บทที่ 1.3 ศึกลมปาก
1/
บทที่ 1.3 ศึกลมปาก
ทัณฑ์นางโลม
(
)
已经是第一章了
บทที่ 1.3 ศึกลมปาก
“เอาน่าทนนิดหน่อย ผมมีปัญญาพาคุณมาได้แค่นี้แหละ” หญิงสาวหันหลังจะวิ่งออก แต่เขาก็คว้าและเหวี่ยงเธอจนล้มลงบนที่นอนนุ่ม กระโปรงสั้นที่สวมใส่เลิกขึ้นเผยให้เห็นความขาวนวลเนียนของเนื้อสาว ชายหนุ่มถึงกับมองตาค้าง เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนจะโถมตัวทับร่างบางที่นอนอยู่ “ออกไปนะ ปล่อยฉัน ไอ้โรคจิต ปล่อยฉันนะ” มือเรียวระดมกำลังทุบตีคนลวนลาม เธอผลักใบหน้าเขาให้ออกห่าง แต่แรงที่มีก็ต่อต้านความกระหายของเขาไม่ได้ ชายหนุ่มซุกไซ้ใบหน้ากับซอกคอขาวจูบเม้มตักตวงความหอมหวานของสาวแรกรุ่นอย่างคนบ้าคลั่ง กลิ่นหอมทำให้ชายหนุ่มฉุกคิดบางอย่างในใจ แต่ความร้อนในร่างกายตอนนี้มันคลุขึ้นจนไม่อาจจะหยุดยั้งได้ “ปล่อยฉัน ฮือๆ ปล่อยนะไอ้คนบ้า ปล่อย ฮือ” เรียวปากบางถูกดูดดื่มเสียงที่ตะโกนจนหมด มือเรียวจิกแผ่นหลังกว้างผ่านเสื้อเชิ้ตเปียกชื้น หญิงสาวทำได้เพียงส่งเสียงในลำคอ เพราะมือที่ทุบตีอ่อนแรงก็เธอต่อสู้กับคนโรคจิตนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง มือหนาเลื่อนบีบคลึงทรวงอกอิ่มที่เกือบจะโผล่พ้นเสื้อเกาะอก แล้วค่อยๆ เลื่อนโลมไล้สูดดมกลิ่นหอม ลมหายใจอุ่นๆ ที่กระทบร่างบางทำให้หญิงสาวสั่นสะท้านหัวใจเหมือนจะหยุดเต้น การหายใจก็เริ่มติดขัด เรี่ยวแรงที่จะต่อต้านปกป้องร่างกายตัวเองตอนนี้ก็แทบไม่มีเหลือ มือเรียวกำชายแขนเสื้อของคนจู่โจมเอาไว้แน่น ชายหนุ่มชะงักเมื่อรู้สึกว่าร่างบางที่ต่อต้านเมื่อครู่นิ่งไม่ขยับตอบโต้ เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าขาวซีดของคนตกใจเห็นหยดน้ำใสๆ ค่อยๆ ไหลรินผ่านแก้มเนียน เขาต้องหยุดการกระทำทั้งหมดไม่รู้เพราะอะไรเขาคงไม่ได้สงสารผู้หญิงที่ใช้เรือนร่างหาเงินใช่ไหม ชายหนุ่มยอมพลาดโอกาสทองที่จะได้ปลดปล่อยความเร้าร้อนในร่างกาย เขาลุกออกจากร่างบางยอมให้เธอเป็นอิสระ แต่จะให้หญิงสาวรับรู้ความอ่อนแอในใจเขาได้ยังไง จุดอ่อนแบบนี้พวกผู้หญิงอยากเงินชอบเอามาอ้างจนผู้ชายหลายคนต้องเสียเงินทองให้เธอไม่รู้เท่าไหร่ “คุณ...จะมามารยาอะไรอีกล่ะ จะโก่งค่าตัวหรือไง” “ฮือ ฉะ ฉัน” “ผู้หญิงก็แบบนี้แหละ มารยาร้อยเล่มเกวียน ทำเป็นร้องไห้ ไม่เคยถูกชายใดแตะต้องมาก่อน” “นี่คุณมันจะมากไปแล้วนะ” พิยะตาลุกขึ้นนั่งดึงเกาะอกขึ้นมาปกปิดส่วนที่โผล่พ้นเครื่องกำบัง “ไม่มากหรอก...เอานี่ ทั้งตัวผมมีอยู่แค่ 1,500 คงไม่น้อยไปสำหรับคุณหรอกนะ” “อะไรนะ นี่คุณคิดว่าฉันขายตัวงั้นเหรอ เลวที่สุด” หญิงสาวปัดเงินที่เขายื่นมาให้ ก่อนจะคว้าสัมภาระแล้วรีบวิ่งออกจากห้องโสมมนั่นทันที “เฮ้ยอะไรกัน ตั้ง 1,500 มันมากไปสำหรับผู้หญิงสิ้นคิดแบบคุณด้วยซ้ำ” ธัญญ์ตะโกนตามหลังออกมา ยิ่งทำให้หญิงสาวเจ็บแค้นเขาเป็นที่สุด “คุณไม่เอาจริงๆ เหรอ 1,500 เลยนะคุณ” “ฮือๆ ไอ้คนบ้า สารเลว ต่ำทราม เห็นฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้นได้ยังไง ฮือๆ พวกสมองถั่วงอกเอ๊ย” คนสะอื้นเดินโซเซออกจากม่านรูดเก่าๆ ที่ชายหนุ่มฉุดกระชากเธอเข้าไป เธอไม่คิดจะหันกลับไปมองมันอีกเลย ในใจคิดสาปแช่งผู้ชายมักง่ายคนนั้นให้พบเจอแต่สิ่งชั่วร้าย สองมือยกขึ้นปาดน้ำตาสูดลมหายใจลึกๆ เรียกความเข้มแข็งให้ตัวเอง อาคารสูงใจกลางเมืองที่แบ่งให้เช่าพื้นที่ทำสำนักงาน ร่างสูงกำยำหอบหิ้วเอกสารเข้าไปในลิฟต์ก่อนที่มันจะปิดตัวลง เขาก้มมองรายงานในมือแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ชั้นที่ 4 มีพนักงานเดินออกจากลิฟต์พร้อมชายหนุ่มอีกคน “ว่าไงธัญญ์” “ครับพี่โมทย์...วันนี้รู้คำตอบแล้วใช่ไหมครับ” “ไม่ต้องรีบร้อน พักให้หายเหนื่อยก่อน เดี๋ยวค่อยมาคุยกัน” หัวหน้าทีมที่ดูใจดียิ้มให้ก่อนจะเดินเลี่ยงไปยังห้องทำงานของตนเอง ธัญญ์วางข้าวของบนโต๊ะทำงาน เขาสังเกตเห็นซองเล็กๆ สีหวานวางอยู่จิตใจก็เริ่มเต้นระส่ำระส่ายไม่อยากจะนึกไปก่อนล่วงหน้าว่ามันคืออะไร “เฮ้ย ถ้านายไม่อยากรู้ก็วางมันลงเถอะ” กิตติเพื่อนร่วมงานที่ยืนมองอยู่นานแล้วพูดเตือนเขา แต่มันก็ยิ่งทำให้เขาอยากที่จะรู้ว่าซองนี้คืออะไร ชายหนุ่มค่อยๆ เปิดและหยิบสิ่งที่อยู่ข้างในออกมาช้าๆ มือหนาสั่นเทาเมื่อเห็นข้อความบนกระดาษแข็งฉลุลายสวย งานมงคลสมรส ชายหนุ่มปล่อยให้การ์ดแต่งงานของแฟนเก่าล่วงหล่นลงพื้นพร้อมกับร่างกายเขาที่ทรุดนั่งอย่างหมดเรี่ยวแรง ธัญญ์ยังไม่อาจจะลืมคนรักได้ทั้งๆ เขาต่อว่าเธอรุนแรงตอนที่หญิงสาวเดินมาบอกเลิก “ทำใจเถอะเพื่อน...คุณสุเค้าเลือกที่จะใช้ชีวิตกับคนอื่นแล้ว ทางผ่านอย่างนายมันก็ต้องทำใจ” กิตติตบไหล่เพื่อนเป็นการปลอบใจ “อืม ฉันไม่ได้คิดอะไรหรอก ก็แค่นึกสมเพชตัวเองที่ถูกสวมเขามาได้ตั้งนาน” “เฮ้ยธัญญ์ฉันว่าแกอย่าไปจงเกลียดจงชังคุณสุแบบนั้นเลย...ถือซะว่าทำบุญร่วมกันมาแค่นี้” “นายไม่ต้องมาแก้ตัวให้ผู้หญิงหรอก อย่างกับไม่เคยถูกหักอกเพราะเธอมีที่หมายใหม่ที่รวยกว่า” คำพูดของธัญญ์ทำให้กิตติและยศพัฒน์พูดอะไรไม่ออก เพราะทั้งคู่ก็เจอเหตุการณ์ที่ชายหนุ่มกล่าวมาแล้วทั้งนั้น แถมยังเจ็บแสบกว่า ผู้หญิงที่หักอกพวกเขายังเป็นเด็กสาวใจแตกที่ยึดอาชีพจับเสี่ยรวยๆ ปลอกลอกเงินทองมาเที่ยวหาความสุขกับเพื่อน แต่อยู่ๆ ในความรู้สึกของเขากลับมีใบหวานของใครบางคนซ้อนขึ้น ดวงตากลมคู่สีดำที่คลอไปด้วยน้ำตาจากการที่ถูกลวนลาม ธัญญ์ต้องสลัดความคิดนั้นทันที “เงียบกันทำไม ฉันพูดแทงใจดำพวกนายล่ะสิ เห็นไหมผู้หญิงมีแต่เห็นแก่เงิน” ธัญญ์พูดด้วยน้ำเสียงเจ็บแค้น “เอาเถอะ ว่าแต่เมื่อคืนฉันเห็นแกออกไปกับสาวน้อยหน้าหวานเจี๊ยบเลยนี่หว่า” “เออใช่ เป็นไงบ้างวะ สาวน้อยพอจะทำให้แกลืมนรกอย่างคุณสุได้ไหมวะ” กิตติเปลี่ยนเรื่องทันที่เห็นเพื่อนเครียด แต่คำถามของเขากลับยิ่งทำให้ธัญญ์นิ่วหน้าไม่พอใจกว่าเดิม “ว่าไง เฮ้ย ไอ้ธัญญ์ มีดีไม่บอกเพื่อนเลยนะ” ชายหนุ่มต้องรีบหันหน้าหลบสายตาเพื่อน เขาคงไม่กล้าบอกเพื่อนว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น ใครจะกล้าประจานตัวเองว่าโดนผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ตบหน้ากลางบาร์เหล้า แถมยังตัวเปียกโชกด้วยฝีมือเธออีกต่างหาก สิ่งที่เขาได้ตอบแทนความอับอายก็คงเป็นเพียงกลิ่นหอมๆ จากร่างกายสาวและรสหวานที่ทำให้เขาลืมไม่ลง หลังจากพักจนหายเหนื่อยธัญญ์เดินเข้าไปในห้องหัวหน้า เพื่อฟังคำตอบจากลูกค้ารายล่าสุด แต่ใบหน้าของคนสั่งงานกลับตึงเครียดอย่างกับคิดอะไรไม่ออก “เกิดอะไรขึ้นครับพี่โมทย์” ชายหนุ่มนั่งลงก่อนจะจ้องมองรอคำตอบ “เฮ่อ พี่ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นอีกนะธัญญ์” “เรื่องอะไรครับพี่” “งานที่ธัญญ์เสนอลูกค้าไป มันไม่ผ่าน ลูกค้าไม่พอใจอย่างมาก แล้วเค้าก็ยกเลิกการจ้าง” “อะไรนะครับพี่โมทย์...งานที่ผมเสนอไปเนี่ยมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ” “ใจเย็น ธัญญ์ มันไม่ได้แย่หรอกเพียงแต่ไม่ตรงคอนเซ็ปที่ลูกค้าต้องการ” ธัญญ์กุมขมับทันทีที่รู้ว่าลูกค้าไม่พอใจผลงานของเขา และนับว่าเป็นรายที่สามแล้วตั้งแต่เขาเลิกกับสุรัตนา “คอนเซ็ปบ้าอะไรมีแต่สีชมพู” “เฮ้ย ก็เค้าให้แกตกแต่งเรือนหอ มันก็ต้องสีสันหวานๆ แล้วนี่อะไร ไม่ดำก็เทา ครึ้มมาเชียว” มือหนายีผมตัวเองอย่างขัดใจ งานชิ้นใหญ่ที่ได้รับมอบหมายจากพี่ที่ไว้ใจเขาที่สุด แต่เขากลับทำให้งานล้มเหลวไม่เป็นท่า ต้องเสียงานให้กับบริษัทคู่แข่งจนได้ “ผมขอโทษครับพี่โมทย์...ผมสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกแล้ว” ถึงจะรับคำขอโทษ แต่ปราโมทย์ก็ไม่มั่นใจว่าลูกน้องจะทำงานได้ดีเมื่อดังเดิม เขาต้องตัดสินใจอย่างหนักก่อนจะให้งานชิ้นใหม่กับทีมของธัญญ์ “โปรเจคใหม่ พี่คิดว่ามันคงจะเข้ากับสภาพจิตใจ เอ๊ยสไตล์ของแกนะธัญญ์” รุ่นพี่โยนเอกสารให้ธัญญ์ เขาหยิบและเปิดสำรวจรูปวาดบาร์เหล้าที่คุ้นตาอย่างตั้งใจ “บาร์เหรอครับ” “อืม จะร้อนแรงยังไงคราวนี้คงไม่มีใครว่าแกแล้วล่ะ” “ขอบคุณครับพี่โมทย์” “อ่อ อย่าทำให้พี่ต้องผิดหวังกับแกอีกนะธัญญ์” ชายหนุ่มเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าตอบอย่างไม่มั่นใจเท่าไรนัก “อ่อ เดี๋ยวธัญญ์ เห็นการ์ดบนโต๊ะแล้วใช่ไหม” “ครับ” เขาตอบเสียงเรียบ “ทำใจซะเถอะ...คุณสุเค้ามีสิทธิ์เลือก หรือว่าไม่จริง” ปราโมทย์มองใบหน้านิ่งของลูกน้องแล้วเขาก็ต้องถอนหายใจ เพราะการอกหักครั้งใหญ่ทำให้ฝีมือการทำงานของชายหนุ่มตกไปเยอะ ความเสียในงานมีมากจนลูกค้าหลายรายไม่พอใจ อีกทั้งอารมณ์ที่แปรปรวนจนไม่สามารถควบคุมตัวเองยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ในการทำงาน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 1.3 ศึกลมปาก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A