บทที่ 1.2 ศึกลมปาก   1/    
已经是第一章了
บทที่ 1.2 ศึกลมปาก
“เพี๊ยะ ไอ้คนสารเลว” หญิงสาววิ่งเข้าไปหลังร้านทันที คนหนุ่มมองตามร่างเล็กๆ ที่วิ่งหายไป เขาเองก็บอกไม่ถูกว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น สายตาของคนในร้านจับจ้องมองเขาจนชายหนุ่มต้องรีบเดินออกไป คนโมโหเดินปั้นปึงอ้อมไปนั่งที่โต๊ะในห้องพักสำหรับสาวๆ โคโยตี้ใช้แต่งตัวใบหน้าหวานถูกความโกรธกลืนหายไปหมดแล้ว ดวงตาแดงก่ำที่สะกดกลั้นน้ำตาแห่งความอ่อนแอไม่ให้ไหล พิยะตาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วทุบกำปั้นเล็กลงบนโต๊ะจนเพื่อนๆ พากันสะดุ้งหันมอง “น้องพิตต้า เป็นอะไรไปจ๊ะ...เมนหรือยังไงดูทำหน้าทำตาเข้าสิ” แหวนพี่ใหญ่ที่สุดในบรรดาคนที่นั่งอยู่ในห้องนั้นเอ่ยถาม “...” “น้องพิตต้า...ใครทำอะไร บอกพี่ทีสิว่ามันเกิดอะไร” ดวงตาแดงจับจ้องออกไปยังนอกห้องด้วยความโกรธแค้น นิ้วเรียวเลื่อนไล้ริมฝีปากตัวเอง หลังมือบางป้ายถูอย่างแรงราวกับจะให้รอยจูบนั้นหายไป แล้วหญิงสาวก็ต้องถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ “สงสัยจะเป็นครั้งแรกสินะ ยายพิตต้า” เสียงเยาะเย้ยดังหลังจากที่พิยะตาหันมองเพื่อนๆ “อะไรกัน ครั้งแรก หมายถึง” แหวนหันมองรุ่นน้องทั้งสองสลับไปมา “จะอะไรล่ะคะ ยายพิตต้าเพิ่งโดนจุ๊บ...จ๊วฟเลยล่ะพี่แหวน ดูสิหน้ายังแดงอยู่เลย” “หยุดพูดถึงเดี๋ยวนี้นะ พี่กานต์ มะ มันไม่ใช่ครั้งแรกซะหน่อย ที่พิตต้าโมโห เพราะนายนั่นพูดจาดูถูกต่างหาก” หญิงสาวโกหกคำโต เธอรู้สึกอายที่จะต้องบอกใครๆ ว่าเกิดมาจนอายุจะ 19 ปี เธอยังไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนจูบเลยซักครั้ง แม้แต่เดินจับมือหญิงสาวก็ไม่เคย เธอรักษาตัวรอดมาได้เพราะความแก่นห้าวของตัวเอง ตามที่บิดาเคยอบรมเอาไว้ก่อนจะจากไป “จริงเหรอ พี่ก็คิดว่า พิตต้า” ประโยคหลังคนพูดจงใจเก็บไว้ให้คนอื่นคิดกันเอาเอง “โอ๊ย วันนี้เจอแต่เรื่องบ้าๆ พิตต้าขอกลับบ้านก่อนนะคะพี่แหวน...ฝากบอกอาโด่งให้ด้วยนะคะ” พูดจบคนหน้าแดงชำเลืองมองเพื่อนร่วมงานที่จ้องมองหาคำตอบจากเธอ ก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าสะพายผ้าใบเล็กออกไป “ดูสิ ใครจะเชื่อมันเนี่ย อายจนหน้าแดงขนาดนั้น ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะอย่างเอ็นดูรุ่นน้องดังหลังจากมองไม่เห็นร่างเล็กแล้ว ทางเดินแคบๆ ด้านหลังของร้านเป็นเส้นทางที่พนักงานจะใช้เข้าออก ข้าวของที่วางกองเบียดเสียดทำให้คนที่เดินสวนทางต้องแอบจนตัวลีบ แต่ไม่วายเฉี่ยวชนกล่องใหญ่จะเกือบหล่นทับ หญิงสาวหงุดหงิดไม่น้อยรีบก้าวเท้ายาวๆ เพื่อให้ถึงที่หมายโดยเร็ว พอพ้นอาคารเก่าอับๆ ผิวเนียนก็ต้องสัมผัสอากาศยามค่ำคืนที่เย็นเยือกทำให้ผิวสาวสั่นสะท้าน เธอค้นหาสิ่งที่จะช่วยบรรเทาความหนาวเย็นในกระเป๋า “อ้าว ยายพิตต้าเอ๊ย ดันลืมหยิบเสื้อคลุมมาด้วย” “อืม วันนี้ไม่มีแขกพาไปไหนเหรอจ๊ะ” หญิงสาวรีบหันหลังกลับไปทางต้นเสียงทันที “คะ คุณ” เสียงเธอสั่นด้วยความตกใจ เพราะคิดว่าลูกค้าปากเสียกลับไปแล้ว “จำผมได้นี่...ทำอะไรไว้ก็คงจำได้ด้วยสินะ” “อะไร ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย” “งั้นเหรอ...รอยนี่มันยังเจ็บๆ อยู่เลยนะคุณ” เขาหันใบหน้าบริเวณที่ฝ่ามือเธอเคยสัมผัส พิยะตาเริ่มหันมองหาตัวช่วย ชายคนข้างหน้านี่ดูท่าทางแล้วคงไม่ได้มาดีเป็นแน่ เท้าเล็กค่อยๆ ถอยทีละก้าว “กลัวเหรอ ทีเมื่อกี้คุณทั้งสาดเบียร์ใส่ แถมยังตบหน้าผมอีก” ชายหนุ่มแค่นเสียงพร้อมยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้คนหวาดกลัว “กะ ก็คุณ มันปากดี พูดจาดูถูกฉัน แถมยัง...จะ” หญิงสาวไม่กล้าพูดเรื่องที่ถูกเขาจูบ มือหนาคว้าข้อมือเล็กดึงอย่างแรงให้ตามเขาออกไปจากลานจอดรถ “ว๊าย ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า จะทำอะไรเนี่ย” หญิงสาวร้องโวยวาย แต่คนแข็งแรงก็ไม่มีทีท่าจะยอมปล่อย “ฉันบอกให้ปล่อย...ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยด้วย” เรียวแขนเล็กทั้งสะบัด ดึงรั้งไม่ให้เขาลากเธอไปง่ายๆ แต่มันก็เปล่าประโยชน์ แรงที่ลากตัวเธอนั้นมากเสียจนร่างบางแทบจะลอยตามไป เขาหยุดตรงรถยนต์คันใหญ่ก่อนจะเปิดประตูแล้วโยนร่างบางเข้าไปนั่งคู่กับคนขับ “ไอ้บ้า พาฉันมาทำไม ช่วยด้วยค่ะ” พิยะตาพยายามเปิดประตูรถแต่เธอก็ทำไม่สำเร็จ มือหนารวบตัวเธอไว้หลังจากก้าวขึ้นไปนั่งในรถ “จะโวยวายทำไมล่ะ...วันนี้ไม่มีแขกพาไปไหน ผมก็อุตส่าห์จะช่วยสงเคราะห์ให้” เขาพูดยียวนจนหญิงสาวนั่งนิ่งตอบอะไรไม่ถูก เธอกำลังคิดทบทวนคำพูดของชายหนุ่มอยู่ ช่วยสงเคราะห์งั้นเหรอ หมายความว่ายังไง พิยะตาประมวลผลไม่ถูกจริงๆ จวบจนรถแล่นเข้ามาจอดในที่มืดมิด หญิงสาวหันมองออกไปรอบตัวอย่างลนลาน “ที่ไหนเนี่ย” “...” เขาไม่ตอบ เธอหันกลับมามองแต่ไม่เห็นเขาแล้ว เพียงเสี้ยววินาทีประตูข้างที่เธอนั่งก็เปิดออก มือหนาเอื้อมมาฉุดกระชากให้ร่างเล็กลงทันที หญิงสาวถูกดึงถลาผ่านประตูที่เปิดรอ แสงสว่างเบื้องหน้าทำให้มองเห็นชัดเจนขึ้น เตียงสีขาวที่ถูกดึงจนตึงกับบรรยากาศเย็นเฉียบของเครื่องปรับอากาศช่วยดึงสติเธอกลับมา “ม่านรูด...นี่นาย พาฉันมาที่นี่ทำไม ปล่อยนะฉันจะกลับ” “อะไรคุณ ที่แบบนี้มันก็เหมาะกับคุณอยู่แล้ว หรือว่าทุกทีจับแต่คนรวยเลยได้นอนหรูกว่านี้” “ไอ้คนเลว คุณมันต่ำทรามที่สุด” “ต่ำทรามแล้วยังไง ผู้หญิงชั่วคราวอย่างคุณมันก็เหมาะสมกับของต่ำๆ แล้วนี่” “ไอ้บ้า...ออกไปนะ” “อย่าทำเป็นเล่นตัวเลยน่า” “ฉะ ฉันไม่ได้ โอ๊ย อย่าเข้ามาใกล้นะ ไอ้โรคจิต” ร่างบางถอยกรูให้ห่างคนอันตรายมากที่สุด
已经是最新一章了
加载中