บทที่ 3.4 ผู้หญิงต้องห้าม
1/
บทที่ 3.4 ผู้หญิงต้องห้าม
ทัณฑ์นางโลม
(
)
已经是第一章了
บทที่ 3.4 ผู้หญิงต้องห้าม
“...” เขาไม่ตอบอะไรกอดอกเอนตัวอย่างสบายใจ โซเฟอร์เหลือบมองกระจกหลังรอคำสั่งของคนโดยสาร “ออกรถเลยครับ” “จะตามมาทำไมไม่ทราบคะคุณธัญญ์” “ถ้าอาธีร์ถามฉันจะได้ตอบถูกว่าเธอไปไหน ไปทำอะไร” คำยียวนทำให้คนสาวไม่สบอารมณ์ “จะตามมาคอยดูแล ควบคุม หรือจับผิด” “ประเด็นหลังน่าสนใจ” “อีตาบ้า...ลงไปเลยนะ” ชายหนุ่มแสร้งมองออกไปนอกกระจกไม่สนเสียงขุ่นที่บ่นไม่หยุด “คุณธัญญ์...ฉันบอกให้ลงไป ไม่ได้ยินเหรอ” “...” หลังจากทำอะไรเขาไม่ได้ พิยะตาจำใจต้องถอยทัพสงบอารมณ์ ทั้งคู่เงียบตลอดเส้นทาง จนรถจอดบริเวณหน้าถนนที่เป็นแหล่งบันเทิงเริงรมณ์ของคนชอบเที่ยว หญิงสาวรีบลงจากรถโดยไม่สนใจคนที่ตามมา “เฮ้ยนี่เธอ ใจคอจะไม่รอกันหน่อยเหรอ” “จะไปไหนก็ไป” ธัญญ์เดินตามมาจนถึงหน้าบาร์เหล้าของดนุพร เขาลังเลเล็กน้อยที่จะเดินเข้าไป แต่ร่างเล็กนั้นก็ไวเสียจนเขาเห็นเพียงชายกระโปรงพ้นซุ้มประตูทางเข้า “พี่คะ...มาคนเดียวเหรอคะ” “เข้ามาดื่มอะไรเย็นก่อนสิคะ” หญิงสาวที่นั่งอยู่หน้าบาร์กำลังรุมล้อมตัวเขา “ไม่ครับ ผมไม่ดื่ม” มือหนายกขึ้นโบกปฏิเสธ แต่สาวทั้งหลายก็ต้องทำหน้าที่ให้สุดกำลัง เสียงอ่อนเสียงหวานออดอ้อนตื้อลูกค้าหนุ่มไม่หยุด “นะคะพี่ขา...วันนี้คนไม่เยอะหรอก” “ไม่ดีกว่าครับ ผมขอตัวก่อน” ชายหนุ่มต้องรีบหาทางหลบเลี่ยงเพื่อจะได้ตามหญิงสาวตัวเล็กเข้าไปด้านใน “เกือบไปแล้วไหมล่ะ...ผู้หญิงพวกนี้น่ากลัวชะมัด” พูดจบชายหนุ่มก็มองหาคนที่เขาตามมา แต่ก็ไร้วี่แววของเธอ “ยายพิตต้าก็ไวอย่างกับลิง” ธัญญ์นั่งลงที่โต๊ะใกล้ๆ เขาสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มาย้อมใจที่กำลังร้อนรน บรรดานั่งเที่ยวในบาร์ดูบางตาลงมากคงเป็นเพราะบรรยากาศเดิมไม่ดึงดูดลูกค้าของที่นี่แน่ๆ เขานึกในใจถ้าได้บาร์นี้มาคงดีจะได้ปรับปรุงเสียใหม่ให้ลูกค้าถูกใจคงมีรายได้ไม่น้อย แต่ความคิดของเขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นโคโยตี้สาวๆ แต่งตัววาบหวิวเดินเรียงรายกันออกมาจับจองฟลอทรงกลม บ้างก็ใส่เพียงยกทรงกับจีสตริง เสื้อกล้ามเอวลอยกับกางเกงยีนส์ตัวจิ๋ว เห็นแล้วพาให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หัวใจพองโตตาลุกวาวนั่งกันแทบไม่ติดเก้าอี้ เสียงฮือฮาดังระงม แต่เขากลับนึกสมเพชผู้หญิงพวกนี้ที่ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว ไม่ใช้ความรู้หากินในอาชีพที่ดีกว่านี้ แก้วเบียร์ถูกยกขึ้นมาชิดริมฝีปากหมายจะกลืนลงดับความครุในใจ แต่ภาพที่เห็นทำเอาชายหนุ่มเกือบจะสำลักเบียร์ที่เขาดื่มเข้าไป เพราะคนที่อยู่บนเวทีสูงเบื้องหน้าช่างคุ้นตาเสียจริง ร่างบางอรชรสวมใส่กระโปรงยีนส์สั้นอวดต้นขากับเสื้อเกาะอกอย่างที่เธอใส่ประจำ แต่วันนี้เธอกลับรวบชายเสื้อขึ้นโชว์หน้าท้องที่ขาวนวลเนียนจนชายหลายคนมองตาค้างไม่เว้นแม้แต่เขา ส่วนเว้าโค้งที่อวดสายตาทำให้ภายในร่างกายร้อนผ่าว สีหน้าเขาแดงกล่ำโดยไม่รู้สาเหตุ เสียงผิวปากแซวจากหนุ่มวัยกัดมันดังไปทางร่างเล็กที่ยืนยิ้มหวานเชือดเฉือนใจ ดนตรีเริ่มแล้วหญิงสาวยกแขนทั้งสองขึ้นเหนือศีรษะโยกเอวซ้ายขวาช้าแล้วบิดตัวต่ำกระดกก้นกลมงอน “ทำบ้าอะไรของเธออีกเนี่ย...อาธีร์อุตส่าห์ชุบเลี้ยงยังจะกลับไปทำตัวต่ำๆ” เขาสบถอย่างโกรธเคือง ความโกรธทำให้เส้นเอ็นที่แก้มกระตุก มือหนาถือแก้วเบียร์เอาไว้แน่น สายตาจับจ้องร่างบางๆไม่กระพริบ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่อยากดูลีลายั่วยวนเช่นนี้ แต่การที่เธอมาโชว์เนื้อหนังเย้ายวนผู้ชายนับสิบมันทำให้จิตใจของชายหนุ่มร้อนรุ่มกระสับกระส่ายจนแทบนั่งไม่ติด สายตาคู่หวานมองเขาเมื่อเธอเดินสลับที่กับเพื่อน เอวบางแอ่นเอนชนสะโพกกับคู่เต้น รอยยิ้มมุมปากนั้นคงจะเยาะเย้ยเขาเป็นแน่ กว่าการแสดงชุดนี้จะจบลงธัญญ์ก็ขบกรามจนเจ็บไปทั้งปาก ชายหนุ่มตัดสินใจเดินอ้อมไปยังห้องแต่งตัวหลังเวที เขารีบคว้าแขนเรียวนั้นไว้ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปหาเพื่อนร่วมงาน “ปล่อยนะคุณธัญญ์” ชายหนุ่มบีบแขนเล็กจนแดงเป็นรอย เขาดึงเธอแรงเสียจนเกือบจะลอยตามมือเขา หญิงสาวสะบัดแขนเท่าไหร่ก็ไม่หลุด มืออีกข้างพยายามแกะมือหนาที่กำข้อมือเธอ มันช่างยากเย็นเสียจริง จะร้องให้คนช่วยเธอก็สุดแสนจะอับอาย รถแท็กซี่ที่จอดรอผู้โดยสารคันหนึ่งถูกเปิดออกร่างบางเข้าไปนั่งตามแรงที่เขาผลักเธอ ชายหนุ่มบอกที่หมายซึ่งหญิงสาวไม่รู้จักและคิดว่าไม่น่าจะใช่ทางกลับบ้าน “คุณเป็นบ้าอะไร...ตอนอยู่ในงานก็ยุยงให้ฉันทำตัวเป็นโคโยตี้ไม่ใช่เหรอ แล้วจะมาโกรธเคืองกันแบบนี้ได้ยังไง” หญิงสาวร่ายยาวด้วยความโมโห เธอไม่ใช่คนที่เขาจะมาทำรุนแรงได้ง่ายๆ มือหนายังคงกำข้อมือเรียวเล็กไว้ เพียงแต่แรงลดลงแล้ว พิยะตานั่งนิ่งอยู่พักใหญ่ก่อนที่ตัวเธอนั้นจะเริ่มขยับแอบอิงหลังเบาะคนขับ ตัวเธอสั่นเล็กน้อยคงเพราะเครื่องปรับอากาศที่เย็นเฉียบและยังเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่มันไม่ได้ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นเลย ชายหนุ่มหันมองเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ยอมช่วยอะไรเธอคงเพราะต้องการกลั่นแกล้งให้สะใจ หญิงสาวเบ้ปากเมื่อชายหนุ่มหันกลับไปมองนอกกระจกรถ “เลี้ยวซ้ายข้างหน้าครับ” ใบหน้าสวยหันมองทางทันที แสงสว่างที่เปิดตรงป้ายหินอ่อนบ่งบอกว่าที่นี่คือคอนโดมิเนียมหรูชานเมือง ชายหนุ่มจ่ายค่ารถก่อนจะดึงข้อมือเล็กๆให้ตามเขาลงมาด้วย หญิงสาวไม่มีแรงจะขัดขืนในตอนนี้เพราะอากาศเย็นทำให้ร่างกายสั่นไปทั้งตัว “ปล่อยนะไอ้บ้า ไอ้โรคจิต” เมื่อออกมายืนนอกตัวรถหญิงสาวก็เริ่มต้นโวยวายทุบตีร่างหนา แต่เขาก็ไม่สะทกสะท้านกลับมองหน้าเธอด้วยสายตาโกรธเคือง เสียงขบกรามดังทำให้หญิงสาวชะงักกำปั้นที่กำลังจะทุบไหล่แข็งแรง “ฉันไม่ไป...ไม่ไปๆ” พิยะตายังคงโวยวาย เมื่อเขาออกแรงดึงตัวเธอเข้าไปในอาคาร “นี่คุณ เค้าห้ามเสียงดังรู้หรือเปล่า” ชายหนุ่มหันมาดุเธอ ขณะที่กำลังตะโกนขอความช่วยเหลือ “ไม่ไป ช่วยด้วยค่ะ คนโรคจิตมันฉะ...” คำพูดของหญิงสาวถูกมือหนาปิดเอาไว้ เขาออกแรงยกร่างบางขึ้นพาดบ่าแล้วเดินเข้าไปในลิฟต์ “กรี๊ด ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย” “ยังจะโวยวายทำไมอีก งั้นต้องเจอแบบนี้” พูดจบคนหนุ่มก็ใช้มือหนาฟาดที่ก้นกลมเสียงดังป๊าบ “ว๊าย...ไอ้บ้า...ฮือ ปล่อยนะ” หญิงสาวยังไม่ยอมหยุดจนเขาต้องลงโทษเธออีกครั้ง มือหนาตบก้นสาวสองครั้งติด จนเธอยอมเงียบเสียงลง ประตูลิฟต์เปิดแล้ว เขารู้ทันว่าเธอจะต้องโวยวายจึงแกล้งเอามือบีบคลึงก้นเธอเอาไว้ “ปล่อยนะไอ้บ้า” หญิงสาวพูดราวกับกระซิบอยู่ข้างหูเขา เสียงชายหนุ่มหัวเราะฮึๆ พอใจกับท่าทียอมจำนนของหญิงสาว คนสาวไม่รู้จะทำอย่างไรเธอใช้เข่ากระแทกหน้าอกเขาไปอึกหนึ่ง “โอ๊ย เจ็บนะคุณ” “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” เขาเดินมาหยุดหน้าห้อง 808 ประตูไม้สีขาวสะอาดถูกเปิดออกช้าๆ กลิ่นน้ำยาปรับอากาศอ่อนๆ ลอยวนอยู่ในห้อง เสียงแก๊กเบาๆ ทำให้รู้ว่าเขากำลังกดล็อคที่ประตู “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคุณธัญญ์” เสียงเขียวดังชัดเจนข้างหูเขา เธอจงใจตะโกนใส่จนชายหนุ่มตกใจโยนร่างบางลงกับโซฟาตัวยาว “โอ๊ย...จะบ้าเหรอคุณนึกจะปล่อยก็ปล่อยแบบนี้ เจ็บนะ” พิยะตานอนอยู่บนโซฟาขาขาวพาดที่วางแขน กระโปรงที่เธอสวมใส่เลื่อนเปิดจนเห็นชั้นในสีขาว สายตาเขาจ้องมองมันราวกับว่าเป็นขนมหวาน ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนอวัยวะภายในจะตื่นตัวเขาหันหน้าหนีก่อนที่หญิงสาวจะหยิบหมอนอิงมาปิดเอาไว้ “ฮึ ชอบนักนี่แต่งตัวโป๊ยั่วผู้ชาย” “ฉันไม่ได้ไปยั่วคุณก็แล้วกัน” “อ่อ ผมคงไม่เร้าใจเท่ากับพวกขี้เมาที่นั่งน้ำลายยืดเวลามองเห็นต้นขาของคุณล่ะสิ” “แน่นอน หน้าคุณแค่มองยังหมดอารมณ์เลย” ชายหนุ่มเบิกตากว้างจ้องมองหน้าหวานที่ยียวนเขา หญิงสาวไม่ลดลาเธอเชิดหน้าท้าทายอย่างไม่กลัวเกรง “ทำไม หน้าผมออกจะหล่อขนาดนี้ สาวๆ เห็นก็ต้องหลงทั้งนั้น” “หลงตัวเองชะมัด ต่อให้ทั้งโลกเหลือผู้ชายอย่างคุณคนเดียว ฉันก็ไม่เอามาทำพันธุ์หรอกย่ะ” แขนเรียวกอดอกยืดตัวเพื่อให้ดูมั่นใจโดยลืมไปว่าตัวเองแต่งตัวไม่เหมาะสมที่จะไปสู้รบกับผู้ชายอย่างเขา สายตาชายหนุ่มจับจ้องเนินอกอวบขาวที่โผล่พ้นเสื้อเกาะอก เขาต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ แต่ต้องทำเป็นไม่สนใจกลัวหญิงสาวจะอ่านความในใจของเขาออก “ทำไมแค่นี้ถึงกับพูดไม่ออก...ฉันรู้หรอกน่าว่าที่คุณทำเป็นดูถูกผู้หญิงเพราะว่าถูกแฟนทิ้งไปแต่งงานกับคนอื่น มันก็น่าอยู่หรอกนะ ใครมันจะไปทนได้ผู้ชายอย่างคุณ” “ผู้ชายอย่างผมมันเป็นยังไงฮะ” ชายหนุ่มตะคอกใส่คนตัวเล็ก ดวงตาเขาแดงกล่ำ “เจ้าอารมณ์ ปากร้าย นิสัยแย่ ดูถูก ขี้โวยวาย โรคจิต” พูดจบร่างของเธอก็ลอยเข้ามาแนบร่างหนาทันที ปากอุ่นบดขยี้ริมฝีปากแดงระเรื่อ มือหนารั้งศีรษะของเธอไม่ให้เบนหนี อีกมือโอบรอบเอวบางที่ไม่มีอาภรณ์ปกปิด มือเล็กๆทั้งสองข้างระดมกำลังทุบตีคนหนุ่มเป็นพัลวัน เล็บแหลมจิกไหล่เขาจนเนื้อแทบขาดแต่เขาก็ยังไม่ยอมหยุดการกระทำนั้น เขานึกแค่จะทำให้หญิงสาวกลัวไม่กล้าพูดจาหยามเกียรติเขา แต่เมื่อลิ้มรสสัมผัสเรียวปากนุ่มที่หอมกลิ่นลิปสติกผลไม้เขากลับยื่นลิ้นหนาๆ สอดเข้าไปในปากเธอซอกซอนตวัดรัดลิ้นบางดูดกลืนน้ำหวานเสียจนร่างบางสะท้านไปทั้งตัว ร่างกายภายในร้อนวูบวาบหญิงสาวพยายามต้านแรงของเขาถึงมันจะเป็นไปได้ยากก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ปากหนาขบเม้มริมฝีปากบางดื่มด่ำความหวานที่สดชื่น ชายหนุ่มถอนจูบแล้วซุกไซ้ลำคอขาวเนียน หญิงสาวทั้งจิกทั้งทุบต่อต้านเขา “ปล่อยนะ คุณธัญญ์ทำบ้าอะไรของคุณ” จมูกโด่งเลื่อนลูบไล้เนินอกขาวอวบ เขาจูบมันอย่างกระหาย ร่างบางอ่อนแรงจนแทบจะยืนไม่อยู่ ทุกอณูของผิวชูชัน ชายหนุ่มจึงช่วยหย่อนตัวเธอลงนอนบนโซฟาตัวเดิม “ฮือ ปล่อยนะไอ้คนบ้า ปล่อยเดี๋ยวนี้” หญิงสาวสะอื้นอย่างคนตกใจ “อืม” แต่เสียงตอบกลับเป็นที่ครางที่เขาจูบเม้มตัวเธอทุกสัดส่วน “อย่าค่ะ...ปล่อยพิตต้านะคะ” หญิงสาวพูดเสียงอ่อน “ฉันทำไม่ได้” เขาตอบในขณะที่ซุกไซ้ใบหน้ากับอกอวบของเธอ เสื้อเกาะอกสีดำเลื่อนหลุดลงไปแล้วเผยให้เห็นเพียงทรวงอกขาวอวบ เม็ดทับทิมที่อยู่ปลายอกสีหวานเสียจนเขาต้องลิ้มรส ลิ้นหนาเลื่อนวนรอบทับทิมคู่สวย ซึ่งขณะนี้ชูชันท้าทายให้เขาครอบครอง แม้จะพยายามผลักร่างหนาให้ออกไปแต่แรงที่เขาขบเม้มยอดอกทำให้เธอแอ่นตัวรับอย่างห้ามไม่ได้ “ได้โปรดอย่าทำแบบนี้ค่ะคุณธัญญ์” “ผมห้ามใจตัวเองไม่ได้” ชายหนุ่มพูดในขณะที่เพิ่งปล่อยยอดอกสวยข้างหนึ่งแล้วหันไปสัมผัสลิ้มรสอีกข้าง “ฮือ อย่าค่ะ เดี๋ยวคุณธีร์รู้เข้า” ชื่อที่เธอเอ่ยทำให้คนหนุ่มเม้มแรงขึ้นจนร่างกายหญิงสาวสะท้านตามแรงนั้น “อ๊า” พิยะตารู้ตัวว่าเธอไม่สามารถขัดขืนอะไรได้ อีกทั้งร่างกายตอนนี้มันก็ต้องการเขามากเสียจนหญิงสาวต้องยอมปล่อยให้เขาเสพสุขกับร่างกายของเธอ “อืม...ซี้ด” เสียงครางทำให้คนหนุ่มพึงพอใจ มือหนาล้วงเข้าไปในกระโปรงตัวจิ๋วหญิงสาวรีบหนีบขาตัวเองเอาไว้ตามสัญชาติญาน แต่ชายหนุ่มก็ลูบไล้เสียจนเธอยอมให้เขารูดชั้นในสีขาวออก ปลายลิ้นไล้ลงมาที่หน้าท้องแบนราบ ขนที่ลุกเกลียวบ่งบอกว่าเธอกำลังสะท้านไปทั้งตัว ชายหนุ่มเงยหน้ามองหญิงสาวที่หลับตาพริ้มรอให้เขาปรนเปรอความสุขให้ ใบหน้าคมซุกลงระหว่างขาขาวๆ ร่างบางสะดุ้งทันทีเธอพยายามยันร่างคนหนุ่มให้ออกห่างสิ่งต้องห้ามของเธอ “ไม่นะคะ...พอเถอะ” “ไม่เอาน่า คุณต้องการเหมือนกันไม่ใช่เหรอ” พิยะตาหน้าแดงกล่ำเอียงอายเมื่อเขารับรู้ความต้องการ หญิงสาวจำยอมให้เขาจับจองพื้นที่เล็กๆนั้น ชายหนุ่มมองผิวที่อ่อนละเอียดราวกับเด็ก เขาพึงพอใจจนต้องรีบสัมผัส นิ้วยาวลูบตรงรอยแยกของส่วนซ่อนเร้น หญิงสาวสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเขาสอดนิ้วเข้าออกร่างกายเธอตอดรัดตลอดจังหวะโดยไม่รู้ตัว น้ำใสที่ยืดยาวติดปลายนิ้วนั้นทำให้ชายหนุ่มก้มลงจุมพิตเบาๆบนเนินเนื้ออวบ ความอุ่นและนุ่มนวลแทรกผ่านร่างกายสาวช้าๆ เสียงความชุ่มฉ่ำดังเบาๆคลอกับเสียงกลืนน้ำลาย ร่างกายที่เคยต่อต้านแอ่นเอนให้คนที่ลุกล้ำอย่างพึงพอใจ “อืม” มือเรียวลูบร่างกายตัวเอง เสียงสูดลมหายใจทางปากดังเป็นระยะ หญิงสาวกล้าๆกลัวที่จะเหลือบตามองดูคนเบื้องล่าง เธอได้แต่เอื้อมมือไปลูบไล้ศีรษะของเขา “อ๊า” อวัยวะสาวตอดรัดแรงเล้าโลมของเขาอย่างดี ยิ่งแทรกซึมลึกแค่ไหน แรงบีบตัวก็เพิ่งให้เขาได้เร้าใจ “อืม...คุณ ทะ ธัญญ์ ซี๊ด” เมื่อเห็นว่าพร้อมที่จะเริ่มบรรเลงบทรักแล้ว ชายหนุ่มก็ถอนใบหน้าขึ้นมองคนสวยอีกครั้ง เขาทาบทับร่างกายสาวจูบปากเธออย่างดูดดื่มอีกครั้ง คราวนี้เรียวปากหวานที่เย็นเฉียบตอบสนองตวัดรัดลิ้นอุ่นของเขาทุกจังหวะ “ไม่ไหวแล้วค่ะ” “คุณน่ารักมากรู้ไหม” ธัญญ์โน้มหน้ากระซิบข้างหู ทำให้เธออดอมยิ้มไม่ได้ มือหนาจับขาขาวแยกออกก่อนที่จะเบียดร่างกายตัวเองให้ไปจ่ออยู่ที่หน้าช่องทางความสุข วินาทีแรกที่เขาแทรกกายเข้าไปในตัวสาวเธอต้องสะดุ้งสุดตัวรีบผลักร่างเขาให้ออกห่างจากเธอทันที “เจ็บ...ไม่นะ เอามันออกไป” ธัญญ์ตกใจกับเสียงที่ร้องเจ็บปวด ใบหน้าเธอหน้ากล่ำไม่เหมือนคนที่เสแสร้ง “ทนหน่อยน่า” หญิงสาวส่ายหน้าทั้งน้ำตา “ฉันเจ็บจริงๆ นะ” “เจ็บนิดเดียวนะ...แปล็บเดียวผมสัญญา” เสียงทุ้มบอกเธอพร้อมกับจูบเบาๆ หญิงสาวยอมสงบแล้วปล่อยให้ชายหนุ่มดำเนินเกมสวาทต่อ เขาค่อยๆ ดันตัวเองเข้าไปในร่างกายที่อบอุ่น “อ๊า...กรี๊ด เจ็บ” “อืม...จุ๊บ ใจเย็นครับอดทนนิดนึง” กว่าจะเข้าไปสำรวจภายในของคนสาวได้ก็เล่นเอาไหล่หนาเป็นรอยจิกข่วนหลายที่ ชายหนุ่มไม่รอช้าที่จะบรรเลงเกมสวาทของเขาต่อ ความคับแน่นของเธอทำให้เขาไม่อยากด่วนได้ ยิ่งเวลาเนื้อนุ่มบีบตัวร่างหนาก็แทบจะต้านไม่อยู่ ร่างกายหญิงสาวเอนแอ่นรับจังหวะที่เขากระแทกใส่ ทั้งที่เธอยังคงเจ็บแสบไม่น้อย คนตัวบางหน้าเหยเกมือกุ่มหน้าท้องตัวเองขณะที่เขาดันตัวเข้าออกเร็วขึ้น แต่ความเสียวซ่านมีมากเสียจนอดที่จะหลงระเริงไม่ได้ “อ๊า...ซี้ด” “อืม” ทั้งสองสูดลมหายใจเข้าออกทางปาก ชายหนุ่มออกแรงขับเคลื่อนมากขึ้น ใบหน้าสวยก็แดงกล่ำ ชายหนุ่มรู้ว่าเธอเจ็บเขาจึงต้องลดจังหวะเปลี่ยนเป็นเน้นย้ำหนักแน่น เขาพร้อมที่จะปลดปล่อยอารมณ์ความสุขใส่ร่างบางๆ ที่แสนหอมหวานแล้ว ไม่นานร่างทั้งสองก็เกร็งกระตุกหนักพร้อมกัน หญิงสาวแอ่นหลังจนอกอวบสูงเกือบถึงใบหน้าคม เมื่อได้ปลดปล่อยธารน้ำอุ่นๆ ออกมาแล้ว ชายหนุ่มซบลงที่อกสาว เขายังคงคลอเคลียทรวงอกขาวๆ ไม่เลิก ริมฝีปากจูบเม้มยอดอกหยอกล้อให้มันชูเชิดท้าทายเขา “พอแล้วค่ะ” พิยะตาพูดเสียงเรียบ เธอเสียใจไม่น้อยที่ต้องเสียความบริสุทธิ์ให้ธัญญ์ แต่จะโทษใครได้ในเมื่อเธอใจไม่แข็งที่จะขัดขืนความต้องการของเขาและตัวเธอ “ไม่เอาน่า...ฉันยังไม่อิ่มเลย” “คุณธัญญ์” “จุ๊บ...ไม่ต้องพูดแล้ว” ชายหนุ่มเริ่มดูดดื่มเรียวปากหวานอีกครั้ง หญิงสาวเองก็ไม่ได้ปัดป้อง เธอตอบสนองเขาทันที มือเรียวลูบแผ่นหลังกว้างยามที่เขาเลื่อนลงหยอกล้อกับเนินอวบอิ่ม ชายหนุ่มยกร่างบางให้เปลี่ยนมาอยู่บนตัวเขา สายตาที่มองความสวยงามบนเรือนร่างทำให้หญิงสาวเอียงอายแก้มแดงระเรื่อ เรียกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาให้ผุดขึ้น “จะทำอะไรคะ...พิตต้าไม่” เธอยังพูดไม่จบก็เหมือนเขารับรู้ว่าเธอต้องการบอกอะไร มือหนาจับเอวบางช่วยทรงตัวให้เธอง่ายต่อการโยกย้ายบั้นท้าย “อ๊า พิตต้าปวดท้องค่ะ” “อืม นิดเดียวน่า ซี้ด” ภายในร่างกายสาวตอดรัดเต้นตุบๆ สร้างความเสี้ยวซ่านจนเขาอดที่จะส่งเสียงออกมาไม่ได้สะโพกกลมบิดไปมารับแรงที่ชายหนุ่มส่งให้ หลายครั้งที่ใบหน้าสวยทำท่าเหยเกคงเพราะเธอยังเจ็บไม่หายชายหนุ่มจึงต้องผ่อนแรงให้หญิงสาวลดความเจ็บก่อนที่จะพลิกร่างตัวเองให้ทับคนสาว “อ๊ะ อืม” ชายหนุ่มโน้มร่างกายแนบร่างสาวในขณะที่ส่วนกลางยังคงทำหน้าที่อย่างคล่องแคล่ว “อืม...อ๊า” เสียงความสุขที่เธอส่งออกมายิ่งกระตุ้นให้เขาขับเคลื่อนร่างกายเต็มแรง “เจ็บค่ะ...พิตต้าเจ็บ โอ๊ย” “ไม่ไหวแล้วครับ...อดทนนิดนึงนะ” เขาก้มลงกระซิบข้างแก้มใส แรงขับเคลื่อนที่ทรงพลังกระทบร่างกายหญิงสาวเสียงดังและหนักแน่น จนเธอหลับตาเม้มปากอย่างเจ็บปวด ทั้งคู่ปลดปล่อยความต้องการของกันออกมาครั้งที่สอง แต่แขนหนาๆก็ยังพาดทับไม่ให้เธอลุกไปไหน ชายหนุ่มได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆแทนที่จะเห็นใจเขากับยิ้มพึงพอใจที่ได้ครอบครองเรือนร่างสวย “พักก่อนนะ...อย่าร้องสิครับ ผมไม่ยอมใจอ่อนหรอก” หญิงสาวหันมาค้อนใส่เขาแล้วขยับตัวนอนห่างๆ ชายหนุ่มนึกสนุกขยับตาม อึดใจหนึ่งที่เขาชะงักก้มมองท่อนขาขาวคราบแห่งความสุขที่ยังไม่แห้งปนเปื้อนสีแดงสดไหลซึมบนผ้าปูที่นอนสีขาว หัวใจของเขาโลดแล่นราวกับได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ ชายหนุ่มเลยยอมปล่อยให้ร่างบางนอนหลับนิ่งอย่างอ่อนเพลีย “นอนพักซะก่อนนะ...ตื่นมาแล้วผมจะไปส่ง” “ไม่ต้อง ฮือๆ” หญิงสาวสะอื้นเบาๆ เธอขดตัวมือกุมหน้าท้องที่ยังคงปวดหน่วงๆ ไม่รู้ว่าส่วนไหนที่ร่างกายบอบช้ำหรือเปล่าเธอถึงได้ปวดขนาดนี้ “ยังเจ็บอยู่เหรอ” “ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน” ร่างบางขยับหนีอีกครั้ง “ผมขอโทษ” เสียงกระซิบที่แผ่วเบาพร้อมรอยจูบบนแก้มเนียน ทำให้ร่างเล็กๆขยับเบียดกล้ามเนื้อแข็งราวกับต้องการซึมซับความอบอุ่น แขนแข็งแรงพาดตัวหญิงสาวเกี่ยวรัดให้เธอแนบชิดตัวเขา ทั้งคู่นอนกอดก่ายดื่มด่ำความสุขตลอดทั้งคืน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 3.4 ผู้หญิงต้องห้าม
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A