Chapter 10 งาน
-ฮารุ-
วันเดียวกัน
7.20 น.
ผมมาถึงที่ทำงานโดยปล่อยร่างที่สะอาดและหอมกรุ่นของผู้หญิงคนนั้นไว้บนเตียง ผมอาบน้ำให้เธออย่างสะอาด และผมยอมให้เธอนอนต่อนิดหนึ่งก่อนเริ่มงาน ที่ออกมาก่อนเพราะมีประชุมก่อนเริ่มงาน 8 โมงเช้า
เช้านั้นเป็นวันที่ดีสำหรับผม รสสัมผัสของเธอยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น รสที่ทั้งคาวและหวาน ตุ๊กตาทาสที่ผมซื้อมาเพื่อทำเรื่องแบบนั้น
แต่โต๊ะทำงานที่เตรียมไว้ให้ยูนะเมื่อแปดนาฬิกา
“พนักงานใหม่อยู่ไหน” ผมถามเลขาหน้าห้อง
“ท่านประธานรับพนักงานใหม่เหรอคะ ไม่เห็นเลยค่ะ”
ขาดความรับผิดชอบ นั่นเป็นความคิดของผมในแวบแรก
แต่หากไม่ใช่ ?
หรือหากเกิดอะไรขึ้นกับเธอ?
เมื่อคืนผมรุนแรงไปหรือเปล่า
ยูนะ
12.00 น.
พักเที่ยงผมแวบไปดูเพนท์เฮ้าส์ที่เปิดใหม่สำหรับเธอ
ร่างในชุดนอนที่ผมสวมให้ยังราวฝังอยู่กับเตียง ดวงตากลมโตสีเทาอมดำที่ผมสะดุดตั้งแต่แรกเห็นปิดสนิท
“มีไข้?”
ดวงตาปิดสนิทที่ดูหนักอึ้งเปิดขึ้นเชื่องช้าเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของผม
“ได้กินอะไรบ้างหรือยัง” ที่จริง...ของกินก็เตรียมไว้แล้วเต็มตู้เย็น ผมต้อนรับเธอราวกับราชินีอย่างไรอย่างนั้น
“ยังค่ะ...”
เด็กโง่ ผมรุนแรงกับเธอแบบนั้นยังยังมาพูดหวานและสุขภาพอีก นั่นทำให้ผมรู้ว่าเธอเป็นคนรักษาคำพูด เมื่อบอกว่าจะทำก็ทำ เมื่อบอกว่าจะเป็นทาสก็เป็นจริงๆ
แต่แค่ร้อยวัน
ที่จริงเธอควรทำเลวกับผมเหมือนที่ผมทำแย่ๆ กับเธอ ผมมันเหมือนปีศาจ
“เป็นของเล่นที่เชื่อฟังดี” ผมพึมพำ
เธอไม่ตอบ ดูไม่ค่อยมีแรง ริมฝีปากซีดทั้งที่ครั้งแรกเมื่อตอนชนกันมีสีชมพูจัด เมื่อคืนผมทำหนักไป
ร่างบางสะดุ้งเมื่อมือผมเคลื่อนปลดกระดุมเสื้อติดลำคอของเธอ
“จะ...จะทำอะไรคะ...!? อย่าค่ะ !”
“เช็ดตัว”
“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ” เธอปฏิเสธแบบยอมตาย
“เป็น”
เธอดิ้น เกรงใจผมเหมือนเจ้านาย ทำไมต้องตามใจและเคารพขนาดนี้ด้วย ต่อให้เป็นสัญญาที่เซ็นกันไว้ก็ไม่เห็นต้องตามใจ
แต่เราไม่ได้เซ็นสัญญาอะไรด้วยซ้ำ ดูเธอไม่เห็นคุณค่าของตัวเองสักเท่าไหร่ เหมือนเด็กที่โตมาโดยไม่มีใครรัก ก็เหมือนผม
น่าแปลก
เสียงเสื้อเนื้อนุ่มลื่นหลุดจากหัวใจของร่างที่ถูกมือใหญ่ปลดกระดุม เปิดเผยเนินเนื้อสีขาวอมชมพู
...เรือนร่างที่เหลือแต่เสื้อชั้นใน...
ผมนั่งมองร่างราวกับดอกไม้สีขาวที่หายใจหอบด้วยพิษไข้ เคลื่อนมือแทรกแผ่นหลัง ปลดตะขอบราเซียร์ของร่างขาวสะอาดที่นอนหงาย
“ค...คุณฮารุ...!?”
“ท่าน” ผมแก้สรรพนาม จัดน้ำอุณหภูมิห้องใส่อ่างพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็ก เดินกลับมาอีกครั้ง เห็นเธอรั้งผ้าห่มคลุมร่าง หลับไปแล้ว
มือใหญ่ของผมกระตุกผ้าห่มที่เกะกะออก จับร่างนั้นหงายอีกครั้ง เคลื่อนมือดึงบราที่ปลดตะขอค้างไว้
“มะ...ไม่ค่ะ” เธอดิ้น ผมจึงมัดมือเธอ
“ช...เชือก...!?” คนป่วยสั่นเหมือนหนาวเยือก “คุณมีเชือกแบบนี้ได้ไง...!?”
ไม่แปลกใจที่เธอตกใจ สิ่งที่มัดมือเธอคือเชือกป่านยาวเจ็ดเมตรเห็นจะได้
“ไม่บอก” ผมตอบก่อนมัดเชือกป่านเข้ากับข้อมือเล็กรุ่มร้อนทั้งสองแล้วรวบกดไว้เหนือหัวเธอ ผมดึงบราเซียร์ออก ก่อนลูบผ้าเปียกหมาดเหนือร่างที่เหลือแต่ผิวกาย ไม่มีอะไรปิดบังนอกจากเส้นผมสีดำ ผมเขี่ยเส้นผมออกจากร่างของเธอ มันดูน่ารำคาญไม่ใช่หรือไง อะไรที่มาปิดบังส่วนที่ไม่ใช่เนื้อแท้น่ารำคาญทั้งนั้น
และหากเธอกลับมาสวมเสื้อต่อให้สวยแค่ไหนผมคงรู้สึกขัดตาอย่างช่วยไม่ได้
มือผมฉีกแม้แต่กางเกงชั้นในของเธอออก เกะกะ รู้ตัวดีว่าทำเกินเหตุ แต่เพราะเธอเป็นของเล่นที่มีชีวิต และเพราะเธอเป็นของผมจึงไม่ต้องห้ามใจ
“อื้อ...อย่าค่ะ...! ” ร่างบางบิดหนี หนีบขาเมื่อผมเช็ดต่ำลงไปตามหน้าท้องจนถึงเรียวขา
“ไม่ต้องกลัว” มันทำให้ผมรำคาญ เธอคงกลัวว่าผมจะทำเรื่องแบบเมื่อคืนกับเธออีก “ไม่ทำแล้ว”
นั่นทำให้ร่างเปล่าว่างใต้ฝ่ามือผมเกร็งน้อยลง
ผมเช็ดใบหน้าและลำคอเธอ มองริมฝีปากซีดที่ตอนนี้เรื่อแดงด้วยพิษไข้อ่อนๆ นึกอยากจูบริมฝีปากเธอแต่ไม่ดีกว่า เธอไม่ใช่คนรัก และจูบที่ริมฝีปากมีไว้ให้คนที่รักไม่ใช่หรือไง
ผมเคลื่อนเช็ดหัวใจสีเรื่อของเธออีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้ด้วยริมฝีปากของผมเอง
“อ...อ๊ะ...!?” ร่างที่ปิดเปลือกตาหนักอึ้งสะท้านลอยเมื่อถูกกลืนกิน และผมขบแผ่วราวละเลียดขนมหวาน
“นิ่ง ไม่งั้นจะโดนที่หนักกว่า”
!!??