อนไปมาเขากำลังวุ่นวายที่จะกำจัดเสื้อผ้าชุดเดียวของหนูอัญออกไป “ชอว์ ชอว์....” เสียงร้องเรียก เสียงเรียกครั้งแรก ฉันชื่อชอว์ เขาเคยแนะนำตัวเองกับเธอไปเมื่อวานนี้ แต่ตั้งแต่ตอนนั้นเธอก็ไม่ได้เอ่ยเรียกชื่อเขาเลย จนมาถึงตอนนี้ที่เธอเอ่ยขึ้นมาครั้งแรก มือเล็กรั้งดึงเส้นผมอย่างแรง เมื่อเขากำลังจะครอบครองยอดอกเต่งตึงของเธอผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวนั้นอย่างใจร้อนดั่งเปลวเพลิงที่กำลังโหมลุกโชติช่วงอย่างรวดเร็ว เฮ่อ เฮ่อ เฮ่อ เสียงหอบหายใจของชอว์ กระแสตอบกลับของร่างบางทำให้ชอว์ต้องหยุด เธอพยายามร้องบอกเพื่อให้เขาหยุด ทั้งร่างกาย มือเล็กๆที่ดึงเส้นผมเขา แม้กระทั่งปากอิ่มที่ร้องเอ่ยชื่อเขา ไม่ใช่เรียกหา แต่เรียกเตือนสติ “ชอว์ ชอว์....” พรึ่บ! ชอว์ลุกจากเตียง ห่างจากร่างบางไปอย่างรวดเร็ว ปัง! ประตูห้องน้ำถูกปิดลงเสียงดัง ชอว์หันหน้าเข้าผนัง ปึก! เขาชกผนังอย่างโมโหและร้อนรุ่ม เมื่ออีกมือเขาต้องจัดการกับตัวเอง มือใหญ่กอบกุมแท่งเนื้อของตัวเองไว้แล้ว สิบนาทีกรามแกร่งที่ขบกัดแน่นก็ผ่อนคลายลงเมื่อเขาปลดปล่อยลาวาขุ่นครั่กเลอะเปรอะลงไปตามพื้น ซู่ซู่ ชอว์เปิดน้ำจากฝักบัวให้มันไหลรดลงบนร่างกายร้อนของเขาทันที แต่เมื่อเขาออกมาจากห้องน้ำก็พบกับก้อนผ้าห่มขนาดใหญ่ เธอยังฝังตัวอยู่ในนั้น ในขณะที่เขาเดินไปแต่งตัว เธอก็ยังฝังตัวอยู่ในนั้น “เดี๋ยวก็ได้ขาดใจตายหรอก...” พรึ่บ! ชอว์ออกแรงมากขึ้นมากกว่าครั้งแรก จนผ้าห่มเปิดกว้างเผยร่างบางที่ดึงหมอนใกล้มือขึ้นมาปิดหน้าไว้ ชอว์อยากจะโกรธแต่ก็โกรธไม่ลง แค่เขาจูบและเป็นจูบแรกของเขาและเธอ “ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” ชอว์แกล้งทำเป็นเสียงเข้ม ยายเด็กนี่เข้าใจอะไรบ้างมั้ยนะ ตอนเขาฟ้อนเฟ้นดูดดื่มเนินอกเธอจนร่องรอยยังปรากฎให้เห็นอยู่ถึงตอนนี้ อันนั้นมันหนักหนาสาหัสกว่าจูบเสียอีกอาการก็ไม่หนักขนาดนี้ แล้วไหนจะความนูนเนียนของเนินสาวเธออีกละเขาควรบอกเธอมั้ยว่าเขาเห็นมันทุกอย่างแล้ว ยายเด็กนี้ไม่มีแผลเป็นหรือตำหนิอะไรบนร่างกายนอกจากไฝเม็ดเล็กๆในบางจุดเท่านั้น ภาพร่างกายเธอติดตาเขาเหลือเกิน “หนูอัญ ลุกขึ้นมาเถอะ ไม่ทำอะไรแล้ว จำได้มั้ยที่เคยบอกไว้ว่าจะไม่บังคับข่มขืน ถ้าไม่ก่อเรื่อง” พรึ่บ! “อื้ม” เสียงขานรับในคอพร้อมกับที่เธอยอมเอาหมอนออกจากใบหน้า ดวงตาคมหลี่มอง คอเธอมีรอยแดงอยู่หลายจุด ฝีมือเขาเอง แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะตอนนี้เหล่าลูกน้องเขาก็ไม่มีใครเคลือบแคลงสงสัยเรื่องระหว่างเขากับเธอ ให้แขนเธอ คอเธอ ปากเธอจะเจ่อบวมแดงในทุกๆวันตอนเช้าก็ไม่มีใครสนใจทั้งนั้น อยากรู้นักว่าถ้าคนทรยศที่นี่ส่งข่าวให้แก้วตารู้เธอจะเป็นยังไงนะ ไม่ทันข้ามวันลูกสาวที่ไม่ปราถนาของเธอก็กลายเป็นทาสสวาทบำบัดอารมณ์ใคร่ของเขาไปเสียแล้ว “แต่...นับจากคืนนี้ไป เธอคงไม่ว่าหรอกนะถ้าฉันจะทำให้เธอยินยอมพร้อมใจกับฉันเอง” หนูอัญกระพริบตาถี่ๆ มองตามร่างสูงที่เดินออกจากห้องนอนไปอย่างสบายใจ “หนูอัญ ฉันมีแค้นต้องชำระกับเธอ เธอทำให้ฉันต้องบำบัดความต้องการด้วยมือของตัวเอง ฉันจะต้องทำให้เธออ้อนวอนขอเซ็กส์จากฉันด้วยความเต็มใจและความอยากได้ของเธอ...ให้จงได้!!!” ชอว์ร้องบอกตัวเองในใจ ฝากฝังความรู้สึกหลากหลายทิ้งไว้ให้กับคนไร้เดียงสาในบางเรื่อง... อื้มมมม!!! หนูอัญยืนสะบัดหน้า สลับยกมือปิดหน้าปิดตา เพื่อปกปิดการมองเห็นตัวเองจากเงาสะท้อนในกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ “เสียจูบแรกให้กับอสูร จะตายภายในสามวันเจ็ดวันมั้ยนะ!” อื้มมมมมมม เมื่อร้องระบายความอัดอั้นออกไปจนพอใจ สายตาก็เหลือบเห็นแปรงสีฟันที่เมื่อวานนี้ เธอไม่ได้เอาใส่ไว้ในแก้วเดียวกับของเขา แต่เช้านี้มันอยู่ในนั้น “ให้เสื้อผ้าเสียยังดีกว่า จะเน่าตายเสียก่อนสามวันเจ็ดวันมั้ยนะ” ฟืด ฟืด พูดไปก็ยกแขนขึ้นดมเสื้อผ้าที่สวมเกินสองวันของตัวเอง ใบหน้าแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ประสงค์กับกลิ่นที่ตัวเองคิดว่าเหม็นมากกว่าหอม หนูอัญจำต้องออกจากห้องด้วยเสื้อผ้าชุดเดิมแม้ร่างกายจะได้รับการชำระล้างตามวิสัยคนไทยที่ติดนิสัยอาบน้ำวันละสองเวลาก็ตาม เธอไม่เห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตา เขาคงไม่อยู่ เมื่อสายตากวาดมอง เธอไม่ได้หาเขาแต่หาว่าห้องอาหารหรือครัวอยู่ที่ไหนต่างหาก ไม่มีความจำเป็นที่เธอต้องมาอดอาหารประท้วง เรื่องจูบแรกก็ลืมไปก่อนตอนนี้เพราะท้องมันร้อง ทั้งชีวิตตั้งแต่เกิดมาพึ่งจะเคยมีประสบการณ์ความหิวก็วันสองวันนี้แหละ อสูรช่างร้ายกาจจริงๆ “อาหารเช้าของเธอทางนี้” หนูอัญหันไปตามเสียงเอ่ยที่ไม่ค่อยเป็นมิตร ออ! หนึ่งในสามของผู้ติดตามตอนนั้น หนูอัญเดินตามทางที่เขาชี้และฝีเท้าเธอเร่งขึ้นทันทีเมื่อกลิ่นอาหารลอยมาแตะจมูก จนทำให้เกือบเก็บน้ำลายไว้ไม่อยู่ ซึ้งเลยกับผู้หิวโหย... ว้าวววว!!! เครปไส้เบคอนครีมชีสและซุปแซลมอน แถมด้วยสลัด อ้า!!! นม มีนมด้วย!!! หนูอัญร้องยินดีใจอยู่ในใจ เธอนั่งลงประจำที่และจัดการอาหารเช้าของเธอทันที ทุกอย่างหมดเกลี้ยงในเวลาไม่นาน มูมมามก็ช่างคุณยายไม่เห็น เพราะเธอเคยเสียที่ไหนที่ต้องหิวโซแบบนี้ “อร่อยมาก!” หนูอัญหันไปชมเชยสาวใช้ที่เดินเข้ามาพอดี แต่เหมือนหล่อนจะไม่รู้ว่าเธอคุยด้วย เอาที่สบายใจ! เพราะตอนนี้เธอสบายใจมากเลยจริงๆ อิ่มท้องแล้วก็รอดไปอีกมื้อ และเมื่อหันไปมองรอบๆลูกน้องไม่อยู่แล้ว ร่างบางลุกจากที่ทันที เธอเดินออกไปประตูอีกด้าน อย่างไรแล้วที่นี่ก็ต้องมีเครื่องซักผ้าแหละ ไม่เคยก็เคยแหละคราวนี้ สมองระดับนี้แล้วแค่หาเครื่องซักผ้าและซักเสื้อผ้าชุดนี้ก็คงไมเกินระดับสมองเธอแน่นอน “เธอ เดี๋ยว!!!....อะไรของเขากันเนี่ย!!!” หนูอัญยืนมึนไปเลย เมื่อเจอกับสาวใช้อีกคน แต่พอหล่อนเห็นเธอก็ทำยังกับว่าเห็นผีอย่างงั้นแหละ รีบหนีไปทันที หนูอัญจึงเดินต่อเข้าไปด้านหลังและในที่สุดเธอก็เจอสิ่งที่ตามหา ‘เครื่องซักผ้า’ ถ้าเธอเอาพวกนี้โยนลงถังแล้วเธอจะใส่อะไรละ และสายตาก็เห็นราวแขวนเสื้อผ้าที่ตากไว้มากมายที่ล้วนแล้วแต่เป็นเสื้อผ้าผู้ชาย แต่ซักแล้ว หนูอัญเดินเลือกอย่างกับว่าเธอเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าก็ไม่ปาน เธอได้เสื้อแขนยาวสีเข้มที่เหมือนจะเล็กสุดของใครไม่รู้เธอหาสนใจอีกต่อไปแล้ว ต่อไปก็กางเกงเอวสามสิบสามใหญ่กว่าเธอเกือบสิบเซ็น แต่ก็ชั่งปะไร!เพราะน่าจะเป็นตัวที่เล็กที่สุดแล้ว และไม่ถึงสิบนาทีหนูอัญก็ออกมาจากห้องน้ำในครัวด้วยชุดที่ไปเลือกเฟ้นมาอย่างตั้งใจ เธอโยนเสื้อผ้าทุกชิ้นทั้งเล็กใหญ่ของเธอลงไปในเครื่อง น้ำยาซักและปรับผ้านุ่มวางเป็นระเบียบง่ายต่อการหยิบใช้ และหนูอัญก็หาที่นั่งเท้าคางรอ สามสิบนาทีต่อมาเธอก็นำเสื้อผ้าของตัวเองไปตาก มอสโคว์ในเดือนนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงอุณหภูมิประมาณสิบองศาซึ่งเย็นมาก แต่เธอก็เลือกที่จะไม่กลับเข้าไปในบ้าน กางเกงที่เธอเอาเชือกมารัดขอบเอวไว้จนแน่นกับเสื้อเชิ้ตสีเข้มตัวใหญ่ไม่ได้ทำให้เธออุ่นสบายนักแต่ก็ไม่แย่ซักเท่าไหร่ ใต้ต้นไม้ใหญ่มีแสงแดด เธอไปนั่งอาบแดดอยู่ตรงนั้นก็น่าจะดีมากๆ เพราะเธอไม่ควรขยับมากเกินความจำเป็น เธอไม่อยากให้กระเพาะย่อยอาหารเช้าที่กินไปเร็วนัก เพราะไม่รู้ว่ามื้อต่อไปเธอจะได้กินเที่ยงตรงมั้ย บ้านหลังนี้ใหญ่โตมาก รอบด้านมีรั้วหินล้อมรอบและต้นไม้อีก ให้เธอเดาที่นี่ต้องมีห้องใต้ดินแน่ๆ บ้านทั้งบ้านส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชาย อย่างตอนนี้เธอก็เห็นหลายคนเดินไปเดินมาแต่พวกเขาไม่ได้สนใจเธอ คงคิดว่าเธอไม่มีปัญญาหนีไปไหนแน่ๆ ซึ่งนั้นก็จริง แต่เฉพาะในตอนนี้ อีกอย่างเธอรู้แต่ว่าที่นี่คือมอสโคว์ เธอไม่เคยมา อะไรอยู่ตรงไหนเธอก็ไม่รู้ เด็กสิบเก้าเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมายแต่ถ้าเธอหาสถานีตำรวจเจอก็แค่บอกพวกเขาว่าเธอถูกจับมา เดี๋ยวนี้มีเยอะแยะไปพวกค้ามนุษย์ แต่จะทำแบบนั้นได้เธอต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน ทำไมนะชีวิตของเธอถึงต้องมาเป็นแบบนี้...อื้มมมมม ไม่ไม่ไม่!!! หนูอัญสะบัดศีรษะไปมา เธอจะไม่มาก่นคิดร้องถามหากับผู้ไม่มีตัวตนอะไรอีกแล้ว ตอนนี้ชีวิตเธอมีแค่สองอย่างคือรอดกับตาย เด็กอายุสิบเก้าอย่างเธอต้องมาคิดเรื่องแบบนี้แล้วเหรอ... แต่เธอต้องรอด รอดให้ได้ และมั่นใจว่ารอดแน่ๆ ฟิ้วววววว ลมหอบใหญ่พัดมา ทำให้เส้นผมดำสลวยยาวสยายไปตามแรงลม สวยงามยิ่งนัก จนสะกดสายตาคนที่ผ่านไปผ่านมาได้อย่างง่ายดาย แต่หนูอัญหาได้สนใจเธอแค่นั่งกอดเข่าตัวเองไว้แน่นเมื่อลมหอบนั้นพาความหนาวเย็นมาปะทะจนแก้มเนียนขาวแดงขึ้นมาทันที สายตาเธอไม่ได้มองอะไรอีกแล้วเธอนั่งจ้องพื้นหญ้าตรงหน้าอยู่แบบนั้น เธอนั่งนิ่งนานจากนาทีเป็นชั่วโมงและมากกว่าหนึ่งชั่วโมง ใครจะรู้ว่าตอนนี้หนูอัญกำลังวางแผนอะไรอยู่
已经是最新一章了
加载中