บทที่ 8   1/    
已经是第一章了
บทที่ 8
“ข้า…” ริมฝีปากกระจับได้รูปเอ่ยค้างไว้ ก่อนที่ผู้เป็นเจ้าของจะก้มมองวัตถุบางอย่างที่นอนนิ่งอยู่เบื้องหน้า ซึ่งเมื่อครู่นางเตะเข้าเต็มแรงด้วยใบหน้าฉงน แล้วเอ่ยต่อ “คนหรือ” “คนหรือเจ้าคะ” อาอวี้ถามย้ำ ทว่าปลายเท้าเล็กกลับขยับหนีไปถึงสองก้าว ต่อให้เป็นคนแล้วอย่างไรล่ะ คนเป็นหรือคนตายก็ยังไม่รู้แน่ แม้นางจะเติบโตภายในสำนักภูผาโลหิตมาตั้งแต่จำความได้ แต่ก็หาได้คุ้นชินกับความตายหรือซากศพดังเช่นคุณหนูของนางไม่ “อืม” “เป็นหรือตายเจ้าคะ” ดวงหน้างดงามปานล่มเมืองขยับเล็กน้อยแทนคำตอบ “เฮ้อ… ยังดีที่เป็นคนเป็น” “ความจริง…” อวิ๋นลี่เอ่ยค้างไว้ และใช้ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเพ่งมองร่างสูงที่นอนราบไปกับพื้นหิมะอย่างต้องการตรวจสอบจังหวะการหายใจของอีกฝ่าย แล้วใช้ปลายเท้าเล็กเตะซ้ำไปที่ร่างหนาอีกสองที เพื่อความแน่ใจ “เขาเหมือนจะบาดเจ็บ” “บาดเจ็บแต่ยังไม่ตายหรือเจ้าคะ” ศีรษะทุยสวยขยับตอบ “ข้าว่าเรารีบไปกันเถอะเจ้าค่ะคุณหนู ไม่ตายตอนนี้อีกหน่อยก็คงตาย สำนักภูผาโลหิตของเราถือคติ ‘ไม่ข้องเกี่ยวกับบุญคุณความแค้นของผู้อื่น’ มิใช่หรือเจ้าคะ” อาอวี้รีบเอ่ยถึงกฎข้อที่สามของสำนักขึ้นมาทันที เนื่องจากนางเป็นศิษย์ที่มีฝีมืออ่อนด้อยที่สุดในสำนัก ทั้งอาจารย์ยังเคยเปรยว่าระดับความสามารถของนางไม่มีทางจะไปได้ไกลกว่านี้แล้ว หากเกิดอันตรายขึ้นกับคุณหนูในยามนี้ล่ะก็ เห็นทีว่านางจะกลายเป็นภาระอันหนักอึ้งของอีกฝ่ายเอาได้ “อาอวี้” อวิ๋นลี่เอ่ยเรียกสาวใช้ที่ยืนห่างออกไปด้วยท่าทางหวาดกลัว “เจ้าคะ” “เจ้าว่ามันไม่แปลกไปหน่อยหรือ” ใบหน้ากระจ่างใสของสตรีวัยแรกแย้มสั่นระรัวให้ผู้เป็นนายแทนคำตอบ ก่อนที่เท้าของนางจะขยับถอยหนีไปอีกก้าวอย่างระมัดระวัง “ไม่มีสิ่งใดแปลกหรอกเจ้าค่ะคุณหนู ทางเข้าออกค่ายกลป่าไผ่ของเราเป็นทางเปลี่ยว หากจะมีผู้ใดผ่านมาทวงบุญคุณความแค้นกันแถวนี้ก็หาใช่เป็นเรื่องแปลกประหลาดอันใดไม่ หากฆ่าคนตายไปหนึ่งศพ กว่าทหารของท่านอ๋องจะมาพบก็คงไม่เหลือหลักฐานเอาผิดอันใดแล้ว” ใบหน้าหวานขยับรับอย่างเห็นด้วย ก่อนที่เจ้าของร่างอรชรจะย่อตัวลงกับพื้นและใช้มือขาวราวหยกนมแพะจับพลิกร่างของผู้เคราะห์ร้ายให้หงายขึ้นอย่างแรง เสียงกรีดร้องของคนขวัญอ่อนดังขึ้นอยู่ชั่วครู่ แล้วเงียบไปเมื่อถูกดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองมาอย่างตำหนิ “เขายังไม่ตายเสียหน่อย เจ้าจะกรีดร้องไปไย” “โถ่… ก็ข้ากลัวนี่เจ้าคะ” อาอวี้บอกเสียงสั่นและไม่ลืมที่จะถอยเท้าหนีไปอีกหลายก้าวด้วยความขลาดกลัว แต่ก็ยังเป็นห่วงคุณหนูของนาง “คุณหนูระวังตัวด้วยนะเจ้าคะ” เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลอ่อนทั้งยังหวานล้ำปานน้ำผึ้งเดือนห้ามองสำรวจใบหน้าคมสันของบุรุษรูปงามด้วยความสนใจ เพราะหากเปรียบเทียบความงามปานล่มเมืองของนางกับบุรุษที่กำลังนอนหายใจรวยรินอยู่เบื้องหน้าแล้ว ก็นับว่ากินกันไม่ลงเลยทีเดียว บัดซบ! เทพเจ้าองค์ใดช่างปั้นแต่งใบหน้าของบุรุษให้งดงามเทียบเท่าสตรี ริมฝีปากกระจับขบเม้มเข้าหากันด้วยความรู้สึกเครียดขึงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ขณะที่ปลายนิ้วเรียวสวยยื่นออกไปแตะยังจุดชีพจรของเขาและพบว่ามันบางเบาเต็มที “เส้นชีพจรอ่อนถึงเพียงนี้เชียวหรือ” นางเอ่ยเสียงเบา “คุณหนูเจ้าขา ปล่อยเขา…” สาวใช้ตาขาวทำท่าจะเสนอความคิด แต่กลับถูกผู้เป็นนายเอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน “อาอวี้” “จะ เจ้าคะ”
已经是最新一章了
加载中