บทที่ 3.3 ผู้หญิงต้องห้าม
1/
บทที่ 3.3 ผู้หญิงต้องห้าม
ทัณฑ์นางโลม
(
)
已经是第一章了
บทที่ 3.3 ผู้หญิงต้องห้าม
“สวัสดีค่ะคุณธีร์ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณมางานแต่งของสุ” คนถูกทักทายยิ้มให้ “ขอให้คุณสุมีความสุขมากๆ นะครับ...เจ้าบ่าวก็เช่นกัน อ่อ นี่พิยะตาหลานสาวของผม” ธีร์เห็นสายตาตั้งคำถามมองมายังคนข้างกาย เขาจึงแนะนำเธอให้รู้จักกับพิยะตา ส่วนอีกคนคงไม่ต้องบอกว่าเขาเป็นใครแต่สิ่งที่ชายหนุ่มอยากเปิดเผยก็คือ “นี่ก็ธัญญ์ คงรู้จักกันแล้ว หลานชายคนเดียวของผมและก็เป็นผู้สืบทอดกิจการทั้งหมดของสินสาโรจน์” ธัญญ์จงใจจ้องมองใบหน้าสวยหวานราวกับตุ๊กตาเคลือบ เขาอยากจะเห็นสีหน้าเวลาที่เธอรับรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ใช่สถาปนิกไส้แห้งอย่างที่เธอเคยเห็น เขาเป็นถึงหลานชายของนักธุรกิจใหญ่ แถมยังเป็นมหาเศรษฐีระดับต้นๆ เสียอีก สีหวานที่แต่งแต้มบนใบหน้าซีดลงเหมือนมันซึมผ่านผิวที่ไร้สีสันของคนเธอ เจ้าสาวคนงามเม้มปากราวกับมีของหนักฟาดลงที่ใบหน้าของเธอ “อืม เจ้าบ่าวหล่อมาก มีความสุขเช่นกันนะครับ” “ขอบคุณครับ เชิญด้านในดีกว่า อาหารพร้อมต้อนรับแล้วครับ” เจ้าบ่าวหนุ่มเชื้อเชิญ แต่ธัญญ์ยังยืนนิ่ง จวบจนเจ้าสาวที่ควรจะเป็นของเขาเดินเลี่ยงไป เขาจึงเดินตามห่างๆ จิตใจคนหนุ่มเจ็บร้าวจนชาเรี่ยวแรงที่จะก้าวเดินยังแทบไม่มี เขาต้องฝืนร่างกายให้เข้มแข็งเพื่อไม่ให้ใครรับรู้อาการของเขา ชายหนุ่มลอบมองหญิงสาวจากด้านหลัง แผ่นหลังขาวนวลเนียนที่เขาเคยคลอเคลียมันช่างตอกลึกสุดขั้วหัวใจแว๊บนึงเขาก็คิดว่าเธอหันมองเขาเช่นกัน แต่มันคงไม่มีความหมายอีกแล้วเพราะเธอเลือกที่จะทิ้งเขาไป ผู้ชายที่ไม่มีอะไรเทียบเจ้าบ่าวคนนี้เลย แขกในงานมากมายล้วนแล้วแต่เป็นผู้ดีมียศชายหนุ่มเดินเลี่ยงมาอีกมุม ธัญญ์ต้องการสยบความรู้สึกทรมานที่กัดกินจิตใจให้หมดสิ้น สิ่งที่ชายหนุ่มใช้เป็นที่พึ่งก็คือเครื่องดื่มสีเข้มในแก้วใสๆ เครื่องดื่มที่บริกรเดินมาเสิร์ฟถูกยกพรวดเดียวหมดไปหลายแก้วใบหน้าคมเข้มเริ่มมีสีแดงเปื้อนจางๆ เลือดภายในร่างกายคงสูบฉีดจากฤทธิ์เครื่องดื่มมึนเมา สายตาคมมองไปรอบๆ งานหมายจะค้นหาอะไรบางอย่างที่ตัวเองก็บอกไม่ได้ คงไม่ใช่เพื่อนสนิทหรือนักธุรกิจใหญ่เป็นแน่ เรือนร่างบางอรชรในชุดสีชมพูหวานผิวไหล่ขาวนวลเนียนเวลาต้องแสงนีออน ดวงตากลมโตแก้มขาวเนียนช่างดึงดูดให้เขาจ้องมองเธออยู่เป็นนาน มือเรียวที่ยกไหว้คนสำคัญในงานดูนอบน้อมเกินกว่ากิริยาของสาวสิ้นคิด ธัญญ์รู้สึกว่าใจเขาเริ่มเต้นโครมครามเมื่อดวงตาหวานหันมองมายังเขา สายตาเธอมิได้กลัวการจับจ้องของเพศตรงข้ามเลยซักนิด กลับมองท้าทายเหมือนยั่วยวนให้เขาพิศสวาทเธอเสียอีก “ธัญญ์” เสียงคุ้นหูดังมาจากด้านข้าง ชายหนุ่มจึงหันไปมอง ร่างสูงโปร่งในชุดสีขาวยาวยืนมองเขาอยู่ ชายหนุ่มรู้สึกฝืดในลำคอ เขาไม่ทันได้ตั้งตัว “มีอะไรครับคุณเจ้าสาว” “อย่าประชดสุแบบนั้นสิคะ...สุเสียใจที่เรื่องของเรามันเป็นแบบนี้” “ฮ่าๆ ผมลืมมันไปหมดแล้วครับคุณสุ อย่าได้ใส่ใจกับสิ่งที่ผ่านมาแล้วเลยครับ” “สุขอโทษค่ะ...สุไม่รู้จริงๆ” “คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด...แต่ถ้าไม่รู้เพราะไม่เคยเปิดใจที่จะรับรู้มันก็ยากที่จะตัดสินใจว่าผิดหรือเปล่า” “คุณยังโกรธสุอยู่จริงๆ ด้วย...ธัญญ์คะ” เรียวปากบางเม้มราวกับสิ่งที่เธอจะพูดนั้นมันอัดอั้นเต็มทน “ทำไมธัญญ์ไม่บอกสุเลยคะ ว่าคุณเป็นหลานของคุณธีร์” สิ่งที่เขาคิดเป็นจริงเสียแล้ว เธอดูสนใจเขาขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าชาติตระกูลเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้าบ่าวในคืนนี้ อีกทั้งจะดูสูงศักดิ์กว่าเสียด้วยซ้ำ “ผมคิดว่าไม่จำเป็นเลยซักนิด…แต่ถ้าหากการที่เราเคยคบกันมันไม่ได้เกิดจากความรักแล้วล่ะก็ ผมคิดว่าเป็นการดีเสียอีกที่คุณเพิ่งรู้ความจริงตอนนี้” ชายหนุ่มแสร้งหันไปมองทางอื่น “ถ้าบอกสุเร็วกว่านี้ เรื่องของเรามันคงไม่จบแบบทางใครทางมันหรอกค่ะ” “ทำไมครับ คุณจะยอมมาแต่งงานกับผมงั้นเหรอ” หญิงสาวเม้มปากอีกครั้ง คำพูดของเขาเหมือนต่อว่าเธอตรงๆ “ก็อาจจะเป็นแบบนั้นค่ะ...คุณก็รู้ว่าสุต้องการความมั่นคงในชีวิต และการที่คุณเป็นทายาทของคุณธีร์มันก็ทำให้ชีวิตคู่ของเราดีขึ้น” “ถ้าอย่างนั้นผมคงคิดถูกแล้วที่ไม่บอกคุณตั้งแต่แรก...เพราะผู้หญิงอย่างคุณมันก็เห็นแก่เงินไม่ต่างจากคนอื่น” “ธัญญ์” เสียงหญิงสาวที่เรียกชื่อเขาสั่นเครือ มือเรียวกำไว้แน่น ดวงตามีน้ำใสคลอเป็นประกาย แต่เขาก็ไม่ใส่ใจกลับเดินออกจากบริเวณนั้นไม่หันกลับไปมองคนข้างหลังอีก สังคมชั้นสูงของคนร่ำรวยทำให้หญิงสาวต่ำต้อยเริ่มอึดอัดทำตัวไม่ถูก เธอไม่รู้ซักนิดว่าแขกในงานเขาคุยกันเรื่องอะไร จะตั้งใจฟังแค่ไหนมันก็ไม่เข้าใจเสียที ยิ่งมีเรื่องเงินทอง ธุรกิจเข้ามาผสมโรงด้วยแล้วพิยะตาต้องส่ายหน้าไม่อยากรับฟัง หญิงสาวกังวลใจไม่น้อยว่าเธอจะทำให้ธีร์เสียหน้า เขาไม่น่าพาเธอมางานนี้เลยจริงๆ เธอจึงขอเลี่ยงออกมาหาที่เงียบพักสูดลมหายใจเพื่อลดความเบื่อหน่ายลง “ไม่เคยมางานใหญ่โตแบบนี้ล่ะสิ” ร่างบางสะดุ้งเมื่อเสียงทักดังใกล้ตัวเธอมาก “ค่ะ...ไม่มีอะไรน่าสนใจซักนิดเดียว” “แหมก็นี่มันสังคมไฮโซ...ไม่ใช่บาร์เหล้าลานเบียร์ เธอถึงจะสนุกสนาน” “คุณธัญญ์” เสียงใสเปลี่ยนเป็นขุ่น สายตากลมจับจ้องใบหน้าคนพูดอย่างโกรธเคืองนี่เขาจงใจหาเรื่องเธออีกแล้ว ในที่สาธารณะก็ไม่คิดจะละเว้น “ฉันพูดแทงใจดำหรือไง” “หยาบคาย” “ฮ่าๆ...ถ้าคืนนี้มีฟลอโคโยตี้ เธอคงกระโดดขึ้นไปเต้นหน้าตาเฉยล่ะมั้ง” หญิงสาวรู้ว่าเขาจงใจจะแกล้งเธอ การระงับอารมณ์ไม่ให้โกรธดูจะดีที่สุด เธอจำต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อลดอารมณ์ร้อนในจิตใจ “ค่ะ พิตต้าอยากจะขึ้นไปส่ายเอวส่ายสะโพกใจจะขาด พูดแล้วก็นึกถึงเพลงมันทันทีเลย” น้ำเสียงประชดประชันทำให้เขาจ้องเธอตาเขม็ง ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้ตอบโต้กลับหญิงสาวก็เดินหนีเขาออกมา มีเหรอคนที่อารมณ์หงุดหงิดจะยอมปล่อยให้กวางตัวน้อยสะบัดหน้าใส่เช่นนี้ “จะไปไหน” “มันเรื่องของฉัน” “เธอไม่มีสิทธิ์เดินหนีฉันนะ” “เอ๊ะ ฉันไม่ได้เป็นทาสของคุณซะหน่อย” พิยะตาเดินออกมานอกโรงแรมและโบกรถแท็กซี่ทันที เธอบอกที่หมายพร้อมปิดประตูรถ แต่ร่างสูงก็กระโดดขึ้นมานั่งคู่กับเธอ “นี่คุณลงไปเลยนะ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 3.3 ผู้หญิงต้องห้าม
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A